Mongolia มองโกเลีย ดินแดนแห่งสรรพสัตว์และทุ่งกว้าง อีกทางเลือกของคนชอบเที่ยวเมืองรอง

เริ่มจากมีน้องคนนึงบอกว่า อยากไปเที่ยวมองโกล เลยหาข้อมูลการไปเที่ยวมองโกล ก็มี ประเทศมองโกล และ มองโกลเลียในที่ปกครองโดยจีน เราเลยตัดสินใจเลือกที่จะไป ประเทศมองโกลเลีย ข้อมูลก็หาเอาใน Pantip ละครับ อ่านแล้วก็อยากไปช่วงที่มี Naadaam Festival ซึ่งมีปีละครั้ง

ขั้นตอนแรก ก็เริ่มจาก หาทางไปลง เมืองหลวง Ulaanbaatarก่อน ปรากฎว่าDirect FlightจากBangkokเพิ่งยกเลิกไปไม่กี่เดือน แล้วไง ใจมันไปแล้วหนิ เลยลองเปรีบยเทียบ หลายๆเส้นทาง สรุปว่า ช่วงที่ไป แวะปักกิ่ง ของ China Airline ถูกสุด แต่ก็จะแพงกว่าช่วงอื่นของปีเพราะเป็น High Season ตรงกับ Festival

ขั้นตอนต่อมา ก็ต้องหาคนไปด้วยสิครับ ด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่าง เช่น จำกัดน้ำให้ลิตรครึ่งต่อวัน น้ำอาบจึงไม่มี อินเตอร์เนตอย่างได้หวัง ห้องน้ำแบบไม้พาดคล่อมหลุม ซึ่งเป็นข้อมูลที่อ่านเจอก่อนไป ชาว Pantip ก็ขู่เอาไว้เยอะ ด้วยข้อมูลแบบนี้ เลยขายของหาคนไปด้วย ก็จะยากหน่อย แต่พอไปจริงๆ ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น สุดท้ายได้กลุ่มเราก็ไปกัน 8 คน

ระหว่างหาผู้ร่วมทริป หาดูอยู่หลาย Local Tour สุดท้ายก็เลือก Danista Nomads Tour (https://www.danistanomadstour.com) ตามชาวพันทิป เจ้าของที่ติดต่อด้วยตลอดชื่อ Jagaa จากนั้นก็ Chat กันผ่าน Facebook อยู่ เป็นเดือน ไปๆมาๆ จนถึงวันไป

วันแรก เรามาถึงที่ Ulaanbartor ก็บ่ายๆ กว่าจะผ่าน ตม., Jagaa ให้คนมารับที่ Airport นั่งรถเข้าเมือง แวะซื้อSIMมือถือ กับ แลกเงิน ถึง ที่พักก็เย็นละ หาข้าวกินแถว โรงแรม หมดไปละหนึ่งวัน

วันที่ 2 ใน Plan ที่วางไว้ คือยังไม่เริ่มทัวร์กับ Jagaa กะจะ City Tour กันเองก่อน ปัญหาคือ แต่ละที่มันไม่ไกลกันแค่ ไม่กี่ป้ายรถเมล์ แต่พวกเราขึ้นรถเมล์ไม่ได้ เพราะรถไม่รับเงินสดเลย ต้องมี Pass หรือ Cash Card พวกเราไม่มีไง ก็ต้องค่อยๆเดินไป แวะไปเรื่อย นั่งพักบ้าง ร้านกาแฟมั่ง สรุปวันนี้เราเที่ยวได้ที่เดียว
Gandan Monastery




วันที่ 3 เช้านี้ มีรถมารับ 2 คัน กลุ่มเราเลยมี ไกด์ 2 คน กับ คนขับ 2 คน ไปกับเราตลอด 5 วัน
โดยวันนี้เราได้ไปตามจุดต่างๆที่ไม่ไกลจาก เมืองหลวงเท่าไหร่ แต่ละจุดก็ห่างกันไม่ถึงชั่วโมง

จุดแรกก็ อดีตพระราชวังฤดูร้อน The Museum of the Bogd Khaan



ต่อด้วย Zaisan Hill ประมาณอนุสาวรีย์ผ่านศึก อยู่ใกล้พระราชวัง


แล้วก็นั่งรถออกนอกเมือง แวะเคารพ Biggest Chinggis khans statue in the world ใต้อนุสาวรีย์เป็น Museum

ทุกๆ 200 คนทั่วโลก จะมี 1 คนที่มีเชื้อสายโดยตรงจากท่านข่าน
เจงกีสข่านนั้นมีลูกหลานจำนวนมาก ในช่วงที่เจงกีสข่านพิชิตดินแดนต่างๆ นั้น เขาจะหาผู้หญิงต่างชาติในดินแดนนั้นมาเป็นภรรยาของเขา ส่วนมากจะเป็นลูกสาวของกษัตริย์ที่พ่ายแพ้หรือนางสนมที่ได้รับจากดินแดนของศัตรู ซึ่งทหารของเขาจะส่งผู้หญิงที่สวยที่สุดให้แก่เขา ด้วยเหตุผลคือต้องการผลิตลูกหลานเจงกิสข่านจำนวนมากเพื่อสืบทอดปกครองดินแดนต่อไป อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจงกิสข่านสิ้นพระชนม์ลงก็มีลูกหลานมากมายเรียกร้องความเป็นธรรมจำนวนมากเช่นกัน ทุกวันนี้เกือบ 16 ล้านคนบนโลกจะมีเชื้อสายโดยตรงจากเจงกิสข่านอดีตจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ของโลกปะปนอยู่
(Credit : https://writer.dek-d.com/cammy/story/viewlongc.php?id=486572&chapter=487)

คืนนี้เรานอนใน TERELJ NATIONAL PARK ระหว่างทางเข้า ก็ได้แวะ Turtle rock

กับ Meditation Monastery


พอมาถึงที่พัก ถึงกับว้าว มี 2  Ger(กระโจมที่พัก)รอเราอยู่
คืนนี้เรานอนแบบ HomeStay, Ger ละ 4 เตียง ครอบครัวที่ดูแลเรา มี พ่อบ้าน แม่บ้านและลูกสอง
พอไปถึง เค้าก็ไปรีดนมวัวมาทำให้ข้นๆ กินกับขนมปังให้พวกเราลองกินดู


สิ่งที่พวกเราลุ้นที่สุดก็คือห้องส้วม แน่นอนห้องอาบน้ำไม่มี ตามรูปคือก่อนหน้าเรามาเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้เค้าทำให้ใหม่ พวกเราได้ประเดิมใช้ ดีขึ้นมาตรง มีประตูปิด แต่เป็นส้วมนั่งพาดหลุมเหมือนเดิม อยู่ข้างๆอันนี้เลย

ส่วนเรื่องน้ำใช้ ที่ทัวร์แจกคนละขวด พวกเราก่อนออกจากเมือง เราก็ซื้อตุนกันใหญ่ เอาแบบเช็ดตัว แปรงฟันได้
สักพักใหญ่ๆ เจ้าบ้านก็เรียกเราไปกินมื้อเย็น คือ ผัดหมี่มองโกลเลีย

กินเสร็จ ก็ไปขี่ม้าในทุ่งกว้าง 1 ชม ไม่ได้ถ่ายรูป ไกด์บอกว่า ม้าจะตกใจเสียงปี๊บๆของ FocusกับShutter กล้องเลยถูกสะพายแบบไม่ใช้งานไปตลอดทาง
กลับจากขี่ม้า อากาศเริ่มเย็น แม่บ้านก็มาจุดเตาผิงใน Ger ให้

วันที่ 4 เช้ามาก็มีอาหารเช้ารออยู่หน้า Ger

พอทานข้าวเสร็จ เราก็นั่งรถยาวเลยไป

ระหว่างทางเราไปเมือง KHAR KHORIN แวะ Elsen tasarkhai sand dune (Mini Sand Dune) ขี่อูฐ
อูฐ หนอกเดียว พบได้ใน ตะวันออกกลางและแอฟริกา
ส่วน อูฐ 2 หนอก พกได้ในมองโกเลีย


ค่ำนอนเรานอน Ger แต่คืนนี้ดีหน่อย อยู่ในเมือง KHAR KHORIN เลยมีห้องน้ำ และ ไฟฟ้าสำหรับ Charge ไกด์บอกว่า มีอะไรจะชาร์จ ก็เอาให้เต็มที่ หลังจากนี้ จะไม่มีแล้วจนกว่าจะกลับ Ulaanbatar

วันที่ 5 วันนี้เราเที่ยวในเมือง KHAR KHORIN 3 ที่
Kharakhorum Museum

Erdene Zuu Monastery 1 of 10 Amazing Buddhist Monasteries
เชื่อว่าเป็นวัดพุทธเก่าแก่ที่สุดที่หลงเหลืออยู่ใน มองโกเลีย . ถูกสร้างขึ้นใน 1585 โดย อับไต เซน ข่านAbtai Sain Khan, ซึ่งเป็นคนนำศาสนาพุทธจากธิเบตมาเผยแพร่ในมองโกเลีย.โดยการนำหินจากซากปรัก หักพังของ เมืองเก่าที่คาราโครัม Karakorumนำมาใช้ในการก่อสร้าง
(Credit : http://sor-por-chor.blogspot.com/2010/11/blog-post.html)



Monument for Mongol States

ก่อนนั่งรถยาวไป Khangai Nuruu National Park แวะตลาดซื้อของสด คืนนี้ไกด์ทำอาหารเย็นให้กิน พวกเราก็แวะซื้อน้ำเหมือนเดิม

ระหว่างทางก็แวะเข้าห้องน้ำ ซึ่งวิวที่ราบ กับ สัตว์ จะเห็นจนชินตา

กว่าจะถึงที่หมายก็เย็นละ สำรวจที่พักและสุขาก่อนอื่นใด


จากที่พัก เราเดินไป rkhon valley waterfall น้ำตกที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวและการระเบิดของภูเขาไฟร่วมกัน ทำให้แผ่นดินแยกออกและสายน้ำที่ไหลผ่านจึงกลายเป็นน้ำตก และพื้นที่ในบริเวณนั้น จึงมีหินภูเขาไฟตกกระจายเป็นบริเวณวงกว้าง



พอกินข้าวเย็นเสร็จ ก็ออกมาดูดาวกัน

วันที่ 6 ก็นั่งรถยาวออกจาก  Khangai Nuruu National Park
ด้วยความหลากหลายของนมในประเทศนี้ ทำให้อยากลองนมม้า เลยขอให้ไกด์หาให้ลอง ก็ไปเจอบ้านนึง รีดนมม้าขาย
กรรมวิธีการผลิตนมม้า คือ หลังจากรีดเสร็จ ก็เอาไปต้ม จากนั้นก็เอาไปหมักกับยีสต์ในถัง ตอนไปซื้อ คนขายก็เดินเข้าไปตักในถึงที่หมักอยู่ในบ้าน สรุป ที่ต้ม อยู่หน้าบ้านคือเอาไว้โชว์
ผลการลองนมม้า... ด้วยกรรมวิธีหมัก เลยทำให้มีแอลกอฮอล์อยู่ 2-3% รสชาติออกเปรี้ยวนำและกลิ่มแบบว่าอืม.....




ช่วงพักรถ ก็ มีสัตว์เดินไปเดินมา แบบไม่กลัวรถกลัวคน



แวะกินเที่ยง วิวก็สวยงาม





จุดเที่ยววันนี้คือ Tuvkhun Monastery ต้องเดินเข้าไปประมาณ 1 ชม จะเจอพระราชวัง


ด้านหลังพระราชวังเราต้องปีเข้าขึ้นไปถึงจุดชมวิว และ สถานที่ศักดิ์สิทธ์ แต่พอพากันปีนขึ้นไป ปรากฏว่าผู้หญิงห้ามเข้า



ตามโปรแกรมแล้วคืนนี้เราต้องนอนที่ UGII LAKE แต่เกิดโรคระบาด รัฐบาลสั่งปิดพื้นที่ พวกเราเลยได้กลับไปนอนที่ เมือง KHAR KHORIN อีกครั้ง
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่