บันทึก...เมื่อฉันเป็นโรคซึมเศร้า

สวัสดีค่ะ ทุกๆคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้
        ฉันขอแนะนำตัวไม่ออกชื่อนะคะ เราอายุ 24 ปี ทำงานแล้วค่ะ จะมาเล่าประสบการณ์ของโรคซึมเศร้าที่เราเป็นอยู่ ว่าอาการเป็นอย่างไร เกิดจากอะไรบ้าง และมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างไร
     เริ่มต้นที่เราตัดสินใจไปหาหมอ ก็เกิดมาจากเครียดเรื่องถูกโกงเงินขายของไปประมาณ  1 แสนกว่าบาท จากคนที่เราไว้ใจ ซึ่งทำให้เราเครียดมากเพราะที่บ้านไม่ชอบให้ขายของ ให้ทำงานเก็บเงินอย่างเดียว และด้วยเราผิดคำพูดกับครอบครัวทำให้เรากลัวไม่กล้าบอกความจริง ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนคืนลูกค้า แต่เหมือนฟ้าก็ไม่ได้ใจร้ายกับเรา ส่งคนใจดีมาให้ คนนั้นคือ แฟนของเราเอง เขาช่วยในเรื่องให้ยืมเงินและจัดการเรื่องทุกอย่างให้จนจบ แต่เราก็ไม่เคยหายเครียด คิดว่าตัวเองแย่ ทำให้คนอื่นเดือดร้อน โดยเพื่อน พี่ น้อง ที่รู้จักเกลียดเพราะถูกใส่ร้ายว่าเราโกง จากที่เคยชอบเล่นเกมส์ก็รู้สึกเบื่อ ชอบดูหนังก็เบื่อ อะไรที่สนุกๆ เบื่อหมดเลยเราเป็นแบบนี้อยู่เกือบ 1 เดือน แล้วแฟนเราจึงขอร้องให้ไปหาหมอ ก็พบว่าเป็น "โรคซึมเศร้า"
  
อันนี้เราจะมาเล่าแบบลำดับเรื่องราวที่เราอยากแชร์นะคะ
        [จุดเริ่มต้น]  
         เราไม่เคยสงสัยอะไรเลยว่าเราเป็นมาตั้งแต่ตอนไหน แต่เราได้รับความกดดันมาตั้งแต่เด็ก ถูกเลี้ยงดูมาแบบเปรียบเทียบและครอบครัวแบ่งฝ่ายกัน คือ แม่กับปู่ย่าเราจะไม่ค่อยถูกกันเท่าไรนัก เราเลยโตมาแบบเก็บกด กลัวที่จะบอกปัญหาของเราต่อครอบครัว เก็บไว้คนเดียว กลัวการแตกแยก กลัวการลาจาก และไม่อยากสร้างปัญหาให้กับใคร และด้วยครอบครัวมีคนป่วยโรคซึมเศร้า และฆ่าตัวตาย 3 คน หมอจึงบอกเพราะกรรมพันธุ์ของเราด้วย
     [การใช้ชีวิตหลังจากรู้ผล]
       เรามีแฟนอยู่คนนึง เค้าเป็นคนที่ดีมาก ดูแลเรา รักเรา แต่ควาสัมพันธุ์ของเรามันพังลงเพราะ "ฉันป่วยเป็นซึมเศร้า" คนที่ป่วยด้วยโรคนี้จะต้องการคนเห็นด้วยกับที่เขาคิด ถ้ามีอะไรไม่ถูกใจจะโมโหร้าย ควบคุมตัวเองไม่ได้ โวยวาย และเราเป็นแบบนั้นเราคบกันก็ทะเลาะกันมาโดยตลอดเพราะความที่เราควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ไร้เหตุผล ต้องการได้อยู่ฝ่ายเดียว คิดว่าไม่มีคนเข้าใจเลยแม้กระทั่งแฟนเรา ครอบครัว ความจริงเราไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้นเลย ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกใคร เราแค่อยากบอกว่าเราก็ทรมานมากแค่ไหน กับการที่รู้สึกเบื่อไปหมด หงุดหงิด ไม่มีใครเข้าใจ แม้แต่คนที่รัก และด้วยอาการตรงนี้มันทำให้เราเริ่มมีปัญหาชีวิตคู่ เราทะเลาะกันบ่อยเพราะความไม่ควบคุมสติ ไม่มีเหตุผลของเรา ทำให้ความรู้สึกของอีกฝ่ายหมดลงไปเรื่อยๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว และเราไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ เรามีปัญหากันหนักมาก เขาขอเลิกกับเรา เพราะกลัวที่เราเป็นแบบนั้น ( แต่หลังจากเราได้รับการรักษา เราไม่หงุดหงิดง่ายและควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วค่ะ) เขาเลยพยายามตีตัวออกห่างเราไป แต่เราก็คุยกันว่า ลองกันใหม่นะ ตัวฉันคนนั้นมันไม่ใช่ตัวฉัน ตอนนี้ฉันเปลี่ยนไปแล้ว แต่ตอนเขาขอเลิก เขาบอกความรู้สึกได้เปลี่ยนไปแล้ว แต่เราก็ไม่อยากเสียเขาไปเพราะเขาช่วยเราผ่านปัญหามาด้วยกันตั้งมากมาย แต่สุดท้ายเมื่อความรู้สึกคนเปลี่ยน กลัวเราไปแล้วก็อยากจะกลับมา เขาเปลี่ยนไปมาก ทั้งที่เราพยายามรักษาตัวเองให้หายเพื่อความรักของเราจะกลับมาดีดังเดิม แต่มันก็เหมือนสายเกินไป ไม่ทันแล้ว เขาไม่ได้รักเราอีกแล้ว สุดแรงเราจะยื้อเพราะมีแค่เราที่ปรับตัวเขาหาเขา เขาขอมีเวลาส่วนตัวกับที่บ้านเราก็ให้ ไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย และเราก็โอเคมากๆ ปกติเราก็เป็นคนไม่ค่อยชอบออกไปไหน แต่เมื่อมีแฟนก็ต้องให้เวลากันและกันบ้าง
        แต่แล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเราออกมาเจอกัน กินข้าวด้วยกัน แต่ความรู้สึกของคนที่เปลี่ยนไป เดินไม่จับมือ เดินไม่ข้างเรา ถ้าใครเคยเจอคงจะรู้นะคะ ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน เราเลยมีเรื่องทะเลาะกันอีกรอบ แต่เป็นการคุยสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่าใช้อารมณ์ คือ เขารู้สึกผิดที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ ไม่อยากให้เรารู้สึกแย่เพราะความรู้สึกเขามันหมดลง เลยตัดสินใจลองให้เวลาอยู่กับตัวเขาดูว่าต้องการเลิกจริงๆ ใช่ไหม ผ่านไป 3 วันเขาก็ขอให้เราเลิกกันดีกว่า เขาคิดดีแล้ว ยอมรับผิดที่เข้ามาทำให้เรารักและจากเราไป ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาไม่พร้อมจะมีแฟน ยังอยากมีชีวิตอยู่คนเดียวมากกว่า เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะถ้าเป็นแบบนี้ก็คงต้องยอมปล่อย เราพยายามแล้ว แต่เราพยายามอยู่ฝ่ายเดียว พยายามมีสติ ระงับอารมณ์ กินยาตามหมอสั่งอย่างเคร่งครัด ออกกำลังกาย เพราะฉันจะหายเพื่อเขา เพื่อคนที่เรารัก แต่....เวลาของเราก็หมดลงไป
         ฉันเสียใจมากกับเหตุการณ์นี้ รู้สึกผิดหวัง มืดมน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ภาพความทรงจำเก่าๆย้อนกลับมา คำพูด คำสัญญาว่าเราจะไปเที่ยวด้วยกัน เราไปทำนู่นนี่ด้วยกัน แต่สุดท้ายเราก็ยังไม่ได้ทำมันเลย แต่วันนั้นเหมือนฟ้าก็ยังใจดีกับเราอยู่ ย่าโทรมาหาถามเราเป็นอย่างไรบ้าง ดูแลตัวเองดีๆนะ ไม่มีรักหนูเท่าเขาอีกแล้ว ......เราเสียใจเลยที่เป็นคนแบบนี้ อ่อนแอ ตอนนั้นเราไม่ได้คิดบวกเลย คิดแต่เราไม่มีค่า ให้คนอื่นค่อยเป็นห่วง ใครๆ ก็ไม่อยากอยู่ใกล้คนแบบฉันหรอ ไม่มีใครเข้าใจอาการป่วยนี้เลยหรือไงกัน เขาจะรู้ไหมว่าเราต้องเข้มแข็งขนาดไหน ต่อสู้กับมันขนาดไหน ความเสียใจนี้ทำให้เรา ไม่อยากทำอะไร ไม่หิวข้าว นอนเฉยๆ เหมือนคนที่ไร้วิญญาน เหม่อลอย ตอนนั้นเรารู้ตัวว่าถ้าเป็นแบบนี้ไปอีกจะต้องไม่ดีแน่ ถ้าเศร้านานๆ เราจึงพยายามทำให้ตัวเองหลับเวลาจะคิดอะไรโง่ๆ ออกมา มันเจ็บปวด มันทรมานมากๆ แต่ทุกคนรอบตัวเราก็ให้กำลังใจเรา เพราะรู้เราเป็นอะไร และเจอเรื่องอะไร เราอยากขอบคุณมากๆ เราจะรู้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว มีคนรักเราอยู่ข้างๆ เราอีกมากมาย เราพยายามคิดแบบนี้ เพื่อต่อสู้กับโรคซึมเศร้าที่มันกำลังจะครอบงำเรา แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะดีขึ้น สภาพจิตใจไม่รู้อีกนานแค่ไหนจะดีดังเดิม
      นี่ก็ผ่านมาเกือยอาทิตย์แล้วที่เราเลิกกับแฟนไป เราเหนื่อยที่ต้องเจอกันเพราะความจำเป็น เราอยากหนีไปไกลๆ อยากตายจากคนที่เป็นอยู่ อยากได้ชีวิตเดิมกลับมาตอนไม่มีใคร แต่มันยากมากสำหรับเรา มันจะมีแรงสู้แค่แปบเดียว พอผ่านไปสักพักก็ท้อ เหนื่อยไปหมด เบื่อ ไม่อยากเป็นแบบนี้แล้ว อยากไปจากที่นี้ ไปจากชีวิตแบบนี้ เราก็ยอมรับว่าหมดกำลังใจในการรักษาโรคนี้ไปครึ่งหนึ่งเหมือนกัน แต่....เราก็คิดได้ว่า นั่นไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต เราต้องรักตัวเอง อะไรที่ทำให้เราเครียด รู้สึกแย่ ก็พยายามอย่าสนใจมัน อย่าเก็บมันมาคิด แต่มันก็แค่ช่วงระยะเวลานึงเท่านั้น  แต่เราเชื่อนะว่า "เวลา" จะเยียวยาทุกสิ่งเอง เราปรับวันนิดไปเรื่อยๆ สักวันสิ่งที่ทำเราเสียใจ กังวล รู้สึกแย่ มันจะค่อยๆจางหายไปเอง และความรักของเราก็ไม่ใช่การครอบครอง เขามีความสุขที่เขาไปเป็นตัวของตัวเอง อยากเป็นในสิ่งที่เขาต้องการ แม้ไม่มีเราก็ตาม เราก็จะทำใจ พยายามยินดีกับเขาให้ได้ ในวันใดก็วันนึง แต่ต้องมั่นใจนะคะ ว่าเราจะทำได้แต่ค่อยๆ ทำไป ทุกๆอย่างจะดีขึ้นเอง เราเชื่อแบบนี้
       .....อย่าให้ โรคนี้พลากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากคุณ และฝากถึงใครที่มีเพื่อน แฟน พี่น้อง ครอบครัว คนใกล้ชิดเป็นโรคนี้ พยายามเข้าใจเขาหน่อยนะคะ ยอมรับว่าเรากลัวการบอกคนอื่นมากเช่นกัน กลัวเขาคิดว่าเราไม่ปกติตลอดชีวิต ไม่หาย แต่โรคนี้รักษาได้ค่ะ เพราะมันเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมองแล้วอาการแสดงออกมาทางอารมณ์อาจจะทำให้คนใกล้ชิดรู้สึกแย่ อดทนไปกับเขาหน่อยนะคะ เขาก็รู้ตัวและพยายามอยู่เช่นกัน เป็นกำลังใจให้กัน อย่าทอดทิ้งเขา รักเขา เข้าใจกัน ช่วยให้เขาผ่านจากโรคนี้ไป แล้วอนาคตที่สดใสรอคุณอยู่แน่นอนค่ะ

     วันนี้เราจะมาเล่าแค่นี้ก่อนนะคะ ขอบคุณสำหรับเข้ามาดู มาอ่านกันนะคะ ใครที่ป่วยก็เราทำดีกันแล้วค่ะ ทำต่อไปเรื่อยๆ กัน เพื่อความสุขมากๆที่เราอยากมีค่ะ ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่