เนื่องจากผมเป็นคนที่ติดตามข่าวสารการรักษาโรคร้ายนี้มาด้วยตลอด อาจด้วยเพราะกลัวเกิดขึ้นกับตัวเองและคนที่เรารัก แต่ผมไม่เคยนึกว่าวันนึงผมจะเสียคนใกล้ตัวไปในระยะเวลาอันรวดเร็วเพียงนี้ เขาจากไปด้วยวัยเพียง 22 ปี ยังเรียนไม่จบ ขาดอีกปีเดียวเท่านั้นเอง (จริง ๆ ถ้าเล่าเต็ม ๆ จะสะเทือนใจกว่านี้อย่างมาก แต่ผมไม่อยากให้กระทู้ยาวเกินไป)
ระหว่างทางกลับบ้าน ผมนึกขึ้นได้ว่าผมได้อ่านบทความของเพจ CU Cancer Immunotherapy Fund เกี่ยวกับการที่ทีมแพทย์ไทยกำลังต่อยอดงานวิจัย ที่ได้รับรางวัลโนเบลปีนี้ ถ้าจะให้อธิบายง่าย ๆ คือเหมือนกับเวลาเซลล์ในร่างกายเราเกิดกลายพันธ์ุเป็นมะเร็ง มันจะมีโปรตีนสองตัวมาจับคู่กัน ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวไม่สามารถทำลายเซลล์ที่ผิดปกตินี้ได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดมา (และเป็นเหตุผลว่าทำไมเรายังไม่สามารถเอาชนะโรคนี้ได้เสียที)
ผมอ่านไปเจอว่า สิ่งที่ทีมแพทย์ไทยทำอยู่ คือการเอางานตัวนี้มาต่อยอด เนื่องจากตัวยาที่ผลิตโดยต่างประเทศมีราคาสูงมาก ไม่มีทางที่คนทั่วไปหรือไม่รวยมากจริง ๆ จะจับต้องได้ ดังนั้นจึงมีการพยายามทำเองเพื่อลดราคายา โดยจะทำยาที่ให้ได้ผลแบบเดียวกันคือ สกัดกั้นการจับคู่ของโปรตีนสองตัวนี้ เปิดทางให้ร่างกายทำลายเซลล์ร้ายด้วยตัวเอง เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และการหายจากโรคนี้จะมีความเป็นไปได้สูงขึ้นมาก
พอเข้าใจได้ดังนี้ เท่านั้นแหละ ผมตัดสินใจเปิดแอปโอนเงินทั้งที เปิดมาปุ๊บทั้งตัวเหลืออยู่ 44 บาท แต่เอาเถอะ ผมโอนไปทันทีเลย 40 บาท และสัญญาว่าต่อไปถ้ารวยกว่านี้ กองทุนวิจัยรักษามะเร็งจะเป็นกองทุนแรกที่ผมจะทำบุญให้โดยไม่มีขาด เนื่องด้วยปัจจุบันมีงานที่บ่งบอกว่าโอกาสที่คนหนึ่งคนจะเป็นมะเร็งนั้นสูงมาก อาจสูงถึง 40% ในช่วงชีวิตหนึ่ง (ตัวเลขนี้สำหรับคนอเมริกา) สำหรับคนไทยผมว่าน่าจะสูงกว่า อาจจะไปถึง 1 ใน 3 ของประชากร ไม่น้อยเลยใช่มั้ยครับ และไม่มีวิธีป้องกันที่แน่นอนด้วย ดังนั้นผมคิดว่าถึงเวลาที่เราจะหยุดโรคร้ายแบบสุ่มนี้ได้แล้วครับ
ผมจึงขออยากเชิญชวนทุกท่านให้ช่วยกันบริจาค ณ ช่องทางที่เป็นทางการ ผ่าน
https://www.facebook.com/CUCancerIEC/ หรือเสริชว่า CU Cancer Immunotherapy Fund ช่วยกันคนละนิดละหน่อย เพื่อรักษาชีวิตคนอีกนับล้านครับ (เงินบริจาค inbox ไปขอลดหย่อยภาษีได้ 2 เท่าเลยนะครับ) อย่างไรก็ตามอยากให้เข้าไปอ่านก่อนนะครับ มีบทความที่มีประโยชน์เยอะมาก ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ
วันนี้ผมสูญเสียเพื่อนที่ยังอายุยังน้อยไปด้วยโรคมะเร็ง ระหว่างกลับบ้านผมจึงตัดสินใจทำสิ่งนี้
ระหว่างทางกลับบ้าน ผมนึกขึ้นได้ว่าผมได้อ่านบทความของเพจ CU Cancer Immunotherapy Fund เกี่ยวกับการที่ทีมแพทย์ไทยกำลังต่อยอดงานวิจัย ที่ได้รับรางวัลโนเบลปีนี้ ถ้าจะให้อธิบายง่าย ๆ คือเหมือนกับเวลาเซลล์ในร่างกายเราเกิดกลายพันธ์ุเป็นมะเร็ง มันจะมีโปรตีนสองตัวมาจับคู่กัน ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวไม่สามารถทำลายเซลล์ที่ผิดปกตินี้ได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดมา (และเป็นเหตุผลว่าทำไมเรายังไม่สามารถเอาชนะโรคนี้ได้เสียที)
ผมอ่านไปเจอว่า สิ่งที่ทีมแพทย์ไทยทำอยู่ คือการเอางานตัวนี้มาต่อยอด เนื่องจากตัวยาที่ผลิตโดยต่างประเทศมีราคาสูงมาก ไม่มีทางที่คนทั่วไปหรือไม่รวยมากจริง ๆ จะจับต้องได้ ดังนั้นจึงมีการพยายามทำเองเพื่อลดราคายา โดยจะทำยาที่ให้ได้ผลแบบเดียวกันคือ สกัดกั้นการจับคู่ของโปรตีนสองตัวนี้ เปิดทางให้ร่างกายทำลายเซลล์ร้ายด้วยตัวเอง เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และการหายจากโรคนี้จะมีความเป็นไปได้สูงขึ้นมาก
พอเข้าใจได้ดังนี้ เท่านั้นแหละ ผมตัดสินใจเปิดแอปโอนเงินทั้งที เปิดมาปุ๊บทั้งตัวเหลืออยู่ 44 บาท แต่เอาเถอะ ผมโอนไปทันทีเลย 40 บาท และสัญญาว่าต่อไปถ้ารวยกว่านี้ กองทุนวิจัยรักษามะเร็งจะเป็นกองทุนแรกที่ผมจะทำบุญให้โดยไม่มีขาด เนื่องด้วยปัจจุบันมีงานที่บ่งบอกว่าโอกาสที่คนหนึ่งคนจะเป็นมะเร็งนั้นสูงมาก อาจสูงถึง 40% ในช่วงชีวิตหนึ่ง (ตัวเลขนี้สำหรับคนอเมริกา) สำหรับคนไทยผมว่าน่าจะสูงกว่า อาจจะไปถึง 1 ใน 3 ของประชากร ไม่น้อยเลยใช่มั้ยครับ และไม่มีวิธีป้องกันที่แน่นอนด้วย ดังนั้นผมคิดว่าถึงเวลาที่เราจะหยุดโรคร้ายแบบสุ่มนี้ได้แล้วครับ
ผมจึงขออยากเชิญชวนทุกท่านให้ช่วยกันบริจาค ณ ช่องทางที่เป็นทางการ ผ่าน https://www.facebook.com/CUCancerIEC/ หรือเสริชว่า CU Cancer Immunotherapy Fund ช่วยกันคนละนิดละหน่อย เพื่อรักษาชีวิตคนอีกนับล้านครับ (เงินบริจาค inbox ไปขอลดหย่อยภาษีได้ 2 เท่าเลยนะครับ) อย่างไรก็ตามอยากให้เข้าไปอ่านก่อนนะครับ มีบทความที่มีประโยชน์เยอะมาก ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ