วัดศรีมุงเมือง ... วัดของชาวไทลื้อเมืองเชียงใหม่

ตั้งอยู่ที่ ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด เชียงใหม่
ทางเข้าหมู่บ้านลวงเหนือ อยู่ก่อนถึงและเยื้องโรงพยาบาลดอยสะเก็ด





บ้านลวง อำเภอดอยสะเก็ด เป็นชุมชนชาวไทลื้อจากเมืองลวงสิบสองปันนา มีสองตำบลคือตำบลลวงเหนือและลวงใต้
ชาวไทลื้อ ตำบลลวงเหนือสันนิษฐานว่า
อพยพมาจากสิบสองปันนาเมื่อปี พ.ศ. 1932
อพยพมาตามพญาแสนเมืองมาเมื่อกลับจากการเยือนสิบสองปันนา
พร้อมกับพระชายาได้คลอดพระโอรสคือพญาสามฝั่งแกนที่นี่ ซึ่ง พ.ศ. 1944 จึงได้มาสร้างวัดไว้ที่ที่พระองค์ประสูติ คือวัดบุรฉัตร >> ศรีมุงเมือง

แตก็มีอีกข้อสันนิษฐานของบ้านเมืองแกน ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตงว่า
พญาสามฝั่งแกนได้ประสูติที่พันนาสามฝั่งแกน หรือเมืองแกนปัจจุบัน ซึ่งเป็นเมืองที่มีแม่น้ำสามสายคือ แม่น้ำแกน แม่น้ำปิง และ แม่น้ำงัด

หลังจากที่พาไปวัดไทยใหญ่ เจดีย์พม่าที่วัดป่าเป้า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วัดไทลื้อที่วัดร้องแง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ , วัดท่าฟ้าใต้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ .วัดต้นแหลง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ให้ได้คุ้นตากับศิลปะของแต่ละวัดแล้ว

วันนี้จะพาไปชมวัดศรีมุงเมือง
ในสองระยะคือ พ.ศ. 2552 ... กำลังบูรณะเจดีย์ ยังไม่ได้บูรณะวิหาร และ พ.ศ. 2561 ... ทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์แล้ว










โบสถ์
ได้รับวิสุงคามะสีมาจากรัชกาลที่ 5
ช่อฟ้าเป็นนกหัสดีลิงค์
ลำยองเป็นลำตัวนาคเรื่องมาจนเป็นนาคเบือน






บันไดมกรคายนาค





หน้าบัน ช้างเอราวัณ และลายพรรณพฤกษา
โก่งคิ้วเป็นนาคม้วนหางมาจรดกันที่ตรงกลาง ห้อยรวงผึ้ง





ไม่ได้เข้าไป





วิหารเดิม





ภายใน
ตุง ... คือเช็ดหลวงเป็นผ้าทอพุทบูชาให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ... ให้เกาะขึ้นสวรรค์





ตรงกลางหน้าพระประธาน ตามรูปข้างบบ เป็นบ่อสี้หลี่ยม มีหลวงพ่อสามองค์
พลวงพ่อเพชรเชียงแสนสิงห์หนึ่ง หลวงพ่อศิลปะสุโขทัย และหลวงพ่อบัวเข็ม





หลวงพ่อเชียงแสนสิงห์หนึ่ง ประดิษฐานในโขงปราสาท
ลวดลายนกยูงประดับในซุ้มตัวลวง
ล้อมด้วยเครื่องสูงที่มีตัวลวงอยู่ด้วย





หม่องปันโหย่/อูปันโย แปลว่าดอกไม้
มีชื่อที่เรียกกันทั่วไปว่าหลวงโยฯ หรือพญาตะก่า(พะยาตะก่า)ปันโหย่
พ่อค้าไม้ชาวพม่า ได้บริจาคไม้เพื่อสร้างและบูรณะวัดในเชียงใหม่ รวมทั้งวัดนี้
ภายหลังได้รับพระราชทานยศเป็น รองอำมาตย์เอกหลวงโยนะการพิจิตร





วิหารใหม่
พระพุทธรูปบัวเข็ม หน้าวิหาร
ซึ่งทั่วไปจะหมายถึงพระอุปคุตซึ่งท่านปฏิบัติธรรมอยู่ที่สะดือทะเล
ท่านจึงจะต้องประทับที่กลางน้ำเสมอ





หลังคาผสมผสานไทลื้อแบบทรงโรงและฮ่างหงส์
วิหารล้วนประดับด้วยต้วลวง
มีขาสี่ขา อย่างมังกร มีหู มีปีกและ มีเขาเหมือนกวาง
มีความเชื่อที่สัมพันธ์กับฝน คือเมื่อตัวลวงแหวกว่ายขึ้นบนฟ้า จะทำให้ฟ้าแลบฟ้าร้อง เรียกว่า พญาลวงเล่นฝ้า ... ทำให้เกิดฝน
บันได ... ตัวลวง
ตรงกลางเป็นซุ้มประตูโขงแบบล้านนา
ขนาดกี่ห้อง ... ลืมนับค่ะ ไม่มีมุข





มุมชายคาด้านหน้าเป็นรูปบุคคล





ปราสาทเฟื้องเป็นฉัตร
สันหลังคาประดับหงส์
ช่อฟ้าเป็นตัวลวง ... สังเกตจากมีเขา






นาคทัณฑ์หรือคันทวย รูปตัวลวง





ลอดซุ้มประตูโขง เป็นภาพเขียนตัวลวง





บานประตู





หน้าบันวิหาร
รูปตราสัญลักษณ์เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
ชื่อวิหาร ... ปุญญมากโรปูชา
นกยูง ... สัญญลักษณ์สิบสองปันนา
ในซุ้มต้วลวง ประดับลายพรรณพฤกษา





ช่องประตูวิหาร ห้อยโซ่น่าจะกันนกเข้า ด้านขวาเป็นเทวดาถือไอแพด





วันนี้เป็นวันพระ ... ทางเหนือเรียกว่าวันศีล
วิหารเปลี่ยนไปจนแปลกตาจากที่เคย
ด้านขวาของพระประธานเป็นธรรมมาสน์ทรงปราสาท
ถัดมาชิดกำแพงวางตั่งเป็นที่นั่งพระสงฆ์





หอพระธรรมธาตุบูรพาจารย์ สร้างเมื่อ พ.ศ.2554





พระประธานคือพระบัวเข็ม
ประดิษฐานอัฐิธาตุของพระเกจิอาจารย์ รวมทั้งพระอัฐิธาตุข้อนิ้วเมือของหลวงตามหาบัว





เจดีย์ศิลปะพม่า ด้านหลังวิหาร
เป็นเจดีย์ที่สร้างเมื่อ พ.ศ. 1944 มีการบูรณะต่อ ๆ มา
จนเจดีย์ได้ชำรุดทรุดโทรมอีกครั้งจึงได้บูรณะขึ้นใหม่
ภาพเมื่อปีพ.ศ. 2552 เจดีย์สีขาว ... บูรณะแล้ว
และ พ.ศ. 2561 เจดีย์สีทอง เพิ่มเติมจนสวยงามเข้ากับวัดใหม่

เจดีย์เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า
เป็นเจดีย์ทรงปราสาท ประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ ส่วนฐาน ส่วนเรือนฐาน และส่วนยอด





ซุ้มประตูเข้าบริเวณเจดีย์







ซุ้มประตูทางทิศใต้
มีเด็กผมจุกที่เท้าของสิงห์
พระพุทธรูปปางมารวิชัยในซุ้ม






พระในซุ้มเจดีย์คือพระพุทธเจ้าในกัลป์นี้ ... ภัทรกัป สี่ด้าน สี่พระองค์ที่ตรัสรู้แล้ว
คือ พระกกุสันธะ พระโกนาคม พระกัสสัปปะ พระโคตม
ด้วยมีความเป็นพระพุทธเจ้าเท่ากัน จึงมีพุทธลักษณะเหมือนกันทุกประการ






เด็กที่เท้าสิงห์






สิงห์ที่มุมอีกตัวคาบมนุษย์ผู้หญิงไว้
จากตำนานสีหพาหุ ใน มหาพงศาวดารลังกา ว่า
ราชสีห์ตัวหนึ่งลักพาเจ้าหญิงองค์หนึ่งไปไว้ในป่า
ขณะนั้นเจ้าหญิงมีพระโอรสและพระธิดาซึ่งยังเป็นทารก ราชสีห์ก็ดูแลเลี้ยงดูจนเติบใหญ่
เมื่อพระโอรสทราบความจริงจึงพาพระมารดาและพระขนิษฐาหนีกลับเข้าวัง
ด้วยความรัก ราชสีห์ได้พยายามตามหาเพื่อพาเจ้าหญิงกลับไปอยู่ด้วย
ระหว่างทางใครมาขัดขวางห้ามปรามก็จะถูกฆ่าตายหมดด้วยเสียงที่ก้องกัมปนาท
พระโอรสจึงยิงธนูกรอกปากราชสีห์ตาย
เมื่อพระโอรสได้รับการสถาปนาเป็นกษัตริย์ งานราชการไม่ราบรื่น
ปุโรหิตจึงทูลว่าเป็นเพราะบาปกรรมที่ฆ่าราชสีห์ผู้มีพระคุณ
พระองค์จึงปวารณาตนว่าจะสร้างรูปราชสีห์ไว้ที่ประตูวัด หรือที่มุมเจดีย์ เพื่อเป็นการไถ่บาป






ส่วนฐาน
ฐานเขียงสี่เหลี่ยม ประดับสิงห์ที่มุม และตรงกลางฐาน
ยกเว้นทางทิศตะวันออกด้านพระโคตมเป็นสถูป หรือ สถูปิกะ
ถัดไปเป็นฐานปัทม์ 3 ชั้น
ฐานปัทม์ชั้นล่าง มุมทั้งสี่ด้าน ประดับสถูป หรือ สถูปิกะ
ฐานปัทม์ชั้นสอง มีซุ้มพระเจ้า มุมทั้งสี่เฝ้าด้วยนรสิงห์
ฐานปัทม์ชั้นที่สาม มุมทั้งสี่ประดับด้วยหม้อดอก
เหนือซุ้มพระเจ้า ประดับเทวดา หม้อดอกและฉัตร






ถัดขึ้นไปเป็นผังแปดเหลี่ยม รับผังกลม และ บัวปากระฆัง





เจดีย์ทรงระฆัง มีรัดอกคือเส้นคาดกลางองค์ระฆัง
ส่วนยอด
ไม่มีบัลลังก์ ... ลักษณะเฉพาะของเจดีย์พม่า
สันนิษฐานว่าพระเจ้าอนิรุธทรงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากบัลลังก์ลงมาบรรจุอยู่ในใจกลางส่วนล่างของเจดิย์ จึงไม่ต้องมีบลัลังก์อีกต่อไป เรียกว่าแบบอนิรุธ
จึงเป็นปล้องไฉน
ปัทมบาทคือส่วนที่มีบัวคว่ำบัวหงายที่มีลายกลีบบัวขนาดใหญ่ ... ลักษณะเฉพาะของเจดีย์พม่า
ปลี ทรงพุ่มเตี้ย ๆ คล้ายดอกบัวตูม
และฉัตรโลหะ





ปิดท้ายด้วยโฮงหลวง คือกุฏิเจ้าอาวาส

แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่