ก่อนที่ผมจะมาเป็นนายทหารเรือ (ฝึกภาคทะเลแล้ว)

หลังจากเไม่ได้เล่าเรื่องมาเป็นปี ภารกิจเยอะมากครับสำหรับช่วงปีที่ผ่านมา  คราวนี้ก็จะมาขอเล่าต่อในส่วนของการฝึกภาคทะเลปลายปีของ นนร.(นักเรียนนายเรือ) ไม่รู้จะมาถูกช่วงมั๊ย ยิ่งไม่ค่อยพอใจทหารกันอยู่
เอาเป็นว่า ผมขอห่างเรื่องการเมืองแล้วกันนะครับ ทหารระดับปลายอย่างผม ออกตัวเลยว่าไม่ขอแสดงความเห็นเรื่องการเมืองในบอร์ดสาธารณะแห่งนี้แล้วกันครับ  ผมก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การนำของรัฐบาล(ทุกๆรัฐบาล) นั้นๆอย่างเครื่องครัด โอเคนะ

ผมได้เล่าเรื่องมาแล้ว 2 กระทู้   ใครสนใจ เรียนเชิญลองเข้าไปอ่านได้นะครับ เผื่อน้องๆลูกหลาน ใครอยากมาเป็นทหาร ได้อ่านแล้วเกิดไม่ชอบชีวิตแบบนี้ จะได้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
1 ก่อนที่ผมจะมาเป็นนายทหาร  https://pantip.com/topic/35002538
2 ก่อนที่ผมจะมาเป็นนายทหาร (นักเรียนนายเรือชั้นใหม่) https://pantip.com/topic/35004105
อีกกระทู้เป็น เรื่องอาหารบนเรือรบ  https://pantip.com/topic/35083220



เริ่มกันเลยดีกว่า

         เมื่อ นนร.สอบปลายภาคเสร็จ ในแต่ละปี ห้วงต่อไป ก็จะเป็นการฝึกภาคทะเลประจำปี ในช่วงยุคของผม จะมี นนร. 5 ชั้นปี  
โดยปี 5  จะแยกฝึกเดี่ยวไปแล้ว ช่วงก่อนปลายปี ซึ่งฝึกเสร็จก็ประดับยศเป็นนายทหารต่อไป
(ปี 5 จบช่วงเดือน ธ.ค.)  ส่วน นนร.ชั้น 1-4 ก็จะฝึกภาคทะเลรวมกันช่วงก่อนซัมเมอร์ คือ ราวๆ เดือน มีนาคม หรือ เมษายน
ระยะเวลาการฝึก ทั้งหมด 45 วัน

ในกระทู้นี้ จะมาเล่าให้ฟังว่า นนร.แต่ละชั้นปี เค้าฝึกทำอะไรกันบ้างครับ ในช่วงเวลาฝึกภาคทะเล
      
          เมื่อสอบเสร็จจะมีเวลาให้นักเรียนพักไม่มาก ไม่กี่วัน เพื่อทำการเตรียมตัว เตรียมของใช้จำเป็นสำหรับใช้ชีวิตในทะเล  เมื่อถึงกำหนดเข้าโรงเรียน ก็จะมีพิธีเปิดการฝึกภาคประจำปี วันนี้ใจตุ่มๆต่อมๆ ถามว่าการฝึกภาคเหนื่อยไหม ตอบเลย ว่าเหมือนเดิม   เพิ่มเติมคือความลำบาก เพราะการใช้ชีวิตในเรือรบ (ในห้วงการฝึก) ไม่สบายเอาเสียเลย  

       เรือรบที่จะมารับหน้าที่เป็นเรือฝึกให้ นนร. ในแต่ละปีก็จะไม่เหมือนกัน พลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา โดยจัดมาจาก กร. (กองเรือยุทธการ)  ส่วนใหญ่จะประกอบด้วย เรือฟริเกต เรือยกพลขนาดใหญ่ เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง เหตุที่เลือกเรือเหล่านี้ก็เพราะ มีขนาดที่ใหญ่ รองรับ นนร. และบุคคลากรหมู่เรือฝึกได้ มีอาวุธและระบบอำนวยการรบที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เหมาะที่จะให้ นนร.เรียนรู้ได้ใครคราเดียว (ฝึกทั้งทีต้องเอาให้คุ้ม) อีกทั้งรัศมีทำการในทะเลไกลพอสมควร เนื่องจากเราต้องเดินเรือไปต่างประเทศในระยะทางไกลๆด้วย

     การไปฝึกภาคทะลเต่างประเทศของ นนร. ในแต่ละครั้ง นอกจากจะเป็นการฝึกปฏิบัติแล้ว นนร.ยังถือเป็นตัวแทนของประเทศในด้านการฑูต  ไปเจริญสัมพันธไมตรีกับ ต่างประเทศ เรียนรู้ประเทศต่างๆ ด้วย
    
ใครคือครูฝึก นนร. ?

           สำหรับ ผู้ที่จะทำการมอบความรู้ต่างๆให้ นนร.ในช่วงเวลานี้คือ ครูฝึกแต่งตั้งมากับ มฝ.นนร.(หมู่เรือฝึกภาคปฏิบัติในทะเล นักเรียนนายเรือ)  จัดจาก รร.นร. ก็จะเป็นนายทหารเรือ ที่มีความรู้ ประสบการณ์ ที่มีโอกาสได้สังกัดที่ รร.นร. และอีกส่วนที่สำคัญคือ ทหาร ประจำเรือ ทุกนาย ตั้งแต่ ผบ.เรือ ตลอดจน พลทหารคนสุดท้าย  (หลายคนบอกว่าโอเว่อไปแล้ว พลทหารจะมาสอน นนร.ได้ยังไง  ไม่เว่อครับ พลฯ สอน นนร.ได้ โดยการ แสดงตัวอย่างการทำงานให้ นนร.ดู เพราะพลทหารบางคน มีประสบการณ์อยู่เรือรบ มากกว่า นนร.ชั้น1 เสียอีก

         โดยหลังจากพิธีเปิดการฝึกที่ โรงเรียนเสร็จสิ้นแล้วนั้น นนร.ที่ถูกจัดกลุ่มไว้แล้ว ก็จะทยอยเดินทางไปเรือที่ได้ถูกจัดไว้ ซึ่งเดินทางมารออยู่แล้ว ณ ท่าเสือซ่อนเล็บ ของโรงเรียน และท่าเทียบเรือ อู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า ซึ่งแต่ละลำก็จะมีครบทั้ง 4 ชั้นปี ช่วงเวลาที่สุดแสนจะตุ้มๆต่อมก็มาถึงจนได้


  
         เมื่อเดินทางมาถึงเรือฝึกของตนเอง นนร.แต่ละชั้นปี ก็จะรายงานตัวขออนุญาตขึ้นเรือกับ ผบ.เรือ ซึ่งต่อไป จะเป็นผู้รับผิดชอบชีวิต นนร. ในอีก 45 วันข้างหน้านี้  โดยมีการต้อนรับอันอบอุ่น( มากกกกกกก  ก ไก่แปดล้านตัว ) จากพี่ๆ นายทหารประจำเรือ กว่าจะขึ้นเรือได้  "เละ" กันเลยทีเดียว สำหรับ นนร.ชั้นต่ำ
   * ที่โรงเรียน เราจะแบ่งนักเรียนอย่างง่ายๆ คือ ชั้นสูง คือชั้นปีที่ 4 และ 5  ส่วนชั้นต่ำ คือ ตั้งแต่ชั้นปีที่ 3 ลงมา  ( อย่าดราม่าเรื่องชนชั้นกันนะครับ มันได้ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น เอาไว้เรียกให้สะดวกๆเฉยๆ )


เมื่อขึ้นเรือมาแล้ว ฟังบรรยายเกี่ยวกับเรือ จัดการข้าวของเข้าที่เข้าทางกันแล้ว  ห้วงเวลาแห่งการฝึกได้เริ่มขึ้นแล้วววววววววววว

       การปฏิบัติตัวของ นนร.ทุกคนในช่วงการฝึกนั้น ต้องถือว่า ตึงและเคร่งครัดมาก เรียกได้ว่าหาความสบายยากเลยหล่ะครับ เพราะพี่ๆ นายทหารประจำเรือที่เป็นครูฝึกให้เราจะพูดเสมอว่า " พวกคุณมาฝึก ไม่ได้มาล่องเรือสำราญ เก็บเกี่ยวความรู้ไปให้ได้มากที่สุด "   คร้าบบบบ  

มาดู รปจ. ในเรือฝึกกันบ้างครับ
0530  ตื่นนอน
0600 ออกกำลังกายส่วนรวม
0630 ออกกำลังการต่อ หรือ ทำความสะอาดเรือ
0700 ทำภารกิจส่วนตัว
0730 รับประทานอาหารเช้า
0800 เคารพธงชาติ ทำความสะอาดเรือ ภารกิจส่วนตัว
0830 แถวตรวจสอบบัญขีพล ฟังคำชี้แจงประจำวัน
       หลังจากเวลานี้ก็จะเป็นการเรียนการฝึกในเรือตามตาราง  
1130 ทำความสะอาดเรือ
1200 รับประทานอาหาร  พักผ่อน
1300 แถวตรวจบัญชีพล เริ่มเรียน เริ่มฝึกต่อ
1600 เลิกเรียน   , ทำความสะอาดเรือ เตรียมออกกำลังกาย และทำภารกิจส่วนตัว
1730 รับประทานอาหาร  รอเคารพธง  ในเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ( ประเพณีทหารเรือ เคารพธงชาติตอนเย็น
        ในเวลาสิ้นแสงอาทิตย์บางครั้งในเวลาที่เราไปประเทศที่พระอาทิตย์ตกสี่ทุ่มเราก็ต้องตื่นมาเคารพธงชาติ
1830 เข้าเรียนและฝึก
2000 แถวตรวจบัญชีพล สวดมนต์ ฟังคำชี้แจงต่างๆ และ เป็นช่วงเวลาโดน รับประทาน ( DAG ) ถ้าเป็นภาษาที่ฮิตๆกันก็ ธำรงค์วินัย  ฮ๊า
2030 ทำความสะอาดเรือภายในตัวเรือ ตามได้รับมอบหมาย
2100 ต้นเรือตรวจเวรทำความสะอาด และเขานอน ( ส่วนใหญ่จะไม่ได้นอน นึกว่ายังโอม อาจจะโดนธำรงวินัยต่อ )

         จากนั้น เรือทั้งหมดก็จะมุ่งหน้าสู่ ฐานทัพเรือสัตหีบ  go



          เมื่อมาถึงสัตหีบแล้ว ในเช้าวันแรก กิจกรรมที่ทำร่วมกันคือ การวิ่งขึ้นเขา ฝึกการฝึกวิ่งขึ้นเขา วัตถุประสงค์ เพื่อให้ นนร. ได้ฝึกความอดทนด้วยการวิ่งขึ้นเขากรมหลวงฯ และเพื่อถวายสักการะ พระรูปพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์





          ก่อนจะออกเรือไปฝึกในทะเลนั้น หมู่เรือฝึก ก็จะมีเวลา 1-2 สัปดาห์ แล้วแต่แผนการฝึกในแต่ละปี ฝึกนักเรียน ในพื้นที่สัตหีบ เตรียมความพร้อมเรือ ในทางธุระการ เสบียงอาหาร เชื้อเพลิง ในระหว่างนี้ นนร.เอง ก็จะรับการฝึก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับออกทะเลกว้าง ได้แก่
          
           - การฝึก  CPR โดย กรมแพทย์ทหารเรือ  อันนี้กำลังฮิตครับ หลายๆปีให้หลังนี่ นนร.ฝึกกันทุกปี และต้องทดสอบให้ผ่านด้วยนะเธอ (อันนี้สมัยผมไม่มีนะ แต่เพิ่มให้เพราะหลังๆเริ่มมีฝึกกัน )

        
         - การฝึกป้องกันความเสียหายในเรือ โดย กองการฝึก กองเรือยุทธการ




           - การฝึกยิงปืนชนิดต่างๆ ที่สนามฝึก กรมสรรพาวุธทหารเรือ


และทีเด็ดของการฝึกใน พท.สัตหีบนี่ก็คือ

การฝึกสถานี ทดสอบกำลังใจ 4 สถานี  ( นนร.หลายคนเรียก 4  เค็ญ  ย่อมาจากลำเค็ญ )
ประกอบไปด้วย
             สถานีวิ่งทน ( 10 กม. )
             สถานีกระเชียงทน
             สถานีไต่เกาะ
             สถานีว่ายน้ำข้ามเกาะ
            
เรามาดูกันว่าแต่ละสถานี เราทำอะไรกันบ้าง (การเรียงลำดับการฝึกอาจจะแตกต่างกันในแต่ละปี)

1.สถานีวิ่งทน นนร.ทุกชั้นปี และ นายทหารควบคุมการฝึก ต้องวิ่งในระยะทางราว 10 กม.

2.สถานีกระเชียงทน ระยะเวลาการตีกระเชียง ก็เริ่มตั้งแต่ตีห้า เสร็จก็ราวๆ สิบโมง ถึงเที่ยง แล้วแต่ความไว สถานีนี้เป็นการฝึกความสามัคคี เพราะ เรือกรรเชียง ต้องพายพร้อมกัน ถึงจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้า



3.สถานีไต่เกาะ เป็นสถานีฝึกนักเรียน เอาตัวรอดในทะเล วิธีการคือ ให้นักเรียนเดินทางรอบเกาะพระ ซึ่งจะมีเส้นทางทั้งว่ายน้ำ ไต่หิน ไต่ผา วิ่ง มีการจับเวลา

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

4.ว่ายน้ำข้ามเกาะ  ระยะทางราวๆ 800 เมตร  จากฝั่ง ไปถึงเกาะพระ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


หลังจากฝึกทุกอย่างในพื้นที่สัตหีบ เสร็จสิ้น เราก็จะมาถึงการออกเรือกันซะที

ไปหละนะ

รีบมานะ

                            


       ซึ่งในช่วงออกเรือนี้ จะมีความแตกต่างจากช่วงเรือจอดมาก เป็นช่วงที่ไม่ค่อยมาการ "ธำรงค์วินัย" หนัก และนาน แต่ก็เป็นช่วงที่เหนื่อยที่สุดของ นนร. เพราะ ทุกคนต้องทำหน้าที่และฝึกหน้าที่ในเรือตามหัวข้อแต่ละชั้นปี และในระหว่างเรือเดิน ก็ยังต้องทำหน้าที่เป็นยามเรือเดินด้วย อีกทั้งหากมีการเรียนการสอน ก็ยังต้องไปนั่งเรียนด้วย กว่าจะเดินทางถึงเมืองท่าถัดไป ตาลอยกันเลยทีเดียว

        จะขอยกตัวอย่างให้ฟัง ว่านักเรียนคนหนึ่งๆ จะต้องเจออะไรบ้างตลอดช่วงเวลาเดินเรือ อันดับหนึ่งเลย คือการเข้ายามเรือเดิน ในหน้าที่ต่างๆสลับกันไป ตามแต่ละชั้นที่ฝึก ซึ่งยามเรือเดินนี้ กำลังพล ในเรือทั้งหมด จะถูกแบ่งออกเป็น3 ชุด จะมียาม ชุด1 2 และ3 โดยทั้งสามชุดจะต้องพลัดกันมานำเรือ หรือทำหน้าที่ในการเดือนเรือ จะมีการเปลี่ยนยามทุกๆ 4 ชั่วโมง ซึ่งแปลว่าจะมีเวลาที่ไม่ได้เข้ายาม 8 โมงก่อนจะเข้ายามอีกครั้ง หลายคนอ่านแล้วอาจจะคิดว่า เหนื่อยยังไง มีเวลาพักตั้ง 8 ชั่วโมง หากเป็นการทำงานปกติของทหารเรือก็ใช่ แต่นี่คือช่วงการฝึก ฉะนั้น กลางวันทั้งหมด ทุกคนต้องเข้าเรียน และเข้าฝึกตามหัวข้อ ซึ่งอาจจะต้องงดเข้ายามไปฝึกไปเรียน พอ เวลา 1600 เลิกเรียน ใครที่เข้ายามก็ต้องมาทำหน้าที่ต่อ ซึ่งในวันหนึ่งๆ คนที่เข้ายามผลัด เที่ยงคืน ถึงตีสี่ จะเหนื่อยสุด เพราะจะมีเวลาพักจริงๆคือ สามทุ่ม ถึงห้าทุ่มกว่าๆ ต้องตื่นแล้ว นอนอีกที ก็ตีสี่กว่าๆหลังออกยาม ตื่น ตีห้าครึ่ง ไปนั่งเรียน และเข้ายามวนไป ไหนจะการบ้าน งานพรีเซนต์ ไหนจะโดน ธำรงค์วินัย (เป็นอะไรกับคำคำนี้นะ) กว่าเรือจะจอด มีตาลอย  
         ส่วนช่วงเรือจอด จะสบายกว่าหน่อยตรงที่ไม่ได้เข้ายามเรือเดิน มีเวลาพักผ่อนตาม รปจ. ปกติ แต่จะเหนื่อยตรงที่ มักจะมีเรื่องผิดวินัยมาให้ต้องถูก DAG ช่วงแถว สองทุ่มบ่อยๆ บางครั้งลากยาวถึงสี่ทุ่ม เที่ยงคืนก็มี

พูดในภาพรวมมาแล้ว ต่อไปก็จะขอเจาะรายในแต่ละชั้นปี นะครับ  ง่วงจนพิมพ์ไม่ถีกแล้ววว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่