"ธนาธร"พบผู้บริหารไฮเปอร์ลูปวัน จ่อตั้งทีมศึกษาความเป็นไปได้ สร้างในไทยแทนรถไฟเร็วสูง
https://www.matichon.co.th/politics/news_1139355
“ธนาธร” พบผู้บริหารไฮเปอร์ลูปวัน ร่วมตั้งทีมศึกษาสร้างไฮเปอร์ลูปแทนรถไฟความเร็วสูงในไทย หวังลดค่าใช้จ่าย ผลักดันระบบขนส่งมวลชนทันสมัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เมื่อวันที่ 20 กันยายน นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และน.ส.
พรรณิการ์ วานิช ว่าที่โฆษกพรรคฯ เดินทางเยือนฐานทดสอบรถไฟไฮเปอร์ลูปของบริษัท
เวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป วัน ในเมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยได้พบกับนาย
ร็อบ เฟอร์เบอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมของเวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป วัน หารือถึงความเป็นไปได้ในการสร้างระบบรถไฟไฮเปอร์ลูปในไทย
โดยนาย
เฟอร์เบอร์ กล่าวว่า ไฮเปอร์ลูปเป็นระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลก นอกจากจะเป็นระบบรถไฟวิ่งในอุโมงค์ที่ความเร็ว 1,000-1,200 กม./ชม. การที่ยานพาหนะเคลื่อนที่ในอุโมงค์สูญญากาศด้วยแรงขับแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้ไม่มีแรงเสียดทานจากล้อกับรางและจากลม การใช้พลังงานจึงประหยัดที่สุด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ของรถไฟแมกเลฟของจีน และ 15เปอร์เซ็นต์ ของรถไฟแมกเลฟของญี่ปุ่น การก่อสร้างและค่าเดินรถก็จะมีราคาถูกกว่ารถไฟความเร็วสูงถึงครึ่งหนึ่ง ทำให้สามารถคืนทุนได้เร็ว และไม่จำเป็นต้องเป็นการลงทุนระดับรัฐ แต่สามารถทำแบบลงทุนความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) หรือ เอกชนลงทุนทั้งหมดได้ ทำให้แก้ปัญหาการลงทุนในสาธารณูปโภค เช่น รถไฟความเร็วสูงระหว่างเมืองใหญ่ที่มักประสบภาวะขาดทุน ทำให้รัฐและเอกชนไม่กล้าลงทุน ซึ่งส่งผลให้การพัฒนาคมนาคมของประเทศกำลังพัฒนาเป็นไปอย่างช้า
โดยหากเปรียบเทียบกับการสร้างรถไฟความเร็วปานกลางในไทย สายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ใช้เงินลงทุน 707 ล้านบาทต่อกม. สายกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ใช้เงินลงทุน 710 ล้านบาทต่อกม. ขณะที่นาย
เฟอร์เบอร์ยืนยันว่าไฮเปอร์ลูปใช้เงินลงทุน 495-600 ล้านบาทต่อกม.เท่านั้น แม้นวัตกรรมไฮเปอร์ลูปยังดูเป็นเทคโนโลยีล้ำยุค แต่นอกจากระบบขับเคลื่อนซึ่งใช้เทคโนโลยีเฉพาะของ
เวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป ส่วนประกอบอื่นๆ ถูกออกแบบให้ผลิตที่ไหนก็ได้ในโลก เพื่อให้ง่ายต่อการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นราง ท่อเหล็กที่นำมาประกอบเป็นอุโมงค์ หรือตัวรถและอะไหล่ ทั้งหมดสามารถผลิตได้ในประเทศไทยได้
อย่างไรก็ตามในการพบกันครั้งนี้ นาย
ธนาธรยังได้อธิบายให้ผู้บริหาร
เวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป วัน ฟังถึงปัญหาการพัฒนาระบบรางในประเทศไทย และแนวคิดของพรรคอนาคตใหม่ในการเสนอสร้างรถไฟไฮเปอร์ลูปแทนที่รถไฟความเร็วสูง เพื่อให้เกิดระบบขนส่งมวลชนที่ก้าวหน้า ทันสมัย สะดวกสบาย กระจายความมั่งคั่งสู่ทุกพื้นที่ที่รถไฟผ่าน และยังทำให้ไทยกลายเป็นประเทศแถวหน้าผู้นำนวัตกรรมขนส่งมวลชนที่ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
“หากสามารถทำให้เกิดการสร้างไฮเปอร์ลูปในประเทศไทยได้จริง ไม่เพียงแต่ไทยจะได้ระบบขนส่งมวลชนที่ดี แต่ยังก่อให้เกิดการจ้างงานจำนวนมาก และเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมในประเทศ เนื่องจากภาคเอกชนจะได้ผลิตชิ้นส่วนรถ ราง ท่อเหล็ก และพัฒนาสถานีไฮเปอร์ลูป รวมถึงเดินรถเอง ในขณะที่บริษัทต่างชาติอย่างไฮเปอร์ลูป วัน จะเป็นเพียงผู้ขายเทคโนโลยีไฮเปอร์ลูปให้เท่านั้น” นาย
ธนาธร กล่าว
นอกจากนี้ นาย
ธนาธรได้พูดคุยถึงการร่วมกับกับไฮเปอร์ลูป วัน ตั้งทีมเพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนไฮเปอร์ลูปในประเทศ การศึกษานี้จะเปรียบเทียบกับการศึกษารถไฟความเร็วสูงที่ทำร่วมกับจีนและญี่ปุ่นเพื่อนำเสนอกับสังคมให้เป็นทางเลือกต่อไป อย่างไรก็ตามในการศึกษาครั้งนี้จำเป็นต้องอาศัยความรู้จากภาคเอกชนอีกมาก จึงจำเป็นต้องหาพันธมิตรเข้าร่วมโครงการ และปัจจุบันการอนุรักษ์พลังงานเป็นเรื่องสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยเป็นประเทศที่พลังงานคือสินค้านำเข้าอันดับหนึ่งของประเทศ ถ้าเราสามารถใช้ไฮเปอร์ลูปได้ ไทยจะลดการใช้พลังงานได้อย่างมหาศาลจากการลดการเดินทางโดยรถยนต์ที่เป็นรูปแบบการเดินทางที่ไม่สะอาดและใช้พลังงานสิ้นเปลือง
ทั้งนี้ รถไฟไฮเปอร์ลูปเป็นระบบขนส่งมวลชนรางที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการทดสอบวิ่งและการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้าง โดยฐานทดสอบไฮเปอร์ลูปของเวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป วัน ในลาสเวกัส เป็นอุโมงค์ไฮเปอร์ลูปแห่งแรกของโลก ระยะทาง 500 เมตร ขณะที่การใช้งานไฮเปอร์ลูปเชิงพาณิชย์ที่แรกในโลก จะเกิดขึ้นในนครอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในปี 2020 โดยล่าสุด มีหลายประเทศสนใจศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างไฮเปอร์ลูปในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ จีน อินเดีย หรืออินโดนีเซีย
'ปู่พิชัย'หนุนเลือดแท้ชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
https://www.matichon.co.th/politics/news_1139936
เมื่อวันที่ 20 กันยายน นาย
พิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) คนที่ 4 ให้สัมภาษณ์ผ่านวอยซ์ ทีวี ตอนหนึ่งถึงกรณีการคัดเลือกหัวหน้าพรรคปชป.คนใหม่ว่า
“การคัดเลือหัวหน้าพรรคปชป.ในเวลานี้ คนๆนั้นกำลังหาเสียงอยู่ รวบรวมคนอยู่ ในการที่โหวตวันที่ 26 กันยายนนี้ ถ้าถามผมว่ามองว่าเป็นอย่างไร ผมไม่อยากเอ่ยชื่อคนๆนั้น ผมมองว่าคนๆนั้น ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขประชาธิปัตย์ที่แท้จริง แต่คนที่มีเลือดประชาธิปัตย์ที่แท้จริงนั้น มีอยู่ 3-4 คน ที่จะเป็นนายกฯได้
1.นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคปชป.
2.บัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคปชป.
3.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป.
4.นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว
“ทั้งหมดนี้ ผมมองว่าคือเลือดเนื้อเชื้อไขของพรรคปชป. ส่วนคนที่ 5 ผมมองว่า คือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคปชป. คนดีๆในพรรคปชป.มีมาก อาทิ นายสาวิตต์ โพธิวิหค กรรมการที่ปรึกษาพรรคปชป. นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ กรรมการที่ปรึกษาพรรคปชป. นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ กรรมการที่ปรึกษาพรรคปชป. และอีกหลายคน หลายท่านเหล่านี้คือเลือดประชาธิปัตย์แท้ๆ แต่คนที่กำลังหาเสียง รวบรวมเสียงอยู่ในขณะนี้ที่พยายามจะโค่นนายอภิสิทธิ์นั้นมีอยู่จริง แล้วมีเสียงมากด้วย แต่ผมมองว่าเขาไม่ได้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพรรคปชป. ต่างจากคนที่ผมได้เอ่ยชื่อมานั้นล้วนเป็นคนที่เกิดมาจากพรรคปชป.ทั้งหมด”นาย
พิชัย กล่าว
ทนายนปช.ร้องอสส.เร่งคดี 99ศพ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังไต่สวนแล้ว 20 ศพ
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_1139275
เมื่อวันที่ 20 กันยายน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นาย
องอาจ คำทอง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ยื่นหนังสื่อต่ออัยการสูงสุด ขอให้เร่งรัดดำเนินคดีเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 99 ศพ เมื่อปี2553 และขอคัดค้านการยุติชันสูตรพลิกศพ โดยมีนาย
โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกอัยการสูงสุด เป็นผู้รับหนังสือ
นาย
องอาจ กล่าวว่า สาเหตุที่มายื่นเรื่องเนื่องจากมีการนำเสนอบทความของสื่อมวลชนเกี่ยวกับการดำเนินคดีดังกล่าว ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่าจะงดการทำสำนวนคดีดังกล่าว โดยกระทำให้ผู้เสียชีวิต 99 ศพ หาตัวผู้กระทำผิดไม่ได้ จึงมีความกังวลว่าคดีจะมีความผิดปกติและจะไม่ได้รับความเป็นธรรม อีกทั้งกฎหมายบัญญัติให้การตายโดยผิดธรรมชาติให้พนักงานอัยการทำคำร้องขอต่อศาล เพื่อให้ศาลทำการไต่สวนและทำคำสั่งว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ใด เมื่อใด สาเหตุการตายคืออะไร จึงอยากให้อัยการดำเนินการสอบสวนคดีต่อไป ที่ผ่านมาศาลได้ดำเนินการไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิตไปเกือบ 20 คดี แต่ยังเหลือสำนวนคดีอีก 70 คดีที่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า หวังว่าอัยการสูงสุดจะให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีดังกล่าวก่อนหน้านี้ทนายความคดีหลักและกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตได้มายื่นเรื่องขอให้อัยการเร่งดำเนินคดีไปแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าคดีเพิ่ม ซึ่งอัยการมีการตั้งคณะทำงานเพิ่มเติมหรือไม่อย่างไรทางกลุ่ม นปช.ไม่เคยทราบ
นาย
อำนาจ กล่าวอีกว่า เป็นทนายความในส่วนของคดีที่อัยการยื่นฟ้องแกนนำนปช.รวม 24 คน ในความผิดฐานก่อการร้าย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสืบพยานจำเลย แต่เนื่องจากคดีมีรายละเอียดมาก และมีพยานบุคคลหลายปาก ดังนั้น คู่ความจึงตกลงรับกัน ให้จำเลยส่งบันทึกคำเบิกความแทนการสืบพยานจำเลยส่งศาล เพื่อส่งต่อให้อัยการทำคำคัดค้าน ซึ่งจะเป็นการประหยัดเวลา คาดว่าคดีน่าจะเสร็จการพิจารณาประมาณเดือนกันยายน 2562
ขณะที่ พ.ต.อ.
ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และประชาชน 99 ศพ ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553ว่า ดีเอสไอได้สรุปสำนวนคดีดังกล่าว และคดีก่อการร้ายของชายชุดดำอัยการไปแล้ว แต่บางสำนวนอัยการสั่งสอบเพิ่มเติม ซึ่งดีเอสไอได้สอบสวนในประเด็นต่างๆ เสร็จสิ้นและส่งกลับไปที่อัยการเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังมีคดีบางส่วนที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งกลับมาให้ดีเอสไอ ขณะนี้กำลังสอบสวน
JJNY : 4in1 "ธนาธร"พบผู้บริหารไฮเปอร์ลูปวัน/'ปู่พิชัย'หนุนเลือดแท้/เร่งคดี 99ศพ/วิกฤตอุตฯอ้อย-น้ำตาลราคาขั้นต้นวูบ 680บ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_1139355
“ธนาธร” พบผู้บริหารไฮเปอร์ลูปวัน ร่วมตั้งทีมศึกษาสร้างไฮเปอร์ลูปแทนรถไฟความเร็วสูงในไทย หวังลดค่าใช้จ่าย ผลักดันระบบขนส่งมวลชนทันสมัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เมื่อวันที่ 20 กันยายน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และน.ส.พรรณิการ์ วานิช ว่าที่โฆษกพรรคฯ เดินทางเยือนฐานทดสอบรถไฟไฮเปอร์ลูปของบริษัทเวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป วัน ในเมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยได้พบกับนายร็อบ เฟอร์เบอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมของเวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป วัน หารือถึงความเป็นไปได้ในการสร้างระบบรถไฟไฮเปอร์ลูปในไทย
โดยนายเฟอร์เบอร์ กล่าวว่า ไฮเปอร์ลูปเป็นระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลก นอกจากจะเป็นระบบรถไฟวิ่งในอุโมงค์ที่ความเร็ว 1,000-1,200 กม./ชม. การที่ยานพาหนะเคลื่อนที่ในอุโมงค์สูญญากาศด้วยแรงขับแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้ไม่มีแรงเสียดทานจากล้อกับรางและจากลม การใช้พลังงานจึงประหยัดที่สุด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ของรถไฟแมกเลฟของจีน และ 15เปอร์เซ็นต์ ของรถไฟแมกเลฟของญี่ปุ่น การก่อสร้างและค่าเดินรถก็จะมีราคาถูกกว่ารถไฟความเร็วสูงถึงครึ่งหนึ่ง ทำให้สามารถคืนทุนได้เร็ว และไม่จำเป็นต้องเป็นการลงทุนระดับรัฐ แต่สามารถทำแบบลงทุนความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) หรือ เอกชนลงทุนทั้งหมดได้ ทำให้แก้ปัญหาการลงทุนในสาธารณูปโภค เช่น รถไฟความเร็วสูงระหว่างเมืองใหญ่ที่มักประสบภาวะขาดทุน ทำให้รัฐและเอกชนไม่กล้าลงทุน ซึ่งส่งผลให้การพัฒนาคมนาคมของประเทศกำลังพัฒนาเป็นไปอย่างช้า
โดยหากเปรียบเทียบกับการสร้างรถไฟความเร็วปานกลางในไทย สายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ใช้เงินลงทุน 707 ล้านบาทต่อกม. สายกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ใช้เงินลงทุน 710 ล้านบาทต่อกม. ขณะที่นายเฟอร์เบอร์ยืนยันว่าไฮเปอร์ลูปใช้เงินลงทุน 495-600 ล้านบาทต่อกม.เท่านั้น แม้นวัตกรรมไฮเปอร์ลูปยังดูเป็นเทคโนโลยีล้ำยุค แต่นอกจากระบบขับเคลื่อนซึ่งใช้เทคโนโลยีเฉพาะของเวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป ส่วนประกอบอื่นๆ ถูกออกแบบให้ผลิตที่ไหนก็ได้ในโลก เพื่อให้ง่ายต่อการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นราง ท่อเหล็กที่นำมาประกอบเป็นอุโมงค์ หรือตัวรถและอะไหล่ ทั้งหมดสามารถผลิตได้ในประเทศไทยได้
อย่างไรก็ตามในการพบกันครั้งนี้ นายธนาธรยังได้อธิบายให้ผู้บริหารเวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป วัน ฟังถึงปัญหาการพัฒนาระบบรางในประเทศไทย และแนวคิดของพรรคอนาคตใหม่ในการเสนอสร้างรถไฟไฮเปอร์ลูปแทนที่รถไฟความเร็วสูง เพื่อให้เกิดระบบขนส่งมวลชนที่ก้าวหน้า ทันสมัย สะดวกสบาย กระจายความมั่งคั่งสู่ทุกพื้นที่ที่รถไฟผ่าน และยังทำให้ไทยกลายเป็นประเทศแถวหน้าผู้นำนวัตกรรมขนส่งมวลชนที่ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
“หากสามารถทำให้เกิดการสร้างไฮเปอร์ลูปในประเทศไทยได้จริง ไม่เพียงแต่ไทยจะได้ระบบขนส่งมวลชนที่ดี แต่ยังก่อให้เกิดการจ้างงานจำนวนมาก และเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมในประเทศ เนื่องจากภาคเอกชนจะได้ผลิตชิ้นส่วนรถ ราง ท่อเหล็ก และพัฒนาสถานีไฮเปอร์ลูป รวมถึงเดินรถเอง ในขณะที่บริษัทต่างชาติอย่างไฮเปอร์ลูป วัน จะเป็นเพียงผู้ขายเทคโนโลยีไฮเปอร์ลูปให้เท่านั้น” นายธนาธร กล่าว
นอกจากนี้ นายธนาธรได้พูดคุยถึงการร่วมกับกับไฮเปอร์ลูป วัน ตั้งทีมเพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนไฮเปอร์ลูปในประเทศ การศึกษานี้จะเปรียบเทียบกับการศึกษารถไฟความเร็วสูงที่ทำร่วมกับจีนและญี่ปุ่นเพื่อนำเสนอกับสังคมให้เป็นทางเลือกต่อไป อย่างไรก็ตามในการศึกษาครั้งนี้จำเป็นต้องอาศัยความรู้จากภาคเอกชนอีกมาก จึงจำเป็นต้องหาพันธมิตรเข้าร่วมโครงการ และปัจจุบันการอนุรักษ์พลังงานเป็นเรื่องสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยเป็นประเทศที่พลังงานคือสินค้านำเข้าอันดับหนึ่งของประเทศ ถ้าเราสามารถใช้ไฮเปอร์ลูปได้ ไทยจะลดการใช้พลังงานได้อย่างมหาศาลจากการลดการเดินทางโดยรถยนต์ที่เป็นรูปแบบการเดินทางที่ไม่สะอาดและใช้พลังงานสิ้นเปลือง
ทั้งนี้ รถไฟไฮเปอร์ลูปเป็นระบบขนส่งมวลชนรางที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการทดสอบวิ่งและการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้าง โดยฐานทดสอบไฮเปอร์ลูปของเวอร์จิน ไฮเปอร์ลูป วัน ในลาสเวกัส เป็นอุโมงค์ไฮเปอร์ลูปแห่งแรกของโลก ระยะทาง 500 เมตร ขณะที่การใช้งานไฮเปอร์ลูปเชิงพาณิชย์ที่แรกในโลก จะเกิดขึ้นในนครอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในปี 2020 โดยล่าสุด มีหลายประเทศสนใจศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างไฮเปอร์ลูปในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ จีน อินเดีย หรืออินโดนีเซีย
'ปู่พิชัย'หนุนเลือดแท้ชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
https://www.matichon.co.th/politics/news_1139936
เมื่อวันที่ 20 กันยายน นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) คนที่ 4 ให้สัมภาษณ์ผ่านวอยซ์ ทีวี ตอนหนึ่งถึงกรณีการคัดเลือกหัวหน้าพรรคปชป.คนใหม่ว่า
“การคัดเลือหัวหน้าพรรคปชป.ในเวลานี้ คนๆนั้นกำลังหาเสียงอยู่ รวบรวมคนอยู่ ในการที่โหวตวันที่ 26 กันยายนนี้ ถ้าถามผมว่ามองว่าเป็นอย่างไร ผมไม่อยากเอ่ยชื่อคนๆนั้น ผมมองว่าคนๆนั้น ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขประชาธิปัตย์ที่แท้จริง แต่คนที่มีเลือดประชาธิปัตย์ที่แท้จริงนั้น มีอยู่ 3-4 คน ที่จะเป็นนายกฯได้
1.นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคปชป.
2.บัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคปชป.
3.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป.
4.นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว
“ทั้งหมดนี้ ผมมองว่าคือเลือดเนื้อเชื้อไขของพรรคปชป. ส่วนคนที่ 5 ผมมองว่า คือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคปชป. คนดีๆในพรรคปชป.มีมาก อาทิ นายสาวิตต์ โพธิวิหค กรรมการที่ปรึกษาพรรคปชป. นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ กรรมการที่ปรึกษาพรรคปชป. นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ กรรมการที่ปรึกษาพรรคปชป. และอีกหลายคน หลายท่านเหล่านี้คือเลือดประชาธิปัตย์แท้ๆ แต่คนที่กำลังหาเสียง รวบรวมเสียงอยู่ในขณะนี้ที่พยายามจะโค่นนายอภิสิทธิ์นั้นมีอยู่จริง แล้วมีเสียงมากด้วย แต่ผมมองว่าเขาไม่ได้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพรรคปชป. ต่างจากคนที่ผมได้เอ่ยชื่อมานั้นล้วนเป็นคนที่เกิดมาจากพรรคปชป.ทั้งหมด”นายพิชัย กล่าว
ทนายนปช.ร้องอสส.เร่งคดี 99ศพ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังไต่สวนแล้ว 20 ศพ
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_1139275
เมื่อวันที่ 20 กันยายน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายองอาจ คำทอง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ยื่นหนังสื่อต่ออัยการสูงสุด ขอให้เร่งรัดดำเนินคดีเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 99 ศพ เมื่อปี2553 และขอคัดค้านการยุติชันสูตรพลิกศพ โดยมีนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกอัยการสูงสุด เป็นผู้รับหนังสือ
นายองอาจ กล่าวว่า สาเหตุที่มายื่นเรื่องเนื่องจากมีการนำเสนอบทความของสื่อมวลชนเกี่ยวกับการดำเนินคดีดังกล่าว ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่าจะงดการทำสำนวนคดีดังกล่าว โดยกระทำให้ผู้เสียชีวิต 99 ศพ หาตัวผู้กระทำผิดไม่ได้ จึงมีความกังวลว่าคดีจะมีความผิดปกติและจะไม่ได้รับความเป็นธรรม อีกทั้งกฎหมายบัญญัติให้การตายโดยผิดธรรมชาติให้พนักงานอัยการทำคำร้องขอต่อศาล เพื่อให้ศาลทำการไต่สวนและทำคำสั่งว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ใด เมื่อใด สาเหตุการตายคืออะไร จึงอยากให้อัยการดำเนินการสอบสวนคดีต่อไป ที่ผ่านมาศาลได้ดำเนินการไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิตไปเกือบ 20 คดี แต่ยังเหลือสำนวนคดีอีก 70 คดีที่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า หวังว่าอัยการสูงสุดจะให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีดังกล่าวก่อนหน้านี้ทนายความคดีหลักและกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตได้มายื่นเรื่องขอให้อัยการเร่งดำเนินคดีไปแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าคดีเพิ่ม ซึ่งอัยการมีการตั้งคณะทำงานเพิ่มเติมหรือไม่อย่างไรทางกลุ่ม นปช.ไม่เคยทราบ
นายอำนาจ กล่าวอีกว่า เป็นทนายความในส่วนของคดีที่อัยการยื่นฟ้องแกนนำนปช.รวม 24 คน ในความผิดฐานก่อการร้าย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสืบพยานจำเลย แต่เนื่องจากคดีมีรายละเอียดมาก และมีพยานบุคคลหลายปาก ดังนั้น คู่ความจึงตกลงรับกัน ให้จำเลยส่งบันทึกคำเบิกความแทนการสืบพยานจำเลยส่งศาล เพื่อส่งต่อให้อัยการทำคำคัดค้าน ซึ่งจะเป็นการประหยัดเวลา คาดว่าคดีน่าจะเสร็จการพิจารณาประมาณเดือนกันยายน 2562
ขณะที่ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และประชาชน 99 ศพ ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553ว่า ดีเอสไอได้สรุปสำนวนคดีดังกล่าว และคดีก่อการร้ายของชายชุดดำอัยการไปแล้ว แต่บางสำนวนอัยการสั่งสอบเพิ่มเติม ซึ่งดีเอสไอได้สอบสวนในประเด็นต่างๆ เสร็จสิ้นและส่งกลับไปที่อัยการเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังมีคดีบางส่วนที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งกลับมาให้ดีเอสไอ ขณะนี้กำลังสอบสวน