.
กันนาร์ หญิงสาวสวย คงจะนอนหลับสบายไปแล้ว ถ้าไม่ได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากด้านนอกของตัวบ้าน ใคร หรืออะไรบางอย่าง กำลังวนเวียนอยู่ข้างตัวบ้าน แน่นอนว่าสิ่งนั้นคงข้ามรั้วเข้ามาได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง และกำลังพยายามบุกเข้ามาอย่างมุ่งร้าย
หญิงสาวตัวสั่น หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง นึกเพื่อให้แน่ใจว่าได้ปิดประตูหน้าต่างเรียบร้อย เธออยู่ห้องนอนชั้นสองของบ้าน มองจากหน้าต่างออกไป แสงไฟประตูรั้วยังคงส่องสว่าง บรรยากาศโดยทั่วไปเงียบกริบ
มีเสียงดังเหมือนมีคนกำลังเดินวนไปมารอบบ้าน คล้ายพยายามไม่เปิดเผยตัว แต่ยังได้ยินเสียงโครมครามบางครั้ง เหมือนมีคนสะดุดสิ่งของโดยไม่ตั้งใจ ด้านหลังและด้านข้างของบ้านไม่ได้เปิดไฟเอาไว้ คงทำให้ผู้บุกรุกมองไม่เห็น จนพลาดทำให้เกิดเสียงดังขึ้นหลายครั้ง หญิงสาวพยายามคิดในแง่ดี ว่าอาจเป็นพวกหมาหลงทางเข้ามา ทว่าเมื่อนึกดูให้ดีก็พบว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่มีช่องทางใด จะเปิดให้สัตว์เลี้ยงต่าง ๆ เข้ามาลอยชายในอาณาเขตของบ้านได้
คนแรกที่เธอคิดถึงคือ เธวิน สามีที่ยังไม่กลับบ้าน เห็นบอกว่างานยุ่งจะกลับดึก เพราะมีงานเร่งด่วนที่บริษัท แต่ความวิตกและไม่แน่ใจทำให้เธอยกโทรศัพ์โทรหาเขา เพื่อเร่งให้กลับบ้านโดยเร็วที่สุด หญิงสาวไม่ต้องการโทรไปหา 191 ให้วุ่นวายเพราะตัวเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคืออะไร
หญิงสาวไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ทำไมเธวินถึงเลือกมาซื้อบ้านอยู่ละแวกนี้ ถึงจะใกล้ที่ทำงาน แต่สภาพทางสังคมรอบบ้านดูไม่ดีเป็นอย่างมาก บ้านอยู่ห่างจากเพื่อนบ้าน จนดูเปล่าเปลี่ยวในเวลกลางคืน หรือแม้แต่กลางวันก็ตาม ห่างออกไปไม่ถึงร้อยเมตร เป็นบ้านพักของพวกคนงานก่อสร้าง ที่มาสร้างตึกใหญ่อยู่แถวนั้น หลายคนล่วงเกินจาบจ้วงข่มขืนเธอด้วยสายตาอย่างเปิดเผย จากวงเหล้าหน้าเพิงพัก ขณะที่กันนาร์เดินกลับบ้านเพียงลำพังเวลาค่ำมืด คำพูดฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็เดาได้ว่ากำลังพูดถึงเธออย่างไม่ต้องสงสัย
ป้าจวง เจ้าของร้านสะดวกซื้อปากซอยเคยเล่าให้ฟังว่า แรงงานพวกนี้บางกลุ่มพากันเสพยาบ้าดื่มสุราเป็นอาชีพ งานก่อสร้างเป็นงานอดิเรก ใช้ชีวิตไร้ความหมายไร้อนาคต ก็นึกแปลกใจว่าทำไมเห็นข่าวจับยาบ้าสารเสพติดมากมายแทบทุกวัน แต่ทำไมไม่เคยหายจากสังคม หรือแม้แต่จะลดน้อยลงเลย ถ้ามีคนบอกว่าอยากได้ยาบ้า แค่เดินไปแถวท้ายซอยเท่านั้น ก็จะได้รับการบริการซื้อขายเป็นอย่างดีน่าประทับใจ แถมมีข่าวฟังแล้วไม่ค่อยจะดีนักว่า นายตำรวจคนหนึ่งอยู่เบื้องหลังธุรกิจมืด ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่าเพราะเธอเองก็เพิ่งมาอยู่ และไม่รู้ว่าจะลงทุนไปค้นหาความจริงกันทำไม เพียงแค่การเอาชีวิตรอดไปวัน ๆ ในพื้นที่อันตราย รอดได้ก็บุญศีรษะแล้ว
นึกแล้วก็น่ากลัว แรงงานพวกนี้เป็นคนต่างชาติ ไม่รู้ว่าเข้ามาโดยถูกกฏหมายหรือไม่ กว่าจะรู้ตัวก็มาอยู่มาทำงานกันเต็มบ้านเต็มเมือง พวกทำงานดีนิสัยดี ตั้งหน้าตั้งตาทำงานทำมาหากิน จนมีครอบครัวมั่นคงไปก็มีหลายราย แต่บางกลุ่มเหมือนหนีความผิดอะไรบางอย่างจากบ้านเกิดเมืองนอน กลุ่มหลังนี้ไม่น่าไว้ใจและน่ากลัว
เหมือนคนงานกลุ่มนั้นจะรู้ว่าเธออยู่บ้านคนเดียว เพราะรถยนต์ของเธวินไม่ได้จอดอยู่ลานจอดรถ นั่นเป็นช่องว่างในการกระตุ้นเปิดให้ปีศาจร้ายซุกซ่อน คืบคลานออกมาควบคุมจิตใจ ในการกระทำเรื่องเลวร้ายปราศจากความยั้งคิดโดยมีสารเสพติดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา เสียงรบกวนจากด้านนอกยังดังอยู่เป็นระยะ หญิงสาวเริ่มแน่ใจแล้วว่า มีคนอยู่นอกตัวบ้าน และกำลังพยายามหาทางเข้ามา กุญแจประตูชั้นล่างเป็นแบบลูกบิด มีกลอนประตูด่านในอีกชั้นหนึ่ง แต่คืนนี้ เธอไม่ได้ใส่กลอนประตูด้านใน เพราะไม่อยากลงมาเปิดประตูให้สามีเมื่อเขากลับบ้าน
กันนาร์เคยเห็นในหนังดัง ๆ หลายเรื่อง ลูกบิดประตูมีระดับความปลอดภัยน้อย สู้กลอนประตูโบราณไม่ได้เสียด้วยซ้ำ เคยเห็นคนใช้คลิปหนีบกระดาษ เส้นลวด กระดาษ เปิดอย่างง่ายดาย เธอรู้ว่ามีคนทำได้ แม้ว่าจะไม่เคยลองทำดูเองก็ตาม ลูกบิดป้องกันได้เฉพาะคนธรรมดาทั่วไป แต่กับนักงัดแงะมืออาชีพ คงไม่ต่างจากของเด็กเล่น หลับตาเปิดก็คงได้
จะลงไปตรวจดูดีไหม...แค่ถ้าลงไปแล้วมีคนแปลกหน้าโผล่พรวดเข้ามา จะทำอย่างไร อาวุธป้องกันตัวก็ไม่มี! หญิงสาวใจเต้นระทึก พยายามสะกดใจแนบหูกับบานประตูห้องนอน ฟังเสียงด้านนอก
มีเสียงประตูเปิดดังเอี๊ยด.. เบา ๆ ต้องเป็นประตูหลังบ้าน เพราะจำเสียงได้ บานพับไม่ได้หยอดน้ำมันมานาน เวลาเปิดจะเกิดเสียงดัง ใครบางคนเปิดประตูหลังบ้าน เข้ามาได้แล้ว!
อากาศในห้องนอนค่อนข้างเย็น แต่เธอรู้สีกมีเหงื่อชุ่มตัวด้วยความตื่นเต้นระทึกขวัญ การอยู่ในบ้านคนเดียว มีผู้บุกรุกที่ไม่ได้เชิญเข้ามา กลายป็นฝันร้าย มันผ่านด่านแรกเข้ามาได้ ที่เหลือก็เพียงประตูห้องนอน ที่มีลูกบิดเป็นตัวรักษาความปลอดภัย เธอจะรับมืออย่างไรดี ในบ้านเงียบพอจะได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาเดินสำรวจไปมาในตัวบ้าน มันคงรู้ว่าเธออยู่คนเดียวอย่างแน่นอน ถึงกล้าบุกเข้ามาแบบนี้ สังคมผู้คนเป็นบ้าอะไรกัน แม้แต่ในบ้านของตัวเอง ยังหาความปลอดภัยไม่ได้
ถ้าเป็นคนงานพวกนั้น กันนาร์ไม่สงสัยเลยกับพฤติกรรมอันตราย พอเกิดเรื่องอย่างมากมันก็เผ่นกลับบ้านเกิดเมืองนอน ก่อนตำรวจจะจับได้ เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมานับครั้งไม่ถ้วนจากข่าวสารบ้านเมืองให้เห็นเป็นประจำ
ในห้องมีอะไรพอจะใช้เป็นอาวุธได้บ้าง ปากกา... ดินสอ... คงจะเอาไปสู้กับมันได้กระมัง ? พวกโจรผู้ร้ายคงไม่ได้มามือเปล่า วิทยุหัวเตียง... จะเอาไปเปิดเพลงให้มันฟังเพื่อกล่อมใจให้กลับเนื้อกลับตัวหรืออย่างไร ไม่มีทางเป็นไปได้ นึกแล้วก็ต้องสั่นไปทั้งตัว สามีก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับบ้าน
ทันใดนั้นลูกบิดประตูก็ขยับไหว ใครบางคนกำลังพยายามเปิดมันจากภายนอก หญิงสาวใจคอวูบหวิวคล้ายจะเป็นลม มันมาถึงหน้าห้องนอนแล้ว
เธวินเร่งเครื่องขับรถด้วยความเร็วเท่าที่จังหวะและสภาพการจราจรจะอำนวย กันนาร์ภรรยารักโทรศัพท์บอกว่า มีคนพยายามบุกเข้าไปในตัวบ้าน เขารีบสะสางงานในเสร็จโดยเร็วที่สุด เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร ภรรยาผู้น่ารักค่อนข้างเป็นคนคิดมาก แต่ลางสังหรณ์บางอย่างทำให้ต้องรีบเปลี่ยนใจรีบกลับบ้าน ก่อนจะเสร็จงาน
บ้านหลังใหม่อยู่ในแหล่งชุมชนที่ค่อนข้างอันตราย แต่เขาเองก็ไม่มีทางเลือกมากนักในการเริ่มต้นชีวิตใหม่กับบ้านใหม่ คนเราถ้าไม่กล้าเสี่ยง ก็คงไม่มีอะไรก้าวหน้า ชายหนุ่มคิดอย่างนั้น
เขาเองก็พอได้ข่าวถึงพฤติกรรมอันไม่น่าไว้วางใจของคนรอบข้างบ้าน แต่อย่างไรก็ตาม คิดว่าอย่างน้อยก็น่าจะทดลองอยู่ไปก่อน เขาไม่ได้ร่ำรวยอะไร การซื้อบ้านแต่ละหลัง หมายถึงการใช้เงินจำนวนมาก พอจะสะกดเขาไม่ได้เตลิดไปเที่ยวเตร่หลังเลิกงานไปอีกนาน
มาถึงหน้าบ้าน ชายหนุ่มสังเกตพบว่าชั้นบนยังคงเปิดไฟสว่าง ดูแล้วไม่น่าจะมีอะไรน่าวิตกมากนัก ประตูหน้าบ้านไม่มีอะไรผิดสังเกต แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือ ปกติเมื่อเขาจอดรถหน้าบ้านเพื่อเปิดประตู จะมีเงาของกันนาร์บริเวณหน้าต่างห้องนอน เป็นการต้อนรับการกลับบ้านเสมอ แต่วันนี้ไม่มีเงาร่างของเธอ
เมื่อจอดรถเป็นที่เรียบร้อย ชายหนุ่มรีบเข้าไปในบ้านด้วยอาการร้อนรน มีบางอย่างผิดปกติ! เธวินแทบจะกระโจนขึ้นบันไดพร้อนร้องเรียกชื่อภรรยาเสียงลั่น
ในห้องนอนไม่มีร่างของภรรยา แต่มีร่องรอยการต่อสู้และคราบเลือดบนพื้น กันนาร์หายไปไหน
ชายหนุ่มใจหายวาบ นึกเสียใจว่าควรจะรีบมาให้เร็วกว่านี้ ทำไมเห็นงานสำคัญมากกว่าชีวิตของภรรยาไปเสียได้ มานึกเสียใจเวลานี้ก็ไม่มีประโยชน์ เขาต้องหาเธอให้เจอ
ห้องน้ำ...ห้องน้ำชั้นสอง อยู่ถัดจากห้องนอนไปห้องหนึ่ง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นร่องรอยของเรื่องร้ายแรงน่าจะหาได้จากห้องน้ำ เพราะคดีหั่นศพมักใช้ห้องน้ำเป็นแหล่งจัดการ เขาเผ่นตัวปลิวไปทันที
ในห้องน้ำ ฃายหนุ่มถึงกับผงะ
กันนาร์คุกเข่าบนพื้น เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด เขาฝืนใจเดินตรงไปมองยังพื้นเบื้องหน้าของเธอ ร่างของชายหนุ่มผู้หนึ่งถูกกัดกินไปแล้วหลายส่วนไม่ว่าจะเป็นต้นแขนต้นขา น่อง ซึ่งน่าจะเป็นบริเวณเนื้อที่กันนาร์โปรดปรานมากที่สุด หญิงสาวหันมามองพลางยิ้มทักทาย ปากของเธอแสยะขยายออกไปอย่างผิดธรรมชาติ เห็นฟันคมกริบยาวเรียงเป็นแผงตลอดแนวของปาก ยิ่งกว่าคมเขี้ยวของฉลาม เศษเนื้อยังติดอยู่ตามปาก บางส่วนกำลังถูกขยับเคี้ยวและกลืนลงไปอย่างละมุนใจ บริเวณทรวงอกเปิดออก มองเห็นหัวใจชุ่มเลือดขยับไหว ร่างของเหยื่อยังคงมีชีวิต สั่นกระตุกไปมาอย่างรวดร้าวสาหัส
“ทำไมคุณทำแบบนี้....” ชายหนุ่มคุกเข่าลงด้านข้าง ความรู้สึกถึงเสียใจและน้อยใจ “ทำไมคุณไม่รอกินพร้อมกันกับผม ที่รัก.. ครั้งต่อไปรอผมด้วยนะครับ ของอร่อยอย่างนี้เราต้องรอกินพร้อมกันนะที่รัก”
พูดจบ เธวินก็แสยะปากกว้างออกแทบจดใบหู เขี้ยวเริ่มงอกยาวออกมา ฟันขาววาววับเรียงราย น้ำลายเริ่มไหลเป็นทาง ก่อนช่วยกันกัดกินร่างคนเคราะห์ร้ายอย่างหิวกระหาย สารเคมีบางอย่างในน้ำลายสามารถรักษาสภาพของเหยื่อไม่ได้ตายโดยง่าย เพราะจะทำให้เสียรสชาติ เหยื่อต้องทนรับสภาพรับรู้การถูกกัดกินทั้งเป็น กินสด ๆ ยิ่งกว่าการลงทัณท์ของนรก
นี่ละ... เหตุผลที่เขาย้ายมาอยู่ในแถบนี้ เหยื่อวิ่งมาหาถึงที่เอง โดยไม่ต้องดิ้นรนไปหาข้างนอก การปรับเปลี่ยนสภาพให้อยู่กับสังคมมนุษย์ได้ จำเป็นต้องระมัดระวังร่องรอย สองสามีภรรยามาจากแดนไกล... ไกลออกไปถึงดวงดาว... เพื่อแสวงหาความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์
ข้างนอกเหยื่อยังมีอีกมาก ไม่นานคงทยอยเข้ามาอีก ไม่อดไม่อยาก ตราบใดที่สัญชาตญาณดิบเถื่อนร้าย ยังคงมีในจิตใจ
พวกเขาไม่เคยแตะต้องคนดี ๆ เพราะรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณชาวโลก จึงเลือกเส้นทางของการบริโภค เนื้อคนชั่วช้าอร่อยกว่าคนดีมากมายหลายร้อยเท่า ความชั่วของพวกมันทำให้เลือดเนื้ออร่อยซาบซ่านเข้าไปถึงวิญญาณ ถ้ากฏหมายจัดการคนเลวไม่ได้ พวกเขานี่ละ ..จะเป็นตัวแทนเรียกร้องความยุติธรรมให้กับการขาดหายนั้น
และจะกินเสียให้สิ้นซาก...!
จบครับ
ขอบคุณทุกท่านที่มาเยือนเด้อ
รีบกลับบ้าน...นะที่รัก
กันนาร์ หญิงสาวสวย คงจะนอนหลับสบายไปแล้ว ถ้าไม่ได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากด้านนอกของตัวบ้าน ใคร หรืออะไรบางอย่าง กำลังวนเวียนอยู่ข้างตัวบ้าน แน่นอนว่าสิ่งนั้นคงข้ามรั้วเข้ามาได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง และกำลังพยายามบุกเข้ามาอย่างมุ่งร้าย
หญิงสาวตัวสั่น หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง นึกเพื่อให้แน่ใจว่าได้ปิดประตูหน้าต่างเรียบร้อย เธออยู่ห้องนอนชั้นสองของบ้าน มองจากหน้าต่างออกไป แสงไฟประตูรั้วยังคงส่องสว่าง บรรยากาศโดยทั่วไปเงียบกริบ
มีเสียงดังเหมือนมีคนกำลังเดินวนไปมารอบบ้าน คล้ายพยายามไม่เปิดเผยตัว แต่ยังได้ยินเสียงโครมครามบางครั้ง เหมือนมีคนสะดุดสิ่งของโดยไม่ตั้งใจ ด้านหลังและด้านข้างของบ้านไม่ได้เปิดไฟเอาไว้ คงทำให้ผู้บุกรุกมองไม่เห็น จนพลาดทำให้เกิดเสียงดังขึ้นหลายครั้ง หญิงสาวพยายามคิดในแง่ดี ว่าอาจเป็นพวกหมาหลงทางเข้ามา ทว่าเมื่อนึกดูให้ดีก็พบว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่มีช่องทางใด จะเปิดให้สัตว์เลี้ยงต่าง ๆ เข้ามาลอยชายในอาณาเขตของบ้านได้
คนแรกที่เธอคิดถึงคือ เธวิน สามีที่ยังไม่กลับบ้าน เห็นบอกว่างานยุ่งจะกลับดึก เพราะมีงานเร่งด่วนที่บริษัท แต่ความวิตกและไม่แน่ใจทำให้เธอยกโทรศัพ์โทรหาเขา เพื่อเร่งให้กลับบ้านโดยเร็วที่สุด หญิงสาวไม่ต้องการโทรไปหา 191 ให้วุ่นวายเพราะตัวเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคืออะไร
หญิงสาวไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ทำไมเธวินถึงเลือกมาซื้อบ้านอยู่ละแวกนี้ ถึงจะใกล้ที่ทำงาน แต่สภาพทางสังคมรอบบ้านดูไม่ดีเป็นอย่างมาก บ้านอยู่ห่างจากเพื่อนบ้าน จนดูเปล่าเปลี่ยวในเวลกลางคืน หรือแม้แต่กลางวันก็ตาม ห่างออกไปไม่ถึงร้อยเมตร เป็นบ้านพักของพวกคนงานก่อสร้าง ที่มาสร้างตึกใหญ่อยู่แถวนั้น หลายคนล่วงเกินจาบจ้วงข่มขืนเธอด้วยสายตาอย่างเปิดเผย จากวงเหล้าหน้าเพิงพัก ขณะที่กันนาร์เดินกลับบ้านเพียงลำพังเวลาค่ำมืด คำพูดฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็เดาได้ว่ากำลังพูดถึงเธออย่างไม่ต้องสงสัย
ป้าจวง เจ้าของร้านสะดวกซื้อปากซอยเคยเล่าให้ฟังว่า แรงงานพวกนี้บางกลุ่มพากันเสพยาบ้าดื่มสุราเป็นอาชีพ งานก่อสร้างเป็นงานอดิเรก ใช้ชีวิตไร้ความหมายไร้อนาคต ก็นึกแปลกใจว่าทำไมเห็นข่าวจับยาบ้าสารเสพติดมากมายแทบทุกวัน แต่ทำไมไม่เคยหายจากสังคม หรือแม้แต่จะลดน้อยลงเลย ถ้ามีคนบอกว่าอยากได้ยาบ้า แค่เดินไปแถวท้ายซอยเท่านั้น ก็จะได้รับการบริการซื้อขายเป็นอย่างดีน่าประทับใจ แถมมีข่าวฟังแล้วไม่ค่อยจะดีนักว่า นายตำรวจคนหนึ่งอยู่เบื้องหลังธุรกิจมืด ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่าเพราะเธอเองก็เพิ่งมาอยู่ และไม่รู้ว่าจะลงทุนไปค้นหาความจริงกันทำไม เพียงแค่การเอาชีวิตรอดไปวัน ๆ ในพื้นที่อันตราย รอดได้ก็บุญศีรษะแล้ว
นึกแล้วก็น่ากลัว แรงงานพวกนี้เป็นคนต่างชาติ ไม่รู้ว่าเข้ามาโดยถูกกฏหมายหรือไม่ กว่าจะรู้ตัวก็มาอยู่มาทำงานกันเต็มบ้านเต็มเมือง พวกทำงานดีนิสัยดี ตั้งหน้าตั้งตาทำงานทำมาหากิน จนมีครอบครัวมั่นคงไปก็มีหลายราย แต่บางกลุ่มเหมือนหนีความผิดอะไรบางอย่างจากบ้านเกิดเมืองนอน กลุ่มหลังนี้ไม่น่าไว้ใจและน่ากลัว
เหมือนคนงานกลุ่มนั้นจะรู้ว่าเธออยู่บ้านคนเดียว เพราะรถยนต์ของเธวินไม่ได้จอดอยู่ลานจอดรถ นั่นเป็นช่องว่างในการกระตุ้นเปิดให้ปีศาจร้ายซุกซ่อน คืบคลานออกมาควบคุมจิตใจ ในการกระทำเรื่องเลวร้ายปราศจากความยั้งคิดโดยมีสารเสพติดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา เสียงรบกวนจากด้านนอกยังดังอยู่เป็นระยะ หญิงสาวเริ่มแน่ใจแล้วว่า มีคนอยู่นอกตัวบ้าน และกำลังพยายามหาทางเข้ามา กุญแจประตูชั้นล่างเป็นแบบลูกบิด มีกลอนประตูด่านในอีกชั้นหนึ่ง แต่คืนนี้ เธอไม่ได้ใส่กลอนประตูด้านใน เพราะไม่อยากลงมาเปิดประตูให้สามีเมื่อเขากลับบ้าน
กันนาร์เคยเห็นในหนังดัง ๆ หลายเรื่อง ลูกบิดประตูมีระดับความปลอดภัยน้อย สู้กลอนประตูโบราณไม่ได้เสียด้วยซ้ำ เคยเห็นคนใช้คลิปหนีบกระดาษ เส้นลวด กระดาษ เปิดอย่างง่ายดาย เธอรู้ว่ามีคนทำได้ แม้ว่าจะไม่เคยลองทำดูเองก็ตาม ลูกบิดป้องกันได้เฉพาะคนธรรมดาทั่วไป แต่กับนักงัดแงะมืออาชีพ คงไม่ต่างจากของเด็กเล่น หลับตาเปิดก็คงได้
จะลงไปตรวจดูดีไหม...แค่ถ้าลงไปแล้วมีคนแปลกหน้าโผล่พรวดเข้ามา จะทำอย่างไร อาวุธป้องกันตัวก็ไม่มี! หญิงสาวใจเต้นระทึก พยายามสะกดใจแนบหูกับบานประตูห้องนอน ฟังเสียงด้านนอก
มีเสียงประตูเปิดดังเอี๊ยด.. เบา ๆ ต้องเป็นประตูหลังบ้าน เพราะจำเสียงได้ บานพับไม่ได้หยอดน้ำมันมานาน เวลาเปิดจะเกิดเสียงดัง ใครบางคนเปิดประตูหลังบ้าน เข้ามาได้แล้ว!
อากาศในห้องนอนค่อนข้างเย็น แต่เธอรู้สีกมีเหงื่อชุ่มตัวด้วยความตื่นเต้นระทึกขวัญ การอยู่ในบ้านคนเดียว มีผู้บุกรุกที่ไม่ได้เชิญเข้ามา กลายป็นฝันร้าย มันผ่านด่านแรกเข้ามาได้ ที่เหลือก็เพียงประตูห้องนอน ที่มีลูกบิดเป็นตัวรักษาความปลอดภัย เธอจะรับมืออย่างไรดี ในบ้านเงียบพอจะได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาเดินสำรวจไปมาในตัวบ้าน มันคงรู้ว่าเธออยู่คนเดียวอย่างแน่นอน ถึงกล้าบุกเข้ามาแบบนี้ สังคมผู้คนเป็นบ้าอะไรกัน แม้แต่ในบ้านของตัวเอง ยังหาความปลอดภัยไม่ได้
ถ้าเป็นคนงานพวกนั้น กันนาร์ไม่สงสัยเลยกับพฤติกรรมอันตราย พอเกิดเรื่องอย่างมากมันก็เผ่นกลับบ้านเกิดเมืองนอน ก่อนตำรวจจะจับได้ เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมานับครั้งไม่ถ้วนจากข่าวสารบ้านเมืองให้เห็นเป็นประจำ
ในห้องมีอะไรพอจะใช้เป็นอาวุธได้บ้าง ปากกา... ดินสอ... คงจะเอาไปสู้กับมันได้กระมัง ? พวกโจรผู้ร้ายคงไม่ได้มามือเปล่า วิทยุหัวเตียง... จะเอาไปเปิดเพลงให้มันฟังเพื่อกล่อมใจให้กลับเนื้อกลับตัวหรืออย่างไร ไม่มีทางเป็นไปได้ นึกแล้วก็ต้องสั่นไปทั้งตัว สามีก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับบ้าน
ทันใดนั้นลูกบิดประตูก็ขยับไหว ใครบางคนกำลังพยายามเปิดมันจากภายนอก หญิงสาวใจคอวูบหวิวคล้ายจะเป็นลม มันมาถึงหน้าห้องนอนแล้ว
เธวินเร่งเครื่องขับรถด้วยความเร็วเท่าที่จังหวะและสภาพการจราจรจะอำนวย กันนาร์ภรรยารักโทรศัพท์บอกว่า มีคนพยายามบุกเข้าไปในตัวบ้าน เขารีบสะสางงานในเสร็จโดยเร็วที่สุด เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร ภรรยาผู้น่ารักค่อนข้างเป็นคนคิดมาก แต่ลางสังหรณ์บางอย่างทำให้ต้องรีบเปลี่ยนใจรีบกลับบ้าน ก่อนจะเสร็จงาน
บ้านหลังใหม่อยู่ในแหล่งชุมชนที่ค่อนข้างอันตราย แต่เขาเองก็ไม่มีทางเลือกมากนักในการเริ่มต้นชีวิตใหม่กับบ้านใหม่ คนเราถ้าไม่กล้าเสี่ยง ก็คงไม่มีอะไรก้าวหน้า ชายหนุ่มคิดอย่างนั้น
เขาเองก็พอได้ข่าวถึงพฤติกรรมอันไม่น่าไว้วางใจของคนรอบข้างบ้าน แต่อย่างไรก็ตาม คิดว่าอย่างน้อยก็น่าจะทดลองอยู่ไปก่อน เขาไม่ได้ร่ำรวยอะไร การซื้อบ้านแต่ละหลัง หมายถึงการใช้เงินจำนวนมาก พอจะสะกดเขาไม่ได้เตลิดไปเที่ยวเตร่หลังเลิกงานไปอีกนาน
มาถึงหน้าบ้าน ชายหนุ่มสังเกตพบว่าชั้นบนยังคงเปิดไฟสว่าง ดูแล้วไม่น่าจะมีอะไรน่าวิตกมากนัก ประตูหน้าบ้านไม่มีอะไรผิดสังเกต แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือ ปกติเมื่อเขาจอดรถหน้าบ้านเพื่อเปิดประตู จะมีเงาของกันนาร์บริเวณหน้าต่างห้องนอน เป็นการต้อนรับการกลับบ้านเสมอ แต่วันนี้ไม่มีเงาร่างของเธอ
เมื่อจอดรถเป็นที่เรียบร้อย ชายหนุ่มรีบเข้าไปในบ้านด้วยอาการร้อนรน มีบางอย่างผิดปกติ! เธวินแทบจะกระโจนขึ้นบันไดพร้อนร้องเรียกชื่อภรรยาเสียงลั่น
ในห้องนอนไม่มีร่างของภรรยา แต่มีร่องรอยการต่อสู้และคราบเลือดบนพื้น กันนาร์หายไปไหน
ชายหนุ่มใจหายวาบ นึกเสียใจว่าควรจะรีบมาให้เร็วกว่านี้ ทำไมเห็นงานสำคัญมากกว่าชีวิตของภรรยาไปเสียได้ มานึกเสียใจเวลานี้ก็ไม่มีประโยชน์ เขาต้องหาเธอให้เจอ
ห้องน้ำ...ห้องน้ำชั้นสอง อยู่ถัดจากห้องนอนไปห้องหนึ่ง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นร่องรอยของเรื่องร้ายแรงน่าจะหาได้จากห้องน้ำ เพราะคดีหั่นศพมักใช้ห้องน้ำเป็นแหล่งจัดการ เขาเผ่นตัวปลิวไปทันที
ในห้องน้ำ ฃายหนุ่มถึงกับผงะ
กันนาร์คุกเข่าบนพื้น เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด เขาฝืนใจเดินตรงไปมองยังพื้นเบื้องหน้าของเธอ ร่างของชายหนุ่มผู้หนึ่งถูกกัดกินไปแล้วหลายส่วนไม่ว่าจะเป็นต้นแขนต้นขา น่อง ซึ่งน่าจะเป็นบริเวณเนื้อที่กันนาร์โปรดปรานมากที่สุด หญิงสาวหันมามองพลางยิ้มทักทาย ปากของเธอแสยะขยายออกไปอย่างผิดธรรมชาติ เห็นฟันคมกริบยาวเรียงเป็นแผงตลอดแนวของปาก ยิ่งกว่าคมเขี้ยวของฉลาม เศษเนื้อยังติดอยู่ตามปาก บางส่วนกำลังถูกขยับเคี้ยวและกลืนลงไปอย่างละมุนใจ บริเวณทรวงอกเปิดออก มองเห็นหัวใจชุ่มเลือดขยับไหว ร่างของเหยื่อยังคงมีชีวิต สั่นกระตุกไปมาอย่างรวดร้าวสาหัส
“ทำไมคุณทำแบบนี้....” ชายหนุ่มคุกเข่าลงด้านข้าง ความรู้สึกถึงเสียใจและน้อยใจ “ทำไมคุณไม่รอกินพร้อมกันกับผม ที่รัก.. ครั้งต่อไปรอผมด้วยนะครับ ของอร่อยอย่างนี้เราต้องรอกินพร้อมกันนะที่รัก”
พูดจบ เธวินก็แสยะปากกว้างออกแทบจดใบหู เขี้ยวเริ่มงอกยาวออกมา ฟันขาววาววับเรียงราย น้ำลายเริ่มไหลเป็นทาง ก่อนช่วยกันกัดกินร่างคนเคราะห์ร้ายอย่างหิวกระหาย สารเคมีบางอย่างในน้ำลายสามารถรักษาสภาพของเหยื่อไม่ได้ตายโดยง่าย เพราะจะทำให้เสียรสชาติ เหยื่อต้องทนรับสภาพรับรู้การถูกกัดกินทั้งเป็น กินสด ๆ ยิ่งกว่าการลงทัณท์ของนรก
นี่ละ... เหตุผลที่เขาย้ายมาอยู่ในแถบนี้ เหยื่อวิ่งมาหาถึงที่เอง โดยไม่ต้องดิ้นรนไปหาข้างนอก การปรับเปลี่ยนสภาพให้อยู่กับสังคมมนุษย์ได้ จำเป็นต้องระมัดระวังร่องรอย สองสามีภรรยามาจากแดนไกล... ไกลออกไปถึงดวงดาว... เพื่อแสวงหาความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์
ข้างนอกเหยื่อยังมีอีกมาก ไม่นานคงทยอยเข้ามาอีก ไม่อดไม่อยาก ตราบใดที่สัญชาตญาณดิบเถื่อนร้าย ยังคงมีในจิตใจ
พวกเขาไม่เคยแตะต้องคนดี ๆ เพราะรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณชาวโลก จึงเลือกเส้นทางของการบริโภค เนื้อคนชั่วช้าอร่อยกว่าคนดีมากมายหลายร้อยเท่า ความชั่วของพวกมันทำให้เลือดเนื้ออร่อยซาบซ่านเข้าไปถึงวิญญาณ ถ้ากฏหมายจัดการคนเลวไม่ได้ พวกเขานี่ละ ..จะเป็นตัวแทนเรียกร้องความยุติธรรมให้กับการขาดหายนั้น
และจะกินเสียให้สิ้นซาก...!
จบครับ
ขอบคุณทุกท่านที่มาเยือนเด้อ