ตอนนี้ผมอายุ 18 ย่าง 19 ครับ ด้วยทางบ้านเป็นครอบครัวที่มีแค่แม่ น้อง ผมและพ่อบุญธรรมที่อยู่ต่างประเทศ ส่วนพ่อแท้ๆ ไม่ได้ใยดีอะไรผมเลย ทำให้แม่ใช้งานต่างๆ กับผม ไม่ว่าจะเป็น ทำกับข้าว ซื้อน้ำเข้าบ้าน ทำงานบ้านต่างๆ นาๆ ตั้งแต่อยู่ประถมปลายจนถึงปัจจุบันที่กำลังจะจบมัธยมปลาย ซึ่งผมต้องสอบและหามหาวิทยาลัยในการเรียนต่อ ตั้งแต่เด็กผมสนใจในการเล่นดนตรี ผมก็ได้ขอเงินพ่อเพื่อที่จะซื้อกีต้าร์ จากนั้นผมก็ตั้งใจและพยายามฝึก แต่ก็ฝึกได้ไม่นานผมก็โดนแม่ใช้งานเสมอทำให้ผมไม่สามารถที่จะใช้เวลากับกีต้าร์ได้ และผมก็ได้คุยเรื่องนี้กับแม่แล้ว ผมกลับได้คำตอบว่า “ทำอะไรให้เสร็จเรียบร้อยก่อนค่อยเล่น” ผมก็ได้ตั้งใจทำงานบ้านจนมืดค่ำ พอผมจะเล่นกีต้าร์ก็ได้ถูกดุถูกด่าว่าหนวกหูชาวบ้าน ไม่เกรงใจชาวบ้านตลอดมา แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไร ตั้งแต่นั้นมาผมก็เก็บความรู้สึกของตัวเองมาตลอด ไม่ว่าผมจะเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย หรือแม้แต่ออกไปเที่ยวกับเพื่อนเที่ยวกับแฟน ก็ยากเย็นแสนเข็นต้องทำงานบ้านต่างๆ นาๆ ให้เรียบร้อยและถึงจะทำเรียบร้อยจนเวลาล่วงเลยไป ไปไม่เคยเป็นเวลาที่นัดนัดกันไว้ และส่วนใหญ่ที่ขอออกไปข้างนอกก็ไม่ค่อยจะอนุญาติให้ไป บอกก่อนว่าผมเป็นคนไม่เที่ยวกลางคืน อย่างมากก็ไปห้างเดินเล่นกลับบ้านไม่เคยเกิน 6 โมงเย็น น้องซึ่งกำลังจะเข้ามัธยมต้นกลับไม่ใช้ทำงานบ้านเลย ใช้ก็นานๆ ทีใช้ จนรู้สึกว่าแม่ลำเอียง พอผมบอกว่าให้ใช้น้องบ้าง โตมาจะได้ทำอะไรเองเป็นกลับถูกด่าว่าเกี่ยงงานให้น้อง ซึ่งน้องเล่นเกมทั้งวัน แต่ผมกลับไม่สามารถทำอะไรที่ผมชอบได้เลยสักอย่าง
ส่วนคนนอกบ้านผมมีเพื่อนแต่ก็ไม่สามารถที่จะปรึกษาอะไรได้ ส่วนแฟนผมก็เป็นคนปากจัดเมื่อมีปัญหากัน ผมก็รู้สึกโหวงๆ ไม่มีความสุข ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรสักอย่าง
ทำให้ผมรู้สึกขาดอิสระ ไม่มีความสุข
และไม่อยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่ออีกต่อไป
ผมต้องทำยังไงกับชีวิตดีครับ
ชีวิตไม่มีความสุข
ส่วนคนนอกบ้านผมมีเพื่อนแต่ก็ไม่สามารถที่จะปรึกษาอะไรได้ ส่วนแฟนผมก็เป็นคนปากจัดเมื่อมีปัญหากัน ผมก็รู้สึกโหวงๆ ไม่มีความสุข ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรสักอย่าง
ทำให้ผมรู้สึกขาดอิสระ ไม่มีความสุข
และไม่อยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่ออีกต่อไป
ผมต้องทำยังไงกับชีวิตดีครับ