ก่อนซื้อก็หาข้อมูล หลายๆที่บอก 20กม/ลิตร
หลังจากได้ใช้จริง วิ่งได้ 13 กม/ลิตร
ก็เลยตั้งใจว่าจะหาวิธีวิ่งให้ได้ 20 กม/ลิตร ด้วย e85
อันดับแรกก้เติม e85 บางจาก เต็มถัง จ่ายไป 770
หากวิ่ง 70 กม/ชม รอบอยู่ที่ 1200
วิ่ง 80 รอบ 1500
วิ่ง 100 รอบ 1750
หากเราพยายามวิ่งให้รอบไม่เกิน 1500 จะได้ 17 กม/ลิตร
วิ่งไม่เกิน 1750 ได้ 16 กม/ลิตร
วิ่งวนช้าๆหาที่จอดรถ ได้ 13 กม/ลิตร
ยังหาวิธีวิ่งให้ถึง 20 กม/ลิตร ไม่ได้
ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่คาดหวังได้จริงคือ 15 กม/ลิตร
เต็มถัง 40 ลิตร x 22 บาท = 880 บาท
วิ่งได้ 40 x 15 = 600 กม
คิดเฉลี่ยได้ กิโลละ 880 ÷ (40x15) = 1.46 บาท
แต่ถ้าวิ่งทางไกล รอบไม่เกิน 1500 รถไม่ติด
ก็จะได้กิโลละ 880 ÷ (40x17) = 1.29 บาท
ประหยัดพอๆกับรถติดแกส
แต่ก็ขึ้นกับการขับของเราด้วย
ถ้าเอาแต่เหยียบ ไม่ดูรอบเครื่อง ก็จะกินน้ำมันมากกว่านี้
ส่วนปุ่ม eco ผมกดตอนติดไฟแดง พอออกตัวก็กดออก
เพราะตอนติดไฟแดง ถ้าไม่กด eco ค่า กม/ลิตร จะลดลงเรื่อยๆ
ลองขับลงเขา 13 กม ที่น้ำหนาว ได้อัตราสิ้นเปลือง 50 กม/ลิตร
เดาว่า เครื่องยนต์คงฉลาด ถ้าเราไม่เหยียบคันเร่ง มันก็ไม่ใช้น้ำมัน ก็เลยได้ 50 กม/ลิตร
ดังนั้น เทคนิคการขับให้ประหยัดขึ้นคือ
1. ถอนคันเร่ง เมื่อมีโอกาส ทั้งลงเนิน หรือใกล้ถึงไฟแดง
2. เหยียบให้รอบไม่เกิน 1500
3. กด eco เมื่อติดไฟแดง
การทดลองนี้ วิ่งจาก ชุมแพ ขึ้นเขาน้ำหนาว
ลงเขาแล้วกลับรถ วิ่งขึ้นเขาน้ำหนาวอีกครั้ง สิ้นสุดที่ขอนแก่น ระยะทาง 288 กม น้ำมันเหลือ 53%
ถนนโล่ง วิ่ง 80 - 100 ตลอดทาง
....
วันนี้ขับแวะห้างในตัวเมืองขอนแก่น วิ่งไป 52 กม น้ำมันเหลือ 38% แสดงว่าใช้น้ำมัน 15%
อัตราสิ้นเปลืองวิ่งๆหยุดๆในเขตเมือง เลยได้
0.15 x 40 = 6 ลิตร
52 ÷ 6 = 8.6 กม/ลิตร
22 ÷ 8.6 = กิโลละ 2.5 บาท
รีวิว อัตราสิ้นเปลือง jazz gk เติม E85
หลังจากได้ใช้จริง วิ่งได้ 13 กม/ลิตร
ก็เลยตั้งใจว่าจะหาวิธีวิ่งให้ได้ 20 กม/ลิตร ด้วย e85
อันดับแรกก้เติม e85 บางจาก เต็มถัง จ่ายไป 770
หากวิ่ง 70 กม/ชม รอบอยู่ที่ 1200
วิ่ง 80 รอบ 1500
วิ่ง 100 รอบ 1750
หากเราพยายามวิ่งให้รอบไม่เกิน 1500 จะได้ 17 กม/ลิตร
วิ่งไม่เกิน 1750 ได้ 16 กม/ลิตร
วิ่งวนช้าๆหาที่จอดรถ ได้ 13 กม/ลิตร
ยังหาวิธีวิ่งให้ถึง 20 กม/ลิตร ไม่ได้
ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่คาดหวังได้จริงคือ 15 กม/ลิตร
เต็มถัง 40 ลิตร x 22 บาท = 880 บาท
วิ่งได้ 40 x 15 = 600 กม
คิดเฉลี่ยได้ กิโลละ 880 ÷ (40x15) = 1.46 บาท
แต่ถ้าวิ่งทางไกล รอบไม่เกิน 1500 รถไม่ติด
ก็จะได้กิโลละ 880 ÷ (40x17) = 1.29 บาท
ประหยัดพอๆกับรถติดแกส
แต่ก็ขึ้นกับการขับของเราด้วย
ถ้าเอาแต่เหยียบ ไม่ดูรอบเครื่อง ก็จะกินน้ำมันมากกว่านี้
ส่วนปุ่ม eco ผมกดตอนติดไฟแดง พอออกตัวก็กดออก
เพราะตอนติดไฟแดง ถ้าไม่กด eco ค่า กม/ลิตร จะลดลงเรื่อยๆ
ลองขับลงเขา 13 กม ที่น้ำหนาว ได้อัตราสิ้นเปลือง 50 กม/ลิตร
เดาว่า เครื่องยนต์คงฉลาด ถ้าเราไม่เหยียบคันเร่ง มันก็ไม่ใช้น้ำมัน ก็เลยได้ 50 กม/ลิตร
ดังนั้น เทคนิคการขับให้ประหยัดขึ้นคือ
1. ถอนคันเร่ง เมื่อมีโอกาส ทั้งลงเนิน หรือใกล้ถึงไฟแดง
2. เหยียบให้รอบไม่เกิน 1500
3. กด eco เมื่อติดไฟแดง
การทดลองนี้ วิ่งจาก ชุมแพ ขึ้นเขาน้ำหนาว
ลงเขาแล้วกลับรถ วิ่งขึ้นเขาน้ำหนาวอีกครั้ง สิ้นสุดที่ขอนแก่น ระยะทาง 288 กม น้ำมันเหลือ 53%
ถนนโล่ง วิ่ง 80 - 100 ตลอดทาง
....
วันนี้ขับแวะห้างในตัวเมืองขอนแก่น วิ่งไป 52 กม น้ำมันเหลือ 38% แสดงว่าใช้น้ำมัน 15%
อัตราสิ้นเปลืองวิ่งๆหยุดๆในเขตเมือง เลยได้
0.15 x 40 = 6 ลิตร
52 ÷ 6 = 8.6 กม/ลิตร
22 ÷ 8.6 = กิโลละ 2.5 บาท