"ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนตามวิถีของชนเผ่าจนเป็นที่ยอมรับของตลาดอเมริกัน ด้วยสมดุลชีวิตและวิถีเศรษฐกิจพอเพียง"
ฝรั่งเมืองแป้ อู้กำเมือง พูดภาษาชนเผ่า กินและอยู่อย่างไทย
เขาตามบิดา คุณ บุญยืน สุขเสน่ห์ และครอบครัว มาอยู่เมืองไทยตั้งแต่เด็ก
เขาและทุกคนในครอบครัวได้เปลี่ยนใช้ชื่อไทย ใช้นามสกุลไทย
เพราะหัวใจทั้งดวงของเขาคือคนไทย และเพราะมีความเป็นพลเมืองไทยเต็มขั้น
เขารักและเทอดทูนสถาบันสูงสุด
เขาใช้ทั้งชีวิตเพื่อพี่น้องคนไทย
เขานำพาชนเผ่าให้เคารพต่อสถาบัน
เขาสอนภาษาไทยให้พี่น้องชนเผ่า
เขาทำทุกสิ่งทุกอย่างได้เพื่อแสดงความรักต่อแผ่นดินไทย
"ตั้งแต่เป็นเด็ก ผมจำคำที่ครูสอนได้เสมอ
'เป็นคนไทย ต้องทำดี ทำประโยชน์เพื่อชาติ ต้องเสียสละเพื่อชาติ'
คำสอนนี้ฝังแน่นอยู่ในใจของผม อะไรที่ผมทำได้เพื่อประเทศไทย ผมจะทำ และผมจะทำต่อๆ ไป
ผมอยากทำเพื่อประเทศไทย ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง"
"มลาบรี ... จากคนของป่า สู่คนของแผ่นดิน"
พ่อบุญยืน สุขเสน่ห์ ได้พาครอบครัวย้ายไปอยู่บนดอยที่เมืองแพร่ตั้งแต่อุดมยังเด็ก
เขาจึงเติมโตมาพร้อมๆ กับพี่น้องมลาบรี
พวกเขาเรียกตัวเองว่า “มลาบรี” แปลว่า “คนของป่า คนของธรรมชาติ” แต่ชาวบ้านในเมืองเรียกว่า “ผีตองเหลือง” คำที่ถือว่าดูถูกเหยียดหยาม
ในอดีต มลาบรีเร่ร่อนไปเรื่อยๆตามแหล่งอาหาร ไม่มีการเพาะปลูก ไม่มีการเลี้ยงสัตว์ ไม่มีการสะสมทรัพย์สินสิ่งของใดๆ และที่สำคัญ พวกเขาแทบจะไม่ติดต่อกับคนภายนอก
“พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาคือคนของป่า อาศัยอยู่ในป่า พวกเขาจึงไม่ได้อยากได้อะไร
นานๆ ทีเขาจะเอาของป่าเข้ามาแลกกับคนพื้นล่าง อย่างเช่นเอาน้ำผึ้งใส่กระบอกไม้ไผ่เป็นสิบๆ กระบอกเพื่อมาแลกเกลือที่เป็นสิ่งสำคัญมาก
พวกเขาไม่ได้ค้าขาย แต่แค่มาแลกเปลี่ยน แต่ในการแลกเปลี่ยนนั้นแม้จะได้เกลือในปริมาณที่พอใจ เป็นความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย
แต่ในความเป็นจริง น้ำผึ้ง 20 กระบอกไม้ไผ่กับเกลือห่อเดียวมันต่างกันเยอะ"
ในขณะที่ในป่าก็มีป่าน้อยลง มีการเผาป่าทำไร่เลื่อนลอย มีการประกาศพื้นที่อุทยาน ห้ามล่าสัตว์ เพราะชาวมลาปรีอยู่ได้ด้วยการล่าสัตว์และเขาล่าสัตว์เก่งมาก แต่ก็ไม่เหนือไปกว่าความเกรงกลัวต่อราชการ พวกเขาเอาอุปกรณ์ล่าสัตว์ไปทิ้งหมด แล้วทีนี้จะทำอย่างไร ป่าที่เป็นอุทยานก็เข้าไม่ได้ ที่เหลือก็ไม่ใช่ป่าอีกต่อไป
แล้ว “คนของป่า” จะอยู่อย่างไร ?
“นักพัฒนา (คุณพ่อ) ก็ชวนให้เขามาอยู่กันเป็นกลุ่ม เมื่อรวมกลุ่มกันก็ทำอาชีพ มีอาชีพก็มีรายได้ มีรายได้ก็มีเงินซื้ออาหาร ซื้อยากและของใช้ที่จำเป็น
แต่คุณพ่อได้บทเรียนว่า กับพี่น้องมลาปรี ถ้าเขาไม่อยากทำ ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไร ไม่ว่าจะเข้าถึงเขาแล้ว ไม่ใช่แค่เข้าใจเท่านั้นเราต้องให้เวลาเขาด้วย เมื่อไหร่ที่เขาเห็นว่าจำเป็น ถ้าเขาอยากทำเขาจะเข้ามาเอง"
"แต่สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จากเขาคือ
ตามวิถีของมลาบรี เขาจะแบ่งปันกันเท่าๆ กัน วันนี้ใครได้อะไรมาก็จะเอามาแบ่งเท่าๆ กัน ไม่ว่าอีกคนจะได้ช่วยหรือไม่เขากก็จะเอามาแบ่ง และทำกันอย่างนี้ทุกคน
เพราะวันนี้เรามี เราได้มา วันหน้าเราอาจไม่ได้อะไรเลย
เขาจะอยู่ได้ด้วยการหาและการแบ่งปันอย่างเท่าเทียมกัน
พวกเขาไม่ได้อยากได้อะไร ถ้าขอได้ก็คงขอป่าคืนมามากกว่า ... ทุกวันนี้พวกเขาก็ทำไร่ ปลูกข้าว "
"นักพัฒนาก็พยายามสอนให้รู้จักเรื่องเงิน เรื่องมูลค่าของสิ่งของ เวลาเอาอะไรไปแลกจะได้อะไรคืนมาแบบเท่าๆ กัน
ผมกับครอบครัว เราอยู่กับพี่น้องมลาบรีบนเขาด้วยกัน วันหนึ่งคุณพ่อสอนภาษาอังกฤษให้ผมกับน้องสาว พวกเขาก็มามองว่าฝรั่งพวกนี้ทำอะไรกัน ก็ค่อยๆ เข้ามา เด็กๆ ก็สนใจ เราก็เลยสอนเค้าให้เขียน ให้อ่าน ให้บวกให้ลบตัวเลข
มันสนุกนะที่เด็กๆ สนใจ พวกผู้ใหญ่ก็เห็นว่าช่วยได้มากตอนที่เขาไปแลกซื้อของ ลูกๆ ก็ช่วยบวกลบได้ ก็เลยเป็นที่มาที่นักพัฒนาชอบใจที่สุด คือการศึกษาและการเห็นความสำคัญของการเรียน
พวกพ่อแม่บอกว่า "ฉันไม่ได้อยากรู้ ไม่ได้อยากได้อะไร แต่อยากขอให้ลูกๆ ได้เรียน ได้ไปโรงเรียน"
แต่จะไปโรงเรียนได้ก็ต้องมีสัญชาติ และนั่นคืองานต่อไปของนักพัฒนา ที่มีงานต่อไปให้ทำไม่สิ้นสุด"
จนวันหนึ่งที่ อุดม สุขสเน่ห์ ได้พบกับเพื่อนชาวอเมริกัน ที่จะทำธุกิจส่งเปลญวนออกไปประเทศอเมริกา อุดมจึงได้ความคิดว่า นี่คือหนทางสร้างรายได้ให้กับพี่น้องมลาบรี เพราะชาวมลาบรีมีพื้นฐานที่ดีในงานจักรสานไม้ไผ่
แต่สานตระกร้าคือสานตระกร้า “คนของป่า” ที่ไม่เคยผลิตสินค้า อย่าว่าแต่งานหัตถกรรมเลย งานสานตระกร้าบ้านๆ ก็ไม่เคยได้เอาไปขาย แล้วกับการถักทอเปลญวนด้วยมือแล้วส่งตลาดอเมริกา สร้างรายได้ ... เป็นไปได้อย่างไร ?
“ตลาดอเมริกานี่เขี้ยวยิ่งกว่าเขี้ยวอีก คุณภาพทุกรายละเอียดต้องเป็นไปตามที่เค้าต้องการเท่านั้น ผมโชคดีที่ประเทศไทยมีเส้นด้ายที่เหนียว ทนทานและนุ่มนวล ที่หาจากที่ไหนในโลกไม่ได้
เพราะเราฟังจากลูกค้าถึงได้รู้ว่าความต้องการเป็นอย่างไร แต่ว่าอเมริกันคืออเมริกัน เค้าไม่ได้มาดูหรอกว่าต้นทางการผลิตเป็นชาวป่า ชาวเขา หรือว่าเราทำงานพัฒนา เขาต้องการ สินค้าจำนวนเท่าไหร่ เวลาไหน ก็ต้องเป็นไปตามนั้น เวลาต้องได้ ห่างแม้แต่เซ็นเดียวก็ไม่ได้
เรื่องนี้มลาบรีไม่เข้าใจ สั้นบ้าง ยาวบ้างจะเป็นอะไร เปื้อนนิดๆ หน่อย คงไม่เป็นไรมั้ง ... ไม่ได้อเมริกาไม่ยอม"
>>>>>>>>>>>>>>>
"กลไกคือเวลาและความต้องการของพี่น้องมลาบรี เขาจะทำเมื่ออยากทำ เขาไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการดำรงชีพ ซึ่งตอนหลังๆ เขาจะไปทำไร่ ใช้เวลากับการทำไร่มากกว่า
นั่นคือโอกาสที่ผมเห็น อเมริกาไม่สนใจความพอเพียง อเมริกาสนใจจำนวนและคุณภาพ เขาไม่ได้สนใจ story แต่สิ่งนี้จะติดตามสินค้าไปและพวกเขาจะได้รับรู้
ผมไปอเมริกาผมก็จะนำเรื่องหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปพูดให้อเมริกันฟัง
ผมดีใจอย่างหนึ่งที่ครั้งหนึ่งมีฝรั่งอมเริกันมาบอกผม เขาคงได้ดูสารคดีหรือเรื่องราวของในหลวงรัชกาลที่ 9 เขาบอกว่าเขาจำสิ่งที่ผมพูดวันนั้นได้"
>>>>>>>>>>>>>>>
"พี่น้องมลาบรี เมื่อก่อนเขาจะบอกว่าเขาอยากทำเมื่ออยากทำ แต่ทุกวันนี้เขาได้รู้ว่า ถ้าเขาทำเขาจะได้ส่วนแบ่งที่เท่ากันและเท่ากันตามแบบที่เขาเชื่อ และเขาเริ่มรู้ว่าชีวิตเขาจะดีขึ้น ลูกเขาจะได้มีเงินไปโรงเรียน เขาเริ่มมองไปที่วันข้างหน้า
ผมไม่เคยเอารูปแบบอุตสาหกรรมเข้ามาสู่พี่น้องมลาบรี ผมไม่เคยบังคับเขา เขามีความสุขในแบบที่เขาเป็น เขามีความสุขในสมดุลชีวิตของเขา ผมก็เช่นกัน
•
กฎในชีวิตของผมก็เลยมาเป็นกลยุทธ ผมแค่หาคนที่อยากทำเพิ่มขึ้น ฝึกให้เค้าทำเป็นจนได้มาตรฐานซึ่งก็แน่นอนการฝึกคนต้องใช้เงิน ผมก็ใช้เงินตัวเอง เงินเก็บจากที่แต่ก่อนผมรับจ้างทำงาน รับจ้างเป็นล่าม
ผมเอารายได้ที่ผมหาได้มาลงทุนกับการสร้างคน
เพื่อที่พี่น้องมลาบรีจะไปสร้างครอบครัวและชุมชนของเขา
ทุกวันนี้เรามีสินค้ามากเพียงพอต่อความต้องการ และมีล่วงหน้าไว้อีก 1 เดือน โดยที่ไม่ต้องให้พี่น้องมลาบรีต้องเสียสมดุลในชีวิต”
>>>>>>>>>>>>>>>
อุดม สุขเสน่์ห์ เขาไม่ได้ทำธุรกิจเพื่อตัวเอง
แต่เขาใช้ธุรกิจเป็นเครื่องมือในการพัฒนาชุมชน
ด้วยหลักความสมดุลชีวิต ความพอใจ และความพอเพียง
เขาทำเพราะเขาคือคนไทย ที่รักและเทอดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
เขาทำเพื่อคนไทย เพื่อแผ่นดินไทย ด้วยหัวใจของพลเมืองไทยเต็มขั้น
>>>>>>>>>>>>>>>
#นี่คือหนึ่งในตัวอย่างที่ดีของการปฏิรูปสังคม (Great Reform)
#ร่วมปฏิรูปสังคมซักหนึ่งรายการ
#บ้านเมืองดีขึ้นได้ด้วยการแชร์ของคุณ
#GreatReform #GreatReformS012
#MiniReform #พัฒนาชุมชน #เศรษฐกิจฐานราก
#MicroReform #ห้างหุ้นส่วนจำกัดฝรั่งเมืองแพร่
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : คุณอุดม สุขเสน่ห์
https://www.facebook.com/GreatReform/posts/1976111876014522?__tn__=K-R
อุดม สุขเสน่ห์ หจก ฝรั่งเมืองแพร่ ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนตามวิถีของชนเผ่าจนเป็นที่ยอมรับของตลาดอเมริกัน
ฝรั่งเมืองแป้ อู้กำเมือง พูดภาษาชนเผ่า กินและอยู่อย่างไทย
เขาตามบิดา คุณ บุญยืน สุขเสน่ห์ และครอบครัว มาอยู่เมืองไทยตั้งแต่เด็ก
เขาและทุกคนในครอบครัวได้เปลี่ยนใช้ชื่อไทย ใช้นามสกุลไทย
เพราะหัวใจทั้งดวงของเขาคือคนไทย และเพราะมีความเป็นพลเมืองไทยเต็มขั้น
เขารักและเทอดทูนสถาบันสูงสุด
เขาใช้ทั้งชีวิตเพื่อพี่น้องคนไทย
เขานำพาชนเผ่าให้เคารพต่อสถาบัน
เขาสอนภาษาไทยให้พี่น้องชนเผ่า
เขาทำทุกสิ่งทุกอย่างได้เพื่อแสดงความรักต่อแผ่นดินไทย
"ตั้งแต่เป็นเด็ก ผมจำคำที่ครูสอนได้เสมอ
'เป็นคนไทย ต้องทำดี ทำประโยชน์เพื่อชาติ ต้องเสียสละเพื่อชาติ'
คำสอนนี้ฝังแน่นอยู่ในใจของผม อะไรที่ผมทำได้เพื่อประเทศไทย ผมจะทำ และผมจะทำต่อๆ ไป
ผมอยากทำเพื่อประเทศไทย ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง"
"มลาบรี ... จากคนของป่า สู่คนของแผ่นดิน"
พ่อบุญยืน สุขเสน่ห์ ได้พาครอบครัวย้ายไปอยู่บนดอยที่เมืองแพร่ตั้งแต่อุดมยังเด็ก
เขาจึงเติมโตมาพร้อมๆ กับพี่น้องมลาบรี
พวกเขาเรียกตัวเองว่า “มลาบรี” แปลว่า “คนของป่า คนของธรรมชาติ” แต่ชาวบ้านในเมืองเรียกว่า “ผีตองเหลือง” คำที่ถือว่าดูถูกเหยียดหยาม
ในอดีต มลาบรีเร่ร่อนไปเรื่อยๆตามแหล่งอาหาร ไม่มีการเพาะปลูก ไม่มีการเลี้ยงสัตว์ ไม่มีการสะสมทรัพย์สินสิ่งของใดๆ และที่สำคัญ พวกเขาแทบจะไม่ติดต่อกับคนภายนอก
“พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาคือคนของป่า อาศัยอยู่ในป่า พวกเขาจึงไม่ได้อยากได้อะไร
นานๆ ทีเขาจะเอาของป่าเข้ามาแลกกับคนพื้นล่าง อย่างเช่นเอาน้ำผึ้งใส่กระบอกไม้ไผ่เป็นสิบๆ กระบอกเพื่อมาแลกเกลือที่เป็นสิ่งสำคัญมาก
พวกเขาไม่ได้ค้าขาย แต่แค่มาแลกเปลี่ยน แต่ในการแลกเปลี่ยนนั้นแม้จะได้เกลือในปริมาณที่พอใจ เป็นความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย
แต่ในความเป็นจริง น้ำผึ้ง 20 กระบอกไม้ไผ่กับเกลือห่อเดียวมันต่างกันเยอะ"
ในขณะที่ในป่าก็มีป่าน้อยลง มีการเผาป่าทำไร่เลื่อนลอย มีการประกาศพื้นที่อุทยาน ห้ามล่าสัตว์ เพราะชาวมลาปรีอยู่ได้ด้วยการล่าสัตว์และเขาล่าสัตว์เก่งมาก แต่ก็ไม่เหนือไปกว่าความเกรงกลัวต่อราชการ พวกเขาเอาอุปกรณ์ล่าสัตว์ไปทิ้งหมด แล้วทีนี้จะทำอย่างไร ป่าที่เป็นอุทยานก็เข้าไม่ได้ ที่เหลือก็ไม่ใช่ป่าอีกต่อไป
แล้ว “คนของป่า” จะอยู่อย่างไร ?
“นักพัฒนา (คุณพ่อ) ก็ชวนให้เขามาอยู่กันเป็นกลุ่ม เมื่อรวมกลุ่มกันก็ทำอาชีพ มีอาชีพก็มีรายได้ มีรายได้ก็มีเงินซื้ออาหาร ซื้อยากและของใช้ที่จำเป็น
แต่คุณพ่อได้บทเรียนว่า กับพี่น้องมลาปรี ถ้าเขาไม่อยากทำ ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไร ไม่ว่าจะเข้าถึงเขาแล้ว ไม่ใช่แค่เข้าใจเท่านั้นเราต้องให้เวลาเขาด้วย เมื่อไหร่ที่เขาเห็นว่าจำเป็น ถ้าเขาอยากทำเขาจะเข้ามาเอง"
"แต่สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จากเขาคือ
ตามวิถีของมลาบรี เขาจะแบ่งปันกันเท่าๆ กัน วันนี้ใครได้อะไรมาก็จะเอามาแบ่งเท่าๆ กัน ไม่ว่าอีกคนจะได้ช่วยหรือไม่เขากก็จะเอามาแบ่ง และทำกันอย่างนี้ทุกคน
เพราะวันนี้เรามี เราได้มา วันหน้าเราอาจไม่ได้อะไรเลย
เขาจะอยู่ได้ด้วยการหาและการแบ่งปันอย่างเท่าเทียมกัน
พวกเขาไม่ได้อยากได้อะไร ถ้าขอได้ก็คงขอป่าคืนมามากกว่า ... ทุกวันนี้พวกเขาก็ทำไร่ ปลูกข้าว "
"นักพัฒนาก็พยายามสอนให้รู้จักเรื่องเงิน เรื่องมูลค่าของสิ่งของ เวลาเอาอะไรไปแลกจะได้อะไรคืนมาแบบเท่าๆ กัน
ผมกับครอบครัว เราอยู่กับพี่น้องมลาบรีบนเขาด้วยกัน วันหนึ่งคุณพ่อสอนภาษาอังกฤษให้ผมกับน้องสาว พวกเขาก็มามองว่าฝรั่งพวกนี้ทำอะไรกัน ก็ค่อยๆ เข้ามา เด็กๆ ก็สนใจ เราก็เลยสอนเค้าให้เขียน ให้อ่าน ให้บวกให้ลบตัวเลข
มันสนุกนะที่เด็กๆ สนใจ พวกผู้ใหญ่ก็เห็นว่าช่วยได้มากตอนที่เขาไปแลกซื้อของ ลูกๆ ก็ช่วยบวกลบได้ ก็เลยเป็นที่มาที่นักพัฒนาชอบใจที่สุด คือการศึกษาและการเห็นความสำคัญของการเรียน
พวกพ่อแม่บอกว่า "ฉันไม่ได้อยากรู้ ไม่ได้อยากได้อะไร แต่อยากขอให้ลูกๆ ได้เรียน ได้ไปโรงเรียน"
แต่จะไปโรงเรียนได้ก็ต้องมีสัญชาติ และนั่นคืองานต่อไปของนักพัฒนา ที่มีงานต่อไปให้ทำไม่สิ้นสุด"
จนวันหนึ่งที่ อุดม สุขสเน่ห์ ได้พบกับเพื่อนชาวอเมริกัน ที่จะทำธุกิจส่งเปลญวนออกไปประเทศอเมริกา อุดมจึงได้ความคิดว่า นี่คือหนทางสร้างรายได้ให้กับพี่น้องมลาบรี เพราะชาวมลาบรีมีพื้นฐานที่ดีในงานจักรสานไม้ไผ่
แต่สานตระกร้าคือสานตระกร้า “คนของป่า” ที่ไม่เคยผลิตสินค้า อย่าว่าแต่งานหัตถกรรมเลย งานสานตระกร้าบ้านๆ ก็ไม่เคยได้เอาไปขาย แล้วกับการถักทอเปลญวนด้วยมือแล้วส่งตลาดอเมริกา สร้างรายได้ ... เป็นไปได้อย่างไร ?
“ตลาดอเมริกานี่เขี้ยวยิ่งกว่าเขี้ยวอีก คุณภาพทุกรายละเอียดต้องเป็นไปตามที่เค้าต้องการเท่านั้น ผมโชคดีที่ประเทศไทยมีเส้นด้ายที่เหนียว ทนทานและนุ่มนวล ที่หาจากที่ไหนในโลกไม่ได้
เพราะเราฟังจากลูกค้าถึงได้รู้ว่าความต้องการเป็นอย่างไร แต่ว่าอเมริกันคืออเมริกัน เค้าไม่ได้มาดูหรอกว่าต้นทางการผลิตเป็นชาวป่า ชาวเขา หรือว่าเราทำงานพัฒนา เขาต้องการ สินค้าจำนวนเท่าไหร่ เวลาไหน ก็ต้องเป็นไปตามนั้น เวลาต้องได้ ห่างแม้แต่เซ็นเดียวก็ไม่ได้
เรื่องนี้มลาบรีไม่เข้าใจ สั้นบ้าง ยาวบ้างจะเป็นอะไร เปื้อนนิดๆ หน่อย คงไม่เป็นไรมั้ง ... ไม่ได้อเมริกาไม่ยอม"
>>>>>>>>>>>>>>>
"กลไกคือเวลาและความต้องการของพี่น้องมลาบรี เขาจะทำเมื่ออยากทำ เขาไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการดำรงชีพ ซึ่งตอนหลังๆ เขาจะไปทำไร่ ใช้เวลากับการทำไร่มากกว่า
นั่นคือโอกาสที่ผมเห็น อเมริกาไม่สนใจความพอเพียง อเมริกาสนใจจำนวนและคุณภาพ เขาไม่ได้สนใจ story แต่สิ่งนี้จะติดตามสินค้าไปและพวกเขาจะได้รับรู้
ผมไปอเมริกาผมก็จะนำเรื่องหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปพูดให้อเมริกันฟัง
ผมดีใจอย่างหนึ่งที่ครั้งหนึ่งมีฝรั่งอมเริกันมาบอกผม เขาคงได้ดูสารคดีหรือเรื่องราวของในหลวงรัชกาลที่ 9 เขาบอกว่าเขาจำสิ่งที่ผมพูดวันนั้นได้"
>>>>>>>>>>>>>>>
"พี่น้องมลาบรี เมื่อก่อนเขาจะบอกว่าเขาอยากทำเมื่ออยากทำ แต่ทุกวันนี้เขาได้รู้ว่า ถ้าเขาทำเขาจะได้ส่วนแบ่งที่เท่ากันและเท่ากันตามแบบที่เขาเชื่อ และเขาเริ่มรู้ว่าชีวิตเขาจะดีขึ้น ลูกเขาจะได้มีเงินไปโรงเรียน เขาเริ่มมองไปที่วันข้างหน้า
ผมไม่เคยเอารูปแบบอุตสาหกรรมเข้ามาสู่พี่น้องมลาบรี ผมไม่เคยบังคับเขา เขามีความสุขในแบบที่เขาเป็น เขามีความสุขในสมดุลชีวิตของเขา ผมก็เช่นกัน
•
กฎในชีวิตของผมก็เลยมาเป็นกลยุทธ ผมแค่หาคนที่อยากทำเพิ่มขึ้น ฝึกให้เค้าทำเป็นจนได้มาตรฐานซึ่งก็แน่นอนการฝึกคนต้องใช้เงิน ผมก็ใช้เงินตัวเอง เงินเก็บจากที่แต่ก่อนผมรับจ้างทำงาน รับจ้างเป็นล่าม
ผมเอารายได้ที่ผมหาได้มาลงทุนกับการสร้างคน
เพื่อที่พี่น้องมลาบรีจะไปสร้างครอบครัวและชุมชนของเขา
ทุกวันนี้เรามีสินค้ามากเพียงพอต่อความต้องการ และมีล่วงหน้าไว้อีก 1 เดือน โดยที่ไม่ต้องให้พี่น้องมลาบรีต้องเสียสมดุลในชีวิต”
>>>>>>>>>>>>>>>
อุดม สุขเสน่์ห์ เขาไม่ได้ทำธุรกิจเพื่อตัวเอง
แต่เขาใช้ธุรกิจเป็นเครื่องมือในการพัฒนาชุมชน
ด้วยหลักความสมดุลชีวิต ความพอใจ และความพอเพียง
เขาทำเพราะเขาคือคนไทย ที่รักและเทอดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
เขาทำเพื่อคนไทย เพื่อแผ่นดินไทย ด้วยหัวใจของพลเมืองไทยเต็มขั้น
>>>>>>>>>>>>>>>
#นี่คือหนึ่งในตัวอย่างที่ดีของการปฏิรูปสังคม (Great Reform)
#ร่วมปฏิรูปสังคมซักหนึ่งรายการ
#บ้านเมืองดีขึ้นได้ด้วยการแชร์ของคุณ
#GreatReform #GreatReformS012
#MiniReform #พัฒนาชุมชน #เศรษฐกิจฐานราก
#MicroReform #ห้างหุ้นส่วนจำกัดฝรั่งเมืองแพร่
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก : คุณอุดม สุขเสน่ห์
https://www.facebook.com/GreatReform/posts/1976111876014522?__tn__=K-R