เมื่อเพื่อนสาวคนสวยบอกว่ามีธุระต้องมาทำงานที่ ‘บึงกาฬ’
ได้ยินปุ๊บ! มีเหรอจะปล่อยให้นางไปคนเดียวด้วยความเป็นห่วงเพื่อนมาก จึงรีบจัดกระเป๋าตามไปอย่างไว ไม่ได้หวังจะเที่ยวเล้ยยย!!
และด้วยความน่ารักของคุณเพื่อนทริปนี้ค่าใช้จ่ายไม่รวมค่ารถของเพื่อนนะคะ ดีอะไรเบอร์นี้
ว่าแล้วก็ไปเบิ่งกันดีกว่าค่ะว่าที่นี่เค้ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง


วันที่ 1_27-ก.ย.-2561 [เลาะรับลม ชมวิวแม่น้ำโขง]

เราเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯมาถึง ‘บึงกาฬ’ ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง ก็มาถึง ‘ตำบลหอคำ’
ขณะเดินเอากระเป๋ามาเก็บเข้าที่พักด้วยความงัวเงีย แสงยามเช้าของริมแม่น้ำโขงก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า
ภาพนี้ช่างดูสงบและสวยงามมาก ตื่นเลยจ้า!


เดินมาถึงที่พัก ‘รับลม ชมโขง โฮมสเตย์’ เป็นบ้านไม้ 2 ชั้นอยู่ริมแม่น้ำโขง จัดอย่างเรียบง่าย  ให้อารมณ์เหมือนมานอนบ้านญาติ
คุณป้าประเนียรออกมาต้อนรับเราอย่างเป็นกันเอง เป็นตาฮักหลาย


นอกจากนี้คุณป้าประเนียรยังจัดอาหารให้เราทานหลากหลายเมนูจากปลาแม่น้ำโขง
กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ หรือจะเลือกทานกับข้าวกล้องเพื่อสุขภาพก็ได้ เป็นตาแซ่บอร่อยทุกอย่างเลยค่ะ อาหารพร้อมที่พักคนละ 350 บาท


อิ่มหมีพลีมันกันเรียบร้อยแล้วเราเดินทางมายัง ‘แก่งอาฮง’ หรือจุดชม ‘สะดือแม่น้ำโขง’


อยู่ภายในบริเวณ ‘วัดอาฮงศิลาวาส’ ว่ากันว่าที่นี่คือจุดที่ลึกที่สุดของแม่น้ำโขง
ถ้ามาในฤดูน้ำหลาก จะมองเห็นกระแสน้ำไหลวนเป็นรูปกรวยขนาดใหญ่อย่างชัดเจน


มาชมวิวยามเย็นกันต่อที่ ‘หาดสีดา’ อยู่ใน ‘ตำบลหนองเดิ่น’


ที่นี่เป็นหาดทรายยาวไปตามริมฝั่งแม่น้ำโขงประมาณ 2.5 กิโลเมตร


จากจุดนี้ยังมองเห็นทิวเขาภูงูของทางฝั่งลาวทอดยาวอยู่เบื้องหลังด้วย เป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก


คืนนี้เราพักมากันที่ ‘ละอองภิรมย์’ อยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขงเลย ที่นี่เหมือนนำบ้านไม้มารีโนเวทใหม่
ด้านในตกแต่งเก๋ๆ ราคาห้องละ 550 บาท


เก็บของเรียบร้อย ท้องร้องจ๊อกๆแล้ว ได้เวลามื้อเย็น เราเดินจากที่พักมาไม่ไกลก็ถึงร้าน ‘บึงกาฬโภชนา’


สั่งมาเบาๆ บอกเลยว่าแซบอีหลีค่ะ ถึกใจข้อยหลาย