ผมเล็งหนังเรื่องนี้มานานแล้วล่ะครับ เพราะชื่อนักแสดงมันดึงดูดผมจริงๆ ทั้งป้า Meryl Streep ที่ฝีมือนี่ระดับแพลตตินั่ม และก็สาว Anne Hathaway สุดสวยของผม แค่สองคนนี้ผมก็สนใจอยากจะดูหนังเรื่องนี้แล้วล่ะครับ แต่เนื่องจากผมเป็นคนที่ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง ว่าจะดูแล้วก็หาเวลาดูไม่ได้ จนเวลานั้นมาถึง ก็ถือว่าสมกับที่อยากดูครับ

เรื่องย่อ

     แอนดี้ (Hathaway) สาวโก๊ะคนนึงที่ไปสัมภาษณ์งานที่ออฟฟิซของแฟชั่นโชว์แห่งวงการโลก แล้วเธอก็ได้พบเจอกับมิแรนด้า (Streep) เจ้านายของเธอที่ค่อนข้างเยียนชา เนี๊ยบ และเจ้ากี้เจ้าการสุดๆ เอาจริงๆ รู้แค่นี้แหละไปดูเอาเองจะมันส์กว่า (เอ้า! 555)
     อย่างที่บอกไว้ตรงหัวกระทู้ครับ ว่ารีวิวนี้มีสปอย ถ้าใครไม่ดูหนังมาก่อนผมก็จะร่ายง่ายๆ ตรงนี้เลย เพราะบอกก่อนเลยครับว่ารีวิวนี้ยาวแน่นอน มีเรื่องต้องคุยเยอะ สำหรับหนังเรื่องนี้ผมว่าควรดูเป็นอย่างยิ่งครับ ดูแล้วได้ข้อคิดในการใช้ชีวิตเยอะเลยทีเดียว หรือว่าใครที่ชอบนักแสดงก็ยิ่งต้องดูครับ เพราะแต่ละคนฝีมือนี่ระดับเทพทั้งนั้น เอาเป็นว่าต้องดูครับ หามาดูเสีย เอาหล่ะ จะเข้าเขตสปอยแล้วนะ เตือนแล้วนะ!
     หนังโดนใจผมมากครับ โดนใจถึงขนาดชิงตำแหน่งหนังเรื่องโปรดในดวงใจไปเรียบร้อย (แชมป์เก่าคือ King Kong) เพราะอะไรน่ะหรอครับ มันโดนใจผมไปหมดเลยครับ อย่างแรกเลยก็คือบทหนังสามารถเนรมิตตัวละครธรรมดาๆ ออกมาได้มีมิติทุกคน อย่างเช่นแอนดี้ เธอก็เป็นสาวโก๊ะธรรมดาเนี่ยแหละ แต่สิ่งที่ทำให้เธอมีเสน่ห์ก็คือ เธอเป็นสาวที่มีความมั่นใจในตัวเองครับ สังเกตุว่าเวลาเธอโดนใช้งาน เธอจะแหวกทะเลฝ่าเหมันต์มาเยอะแยะมากมายเพื่อให้งานประสบความสำเร็จ สังเกตุเวลาเธอได้รับงานทีไร เธอจะมีท่าทีเหนื่อยทุกครั้ง แต่เธอรักงานของเธอ เธอชอบในด้านแฟชั่น ก็เหมือนผู้หญิงทั่วไปแหละครับ ที่เวลาไปเจอร้านรองเท้า ถึงแม้เราจะไม่ได้มีวาสนาได้จับจองเป็นเจ้าของ แต่อย่างน้อยถ้าเราได้ไปลองใส่ ลองสัมผัส แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ กรณีเดียวกันกับเอมิลี่ ที่เธอจะใส่ใจกับการงานมาก เธอมันช่วยให้เธอสานฝันของเธอได้ นั่นก็คือไปเที่ยวปารีส ทำงานหนักๆๆๆๆๆ มากเพื่อไปสถานที่ๆ เราฝันมานานว่าอยากไป หรือแม้กระทั่งตัวมิแรนด้าเองยังมีมิติเลยครับ เธอไม่ได้เป็นนังแก่ใจร้ายอย่างเดียว แต่เธอเป็นคนที่ต้องแบกภาระของครอบครัวไว้ และจะเห็นว่าเวลาเธออยู่ที่ทำงานกับอยู่บ้าน เธอแทบจะเป็นคนละคนเลยครับ ที่บ้านเธอไม่ซีเรียส แต่พอมาอยู่ที่ทำงานเธอจะเข้มงวด นั่นก็เพราะเธอเป็นคนที่มีแผนการและก็ความคิดครับ ในบางมุมเธอดูเข้มงวดจนน่าหมั่นไส้ แต่ถ้าพิจารณาจากฉากที่มิแรนด้าพูดกับแอนดี้ว่า "ทำงานของเธอซะ" จะเห็นได้ว่าเธอก็มีมุมอ่อนโยนเหมือนกันครับ เธอก็เป็นเหมือนแม่คนธรรมดาเนี่ยแหละ เพียงแต่เธอต้องรับมือกับอุปสรรคแทบจะคนเดียวในครอบครัว และยิ่งในฉากจบ มันเป็นอะไรที่ใช่มากครับ ก็คือแอนดี้ไปเจอมิแรนด้ากำลังจะขึ้นรถ เธอเลยโบกมือให้ แต่มิแรนด้าก็เมินใส่และก็ขึ้นรถไป แล้วเธอก็ยิ้มเมื่อมองดูแอนดี้กำลังไปทำงานที่เธอรัก อันนี้ผมว่าดีนะ ถ้าเราจะใช้ชีวิตที่สวยงามมากแต่เราต้องใส่ใจกับมันจนความเป็นตัวเราค่อยๆ จางหายไป หรือว่าจะใช้ชีวิตธรรมดาไม่หวือหวา แต่แฮปปี้กับมันและก็ไปได้ดี ผมว่าเราน่าจะรู้กันในใจแน่นอน ถ้าเราไม่ชอบคณิต ต่อให้หน่วยกิตดี เรียนไปเราจะรู้สึกเองว่ามันไม่ใช่ แต่ถ้าลองมาเรียนภาษาที่เราถนัด ถึงแม้หน่วยกิตจะน้อย แต่เราเรียนไปเราจะแฮปปี้มาก และนั่นคือสาเหตุที่แอนดี้ลาออกจากการเป็นเลขาให้กับมิแรนด้าครับ
     อย่างต่อที่โดนมากก็คือคอสตูมครับ โอ้โห! อะไรจะปังขนาดนั้น นี่ขนาดไม่ได้บ้าเสื้อผ้านะ แต่พอดูไปซักพักดันอยากจะไปเดินเซ็นทรัลซะงั้น555 เรื่องนี้คอสตูมแหล่มครับ ทุกชุดดูค่อนข้างแพงและดูหรูหรา แต่ในขณะเดียวกันมันดันทำให้หนังดูมีระดับขึ้นจาก A+ มาถึง S กันเลยทีเดียว อย่างต่อมาที่ลงล็อคมากก็คือนักแสดงครับ มายก๊อด! เอาออสการ์ไปทั้งทีมเลยมั้ย จะเล่นดีไปไหน คนแรกที่อยากจะชมก็คือ Anne Hathaway ครับ คือผมก็ชอบเธอมาตั้งแต่ The Princess's Diary และก็ Passenger แล้วล่ะ เจอเรื่องนี้เข้าไปนี่มองเธอไปอีกแบบเลยจริงๆ ยิ่งฉากที่ต้องยืนฟังมิแรนด้าพูดว่าผิดหวังในตัวเธอมากนี่ก็กินขาดแล้วครับ หาใครมาเล่นบทนี้ยากมาก แต่ Hathaway ก็เต็มที่กับบทนี้ อีกคนก็คือ Emily Blunt ที่ผมแอบเซอร์ไพร์สนิดนึงนะ นึกว่าตัวละครนี้จะไม่สำคัญซะแล้ว แต่ที่ไหนได้ เธอคือจุดเปลี่ยนผันเรื่องราวเลยครับ จุดเปลี่ยนที่ว่าก็คือฉากที่มิแรนด้าจะเปลี่ยนเลขาที่จะไปร่วมงานที่ปารีสด้วยเป็นแอนดี้แทน แล้วก็ต้องบอกให้เอมิลี่รู้ด้วย และนี่ก็คือจุดเปลี่ยนของชีวิตแอนดี้ครับ เพราะเธอเลือกงานแทนเพื่อนที่อยากได้งานนั้นมากกว่าตัวเธอเสียอีก เพราะว่าจิตใจเธอมันฝังแน่นกับแฟชั่นไปแล้วครับ เห็นอะไรเข้าตาเธอจะพุ่งเข้าไปหาตลอด และก็สังเกตุตรงช่วงที่เธอพูดว่า "บางทีฉันอาจคิดว่างานนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนอย่างฉัน" นั่นก็เพราะเธอคิดได้ครับ ว่าคนที่จะมาอยู่จุดนี้ได้ควรจะเป็นเอมิลี่ซะมากกว่า ฉะนั้นเธอจังลาออกจากงานนี้ และก็ให้คนอีกล้านคนที่ต้องการงานตรงนี้ได้มาอยู่ตรงจุดนี้เสียดีกว่า นั่นคือสาเหตุที่เธอโทรไปหาเอมิลี่ครับ และฉากนั่นผมก็แอบร้องไห้ออกมาด้วย เพราะ Blunt สื่อสารออกมาทางแววตาได้ดีมาก ว่าถึงแม้เธอจะไม่ได้สมหวัง แต่การที่เธอได้ของขวัญแบบนั้นก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไร คนสุดท้ายที่ไม่พูดถึงนี่เหมือนไหว้ศาลแล้วไม่มีเครื่องเซ่นครับ เธอก็คือ Meryl Streep คนนี้เทพอยู่แล้วครับ เรื่องฝีมือนี่หายห่วง เธอเล่นได้หมด ไม่มีบทไหนเธอเล่นไม่ได้แล้ว เธอคือนักแสดงที่เก่งอันดับต้นๆ ของฮอลลิวู้ดเลยมั้ง ไม่มีอะไรจะติครับ ยอดเยี่ยมสุดๆ 👍

สรุป

     เป็นหนังที่ขึ้นไปอยู่บนแท่นบูชาของผมเรียบร้อยครับ สุดยอดมากๆ ข้อเสียไม่มีเลย มีแต่ข้อดีเต็มไปหมด เต็มจนล้นอ่ะไม่อยากพูดมากเดี๋ยวหาว่าอวย😁

คะแนนเฉลี่ยรวม : 10/10
เรตหนัง : หนังยอดเยี่ยมที่ไม่ควรพลาด