ที่เฮียพิชญ์บอกว่าพร้อมประมูลคลื่นในอนาคต หากคลื่นมีราคาถูก เอื้อแก่การเกิดรายใหม่ กรณีนี้มีทั้งส่วนที่สมควรจะให้ได้ และสิ่งที่ไม่สมควรจะให้นะครับ  ที่ให้ไม่ได้คือ ผ่านเงื่อนไขความผิดคลื่น 900 ไปได้ง่ายๆ โดยไม่มีความรับผิดชอบที่ดีพอ ซึ่งสมควรแก่การตัดสิทธิ์ประมูลในระยะยาว  ที่ให้ได้คือ คลื่นในส่วนพ่วงกับคลื่น 900 ซึ่งสมควรมีราคาที่เอื้อต่อการเกิดรายใหม่ได้ง่าย

ซึ่งจะใช้คำว่าคลื่นส่วนพ่วงก็ไม่เชิง เพราะมันไม่ได้พ่วงแถมมากับคลื่น 900 แต่คือการประมูลคลื่นความถี่อีกความถี่หนึ่ง คือ คลื่น 2600 ซึ่งเป็นคลื่นที่คนสนใจน้อย

  เอาจริงๆคลื่น 2600 น่าจะเป็นคลื่นที่คนสนใจไม่น้อยนะ  ยกให้ฟรี ทุกค่ายเอาหมดล่ะ  แต่ที่ค่ายต่างๆไม่สนใจ เพราะแต่ละค่ายแบกหนี้กันมากแล้ว เขาเลยตัดภาระคลื่น 2600 ออกไป

  ซึ่งคาดว่า ราคาคลื่น 2600 จะเป็นราคาที่เอื้อต่อการเกิดรายใหม่มากที่สุด ในช่วงปี 58 ที่คลื่นมีความต้องการทางการตลาดมาก  คลื่น 900 10 mhz ราคาประมาณ 12,000 ล้าน  คลื่น 1800 ราคาประมาณ 11,000 ล้าน  คลื่น 2600 20 mhz เดาว่าราคาอาจอยู่ที่ 9,000-10,000 ล้าน หรืออาจต่ำกว่านี้ เพราะค่ายเก่าไม่มีใครอยากเอาแล้ว ตรงนี้อาจเป็นช่องให้ตั้งราคาไม่แพง เป็นช่องที่เหมาะสมให้เกิดรายใหม่ง่าย หากรายใหม่นั้นมีคลื่นความถี่ต่ำอยู่ในมือด้วย

  สมมติว่า jas ประมูลคลื่น 900 ในราคา 38,000 ล้าน คลื่น 2600 ในราคา 9,000 ล้าน รวม 2 คลื่น ราคา 47,000 ล้าน มันอาจจะเป็นราคาที่ได้ทรัพยากรคุ้มค่าต่อการทำธุรกิจก็ได้

  ถ้าจำไม่ผิด เหมือนว่า jas คุยกับธนาคารกรุงเทพเพื่อซื้อคลื่น 900 10 mhz ในราคาไม่เกิน 50,000 ล้านมั้ง แต่ดันกดไปราวๆ 75,000 ล้าน มันเลยไม่ได้
  ไม่แน่ถ้า 900/2600 รวมกันไม่เกิน 50,000 ล้าน อาจจะทำให้ธนาคารอนุมัติก็ได้
และถ้ามาในรูปแบบนี้ ย่อมจะทำให้กสทช.ขายคลื่น 2600 ให้กับรายเก่าที่พอมีทุนอยู่ ได้ง่ายด้วย เพราะไม่มีภาระเรื่องคลื่น 900

  สมมติว่า dtac กับ ais เข้าประมูล  dtac กดประมูลคลื่น 2600 3 สล็อต 60 mhz สล็อตละ 9,000 ล้าน กสทช.ก็ได้ตังค์จาก dtac  27,000 ล้าน  และได้จาก ais 9,000 ล้าน รวม jas,dtac,ais จ่ายให้กสทช. 83,000 ล้าน  และได้ตังค์อย่างน้อย 80,000 ล้านบาท หาก 2600 เริ่มที่ 8,000 ล้านบาท
  แต่ถ้ากสทช.ให้ dtac ประมูลคลื่น 900 เจ้าเดียว กสทช.จะได้ตังค์แค่ 38,000 ล้านบาท  เพราะ dtac จะไม่เอาคลื่น 2600 มาเพิ่มอีก  jas ก็จะไม่เอา 2600 ด้วย เพราะไม่ใช่คลื่นที่เหมาะแก่การเริ่มต้นทำธุรกิจ
  กสทช.น่าจะวางแผนตรง 2600 ให้ดี ถ้าทำได้ เงินเข้าคลังคงมากทีเดียว เพราะมีโอกาสสูงที่ ais ซึ่งพอมีกำลังเงินอยู่จะตามมาสอยซัก 20 mhz ด้วย เพื่อให้ทรัพยากรไม่เป็นรอง dtac แต่อาจจะเป็นการประมูล 2600 รอบที่ 2 แบบผ่อนผันกฎเวลาการจ่ายค่างวดจากประมูล 2600 รอบแรกแล้ว
  
  Jas น่าจะตัดสินใจประมูลเร็วนะ รอซัก 2-3 ปีเสียโอกาสทำโปรเน็ตบ้าน+เน็ตมือถือไปอีกนาน

  ที่จริงแล้ว เคยเสนอไปให้ jas กลับมาได้ใน อนาคตอันใกล้ ถือว่าเป็นข้อเสนอที่ให้ jas กลับมาได้ค่อนข้างเร็วนะ  ที่คราวก่อนพูดว่า jas ถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้ลงสนาม 3 ปี เป็นคำพูดที่ผิดไป เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาที่ jas ไม่ได้ลงสนาม ก็เกิดจากการที่ jas ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าประมูลได้ มันจึงเป็นเหตุปกติที่ไม่ได้ลง ไม่ได้เกิดจากการลงโทษของกสทช.แต่อย่างใด
  แต่ที่กสทช.ออกกฎลงโทษจริงๆคือ ต้นปีที่ผ่านมา ระยะเวลาการลงโทษควรเริ่มตั้งแต่ช่วงที่กสทช.ออกกฎการลงโทษนั้น จะโดน 5 ปี หรือ 7 ปีก็ว่าไป ซึ่งการลงโทษจะอยู่ไปถึงราวๆปี 66-67
แต่หากค่ายที่ทำการปั่นราคาอยากกลับเข้าสู่การประมูลเร็ว ส่วนตัวมองว่าควรหาเงินมาจ่ายค่าประมูลให้เท่าหรือเทียบเคียงตามจำนวนที่ตัวเองได้กระทำผิดไว้ ถึงจะเข้าสู่การประมูลได้เร็ว

  ถ้า jas คิดว่าได้สร้างความเสียหายทางการเงินให้แก่ค่ายอื่น แล้วตัวเองก็สบาย อีกซักพักรอสอยคลื่นราคาถูกๆมาทำการแข่งขันกับค่ายที่โดนปั่น มีภาระทางการเงินเยอะ มันไม่สมควรครับ สังคมไม่ยอมรับ ค่ายมือถือจะฟ้องร้องเอาด้วย

  กสทช.ควรจะตั้งกฎไว้ป้องกันปัญหาในอนาคตเลย
หากค่ายที่ปั่นราคาไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าคลื่น ก็ให้ตัดสิทธิ์การประมูล 7 ปีหรือเวลาเท่าไรก็ตามความเหมาะสม เริ่มโดนตั้งแต่ประมูลครั้งถัดไปจากรอบประมูลที่ตัวเองได้กระทำผิด(โดน 7 ปีก็คงถึง 68 น่ะครับ คงโดนคู่แข่งใช้แพ็กเก็จเน็ตบ้าน+เน็ตมือถือ แย่งลูกค้าไปมาก หรือโทษนานกว่า 7 ปีก็แล้วแต่กสทช.)
แต่ถ้าค่ายที่ปั่นราคาต้องการกลับสู่การประมูลได้เร็ว ก็ให้ค่ายนั้นหาเงินมาจ่ายค่าคลื่นเท่าหรือเทียบเคียงกับจำนวนที่ตัวเองได้กระทำผิด จึงกลับสู่การประมูลได้
   ไม่งั้นอนาคตมันจะเกิดปัญหาครับ ปัญหาก็คือ ค่ายที่เข้ามาใหม่จะทำการปั่นราคาที่แพงเกินจริงให้กับรายเก่า แล้วไม่นานค่ายผู้ปั่นราคาก็รอสอยของราคาถูกๆมาทำการแข่งขันกับค่ายที่ถูกปั่น ทั้งๆที่ค่ายที่ถูกปั่นยังได้รับความบอบช้ำทางการเงินไม่หาย ยังมาโดนค่ายผู้ปั่นราคาใช้ของถูกซ้ำเติมอีก

  ขอให้กสทช.จัดรูปแบบประมูลออกมาให้ดีเลยนะครับ ไม่น่าให้ประมูล 20 ต.ค.นี้หรอก ควรจะไปคุยกับ jas ให้เคลียร์ก่อน ให้พวกเขาพิจารณาถึงผลได้ ผลเสียในระยะสั้น ระยะยาวหากไม่ประมูลคลื่นครั้งนี้ แล้วรีบจัดสรรนำคลื่น 2600 จากอสมท.มาด้วย พิจารณาตั้งราคาตามความเหมาะสมเพื่อเสนอ jas ไป
  คลื่น 900/2600 รวมกัน น่าสร้างรายได้แก่รัฐ ไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้านบาท
  แต่ถ้าให้ dtac ประมูลคลื่น 900 เจ้าเดียว 2600 คงเป็นหมัน เงินจะเข้ารัฐแค่ 38,000 ล้านบาทเท่านั้น