ป่าบงเปียง ไปเหอะ จะได้จบ (บ้านท้ายนา)

เหตุเกิดมาจากการอ่านรีวิว และจะพูดถึง ป่าบงเปียง อยู่บ่อยๆ ประมาณ 2 ปี  จนแฟนบอกว่า  “ไปเหอะ จะได้จบ”

เราออกเดินทางกันเย็นวันศุกร์หลังจากเลิกงาน บินประมาณ สามทุ่ม  ถึง เชียงใหม่ก็ 4ทุ่ม กว่าๆ   คืนแรกเราพักที่ อิม ท่าแพ  จองผ่านทราเวลโลก้า ราคาประมาณ 600 กว่าบาท   ห้องพักสะอาด พนักงานบริการดี  มีแมคโดนัลอยู่ข้างหน้า ถือว่าโอเค  

ตอนเช้า เราออกมาเช่ารถที่ Bikky กาดสวนแต่น้องที่ร้านบอกว่า ปรับปรุงอยู่มีนถน้อย  น้องเลยพาซ้อนมอเตอร์ไซด์มาไปที่สาขาห้วยแก้ว  ได้ แกรนด์ฟีลาโน่ มาในราคา 350 ต่อวัน ไม่มีมัดจำ เช่ามา 2วัน  พร้อมแจ้งคืนรถที่สนามบิน  รถพร้อม หมวกกันน๊อคพร้อม  ไปลุยกัน  

เราออกเดินทางไปสถานที่แรกคือคือวัดพระธาตุดอยคำ  ต่อด้วยแกรด์แคนยอน เสียค่าเข้าไปคนละ 100บาท  หางบัตรเอาไปเป็นส่วนลดค่าน้ำได้ 20 บาท  พออิ่มแล้วก็เริ่มง่วง  หาที่งีบในแกรนด์แคนยอน   5555


ประมาณบ่ายโมง ก็ออกเดินทางต่อ มุ่งหน้าไปน้ำตกแม่ปาน  ให้ จีจี้ (gps) นำทาง จีจี่บอกระยะ 90 กว่ากิโลเมตร  
ทางขับสบายๆ รถไม่เยอะ โชคดีไม่ฝน  ก่อนขึ้นดอยอินทนนท์ มี7-11 และร้านค้า เราแวะตรงนั้นตุนเสบียง  แล้วลุยต่อ

หลังจากนั้นทางเริ่มคดเคี้ยว  มีชันบ้างช่วง มอไซด์นี้อืดบิดไม่ขึ้นเลยย  ไปถึงจุดตรวจที่ 2 จะเทอทางเลี้ยวซ้ายไปแม่แจ่ม  เลี้ยวตรงนั้นแหละ ขับไปเริ่มไม่มีรถ รถสวนก็น้อยลง  เราก็แอบกลัวจะเพราะไม่รู้ว่ามาถูกทางมั้ยย  จีจี้(gps)ไม่บอกทาง เพราะสันยานไม่มีแล้ว  แต่สองข้างทางมีแต่ความเขียว  และหมอกลงมาหน่อยๆ  เพราะเหมือนว่าฝนพึ่งตกไปก่อนที่เราจะมาถึงฟินมาก   อากาศเริ่มเย็น  
  จากทางที่เลี้ยวเข้ามาจากจุดตรวจที่2  ประมาณ 5 กม. จะเจอกับทางแยก ให้เราเบี้ยงซ้าย เข้ามาทางน้ำตกแม่ปานมาเลย  
  

เลยตรงนี้จะเป็นทางลงอย่างเดียว มอไซจะไหล เบรคให้เป็นอย่างเดียวพอ  แถมมีหลุมบ่อ  ควรระมัดระวัง อีกนิดเดียวก็มาถึงน้ำตกแม่ทรายเหลืองมีลานจอดรถ  ข้างๆเป็นที่ทำการอุทยาน   เราจอดมอไซด์ไว้ตรงนั้น    

เรานัดกับบ้านพักที่ป่าบงเปียงให้มารับ ตอนบ่าย 3 กะว่าถึงจุดตรวจที่2จะคอนเฟริมกันรถอีกครั้ง  แต่สันยานโทรศัพท์ไม่มี  ไม่มีสักนิด  แต่โชคดีที่พี่ที่มารับลูกค้าเหมือนกัน ช่วยโทรให้  

ระหว่างเข้าไปบ้านป่าบงเปียงเป็นทางที่ค่อนข้างเละ  เข้าใจแล้วว่าทำไมรถอย่างอื่นไม่สมควรเข้าไป   พี่คนขับบอกเปลี่ยนผ้าเบรคทุกสัปดาห์

[img]https://f.ptcdn.info/743/059/000/pf38vq57zhtFIPArFMY-o.jpg[


บ้านพักเราวันนี้ชื่อ บ้านท้ายนา  ซึ่งเป็นบ้านเปิดใหม่   ตอนแรกเราติดต่อไปที่คุณบัติ บ้านระเบียงนา แต่เต็มแล้ว  คุณบัติบอกว่ามีบ้านของน้ายังว่าง ชื่อบ้านท้ายนา เราก็หารีวิวก็ไม่มี เลยให้คุณบัติหาส่งรูปมาให้ดู  เรารีบจองทันทีเลยจ้า  



  


บ้านท้ายนาจะอยู่ถัดมาจากบ้านระเบียงนาของคุณบัติอีกนิดหน่อย  เดินไม่ไกล  และอยู่ห่างจากบ้านพักอื่นๆ  จะมีเพียงบ้านของน้าคุณบัติที่เป็นเจ้าของบ้านท้ายนาที่เราไปพักอยู่ใกล้ๆกันเท่านั้น






และมื้อเย็น  วิวห้าล้านวันนี้คือเมนูง่ายๆ  
มีไข่เจียว  ผัดผัก  และยำปลากระป๋องมั้ง  นาจะใช่แหละ   รวมๆแล้วอร่อยๆ  

และที่บ้านพักจะมีหลอดไฟเล็กๆให้1 อัน แต่สว่างดี ใช้แทนเทียน แต่ปลั๊กไฟไม่มีนะจ๊ะ  อากาศตอนเย็นๆจะเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ  เราก็นั้งคุยนั้งจิบกันเวลาล่วงเลยจนฟ้ามึดสนิท  มีแต่แสงสว่างจากไฟ้ดวงน้อย นึกได้ว่ายังไม่ได้อาบน้ำ  ตายละหว่า แต่ยังไงก็ต้องอาบ   น้ำที่นี้เป็นน้ำจากธรรมชาติที่เย็นยะเยือกมาก  ซะใจจริงๆ  555 คืนนี้เรานอนกันตั้งแต่ 3ทุ่ม  อากาศเย็นทั้งคืน  เงียบสงบจริงๆ ได้ยินแต่เสียงจิ้งหรีดแมลงจริงๆ  

เราตื่นเช้ามาพร้อมกับเม็ดฝนบางๆ อากาศยิ่งเย็นไปอีก


   

อาหารเช้าของเราในวันนี้ ก็มีข้าวเปล่า ต้มจืด ไข่เจียว และผัดพริกแกง  ซึ่งผิดกับที่คิดไว้ว่าน่าจะเป็นเพียงข้าวต้ม  
ขอบอกว่าข้าวที่ป่าบงเปียงอร่อย  เมล็ดคล้ายๆกับข้าวญี่ปุ่น  นิ่มๆ อร่อยๆ  เรียกว่าข้าวอะไรไม่รู้จำไม่ได้ และมีแต่ภาษาถิ่นของที่นั่นไม่มีชื่อภาษาไทย



หากใครจะหาที่พัก บ้านป่าปงเปียง  เราขอแนะนำ  บ้านท้ายนา  ติดต่อที่คุณบัติ บ้านระเบียงนาได้เลย  วิวดีอาหารอร่อยๆ  เจ้าของน่ารัก  มีโอกาสจะไปอีกจ้า






ปล. กระทู้เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรก  ผิดพลาดยังไงขออภัยจ้า  

ปล.2  ภาพไม่ได้แต่ง ถ่ายจาก ไอโฟนเอสอี  ของจริงสวยกว่าในภาพแน่นอน  เชิญไปสัมผัส