สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
เอางี้ เอาหลักคิดของผมไปใช้นะครับ (ผมเคยผ่านแบบคุณมาก่อน)
เอาเฉพาะกำไรจากการขายของ แซงหน้าเงินเดือน 50% 3เดือนติดต่อกัน ลาออกไปทำเต็มตัวเลยครับ
เช่น เงินเดือน 1หมื่น แต่ขายของแล้วหักต้นทุนแล้ว มีเฉพาะกำไรได้ 15,000บาท/เดือน ติดต่อกัน3เดือนเมื่อไหร่ ก็ลุยเต็มตัวครับ
มีวิทยาทานใหักับมือใหม่เล็กน้อย
คือ
* คุณ อย่ามองข้ามการทำบัญชีเด็ดขาด อย่าขี้เกียจทำบัญชี เด็ดขาด
บันทึกรายการ รายรับ รายจ่าย ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทุกอย่างให้ชัดเจน
* แยกเงินกิจการ กับเงินในกระเป๋าส่วนตัวของคุณให้ชัดเจน อย่าเอามาใช้ปนกัน เด็ดขาด เน้นนะ เด็ดขาด (ถ้าคุณไปเงินกิจการมาใช้ คุณก็ต้องจดบัญชีว่า "ยืม" แล้วเอามาคืน ด้วยความซื่อสัตย์ต่อตนเอง)
* คุณต้องตั้งค่าแรงของตัวเองออกมาให้ชัดเจน ให้เอาค่าแรงของคุณไปรวมกับต้นทุน จะคิดค่าแรงตัวเองกี่บาท ก็ว่าไป แล้วคุณก็เอาเงินค่าแรงตรงนั้นไปใช้จ่ายส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับเงินกิจการ
* เมื่อเงินกิจการสะสมมากขึ้น อย่าโลภ อย่าโกงตัวเอง อย่าเอาเงินกิจการมาผลาญ ให้เอาเงินกิจการไปต่อยอดกับกิจการเท่านั้น
* การที่คุณจะแยกเงินกิจการ กับเงินกระเป๋าได้นั้น คุณต้องมียอดขายที่ดี ถึงจะมีเงินแยกกันได้ และการที่จะมียอดขายที่ดี มีองค์ประกอบหลายอย่างมาก สอนกันยาก คุณต้องสั่งสมประสบการณ์เอาเอง
* ให้คิดทุกอย่างที่เป็นต้นทุน ไม่ว่าจะเป็น ค่าสินค้า ค่าแรงคุณเอง(เหงื่อแต่ละหยด คุณต้องตีออกมาเป็นเงิน) ค่าแรงผู้ช่วย ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่ากล่อง ค่าไม้จิ้มฟัน ค่าเสื่อมรถ (ค่ารถ อาจจะเหมาเป็นค่าขนส่งไปเลย จบ ง่ายดี) ค่าอุปกรณ์(ประเมินอายุการใช้งาน แล้วเอามาหารกับราคาที่ซื้อมา เป็นต้นทุนรายเดือน เช่น ตะหลิว200บาท อายุการใช้งาน1ปี ก็ตกเดือนละ 17บาท เป็นต้น) ถ้าไปเจอด่านรีดไถ ก็เป็นต้นทุน แต่ถ้าคุณไปเที่ยวลงอ่าง,พาเมียไปเลี้ยงข้าว อันนี้ไม่ใช่ต้นทุน แต่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว เป็นต้น แยกแยะให้ออก แล้วทำบัญชีให้เป็นกิจลักษณะ
ตราบใดที่คุณ รู้แต่ยอดขายต่อวัน 1,500บาท
แต่ไม่รู้ต้นทุนที่แท้จริง ไม่รู้ต้นทุนแฝง ไม่รู้กำไรที่แท้จริง ไม่รู้ว่าตัวเองได้เงินค่าแรงเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าจะบริหารจัดการยังไง
ตราบนั้น ให้คุณทำงานประจำ และขายของเป็นรายได้เสริมแบบนี้ไปก่อนเรื่อยๆ
จนกว่าคุณจะคิดได้
แค่นี้เอง จิ๊บๆ
เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ
เอาเฉพาะกำไรจากการขายของ แซงหน้าเงินเดือน 50% 3เดือนติดต่อกัน ลาออกไปทำเต็มตัวเลยครับ
เช่น เงินเดือน 1หมื่น แต่ขายของแล้วหักต้นทุนแล้ว มีเฉพาะกำไรได้ 15,000บาท/เดือน ติดต่อกัน3เดือนเมื่อไหร่ ก็ลุยเต็มตัวครับ
มีวิทยาทานใหักับมือใหม่เล็กน้อย
คือ
* คุณ อย่ามองข้ามการทำบัญชีเด็ดขาด อย่าขี้เกียจทำบัญชี เด็ดขาด
บันทึกรายการ รายรับ รายจ่าย ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทุกอย่างให้ชัดเจน
* แยกเงินกิจการ กับเงินในกระเป๋าส่วนตัวของคุณให้ชัดเจน อย่าเอามาใช้ปนกัน เด็ดขาด เน้นนะ เด็ดขาด (ถ้าคุณไปเงินกิจการมาใช้ คุณก็ต้องจดบัญชีว่า "ยืม" แล้วเอามาคืน ด้วยความซื่อสัตย์ต่อตนเอง)
* คุณต้องตั้งค่าแรงของตัวเองออกมาให้ชัดเจน ให้เอาค่าแรงของคุณไปรวมกับต้นทุน จะคิดค่าแรงตัวเองกี่บาท ก็ว่าไป แล้วคุณก็เอาเงินค่าแรงตรงนั้นไปใช้จ่ายส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับเงินกิจการ
* เมื่อเงินกิจการสะสมมากขึ้น อย่าโลภ อย่าโกงตัวเอง อย่าเอาเงินกิจการมาผลาญ ให้เอาเงินกิจการไปต่อยอดกับกิจการเท่านั้น
* การที่คุณจะแยกเงินกิจการ กับเงินกระเป๋าได้นั้น คุณต้องมียอดขายที่ดี ถึงจะมีเงินแยกกันได้ และการที่จะมียอดขายที่ดี มีองค์ประกอบหลายอย่างมาก สอนกันยาก คุณต้องสั่งสมประสบการณ์เอาเอง
* ให้คิดทุกอย่างที่เป็นต้นทุน ไม่ว่าจะเป็น ค่าสินค้า ค่าแรงคุณเอง(เหงื่อแต่ละหยด คุณต้องตีออกมาเป็นเงิน) ค่าแรงผู้ช่วย ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่ากล่อง ค่าไม้จิ้มฟัน ค่าเสื่อมรถ (ค่ารถ อาจจะเหมาเป็นค่าขนส่งไปเลย จบ ง่ายดี) ค่าอุปกรณ์(ประเมินอายุการใช้งาน แล้วเอามาหารกับราคาที่ซื้อมา เป็นต้นทุนรายเดือน เช่น ตะหลิว200บาท อายุการใช้งาน1ปี ก็ตกเดือนละ 17บาท เป็นต้น) ถ้าไปเจอด่านรีดไถ ก็เป็นต้นทุน แต่ถ้าคุณไปเที่ยวลงอ่าง,พาเมียไปเลี้ยงข้าว อันนี้ไม่ใช่ต้นทุน แต่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว เป็นต้น แยกแยะให้ออก แล้วทำบัญชีให้เป็นกิจลักษณะ
ตราบใดที่คุณ รู้แต่ยอดขายต่อวัน 1,500บาท
แต่ไม่รู้ต้นทุนที่แท้จริง ไม่รู้ต้นทุนแฝง ไม่รู้กำไรที่แท้จริง ไม่รู้ว่าตัวเองได้เงินค่าแรงเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าจะบริหารจัดการยังไง
ตราบนั้น ให้คุณทำงานประจำ และขายของเป็นรายได้เสริมแบบนี้ไปก่อนเรื่อยๆ
จนกว่าคุณจะคิดได้
แค่นี้เอง จิ๊บๆ
เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ
แสดงความคิดเห็น
งานประจำเงินเดือนไม่ถึง 10,000 บาท แต่ขายของได้วันละ 1,200 บาท ลาออกมาขายของเต็มตัวดีไหมครับ?
ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ มีเพิ่มเปิดรับพรีออเดอร์ใน Facebook และ Line เดลิเวอรี่ไปตามบ้านครับ แล้วขายที่ตลาดนัดด้วยครับ มีเวลาเตรียมของทั้งวันขายได้วันละ 1,500-2,000 บาท (ยังไม่หักต้นทุน)
ถ้าคิดจะลาออกจากงานประจำมาขายของเต็มตัว คิดว่าจะพอไหวไหมครับ? อนาคตตั้งไว้ว่าจะเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์ทาง Social Media ให้มากขึ้น เช่น ทำ Facebook Fanpage
ปล. ทำอยู่ต่างจังหวัดครับ