คือเราได้ลองมาสังเกตุตัวเองดูค่ะ ในช่วงปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับเราเยอะมากๆ
อย่างช่วงต้นปี เราได้ไปฝึกงานที่ต่างจังหวัด ซึ่งโดยปกติแล้วเราแทบไม่เคยห่างจากครอบครัวเลย
พอไปไกลขนาดนั้น เจอหน้ากันก็น้อยลง เรียกได้ว่าไม่เจอเลยดีหว่า ช่วงสัปดาห์แรกเราเป็น Homesick หนักมากค่ะ
ทานอะไรไม่ลง นอนไม่หลับ อะไรที่เคยชอบ พอทำก็รู้สึกไม่ชอบ อะไรที่ดูแล้วหัวใจพองโต
พอดูก็กลับไม่รู้สึกอะไรเลย รู้สึกเครียด อึดอัด กดดัน เป็นถึงขั้นมีความคิดที่ว่าอยากตายเลยค่ะ
ทั้งๆที่รอบตัวเราดีมากๆนะคะ พี่ๆที่ฝึกงานก็ใจดี เพื่อนๆก็น่ารัก เวลาระว่างวันก็นานมาก ทั้งวันก็จะคิดตลอด
เวลานี้อยู่ที่บ้าน ฉันน่าจะกำลังดูทีวีกับแม่อยู่ ตอนนี้ฉันน่าจะทานข้าวกับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา
มันจะนึกอะไรแบบนี้ตลอดเลยค่ะ แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ อาการเหล่านี้มันก็เริ่มดีขึ้น จนเราสามารถผ่านมันมาได้
เราเรียนจบแล้ว ก็อยู่บ้านว่างๆมาตลอดตั้งแต่เดือน พ.ค. จนถึง ต.ค. เลยค่ะ(มีออกไปเรียนพิเศษบ้าง)
รู้สึกได้เลยว่าบ้านคือสถานที่ที่เราโหยหามากที่สุด มันเป็นทั้ง safe zone และ comfort zone ของเราเลยค่ะ
แต่ตอนนี้เราเริ่มทำงาน ก็พักอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมนะคะ แต่ก็เรียกได้ว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก
เราต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อไปทำงาน เลิกงาน 5 โมงเย็น แล้วการจราจรในกรุงเทพเนี่ย ก็อย่างที่รู้กัน กว่าเราจะถึงบ้าน
ใช้เวลาเป็นชั่วโมง แล้วงานที่เราทำ มันเป็นงานที่เหมือนไม่ได้มีอะไรให้ทำเยอะอ่ะค่ะ คือทั้งวันมันว่างมากๆจนมันน่าเบื่อ
เวลาก็ผ่านไปช้าเหลือเกิน เราก็จะเกิดอาการเดิมอีกแล้วค่ะ คือชอบคิดว่าเออเนี่ย เวลานี้อยู่บ้านนะ ป่านนี้ยังไม่ตื่นเลยเหอะ
เนี่ยตอนนี้คงนอนเล่นโทรศัพท์ อ่านหนังสืออยู่ในห้อง บ่ายๆก็ออกไปหาอะไรกินกับแม่ คือมันคิดอยู่แค่นี้เลยค่ะทั้งวัน
และทั้งๆที่ทำงาน แล้วก็กลับมานอนบ้านนี่แหละ แต่เรากลับทานอะไรไม่ลง แล้วก็รู้สึกอึดอัด อยากจะร้องไห้อีกแล้ว
แน่นอนว่ามันไม่ใช่อาการ Homesick แล้วแหละ แต่เราแค่ยังรับมือกับการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เรารู้ค่ะ มันต้องใช้เวลาสักพัก
เดี๋ยวเราจะดีขึ้นเอง พอจะรู้ตัวว่าเป็นคนไม่ชอบเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ เป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัวเองไว้ในโซนปลอดภัย แต่ในชีวิตจริง
เราทำแบบนั้นไม่ได้ คนเราจะขังตัวเองไว้แบบนั้นตลอดไปไม่ได้ และที่เรากังวลมากที่สุดก็คือในช่วงปีหน้า
เรากำลังแพลนจะไปเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์ 6 เดือน เราจะต้องเกิดอาการพวกนี้อีกแน่ๆ แต่ครั้งนี้มันต้องหนักกว่าที่ผ่านมา
เพราะมันทั้งไกล และไปใช้ชีวิตเองคนเดียวในต่างแดน เราเลยอยากจะถามค่ะ ว่ามีวิธีรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตกันยังไงเหรอคะ
เรารู้นะคะ ปัญหาของเราอาจดูแบบไร้สาระในความคิดของใครบางคน อาจมองว่าทำไมเราถึงอ่อนแอจัง ทำไมเราไม่เข้มแข็งเลย
อันนี้เรายอมรับแต่โดยดีเลยค่ะ ว่าเราไม่ใช่คนเข้มแข็งเลยสักนิด เราก็ไม่อยากเป็นแบบนี้นะคะ เพราะงั้นใครพอจะมีวิธีแก้ รบกวนด้วยนะคะ
ปล. แท็กห้องผิดขออภัยค่ะ
รับมือกับความเปลี่ยนแปลงยังไงคะ
อย่างช่วงต้นปี เราได้ไปฝึกงานที่ต่างจังหวัด ซึ่งโดยปกติแล้วเราแทบไม่เคยห่างจากครอบครัวเลย
พอไปไกลขนาดนั้น เจอหน้ากันก็น้อยลง เรียกได้ว่าไม่เจอเลยดีหว่า ช่วงสัปดาห์แรกเราเป็น Homesick หนักมากค่ะ
ทานอะไรไม่ลง นอนไม่หลับ อะไรที่เคยชอบ พอทำก็รู้สึกไม่ชอบ อะไรที่ดูแล้วหัวใจพองโต
พอดูก็กลับไม่รู้สึกอะไรเลย รู้สึกเครียด อึดอัด กดดัน เป็นถึงขั้นมีความคิดที่ว่าอยากตายเลยค่ะ
ทั้งๆที่รอบตัวเราดีมากๆนะคะ พี่ๆที่ฝึกงานก็ใจดี เพื่อนๆก็น่ารัก เวลาระว่างวันก็นานมาก ทั้งวันก็จะคิดตลอด
เวลานี้อยู่ที่บ้าน ฉันน่าจะกำลังดูทีวีกับแม่อยู่ ตอนนี้ฉันน่าจะทานข้าวกับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา
มันจะนึกอะไรแบบนี้ตลอดเลยค่ะ แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ อาการเหล่านี้มันก็เริ่มดีขึ้น จนเราสามารถผ่านมันมาได้
เราเรียนจบแล้ว ก็อยู่บ้านว่างๆมาตลอดตั้งแต่เดือน พ.ค. จนถึง ต.ค. เลยค่ะ(มีออกไปเรียนพิเศษบ้าง)
รู้สึกได้เลยว่าบ้านคือสถานที่ที่เราโหยหามากที่สุด มันเป็นทั้ง safe zone และ comfort zone ของเราเลยค่ะ
แต่ตอนนี้เราเริ่มทำงาน ก็พักอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมนะคะ แต่ก็เรียกได้ว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก
เราต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อไปทำงาน เลิกงาน 5 โมงเย็น แล้วการจราจรในกรุงเทพเนี่ย ก็อย่างที่รู้กัน กว่าเราจะถึงบ้าน
ใช้เวลาเป็นชั่วโมง แล้วงานที่เราทำ มันเป็นงานที่เหมือนไม่ได้มีอะไรให้ทำเยอะอ่ะค่ะ คือทั้งวันมันว่างมากๆจนมันน่าเบื่อ
เวลาก็ผ่านไปช้าเหลือเกิน เราก็จะเกิดอาการเดิมอีกแล้วค่ะ คือชอบคิดว่าเออเนี่ย เวลานี้อยู่บ้านนะ ป่านนี้ยังไม่ตื่นเลยเหอะ
เนี่ยตอนนี้คงนอนเล่นโทรศัพท์ อ่านหนังสืออยู่ในห้อง บ่ายๆก็ออกไปหาอะไรกินกับแม่ คือมันคิดอยู่แค่นี้เลยค่ะทั้งวัน
และทั้งๆที่ทำงาน แล้วก็กลับมานอนบ้านนี่แหละ แต่เรากลับทานอะไรไม่ลง แล้วก็รู้สึกอึดอัด อยากจะร้องไห้อีกแล้ว
แน่นอนว่ามันไม่ใช่อาการ Homesick แล้วแหละ แต่เราแค่ยังรับมือกับการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เรารู้ค่ะ มันต้องใช้เวลาสักพัก
เดี๋ยวเราจะดีขึ้นเอง พอจะรู้ตัวว่าเป็นคนไม่ชอบเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ เป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัวเองไว้ในโซนปลอดภัย แต่ในชีวิตจริง
เราทำแบบนั้นไม่ได้ คนเราจะขังตัวเองไว้แบบนั้นตลอดไปไม่ได้ และที่เรากังวลมากที่สุดก็คือในช่วงปีหน้า
เรากำลังแพลนจะไปเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์ 6 เดือน เราจะต้องเกิดอาการพวกนี้อีกแน่ๆ แต่ครั้งนี้มันต้องหนักกว่าที่ผ่านมา
เพราะมันทั้งไกล และไปใช้ชีวิตเองคนเดียวในต่างแดน เราเลยอยากจะถามค่ะ ว่ามีวิธีรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตกันยังไงเหรอคะ
เรารู้นะคะ ปัญหาของเราอาจดูแบบไร้สาระในความคิดของใครบางคน อาจมองว่าทำไมเราถึงอ่อนแอจัง ทำไมเราไม่เข้มแข็งเลย
อันนี้เรายอมรับแต่โดยดีเลยค่ะ ว่าเราไม่ใช่คนเข้มแข็งเลยสักนิด เราก็ไม่อยากเป็นแบบนี้นะคะ เพราะงั้นใครพอจะมีวิธีแก้ รบกวนด้วยนะคะ
ปล. แท็กห้องผิดขออภัยค่ะ