สายพันธุ์ใหม่-จระเข้ถ้ำในกาบอง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Mysterious orange cave crocodiles that live in darkness are mutating into a new species
1.



ในปี 2008
Richard Oslisly คือ นักโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์
คือ คนแรกที่ค้นพบจระเข้ถ้ำในประเทศ กาบอง
ช่วงที่เดินทางเพื่อไปสำรวจภาพเขียนและอาวุธหิน
ร่องรอยของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์
ในตอนที่ท่านเดินเข้าไปในถ้ำ
ท่านก็ได้เผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่ดูน่ากลัว
มีดวงตาเรืองแสงขนาดใหญ่และเกล็ดสีส้มสดใส  พวกมันคือ  จระเข้


ปกติ  คนเรามักจะไม่ค่อยเจอจระเข้อาศัยอยู่ในถ้ำ
และด้วยรูปลักษณ์ที่ดูโหดร้ายเหล่านี้
ทำให้ท่านต้องยืนแน่นิ่งและอึ้งไปเลย
แต่โชคดีที่จระเข้ก็ตกใจท่านที่พบเห็นมันเช่นกัน
มันเลยรีบคลานหนีหายเข้าไปในความมืด


ในเวลาต่อมาช่วงปี 2010-2011
ทีมนักวิจัยจึงได้เดินทางกลับไปยัง  Gabon
เพื่อสำรวจและค้นหาจระเข้ถ้ำอีกครั้ง
ภายในถ้ำค่อนข้างมืดและอากาศค่อนข้างร้อน
มีอุณภูมิคงที่ราว 22 เซลเซียส
อากาศที่ไหลเวียนอยู่ภายในถ้ำ
มักจะทำให้เกิดอาการวิงเวียนคลื่นไส้
และนักวิจัยต้องลุยผ่านกากตะกอนเหลว
ภายในถ้ำที่เฉอะแฉะและเหม็นมาก


" มันดูเหมือนโคลนเหลว  แต่มันไม่ใช่โคลน
มันเป็นกองขี้ค้างคาวตกตะกอนจำนวนมาก
ผสมปนเปกับน้ำจนเป็นแอ่งโคลนเหนียวหนืด
"
Olivier Testa  นักวิทยาศาสตร์ด้านถ้ำ


" สภาพแวดล้อมภายในถ้ำร้ายกาจมาก
เมื่อตอนที่เราออกมาจากถ้ำ
เราต้องฉีดน้ำล้างชำระร่างกายทันที
"
Matthew Shirley  นักวิทยาศาสตร์ด้านจระเข้


ทีมนักวิจัยยังพบว่ามีจระเข้ถ้ำ 9  ตัว
ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยเลย
ไม่มีแสงสว่างภายในถ้ำ ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยขึ้ค้างคาว
และมีแหล่งอาหารน้อยมาก  ส่วนมากจระเข้ถ้ำต้องกินค้างคาว
จระเข้บางตัวยังถูกขังอยู่ภายในด้วยช่องแคบและหลุมลึก
และแทบจะไม่มีทางที่จะคลานออกมาข้างนอกได้

 
หลังจากนั้น ก็มีการเดินทางไปยังถ้ำ Abanda
นับได้หลายครั้งมากในช่วง 2010-2011
โดยได้รับการสนับสนุนการวิจัยจาก IRD และ Foundation Liambissi
เพราะทีมนักวิจัยพยายามทำความเข้าใจ
ที่มาของฝูงจระเข้ถ้ำที่อาศัยอยู่ในถ้ำ Abanda แห่งนี้


จระเข้ถ้ำ  Abanda เป็นสายพันธุ์ของจระเข้แคระแอฟริกา
Dward Crocodile (Osteolaemus tetraspis)
ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปทางตะวันตก/แอฟริกากลาง
พวกมันเป็นสายพันธุ์จระเข้ที่เล็กที่สุดในโลก
มีความยาวลำตัวเฉลี่ย 1.5 เมตร
อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าและที่ราบลุ่ม
กินอาหารพวกปลาและกุ้งในน้ำเป้นหลัก


แต่ฝูงจระเข้ถ้ำมีลักษณะที่แตกต่าง
ฝูงจระเข้ถ้ำมีหัวที่โตขึ้น  มีสายตาไม่ดี
และผิวหนังของจระเข้มีสีส้มซึ่งแปลกจากสีจระเข้ทั่วไป
ทั้งนี้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นผลมาจาก
หลายปีที่ฝูงจระเข้จมปลักอยู่ในกองขี้ค้างคาว
ทำให้เปลี่ยนสีผิวของฝูงจระเข้
เช่นเดียวกับช่างฟอกหนังจระเข้
ที่ใช้สารเคมีในการฟอกสีหนังจระเข้


" ขี้ค้างคาวประกอบด้วย ยูเรีย Urea
ในมูลค้างคาวก็ยังอุดมไปด้วยสารเคมี ไนโตรเจน  Nitrogen
ภายในกองขี้ค้างคาวจึงมีค่า พีเอช pH ขั้นพื้นฐานสูง
ที่มากเพียงพอจะฟอกสีผิวหนังของฝูงจระเข้
"
Matthew Shirley


ยูเรีย สารประกอบอินทรีย์ชนิดหนึ่ง
สูตรเคมี  คือ NH2CONH2 เป็นของแข็งสีขาว
มีจุดหลอมเหลว 130oC ละลายน้ำได้ดี ใช้ทำปุ๋ยไนโตรเจน  
ในร่างกายสัตว์ยูเรียเกิดขึ้นจาก
กรดอะมิโนที่เปลี่ยนแปลงไป
ในกระบวนการเมแทบอลิซึมของโปรตีน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]

2.



แต่ยังมีความแตกต่างอย่างอื่นที่มากกว่าเรื่องสีผิว
ทีมนักวิจัยพบว่าลายเซ็นทางพันธุกรรมของฝูงจระเข้ถ้ำนี้
กลุ่มยีนถ่ายทอดมาจากพ่อแม่คู่เดียวกัน
ทั้งยังแตกต่างจากสายพันธุ์ดั้งเดิมที่วิวัฒนาการมาไล่เลี่ยกัน
ทีมนักวิจัยเชื่อว่าฝูงจระเข้ถ้ำเหล่านี้กำลังจะกลายพันธุ์
และกำลังจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นสายพันธุ์ใหม่


ทั้งนี้ เพราะการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมนี้
จะต้องใช้เวลาหลายร้อยชั่วอายุจระเข้
ในการเก็บตัวอย่าง ดีเอ็นเอ DNA
ทำให้เชื่อว่า  ฝูงจระเข้ถ้ำนี้ได้แยกตัวออกจาก
ญาติพี่น้องสายพันธู์เดิมของพวกมันนับพัน ๆ ปีมาแล้ว
เพราะมีค่าตัวบ่งชี้ DNAs ที่แตกต่างกันมากกว่า 2%
จากจำนวนตัวอย่าง DNAs ที่มีนัยสำคัญทางสถิติ
จากการสุ่มตัวอย่างจระเข้ถ้ำ 30 ถึง 40 ตัวแบบไม่ซ้ำกัน
เปรียบเทียบกับตัวอย่างเลือดจากจระเข้แคระทั่วไปประมาณ 200 ตัว


จระเข้ถ้ำตัวใหญ่ที่สุดในถ้ำแห่งนี้มีความยาว 1.7 เมตร
และน่าจะมีอายุมากแล้วในฝูงที่มีอยู่ราว 100-200 ตัว
โดยจะมีการจับจระเข้ถ้ำขึ้นมาวัดขนาดความยาว
ชั่งน้ำหนักแต่ละตัว  เจาะเก็บเลือดจระเข้ถ้ำ
แล้วปล่อยพวกมันกลับลงไปอยู่ในถ้ำตามเดิม


3.





" บางทีมันอาจจะเป็นการกลายพันธุ์ใหม่
ภายในกลุ่มประชากรจระเข้กลุ่มเล็ก ๆ
เช่น ถ้าคุณนำคนสัก 100 คนให้อยู่กินร่วมกัน
ภายในพื้นที่เดียวกันเป็นเวลากว่า 1,000 ปี
ผู้คนก็จะเริ่มกลายพันธุ์(ผ่าเหล่าผ่ากอ)
เพราะการแต่งงานกันภายในกลุ่มเดียวกัน "

Olivier Testa


“ เราสามารถพูดได้เลยว่า
เราพบสายพันธุ์ที่กลายพันธู์
เพราะว่าจระเข้ถ้ำมี รหัสพันธุกรรม GenticCode ที่ Haplotype
การกินอาหารของฝูงมันก็แตกต่าง
และสายพันธุ์นี้ก็ปรับตัวให้อยู่รอดได้ในโลกใต้ดิน

เพราะภายในถ้ำมีค้างคาวนับหมื่น ๆ ตัว
และยังมีฝูงจิ้งหรีดไต่ไปมาตามผนังถ้ำ

เราโชคดีมากที่ชาวบ้านแถวนี้ไม่กล้าเข้าไปในถ้ำ
เพราะกลัวฝูงจระเข้ฝูงนี้อย่างแรง "
Richard Oslisly  ผู้ค้นพบจระเข้ถ้ำคนแรกในปี 2008

4.




มันเป็นเรื่องยากที่จะสรุปได้ว่า
ทำไมฝูงจระเข้นี้จึงเลือกที่จะอยู่ภายในถ้ำ
บางทีอาจจะเป็นเพราะจระเข้ชอบกินค้างคาว
เพราะนี่เป็นสิ่งเดียวที่จระเข้ได้กินกับกินได้
ซึ่งภายในถ้ำมีค้างคาวนับหมื่น ๆ ตัวเลยทีเดียว
นอกเหนือจากจิ้งหรีดและสาหร่าย


บางทีฝูงจระเข้ตอนที่ยังเล็กอยู่
ได้เดินทางหาอาหารไกลจากบ้านเดิม
แล้วเดินสำรวจผ่านเข้าทางช่องว่างต่าง ๆ ภายในถ้ำ
หรืออาจจะตกลงไปในถ้ำแห่งนี้
เพราะตอนนี้ตรงทางเดินเข้าออกลึก 7 เมตร
เป็นหลุมทรายที่ทำให้จระเข้คลานขึ้นมาไม่ได้


แต่เมื่อจระเข้เริ่มมีขนาดใหญ่โตขึ้น
พวกมันก็ถูกกักขังอยู่ภายในถ้ำเลย
และต้องใช้เวลากับชีวิตที่เหลืออยู่
อยู่กันภายในถ้ำให้ผ่านพ้นวันคืนที่มืดมิด
ด้วยการกินค้างคาว จิ้งหรีด สาหร่าย เป็นอาหาร
คลานและแหวกว่ายไปมาท่ามกลางกองขี้ค้างคาว


เรียบเรียง/ที่มา


http://bit.ly/2DidRib
https://bit.ly/2DTB49s
http://bit.ly/2QPD5ar
http://bit.ly/2PRxC1p
http://bit.ly/2QOybKA




5.

Credit: Olivier Testa


6.

​Credit: Olivier Testa


7.

จระเข้ถ้ำกับจระเข้แคระ  Credit: Olivier Testa


8.

จระเข้ถ้ำกับจระเข้แคระ


9.



10.



11.



12.



13.



14.



15.



16.



17.



18.

จระเข้แคระ


19.

หัวกะโหลกจระเข้แคระ


20.

จระเข้แคระ


21.

ลูกจระเข้แคระ



รายงานการวิจัย

Diet and body condition of cave-dwelling dwarf crocodiles
( Osteolaemus tetraspis , Cope 1861) in Gabon
African Journal of Ecology · September 2016

22.



23.



แผนที่พื้นที่ทำการศึกษา แสดงตำแหน่งที่ยังไม่ชัดเจนของ ถ้ำ Abanda
ที่ห่างจากแม่น้ำ  Olandé  ที่ไหลแยกออกมาจาก  Fernan Vaz Lagoon
ในเขตมณฑล Ogooué-Maritime  ประเทศ Gabon
แผนที่แทรกแสดงถึงตำแหน่ง  Lope National Park
ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาพื้นที่เบื้องต้น




24.



การพล็อตกราฟ  แสดงอัตราการเติบโตในแต่ละวันของลำตัวจระเข้ถ้ำ 4 ตัว
เทียบกับขนาดของลำตัวเฉลี่ยของจระเข้แคระ
เพราะขนาดของลำตัวตัวอย่างจากจระเข้ถ้ำมีขนาดเล็ก (n = 2)
จึงยังไม่สามารถวิเคราะห์ความแตกต่างของอัตราการเจริญเติบโต
แม้ว่าการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า
จระเข้ถ้ำจะมีสภาพลำตัวที่ยาวกว่า
แต่ก็ไม่ได้มีขนาดลำตัวยาวขึ้นทุกวัน

อัตราการเจริญเติบโต
จุดสีเทาแสดงอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อวัน
ของจระเข้แคระที่อาศัยอยู่ในป่าจากป่าชายฝั่ง
Petit Loango ในอุทยานแห่งชาติ Loango (Eaton & Link, 2011)
ความยาวของหัว (HL, ด้านซ้ายบน)
ความลึกของช่องระบายอากาศ(รูจมูก) (SVL, ด้านขวาบน)
ความยาวรวม (TL, ล่างซ้าย) และมวล (M; ล่างขวา)




25.



สภาพลำตัวจระเข้ถ้ำและจระเข้แคระที่อาศัยอยู่ในป่า
(a)  การพล็อตมวลกับความยาวส่วนหัวที่แสดงความสัมพันธ์
ระหว่างมิติ (n = 3.0074 ± 0.1708, R2 = 0.9476)
มิติทั้งสองนี้และแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างที่เห็นได้ชัด
ใน Fulton's K ระหว่างพื้นที่กับกลุ่มประชากรจระเข้ถ้ำ
Caves (circles) Forest (triangle) LNP (square) Lope (cross)
จระเข้วัยรุ่น (สีดำ) และ ผู้ใหญ่ (สีเทา)

b) Boxplot แสดงถึง Fulton's K ระหว่างพื้นที่กับกลุ่มประชากร
ขนาดที่ยาวกว่าของจระเข้าถ้ำวัยรุ่นเปรียบเทียบกับจระเข้แคระในพื้นที่ตัวอย่าง
จระเข้ถ้ำ Abanda มีลำตัวที่ยาวกว่าเมื่อเทียบกับจระเข้แคระในพื้นที่ตัวอย่าง
LNP = Loango National Park

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Bent-Winged Bat in a new cave found in Gabon
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่