พวกคุณเคยเห็นคง post complain ในเพจของ major group กันบ้าง ไม่มากก็น้อยแหล่ะเราเชื่อ ... แต่ทว่าโพสเหล่านั้นไม่ถูกตอบกลับจากเมเจอร์เลย เราเลยคิดว่า ถ้าไปโพสแบบนั้น ก็ไม่มีทางแก้ปัญหาอีกตามเคย... กระทู้นี้ยาวหน่อยนะคะ
เอาหล่ะเข้าเรื่อง เรื่องนี้เกิดมาตั้งแต่หนังเรื่อง Avenger3 เข้าฉายใหม่ๆ ซึ่งจากการที่เราอ่านรีวิว และดูตัวอย่างหนังมันดูสนุกมากก เราเลยอยากไปดูมากก วันนั้นเราเลยตัดสินใจจองออนไลน์ ตั้งแต่กลางวันเพื่อไปดูในตอนเย็นกับเพื่อนอีกคน (เพราะปกติหนังเข้าใหม่จะเต็มไว ไปถึงอาจจะไม่ได้ดูถ้าไม่ได้จองก่อน) ตัวเราเองชอบดูหนังแบบ soundtrack เพราะรู้สึกว่าพากย์ไทยไม่ค่อยได้อารมณ์ตัวละครเท่าไหร่ คหสต.นะคะ เราเลยจองไปที่รอบที่เป็น soundtrack
อย่างที่ปรากฎในรูปเราจองออนไลน์ เขียนว่า english ปกติจะเป็น soundtrack แต่พอหนังเริ่มฉายปุ๊บ ... ให้เสียงภาษาไทย เฉยเลยค่ะ เรากะเพื่อนก็มองหน้ากัน เลยหันไปดูว่ามีคนตกใจแบบเราไหม มีคนแค่บางกลุ่มที่ตกใจ แต่อีก 80% นั่งดูต่อโดยที่ไม่สงสัยอะไรเลย เรารอคิดว่าจะมีคนมาเปลี่ยนฟิล์ม แต่ก็เปล่า... มีคนบางส่วนวิ่งออกไปจากโรง ซึ่งทางเราคิดว่าเค้าคงออกไปบอกเคาน์เตอร์เรื่องพากย์ไทย แต่คนเหล่านั้นก็ไม่กลับเข้ามา เพื่อนเรา (ซึ่งดูมาแล้วรอบนึง แต่นางอยากมาดูอีกรอบ) อาสาบอกว่าเดี๋ยวออกไปถามให้เอง พวกที่ออกไปไม่กลับมาสักที
ผ่านไป 5 นาที ได้เรื่องว่าโรงนี้ขายตั๋วพากย์ไทยอยู่แล้ว แต่ในแอพไม่ได้อัพเดทให้เป็นพากย์ไทย จึงขึ้นว่าเป็น soundtrack ดังนั้นจึงมีให้เลือก 2 ทางคือ 1. ลูกค้าสามารถรับเงินคืนและออกจากโรงหนังไป กับ 2. ลูกค้าสามารถย้ายรอบไปดู soundtrack รอบต่อไปได้ (ซึ่งเหลือแต่แถวหน้า)
ทางเลือกทั้งสองที่เสนอมาเราเองรับไม่ได้ เพราะถ้าเราเอาเงินคืน เราต้องหาเวลาเคลียธุระที่มอ. เพื่อมาดู soundtrack อีกทีอยู่ดี เรามองว่าเราเสียเวลาซ้ำซ้อน คนเราก็คงไม่ได้ว่างมาโรงหนังทุกวันใช่ไหมหล่ะคะ อุส่าเคลียร์งานที่มอ. อุส่าจองตั๋วก่อนเพื่อมาดูหนัง แค่เจออะไรแบบนี้ก็เซงละค่ะ ส่วนดูรอบถัดไปตัดไปได้เลยค่ะ ที่เต็มทั้งโรงเราจะไปนั่งที่ไหน เราเลยตัดสินใจดูต่อ จนจบและคิดว่าเดี๋ยวออกมาจะมาถามพนักงานเกี่ยวกับความผิดพลาดครั้งนี้อีกที
เมื่อหนังจบ เราก็เดินออกมาถามพี่พนักงานที่อยู่เคาน์เตอร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกนางก็รวมตัวกันเดินเข้ามาอธิบาย อย่างที่เล่าไว้ข้างต้น เราเลยถามถึงความรับผิดชอบที่โรงหนังมีต่อลูกค้า เพราะเราเสียเงิน เสียเวลามาดูหนังที่โรงคุณนะ แต่เรากลับเจอยังงี้ คุณรับผิดชอบเราได้เท่านี้หรอคะ พนักงานสาวสองท่านนึงนางกล่าวว่า "ก็ทางโรงหนังอัพเดทไปแล้ว แต่แอพไม่อัพเดท ผิดทางเทคนิคที่ไม่ได้อัพเดทในแอพค่ะ" และลูกค้าก็ได้ดูหนังรอบนี้ไปแล้ว ทางโรงหนังไม่สามารถคืนเงินค่าตั๋วให้ได้ค่ะ บลาๆๆ
สรุปก็คือ เราเลือกจะดูหนังของเค้าแล้ว เท่ากับเค้าจะไม่คืนตังค่าตั๋วแก่เรา โอเคอันนี้เก็ท แต่ที่ไม่เก็ทคือ คุณโทษทางเทคนิคของคุณ อย่าลืมสิคุณ ว่าช่างเทคนิคก็คือพวกคุณเหมือนกัน แทนที่คุณจะขอโทษ รับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่โทษคนนู้นคนนี้ ชั้นไม่ผิด คืออะไร ? อีกอย่างนึงเพิ่งนึกได้ตอนเดินออกมาจากพวกนางก็คือ ปกติรอบหนังสามารถดูได้ข้ามวันนิ มันสามารถแก้ไขก่อนได้นิ ก่อนที่หนังรอบนี้จะฉาย หรืออาจเป็นเพราะไม่ได้เช็ค ??
สิ่งที่เราต้องการจากการมาตั้งกระทู้ในครั้งนี้ ไม่ได้หวังจะเอาเงินคืนเพราะมันผ่านมานานแล้ว แต่จะมาถามเพื่อนๆว่า
ถ้าคุณเป็นเรา คุณจะเลือกอะไร? และถ้าคุณเป็นผู้จัดการเมเจอร์ในวันนั้นคุณจะรับผิดชอบต่อลูกค้าคุณยังไง ?แล้ววว คุณคิดว่าเมเจอร์ทำอย่างนี้ถูกแล้วหรือไม่ ?
ขอบคุณที่อ่านจบถึงตรงนี้นะคะ ขอบคุณค่ะ
เมเจอร์เค้าทำถูกต้องแล้วหรอคะ ?
เอาหล่ะเข้าเรื่อง เรื่องนี้เกิดมาตั้งแต่หนังเรื่อง Avenger3 เข้าฉายใหม่ๆ ซึ่งจากการที่เราอ่านรีวิว และดูตัวอย่างหนังมันดูสนุกมากก เราเลยอยากไปดูมากก วันนั้นเราเลยตัดสินใจจองออนไลน์ ตั้งแต่กลางวันเพื่อไปดูในตอนเย็นกับเพื่อนอีกคน (เพราะปกติหนังเข้าใหม่จะเต็มไว ไปถึงอาจจะไม่ได้ดูถ้าไม่ได้จองก่อน) ตัวเราเองชอบดูหนังแบบ soundtrack เพราะรู้สึกว่าพากย์ไทยไม่ค่อยได้อารมณ์ตัวละครเท่าไหร่ คหสต.นะคะ เราเลยจองไปที่รอบที่เป็น soundtrack
อย่างที่ปรากฎในรูปเราจองออนไลน์ เขียนว่า english ปกติจะเป็น soundtrack แต่พอหนังเริ่มฉายปุ๊บ ... ให้เสียงภาษาไทย เฉยเลยค่ะ เรากะเพื่อนก็มองหน้ากัน เลยหันไปดูว่ามีคนตกใจแบบเราไหม มีคนแค่บางกลุ่มที่ตกใจ แต่อีก 80% นั่งดูต่อโดยที่ไม่สงสัยอะไรเลย เรารอคิดว่าจะมีคนมาเปลี่ยนฟิล์ม แต่ก็เปล่า... มีคนบางส่วนวิ่งออกไปจากโรง ซึ่งทางเราคิดว่าเค้าคงออกไปบอกเคาน์เตอร์เรื่องพากย์ไทย แต่คนเหล่านั้นก็ไม่กลับเข้ามา เพื่อนเรา (ซึ่งดูมาแล้วรอบนึง แต่นางอยากมาดูอีกรอบ) อาสาบอกว่าเดี๋ยวออกไปถามให้เอง พวกที่ออกไปไม่กลับมาสักที
ผ่านไป 5 นาที ได้เรื่องว่าโรงนี้ขายตั๋วพากย์ไทยอยู่แล้ว แต่ในแอพไม่ได้อัพเดทให้เป็นพากย์ไทย จึงขึ้นว่าเป็น soundtrack ดังนั้นจึงมีให้เลือก 2 ทางคือ 1. ลูกค้าสามารถรับเงินคืนและออกจากโรงหนังไป กับ 2. ลูกค้าสามารถย้ายรอบไปดู soundtrack รอบต่อไปได้ (ซึ่งเหลือแต่แถวหน้า)
ทางเลือกทั้งสองที่เสนอมาเราเองรับไม่ได้ เพราะถ้าเราเอาเงินคืน เราต้องหาเวลาเคลียธุระที่มอ. เพื่อมาดู soundtrack อีกทีอยู่ดี เรามองว่าเราเสียเวลาซ้ำซ้อน คนเราก็คงไม่ได้ว่างมาโรงหนังทุกวันใช่ไหมหล่ะคะ อุส่าเคลียร์งานที่มอ. อุส่าจองตั๋วก่อนเพื่อมาดูหนัง แค่เจออะไรแบบนี้ก็เซงละค่ะ ส่วนดูรอบถัดไปตัดไปได้เลยค่ะ ที่เต็มทั้งโรงเราจะไปนั่งที่ไหน เราเลยตัดสินใจดูต่อ จนจบและคิดว่าเดี๋ยวออกมาจะมาถามพนักงานเกี่ยวกับความผิดพลาดครั้งนี้อีกที
เมื่อหนังจบ เราก็เดินออกมาถามพี่พนักงานที่อยู่เคาน์เตอร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกนางก็รวมตัวกันเดินเข้ามาอธิบาย อย่างที่เล่าไว้ข้างต้น เราเลยถามถึงความรับผิดชอบที่โรงหนังมีต่อลูกค้า เพราะเราเสียเงิน เสียเวลามาดูหนังที่โรงคุณนะ แต่เรากลับเจอยังงี้ คุณรับผิดชอบเราได้เท่านี้หรอคะ พนักงานสาวสองท่านนึงนางกล่าวว่า "ก็ทางโรงหนังอัพเดทไปแล้ว แต่แอพไม่อัพเดท ผิดทางเทคนิคที่ไม่ได้อัพเดทในแอพค่ะ" และลูกค้าก็ได้ดูหนังรอบนี้ไปแล้ว ทางโรงหนังไม่สามารถคืนเงินค่าตั๋วให้ได้ค่ะ บลาๆๆ
สรุปก็คือ เราเลือกจะดูหนังของเค้าแล้ว เท่ากับเค้าจะไม่คืนตังค่าตั๋วแก่เรา โอเคอันนี้เก็ท แต่ที่ไม่เก็ทคือ คุณโทษทางเทคนิคของคุณ อย่าลืมสิคุณ ว่าช่างเทคนิคก็คือพวกคุณเหมือนกัน แทนที่คุณจะขอโทษ รับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่โทษคนนู้นคนนี้ ชั้นไม่ผิด คืออะไร ? อีกอย่างนึงเพิ่งนึกได้ตอนเดินออกมาจากพวกนางก็คือ ปกติรอบหนังสามารถดูได้ข้ามวันนิ มันสามารถแก้ไขก่อนได้นิ ก่อนที่หนังรอบนี้จะฉาย หรืออาจเป็นเพราะไม่ได้เช็ค ??
สิ่งที่เราต้องการจากการมาตั้งกระทู้ในครั้งนี้ ไม่ได้หวังจะเอาเงินคืนเพราะมันผ่านมานานแล้ว แต่จะมาถามเพื่อนๆว่า ถ้าคุณเป็นเรา คุณจะเลือกอะไร? และถ้าคุณเป็นผู้จัดการเมเจอร์ในวันนั้นคุณจะรับผิดชอบต่อลูกค้าคุณยังไง ?แล้ววว คุณคิดว่าเมเจอร์ทำอย่างนี้ถูกแล้วหรือไม่ ?
ขอบคุณที่อ่านจบถึงตรงนี้นะคะ ขอบคุณค่ะ