คราวที่แล้วผมโพสต์ในไอดีเก่าครับ เป็นปัญหาหนักอกที่ลากยาวมาพอสมควร ผมจำไม่ค่อยได้แล้วว่าใครตอบว่าอะไรบ้าง เพราะหลังจากที่ตั้งกระทู้นั้นแล้วผมก็ตั้งกระทู้เรื่องอื่นในไอดีนั้นอีกเยอะจนโดนกลบไป แล้วก็ไม่ค่อยมีใครสนใจอีก แต่ล่าสุดเข้าไปดูในเฟสเห็นเพจกระทู้เด็ดพันทิปแชร์กระทู้
https://m.pantip.com/topic/35092379? ลงในหน้าแฟนเพจ ทำให้ผมกลับมาคิดมากจนอดไม่ได้ที่จะต้องรื้อฟื้นประเด็นนี้ขึ้นมาอีกรอบ ก็เลยทำการ repost ครับ
เล่าย้อนกลับไปก่อนนะครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่สามารถขับรถได้เพราะมีอาการที่อาจจะไม่ถึงขั้นเป็นโรคประจำตัวแต่มันก็มีผลกับการขับรถพอสมควร (ขับรถไม่เป็น กับ ไม่สามารถขับรถได้ ไม่เหมือนกันนะครับ)
อันแรกเลยคือปัญหาเรื่องการมองเห็น ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไร แต่ที่แน่ๆ การมองเห็นของผมน่าจะแคบกว่าคนปกติ เพราะเวลาผมมองอะไรจะต้องมองแบบโฟกัสเฉพาะจุด แต่เวลาขับรถต้องมองได้ทั่วถึงซึ่งผมก็ทำไม่ได้ ไม่ต้องขับรถหรอกครับ แค่เดินเฉยๆ ผมก็มองได้แต่ทางข้างหน้า จะมองรถที่วิ่งมาจากข้างหลังก็ต้องหันไปมองจนลืมมองทาง ไม่งั้นก็ต้องให้เขาบีบแตรก่อนถึงจะรู้ จนเกือบโดนรถชนหลายครั้ง
อีกอย่างก็คืออาการทางสมอง คือผมเป็นคนอารมณ์ร้อน สมาธิไม่ค่อยดี เหม่อง่าย และการตัดสินใจช้า ที่สำคัญคือสมองสั่งให้ร่างกายทำอะไรทำได้ทีละอย่าง (เหมือนระบบประสาทไม่สัมพันธ์กัน) แต่ตอนขับรถมันต้องใช้อวัยวะหลายส่วนประกอบกัน
โดยรวมคิดว่าโอกาสทำใบขับขี่ยากครับ และจากอาการที่บอกมาทั้งหมดทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ให้ผมขับรถ เพราะกลัวเกิดอุบัติเหตุ ทั้งๆ ที่บ้านผมก็มีรถ แต่สำหรับผม มีหรือไม่มีก็ไม่ต่างกัน เพราะขับเองไม่ได้แล้วก็ไม่มีปัญญาจ้างคนขับรถด้วย
จากลิงค์กระทู้ที่แปะมา ผมเห็นเขาแชร์ลงเพจในเฟสมีแต่คนวิจารณ์ผู้ชายที่ขับรถไม่เป็นในแง่ลบเยอะพอสมควร เขาบอกว่าสมัยนี้มันจำเป็น จะมีรถหรือไม่มีก็ควรจะขับให้เป็น ผู้หญิงก็บอกถ้าต้องลำบากไปรับไปส่งบ่อยๆ แบบนี้ก็ไม่เอา ใครๆ ก็อยากสบายกันทั้งนั้น บางคนก็คิดว่ามันดูไม่แมน ผมก็เลยสงสัยว่าแล้วคนที่ไม่สามารถขับรถได้เพราะเหตุสุดวิสัยอย่างมีโรคประจำตัวหรือปัญหาทางสุขภาพล่ะควรทำยังไง แล้วอาการแบบนี้มันเป็นมาตั้งแต่เกิดด้วย ถ้าเลือกเกิดได้ก็ไม่อยากเป็นหรอก พอเจอคนวิจารณ์แบบนี้เข้า ผมเลยกลัวว่าถ้ามีแฟนแล้วผู้หญิงจะไม่เข้าใจ ทุกวันนี้ผมสองจิตสองใจครับ ใจหนึ่งก็ไม่อยากให้คนที่เรารักต้องมาลำบากเพราะเรา (ถ้าต้องให้เขาไปรับไปส่งบ่อยๆ) อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากพาเขาไปเสี่ยงอันตราย (ถ้าจะต้องขับรถให้เขานั่ง) เพราะผมรู้ตัวว่าการที่ไม่สามารถขับรถได้เนี่ย ทำให้ผมทำหน้าที่แฟนได้ไม่เต็มที่ จะไปรับไปส่งเขาก็ไม่ได้ พาเขาไปเที่ยวไหนก็ลำบาก
เคยมีคนแนะนำผมว่าถ้ามีแฟนก็อย่าปิดบังเรื่องนี้กับเขา ไม่งั้นเขาจะเข้าใจผิด บางคนก็บอกถ้าขับรถเองไม่ได้ก็ให้แฟนขับให้สิ อย่าปิดกั้นหัวใจเพราะเรื่องแค่นี้เลย คือผมรู้สึกว่ามันทำให้ตัวเองมีปมและกลัวจะหาคนที่เข้าใจเราไม่ได้ เลยไม่กล้ามีแฟน ตอนนี้แค่มีคนถามว่าทำไมไม่ขับรถมาเรียนผมยังไม่รู้จะอธิบายให้เขาเข้าใจว่ายังไงดี
สมัยมัธยมคุณพ่อคุณแม่ไปส่งผมเข้าเรียนครับ แต่พอเข้ามหาลัยผมนั่งรถเมล์ไปเรียนเองตั้งแต่ตอนปริญญาตรีจนตอนนี้ก็ปริญญาโทแล้ว และคิดว่าตอนทำงานก็คงจะทำแบบนี้ต่อไป ส่วนเวลาไปเที่ยวไหนก็รถเมล์กับรถไฟฟ้านี่แหละครับ ถ้าตรงไหนไม่มีรถผ่านก็เดินเอา จนตอนนี้ไปได้ทั่วกรุงเทพแล้ว จะเหลือก็ต่างจังหวัดที่ยังไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ก็พยายามศึกษาเส้นทางรถประจำทางในแต่ละจังหวัดอยู่ครับ
ผมเลยอยากรู้ว่าถ้าผู้ชายไม่สามารถขับรถได้ด้วยเหตุผลต่างๆ อย่างมีโรคประจำตัวหรือปัญหาทางสุขภาพอะไรก็แล้วแต่เนี่ย เขายังมีโอกาสมีแฟนได้ไหม แล้วผู้หญิงจะคิดยังไง รับได้ไหม ขออนุญาตถามอีกทีและขอขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ
ป.ล.ไอดีเก่าไม่ได้ใช้แล้วนะครับ อะไรที่เคยโพสต์ในนั้นผมขอเริ่มนับหนึ่งใหม่หมด
[Repost] เห็นผู้หญิงไม่ชอบผู้ชายขับรถไม่เป็น แล้วผู้ชายที่ขับรถไม่ได้เพราะมีโรคประจำตัวควรทำยังไง
เล่าย้อนกลับไปก่อนนะครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่สามารถขับรถได้เพราะมีอาการที่อาจจะไม่ถึงขั้นเป็นโรคประจำตัวแต่มันก็มีผลกับการขับรถพอสมควร (ขับรถไม่เป็น กับ ไม่สามารถขับรถได้ ไม่เหมือนกันนะครับ)
อันแรกเลยคือปัญหาเรื่องการมองเห็น ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไร แต่ที่แน่ๆ การมองเห็นของผมน่าจะแคบกว่าคนปกติ เพราะเวลาผมมองอะไรจะต้องมองแบบโฟกัสเฉพาะจุด แต่เวลาขับรถต้องมองได้ทั่วถึงซึ่งผมก็ทำไม่ได้ ไม่ต้องขับรถหรอกครับ แค่เดินเฉยๆ ผมก็มองได้แต่ทางข้างหน้า จะมองรถที่วิ่งมาจากข้างหลังก็ต้องหันไปมองจนลืมมองทาง ไม่งั้นก็ต้องให้เขาบีบแตรก่อนถึงจะรู้ จนเกือบโดนรถชนหลายครั้ง
อีกอย่างก็คืออาการทางสมอง คือผมเป็นคนอารมณ์ร้อน สมาธิไม่ค่อยดี เหม่อง่าย และการตัดสินใจช้า ที่สำคัญคือสมองสั่งให้ร่างกายทำอะไรทำได้ทีละอย่าง (เหมือนระบบประสาทไม่สัมพันธ์กัน) แต่ตอนขับรถมันต้องใช้อวัยวะหลายส่วนประกอบกัน
โดยรวมคิดว่าโอกาสทำใบขับขี่ยากครับ และจากอาการที่บอกมาทั้งหมดทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ให้ผมขับรถ เพราะกลัวเกิดอุบัติเหตุ ทั้งๆ ที่บ้านผมก็มีรถ แต่สำหรับผม มีหรือไม่มีก็ไม่ต่างกัน เพราะขับเองไม่ได้แล้วก็ไม่มีปัญญาจ้างคนขับรถด้วย
จากลิงค์กระทู้ที่แปะมา ผมเห็นเขาแชร์ลงเพจในเฟสมีแต่คนวิจารณ์ผู้ชายที่ขับรถไม่เป็นในแง่ลบเยอะพอสมควร เขาบอกว่าสมัยนี้มันจำเป็น จะมีรถหรือไม่มีก็ควรจะขับให้เป็น ผู้หญิงก็บอกถ้าต้องลำบากไปรับไปส่งบ่อยๆ แบบนี้ก็ไม่เอา ใครๆ ก็อยากสบายกันทั้งนั้น บางคนก็คิดว่ามันดูไม่แมน ผมก็เลยสงสัยว่าแล้วคนที่ไม่สามารถขับรถได้เพราะเหตุสุดวิสัยอย่างมีโรคประจำตัวหรือปัญหาทางสุขภาพล่ะควรทำยังไง แล้วอาการแบบนี้มันเป็นมาตั้งแต่เกิดด้วย ถ้าเลือกเกิดได้ก็ไม่อยากเป็นหรอก พอเจอคนวิจารณ์แบบนี้เข้า ผมเลยกลัวว่าถ้ามีแฟนแล้วผู้หญิงจะไม่เข้าใจ ทุกวันนี้ผมสองจิตสองใจครับ ใจหนึ่งก็ไม่อยากให้คนที่เรารักต้องมาลำบากเพราะเรา (ถ้าต้องให้เขาไปรับไปส่งบ่อยๆ) อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากพาเขาไปเสี่ยงอันตราย (ถ้าจะต้องขับรถให้เขานั่ง) เพราะผมรู้ตัวว่าการที่ไม่สามารถขับรถได้เนี่ย ทำให้ผมทำหน้าที่แฟนได้ไม่เต็มที่ จะไปรับไปส่งเขาก็ไม่ได้ พาเขาไปเที่ยวไหนก็ลำบาก
เคยมีคนแนะนำผมว่าถ้ามีแฟนก็อย่าปิดบังเรื่องนี้กับเขา ไม่งั้นเขาจะเข้าใจผิด บางคนก็บอกถ้าขับรถเองไม่ได้ก็ให้แฟนขับให้สิ อย่าปิดกั้นหัวใจเพราะเรื่องแค่นี้เลย คือผมรู้สึกว่ามันทำให้ตัวเองมีปมและกลัวจะหาคนที่เข้าใจเราไม่ได้ เลยไม่กล้ามีแฟน ตอนนี้แค่มีคนถามว่าทำไมไม่ขับรถมาเรียนผมยังไม่รู้จะอธิบายให้เขาเข้าใจว่ายังไงดี
สมัยมัธยมคุณพ่อคุณแม่ไปส่งผมเข้าเรียนครับ แต่พอเข้ามหาลัยผมนั่งรถเมล์ไปเรียนเองตั้งแต่ตอนปริญญาตรีจนตอนนี้ก็ปริญญาโทแล้ว และคิดว่าตอนทำงานก็คงจะทำแบบนี้ต่อไป ส่วนเวลาไปเที่ยวไหนก็รถเมล์กับรถไฟฟ้านี่แหละครับ ถ้าตรงไหนไม่มีรถผ่านก็เดินเอา จนตอนนี้ไปได้ทั่วกรุงเทพแล้ว จะเหลือก็ต่างจังหวัดที่ยังไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ก็พยายามศึกษาเส้นทางรถประจำทางในแต่ละจังหวัดอยู่ครับ
ผมเลยอยากรู้ว่าถ้าผู้ชายไม่สามารถขับรถได้ด้วยเหตุผลต่างๆ อย่างมีโรคประจำตัวหรือปัญหาทางสุขภาพอะไรก็แล้วแต่เนี่ย เขายังมีโอกาสมีแฟนได้ไหม แล้วผู้หญิงจะคิดยังไง รับได้ไหม ขออนุญาตถามอีกทีและขอขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ
ป.ล.ไอดีเก่าไม่ได้ใช้แล้วนะครับ อะไรที่เคยโพสต์ในนั้นผมขอเริ่มนับหนึ่งใหม่หมด