เจอหลักฐานชี้ชัด! เขมรละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ทั้งเอกสารและคลังเก็บทุ่นระเบิด
https://www.dailynews.co.th/news/5419884/
.

.
กองทัพเรือพบหลักฐานชี้ชัด กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวาและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ หลังยึดคืนพื้นที่ เจอคลังเก็บทุ่นระเบิดและเอกสารต่างๆ
.
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. พลเรือตรี
ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือขอชี้แจงว่า ภายหลัง กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้เข้าควบคุมและยึดคืนพื้นที่บริเวณบ้านหนองรี ซึ่งเดิมถูกใช้เป็นฐานที่มั่นทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ภายหลังการเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ ตรวจพบคลังเก็บทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ถูกดัดแปลงจากทุ่นระเบิดดักรถถัง จำนวน 16 ลูก ที่พร้อมใช้งาน ซึ่งถือว่าการกระทำที่มีลักษณะจงใจสร้างอันตรายโดยไม่เลือกเป้าหมาย และเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อทั้งกำลังพลและพลเรือน
.
นอกจากนี้ จากการตรวจยึดและตรวจสอบพื้นที่ฐานพลุ๊กดรัมเรย (บ้านสามหลัง) เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยยังได้ตรวจพบเอกสารทางทหารของฝ่ายกัมพูชา เป็นเอกสารการจดบันทึกของผู้เข้ารับการฝึกใช้งานทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN-2 โดยมีเนื้อหาครอบคลุมถึงลักษณะทั่วไปของทุ่นระเบิด การวาง และการเก็บกู้ ซึ่งมีการระบุวันที่จัดการสอนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 อีกด้วย เอกสารดังกล่าวถือเป็นพยานหลักฐานที่ชัดเจน แสดงให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชามีการอบรมให้ทหารกัมพูชาใช้งานทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง มิใช่การกระทำโดยบังเอิญหรือเฉพาะหน้า และสะท้อนถึงเจตนาในการใช้ “สงครามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล” ต่อฝ่ายไทย ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน
.
กองทัพเรือขอเน้นย้ำว่า การกระทำดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา เป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง โดยขัดต่อพันธกรณีระหว่างประเทศหลายประการ อาทิ
.
• อนุสัญญาออตตาวา ค.ศ. 1997 ซึ่งกำหนดห้ามการใช้ ผลิต หรือครอบครองทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
• พิธีสารเพิ่มเติม ฉบับที่ 1 แห่งอนุสัญญาเจนีวา ที่บัญญัติหลักการแยกแยะระหว่างเป้าหมายทางทหารกับพลเรือน และห้ามใช้อาวุธหรือวิธีการรบที่มีลักษณะไม่สามารถจำกัดผลกระทบต่อเป้าหมายทางทหารได้
.
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้ ครอบครอง รวมถึงดัดแปลงทุ่นระเบิดสังหารบุคคลดังกล่าว และเจตนาในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 ไม่เพียงเป็นการฝ่าฝืนพันธกรณีตามกฎหมายสากลเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนถึงการไม่เคารพหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน และกองทัพเรือขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยทันที พร้อมทั้งแสดงความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อความปลอดภัยของประชาชนและเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ ฝ่ายไทยขอยืนยันว่าจะดำเนินการปกป้องอธิปไตย ความมั่นคงของรัฐ และความปลอดภัยของประชาชน ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด
.
.
ช่วงชิงเนิน 350 ยังไม่จบ! ศพทหารกล้ายังไม่ได้ เขมรเติมกำลัง-ไทยยิงสกัดต่อเนื่อง
https://www.dailynews.co.th/news/5420648/
.
สู้รบชายแดนเดือดต่อเนื่อง! ช่วงชิงเนิน 350 ยังไม่จบ ศพ 2 ทหารกล้าพลีชีพ "จ่าเริง-พลทหารภาณุพัฒน์" ยังเข้าไปนำร่างกลับไม่ได้ ขณะที่ สว.สุรินทร์ ยังคงลงพื้นที่มอบสิ่งของผู้อพยพต่อเนื่อง ด้านชาวบ้านอยากกลับบ้านกันแล้ว
.
สู้รบชายแดนเดือดต่อเนื่อง! ช่วงชิงเนิน 350 ยังไม่จบ ศพ 2 ทหารกล้าพลีชีพ "จ่าเริง-พลทหารภาณุพัฒน์" ยังเข้าไปนำร่างกลับไม่ได้ ขณะที่ สว.สุรินทร์ ยังคงลงพื้นที่มอบสิ่งของผู้อพยพต่อเนื่อง ด้านชาวบ้านอยากกลับบ้านกันแล้ว
.
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ทหารไทยยังคงยิงปืนใหญ่ใส่ทหารกัมพูชาเป็นระยะๆ เพื่อสกัดเส้นทางบำรุงกำลังและส่งเสบียง หลังพบว่าทหารกัมพูชาที่เนิน 350 เริ่มอิดโรยจากการขาดน้ำและอาหาร โดยทหารกัมพูชา พยายามเสริมกำลังเข้าไปช่วยประมาณ 100 กว่านาย แต่ถูกยิงสกัดในหลายจุด ซึ่งทหารไทย อยู่ระหว่างปฏิบัติการเข้าชิงพื้นที่เนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อนำศพทหาร 2 นาย คือ จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และพลทหารภาณุพัฒน์ เสาร์สา สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ชาว อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ที่ยังไม่สามารถนำศพกลับมาได้ และต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นพื้นที่สู้รบ มีกับระเบิดและการดักซุ่มโจมตีของทหารกัมพูชาอยู่ในขณะนี้
.
ด้านชายแดน อ.กาบเชิง โดยเฉพาะที่ชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง ตั้งแต่เช้าจนถึงเวลา 11.10 น. ยังไม่พบการยิงปะทะกันเกิดขึ้นแต่อย่างใด หลังจากถูกทหารไทยยิงปืนใหญ่ใส่กว่า 40 ลูก เป็นระยะอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาประมาณ 3-4 ทุ่มของคืนที่ผ่านมา บริเวณบ่อนกาสิโน ฝั่งโอร์เสม็ด อ.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ในวันนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป
.
ขณะที่ นาย
รุจิภาส มีกุศล สมาชิกวุฒิสภา จ.สุรินทร์ เป็นตัวแทน สว.
วิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา มอบสิ่งของและขนมให้กับผู้ประสบภัยสงคราม ที่ศูนย์อพยพในพื้นที่ จ.สุรินทร์ หลายแห่ง
.
โดยได้ลงพื้นที่พร้อมด้วย นาย
ลาภิศ นามไพร ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการการกฎหมายและการยุติธรรม วุฒิสภา, นาย
พิรุณ อุ่นศรี ผู้ช่วยดำเนินงานสมาชิกวุฒิสภา, นาย
รุจิภาส มีกุศล, นาย
นพรัตน์ กิ่งแก้ว ผู้ช่วยดำเนินงานสมาชิกวุฒิสภา, นาย
รุจิภาส มีกุศล, นางสาว
วิภาวี นามเดช เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการกฎหมายและการยุติธรรม วุฒิสภา และนางสาว
พรรธนัชญมน พัชรณภัสสกุล คณะทำงาน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ศรีณรงค์ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ ซึ่งมีประชาชนจากหมู่บ้านวังปลัด ต.ทับทัน อ.สังขะ พักพิงอยู่ประมาณ 500 กว่าคน และในวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ ที่มีชาวบ้านจากหมู่บ้านด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง, หมู่บ้านกระเทียม ต.กระเทียม อ.สังขะ และหมู่บ้านเทพรักษา ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ มาพักพิงอยู่จำนวน 158 คน โดยศูนย์พักพิงชั่วคราวแต่ละแห่งจะมีผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. และ ชรบ. รวมทั้งชาวบ้านจิตอาสาในพื้นที่ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
.
โดยที่ผู้สูงอายุและเด็กๆ ต่างมายืนเข้าแถวรอแจกสิ่งของและขนมกันอย่างคึกคัก ซึ่งนาย
รุจิภาส มีกุศล สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสุรินทร์ ก็ได้เข้าเยี่ยมประชาชน ผู้ป่วยติดเตียง เพื่อให้กำลังใจ และเยี่ยมเด็กๆ ที่กำลังพากันนั่งวาดภาพกันอย่างสนุกสนาน เป็นภาพที่อบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งนาย
เฉลิมพล แสงสว่าง นายอำเภอศรีณรงค์ ก็ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนตามศูนย์พักพิงในพื้นที่ อ.ศรีณรงค์ ด้วยเช่นกัน
.
ทั้งนี้ ชาวบ้านต่างอยากกลับบ้านกันแล้ว เนื่องจากเป็นห่วงสัตว์เลี้ยงและพืชผักที่ปลูกไว้ และต่างต้องการให้ทหารไทยรีบจัดการทหารเขมรให้จบสิ้นโดยเร็ว ชาวบ้านจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติเสียที และขอให้ทหารไทยปลอดภัยทุกนายอีกด้วย
.
.
รมว.กห. รับ กัมพูชา ยิงโดรน D-20 ไทยร่วง ชี้ อาจพยายามก่อวินาศกรรม แท่นขุดเจาะน้ำมัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5512131
.
‘รมว.กห.’ ยอมรับ กัมพูชาอาจมีความพยายามก่อวินาศกรรมแท่นขุดเจาะน้ำมัน จากกรณีพบโดรนมาบินในบริเวณอ่าวไทย สั่งทุกเหล่าทัพเพิ่มความเข้มงวดมาตรการดูแลความปลอดภัย ยอมรับ กรณีฝ่ายกัมพูชาทำลายโดรน D-20 ของไทยได้เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่สงครามย่อมมีการสูญเสียเกิดขึ้น
.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ธันวาคม ที่ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน) พล.อ.
ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการตั้งข้อสังเกตกรณีที่กองทัพเรือเปิดเผยว่าพบโดรนกัมพูชา มาบินในบริเวณใกล้แท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย อาจประเมินได้ว่าเป็นความพยายามในการก่อวินาศกรรมของฝ่ายกัมพูชาหรือไม่ เพื่อตอบโต้ที่ประเทศไทยเข้มงวดการขนส่งน้ำมันและยุทธภัณฑ์เข้าไปในกัมพูชาขณะนี้ว่า ท่าทีของกัมพูชาในกรณีนี้อยู่ในขอบเขตที่ได้ประเมินไว้ ซึ่งไม่ใช่การมองในแง่ร้าย แต่เป็นไปเพื่อความไม่ประมาท แต่ยอมรับว่าน่านน้ำของไทย ยากต่อการเฝ้าตรวจการณ์ เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีเสรีภาพมาก แตกต่างจากพื้นที่บนบก ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถสังเกตการณ์และพบโดรนได้ง่ายกว่า ซึ่งได้รับทราบจาก ศร.ชล. ว่าพื้นที่ทางทะเลของไทย ซึ่งมีเรือประมงกว่า 10,000 ลำ เรือต่าง ๆ เหล่านั้น ก็มีการบินโดรนของตัวเองด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าโดรนที่พบในอ่าวไทยนั้น เป็นโดรนของฝ่ายตรงข้ามหรือโดรนของไทย และมีความประสงค์ในการก่อวินาศกรรมหรือประสงค์ร้ายหรือไม่
.
ส่วนจะต้องประสานงานกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) หรือภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดหาระบบต่อต้านโดรน ดูแลความปลอดภัย ให้กับแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตนได้รับทราบจากเครือข่ายของบริษัท ปตท. ว่ากำลังขออนุญาตที่จะจัดหาระบบต่อต้านโดรนมาติดตั้งในแหล่งขุดเจาะน้ำมันของ ปตท. เพราะถือว่าเป็นผลประโยชน์ของชาติ และอยู่ภายใต้การควบคุมของ กสทช. อยู่แล้ว สามารถดำเนินการได้
.
นอกจากนี้ พล.อ.
ณัฐพล กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กองทัพอากาศ รับผิดชอบเรื่องการดูแลโดรนและความมั่นคง รวมทั้งได้พูดคุยกับกองทัพเรือ ซึ่งกองทัพเรือก็ได้เฝ้าดูในเรื่องนี้อยู่และได้ออกมาตรการเพิ่มเติมแล้ว
.
ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หากไม่ใช่การก่อวินาศกรรม อาจประเมินได้หรือไม่ว่าเป็นการข่มขู่จากฝ่ายกัมพูชา เพื่อสร้างความปั่นป่วน พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ในกรณีนี้ก็เป็นหนทางหนึ่งที่ประเมินไว้เช่นกัน แต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าเป็นโดรนของฝ่ายกัมพูชาจริงหรือไม่ และจะต้องมีการตรวจสอบต่อไป
.
นอกจากนี้ กรณีที่เมื่อวาน (18 ธ.ค.68) ฝ่ายกัมพูชามีการเผยแพร่ภาพว่า สามารถทำลายโดรนตรวจการณ์ของฝ่ายไทยได้นั้น พล.อ.
ณัฐพล กล่าวว่า ทราบว่าโดรนที่ตกคือรุ่น DP-20 หรือ D-eyes 04 ซึ่งเกิดจากการที่ฝ่ายกัมพูชาก็มีอาวุธต่อต้านอากาศยาน แม้ในช่วงที่ผ่านมา เราจะมีการระมัดระวังอยู่ แต่ย้ำว่าในการรบย่อมเกิดความสูญเสียขึ้น หากเรามียุทโธปกรณ์แล้วไม่กล้านำมาใช้ ก็ไม่ถูกต้อง เราจึงต้องนำสิ่งที่มีอยู่มาใช้ปฏิบัติการ แต่ต้องหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ยอมรับว่าแม้จะมีความสูญเสียเกิดขึ้นบ้างก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
JJNY : เขมรละเมิดอนุสัญญาออตตาวา│ช่วงชิงเนิน 350 ยังไม่จบ!│รมว.กห.รับกัมพูชา ยิงโดรน D-20 ไทยร่วง│รูบิโอสายตรง สีหศักดิ์
https://www.dailynews.co.th/news/5419884/
.
.
กองทัพเรือพบหลักฐานชี้ชัด กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวาและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ หลังยึดคืนพื้นที่ เจอคลังเก็บทุ่นระเบิดและเอกสารต่างๆ
.
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือขอชี้แจงว่า ภายหลัง กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้เข้าควบคุมและยึดคืนพื้นที่บริเวณบ้านหนองรี ซึ่งเดิมถูกใช้เป็นฐานที่มั่นทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ภายหลังการเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ ตรวจพบคลังเก็บทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ถูกดัดแปลงจากทุ่นระเบิดดักรถถัง จำนวน 16 ลูก ที่พร้อมใช้งาน ซึ่งถือว่าการกระทำที่มีลักษณะจงใจสร้างอันตรายโดยไม่เลือกเป้าหมาย และเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อทั้งกำลังพลและพลเรือน
.
นอกจากนี้ จากการตรวจยึดและตรวจสอบพื้นที่ฐานพลุ๊กดรัมเรย (บ้านสามหลัง) เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยยังได้ตรวจพบเอกสารทางทหารของฝ่ายกัมพูชา เป็นเอกสารการจดบันทึกของผู้เข้ารับการฝึกใช้งานทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN-2 โดยมีเนื้อหาครอบคลุมถึงลักษณะทั่วไปของทุ่นระเบิด การวาง และการเก็บกู้ ซึ่งมีการระบุวันที่จัดการสอนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 อีกด้วย เอกสารดังกล่าวถือเป็นพยานหลักฐานที่ชัดเจน แสดงให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชามีการอบรมให้ทหารกัมพูชาใช้งานทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง มิใช่การกระทำโดยบังเอิญหรือเฉพาะหน้า และสะท้อนถึงเจตนาในการใช้ “สงครามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล” ต่อฝ่ายไทย ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน
.
กองทัพเรือขอเน้นย้ำว่า การกระทำดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา เป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง โดยขัดต่อพันธกรณีระหว่างประเทศหลายประการ อาทิ
.
• อนุสัญญาออตตาวา ค.ศ. 1997 ซึ่งกำหนดห้ามการใช้ ผลิต หรือครอบครองทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
• พิธีสารเพิ่มเติม ฉบับที่ 1 แห่งอนุสัญญาเจนีวา ที่บัญญัติหลักการแยกแยะระหว่างเป้าหมายทางทหารกับพลเรือน และห้ามใช้อาวุธหรือวิธีการรบที่มีลักษณะไม่สามารถจำกัดผลกระทบต่อเป้าหมายทางทหารได้
.
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้ ครอบครอง รวมถึงดัดแปลงทุ่นระเบิดสังหารบุคคลดังกล่าว และเจตนาในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 ไม่เพียงเป็นการฝ่าฝืนพันธกรณีตามกฎหมายสากลเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนถึงการไม่เคารพหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐาน และกองทัพเรือขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยทันที พร้อมทั้งแสดงความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อความปลอดภัยของประชาชนและเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ ฝ่ายไทยขอยืนยันว่าจะดำเนินการปกป้องอธิปไตย ความมั่นคงของรัฐ และความปลอดภัยของประชาชน ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด
.
.
ช่วงชิงเนิน 350 ยังไม่จบ! ศพทหารกล้ายังไม่ได้ เขมรเติมกำลัง-ไทยยิงสกัดต่อเนื่อง
https://www.dailynews.co.th/news/5420648/
.
สู้รบชายแดนเดือดต่อเนื่อง! ช่วงชิงเนิน 350 ยังไม่จบ ศพ 2 ทหารกล้าพลีชีพ "จ่าเริง-พลทหารภาณุพัฒน์" ยังเข้าไปนำร่างกลับไม่ได้ ขณะที่ สว.สุรินทร์ ยังคงลงพื้นที่มอบสิ่งของผู้อพยพต่อเนื่อง ด้านชาวบ้านอยากกลับบ้านกันแล้ว
.
สู้รบชายแดนเดือดต่อเนื่อง! ช่วงชิงเนิน 350 ยังไม่จบ ศพ 2 ทหารกล้าพลีชีพ "จ่าเริง-พลทหารภาณุพัฒน์" ยังเข้าไปนำร่างกลับไม่ได้ ขณะที่ สว.สุรินทร์ ยังคงลงพื้นที่มอบสิ่งของผู้อพยพต่อเนื่อง ด้านชาวบ้านอยากกลับบ้านกันแล้ว
.
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ ทหารไทยยังคงยิงปืนใหญ่ใส่ทหารกัมพูชาเป็นระยะๆ เพื่อสกัดเส้นทางบำรุงกำลังและส่งเสบียง หลังพบว่าทหารกัมพูชาที่เนิน 350 เริ่มอิดโรยจากการขาดน้ำและอาหาร โดยทหารกัมพูชา พยายามเสริมกำลังเข้าไปช่วยประมาณ 100 กว่านาย แต่ถูกยิงสกัดในหลายจุด ซึ่งทหารไทย อยู่ระหว่างปฏิบัติการเข้าชิงพื้นที่เนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อนำศพทหาร 2 นาย คือ จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และพลทหารภาณุพัฒน์ เสาร์สา สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ชาว อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ที่ยังไม่สามารถนำศพกลับมาได้ และต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นพื้นที่สู้รบ มีกับระเบิดและการดักซุ่มโจมตีของทหารกัมพูชาอยู่ในขณะนี้
.
ด้านชายแดน อ.กาบเชิง โดยเฉพาะที่ชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง ตั้งแต่เช้าจนถึงเวลา 11.10 น. ยังไม่พบการยิงปะทะกันเกิดขึ้นแต่อย่างใด หลังจากถูกทหารไทยยิงปืนใหญ่ใส่กว่า 40 ลูก เป็นระยะอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาประมาณ 3-4 ทุ่มของคืนที่ผ่านมา บริเวณบ่อนกาสิโน ฝั่งโอร์เสม็ด อ.กรุงสำโรง จ.อุดรมีชัย เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ในวันนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป
.
ขณะที่ นายรุจิภาส มีกุศล สมาชิกวุฒิสภา จ.สุรินทร์ เป็นตัวแทน สว.วิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา มอบสิ่งของและขนมให้กับผู้ประสบภัยสงคราม ที่ศูนย์อพยพในพื้นที่ จ.สุรินทร์ หลายแห่ง
.
โดยได้ลงพื้นที่พร้อมด้วย นายลาภิศ นามไพร ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการการกฎหมายและการยุติธรรม วุฒิสภา, นายพิรุณ อุ่นศรี ผู้ช่วยดำเนินงานสมาชิกวุฒิสภา, นายรุจิภาส มีกุศล, นายนพรัตน์ กิ่งแก้ว ผู้ช่วยดำเนินงานสมาชิกวุฒิสภา, นายรุจิภาส มีกุศล, นางสาววิภาวี นามเดช เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการกฎหมายและการยุติธรรม วุฒิสภา และนางสาวพรรธนัชญมน พัชรณภัสสกุล คณะทำงาน ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ศรีณรงค์ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ ซึ่งมีประชาชนจากหมู่บ้านวังปลัด ต.ทับทัน อ.สังขะ พักพิงอยู่ประมาณ 500 กว่าคน และในวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ ที่มีชาวบ้านจากหมู่บ้านด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง, หมู่บ้านกระเทียม ต.กระเทียม อ.สังขะ และหมู่บ้านเทพรักษา ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ มาพักพิงอยู่จำนวน 158 คน โดยศูนย์พักพิงชั่วคราวแต่ละแห่งจะมีผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. และ ชรบ. รวมทั้งชาวบ้านจิตอาสาในพื้นที่ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
.
โดยที่ผู้สูงอายุและเด็กๆ ต่างมายืนเข้าแถวรอแจกสิ่งของและขนมกันอย่างคึกคัก ซึ่งนายรุจิภาส มีกุศล สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสุรินทร์ ก็ได้เข้าเยี่ยมประชาชน ผู้ป่วยติดเตียง เพื่อให้กำลังใจ และเยี่ยมเด็กๆ ที่กำลังพากันนั่งวาดภาพกันอย่างสนุกสนาน เป็นภาพที่อบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งนายเฉลิมพล แสงสว่าง นายอำเภอศรีณรงค์ ก็ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนตามศูนย์พักพิงในพื้นที่ อ.ศรีณรงค์ ด้วยเช่นกัน
.
ทั้งนี้ ชาวบ้านต่างอยากกลับบ้านกันแล้ว เนื่องจากเป็นห่วงสัตว์เลี้ยงและพืชผักที่ปลูกไว้ และต่างต้องการให้ทหารไทยรีบจัดการทหารเขมรให้จบสิ้นโดยเร็ว ชาวบ้านจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติเสียที และขอให้ทหารไทยปลอดภัยทุกนายอีกด้วย
.
.
รมว.กห. รับ กัมพูชา ยิงโดรน D-20 ไทยร่วง ชี้ อาจพยายามก่อวินาศกรรม แท่นขุดเจาะน้ำมัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5512131
.
‘รมว.กห.’ ยอมรับ กัมพูชาอาจมีความพยายามก่อวินาศกรรมแท่นขุดเจาะน้ำมัน จากกรณีพบโดรนมาบินในบริเวณอ่าวไทย สั่งทุกเหล่าทัพเพิ่มความเข้มงวดมาตรการดูแลความปลอดภัย ยอมรับ กรณีฝ่ายกัมพูชาทำลายโดรน D-20 ของไทยได้เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่สงครามย่อมมีการสูญเสียเกิดขึ้น
.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ธันวาคม ที่ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการตั้งข้อสังเกตกรณีที่กองทัพเรือเปิดเผยว่าพบโดรนกัมพูชา มาบินในบริเวณใกล้แท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย อาจประเมินได้ว่าเป็นความพยายามในการก่อวินาศกรรมของฝ่ายกัมพูชาหรือไม่ เพื่อตอบโต้ที่ประเทศไทยเข้มงวดการขนส่งน้ำมันและยุทธภัณฑ์เข้าไปในกัมพูชาขณะนี้ว่า ท่าทีของกัมพูชาในกรณีนี้อยู่ในขอบเขตที่ได้ประเมินไว้ ซึ่งไม่ใช่การมองในแง่ร้าย แต่เป็นไปเพื่อความไม่ประมาท แต่ยอมรับว่าน่านน้ำของไทย ยากต่อการเฝ้าตรวจการณ์ เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีเสรีภาพมาก แตกต่างจากพื้นที่บนบก ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถสังเกตการณ์และพบโดรนได้ง่ายกว่า ซึ่งได้รับทราบจาก ศร.ชล. ว่าพื้นที่ทางทะเลของไทย ซึ่งมีเรือประมงกว่า 10,000 ลำ เรือต่าง ๆ เหล่านั้น ก็มีการบินโดรนของตัวเองด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าโดรนที่พบในอ่าวไทยนั้น เป็นโดรนของฝ่ายตรงข้ามหรือโดรนของไทย และมีความประสงค์ในการก่อวินาศกรรมหรือประสงค์ร้ายหรือไม่
.
ส่วนจะต้องประสานงานกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) หรือภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดหาระบบต่อต้านโดรน ดูแลความปลอดภัย ให้กับแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตนได้รับทราบจากเครือข่ายของบริษัท ปตท. ว่ากำลังขออนุญาตที่จะจัดหาระบบต่อต้านโดรนมาติดตั้งในแหล่งขุดเจาะน้ำมันของ ปตท. เพราะถือว่าเป็นผลประโยชน์ของชาติ และอยู่ภายใต้การควบคุมของ กสทช. อยู่แล้ว สามารถดำเนินการได้
.
นอกจากนี้ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กองทัพอากาศ รับผิดชอบเรื่องการดูแลโดรนและความมั่นคง รวมทั้งได้พูดคุยกับกองทัพเรือ ซึ่งกองทัพเรือก็ได้เฝ้าดูในเรื่องนี้อยู่และได้ออกมาตรการเพิ่มเติมแล้ว
.
ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หากไม่ใช่การก่อวินาศกรรม อาจประเมินได้หรือไม่ว่าเป็นการข่มขู่จากฝ่ายกัมพูชา เพื่อสร้างความปั่นป่วน พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ในกรณีนี้ก็เป็นหนทางหนึ่งที่ประเมินไว้เช่นกัน แต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าเป็นโดรนของฝ่ายกัมพูชาจริงหรือไม่ และจะต้องมีการตรวจสอบต่อไป
.
นอกจากนี้ กรณีที่เมื่อวาน (18 ธ.ค.68) ฝ่ายกัมพูชามีการเผยแพร่ภาพว่า สามารถทำลายโดรนตรวจการณ์ของฝ่ายไทยได้นั้น พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ทราบว่าโดรนที่ตกคือรุ่น DP-20 หรือ D-eyes 04 ซึ่งเกิดจากการที่ฝ่ายกัมพูชาก็มีอาวุธต่อต้านอากาศยาน แม้ในช่วงที่ผ่านมา เราจะมีการระมัดระวังอยู่ แต่ย้ำว่าในการรบย่อมเกิดความสูญเสียขึ้น หากเรามียุทโธปกรณ์แล้วไม่กล้านำมาใช้ ก็ไม่ถูกต้อง เราจึงต้องนำสิ่งที่มีอยู่มาใช้ปฏิบัติการ แต่ต้องหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ยอมรับว่าแม้จะมีความสูญเสียเกิดขึ้นบ้างก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย