วิทยาศาสตร์ของมนุษย์แปลง เฮนชิน!!!


มนุษย์แปลง เป็นส่วนผสมของมนุษย์กับเทคโนโลยีสุดล้ำที่ขยายความสามารถของร่างเนื้อ ไม่ว่าจะด้วยการประกอบเข้ากับจักรกลสุดเมพ หรือการดัดแปลงกรรมพันธุ์ คำว่ามนุษย์แปลง จึงสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท มนุษย์แปลงไซบอร์ก มนุษย์ดัดแปลงกรรมพันธุ์ และอาจเป็นไซเบอร์ที่เป็นการผสมผสานร่างจักรกลชีวะ ทั้งนี้ แม้ว่าในนิยามของ Human Enhancement เรายังอาจรวมถึงการใช้ยาเช่นสเตียรอยด์หรือยาลดความเจ็บปวด เพิ่มความฮึกเหิม แต่เราจะช่างๆมันไปก่อน เพราะ เรากำลังพูดถึงมนุษย์แปลงแบบไอ้มดแดงกันอยู่ยังไงล่ะ



ความสามารถเหนือมนุษย์
ถ้าการดัดแปลงร่างกายแล้วทำให้ได้ความสามารถเท่าเดิมหรือแย่กว่า การดัดแปลงที่ว่ามันก็คงเรียกได้ว่าไม่ต่างอะไรกับขาเทียมมือเทียมสำหรับผู้พิการ แน่นอนละว่า ไซบอร์กมันก็รวมไปถึงการใช้งานของอวัยวะเทียมเหล่านี้ สำหรับความสามารถที่เหนือกว่า ไม่จำเป็นจะต้องจำกัดเพียงแค่พลกำลังที่มหาศาลจากเตาปฏิกรณ์ที่ฝังเข้าไปในร่างหรือการเสริมโครงสร้างเซลล์กล้ามเนื้อเพื่อออกแรง รูปทรงลำตัว แขน และขาของมนุษย์มันมีข้อจำกัดของตัวเองที่ทำให้เราไม่สามารถวิ่ง หรือว่ายน้ำ หรือกระโดดได้สูงเท่าสัตว์ที่พัฒนาระยางค์หน้าและหลังให้เหมาะสมกับงาน มนุษย์แปลงอาจใช้อวัยวะเทียมที่ปรับเปลี่ยนรูปร่างได้เมื่อแปลงร่าง อวัยวะขาอาจปรับสภาพไปเหมือนขาเสือชีตาร์ แขน อาจเปลี่ยนรูปไปเป็นแบบกั้งตั๊กแตนที่สามารถปล่อยหมัดได้เร็วถึง 23 m/s (เร็วกว่ามนุษย์ 2 เท่าทั้งที่ตัวแค่นั้นด้วยนะ)



พัฒนาการของอวัยวะเทียมปัจจุบันก็ก้าวหน้าไปมาก ถ้าดูจากการแข่ง Paralympic เราจะพบว่าความเร็วของผู้พิการอวัยวะขาถูกตัดขาดสามารถทำความเร็ววิ่ง 100 เมตรได้ใกล้เคียงกับสถิติของคนปรกติมากขึ้นทุกที และอยู่ในระดับที่เหนือกว่าคนปรกติที่ไม่ได้ฝึกฝน พัฒนาการตรงนี้มาจากการปรับใช้หลักการถ่ายแรงของขาสัตว์เข้ามาทำให้กล้ามเนื้อที่น้อยกว่าสามารถแสดงประสิทธิภาพได้สูงชดเชยกับอวัยวะที่ขาดหายไปได้ขนาดนั้น โดยใช้กำลังกล้ามเนื้อที่เหลืออยู่


การแปลงร่าง ไม่ใช่แค่การทำเท่ห์ แต่เป็นการปรับเปลี่ยนรูปอวัยวะเทียมให้เหมาะสมกับรูปแบบการต่อสู้


ปัญหาของการดัดแปลงในการเสริมสมรรถภาพร่างกาย
ในการดัดแปลงร่างกายเป็น Cyborg มันมีศัพท์ในวงไซไฟที่เรียกว่า Partial Cyborg (ไซบอร์กเฉพาะส่วน) และ Total Cyborg (ไซบอร์กทั้งร่าง) การเสริมสมรรถนะเฉพาะส่วน แรงที่อวัยวะเสริมพลังสามารถใช้ได้จะจำกัดที่โครงสร้างของกระดูกและอวัยวะเดิมที่อวัยวะเสริมยึดรั้งไว้ ต่อให้เราผ่าตัดใส่โคตรแขนจอมพลังของไซบอร์กอสรูรเข้ากับร่างง่อยๆของไรเดอร์ไร้ใบขับขี่ ถ้าไรเดอร์ไร้ใบขับขี่ออกแรงต่อยใส่ราชันย์ทะเลลึกกระดูกไหล่และกล้ามเนื้อต่างๆที่เชื่อมเข้ากับอวัยวะเสริมนั้นก็คงได้หักฉีกป่นด้วยแรงปฏิกิริยาที่ส่งออกจากอวัยวะส่วนเสริมที่ว่า และถึงเราจะดัดแปลงร่างกายจนเป็นไซบอร์กทั้งร่าง ส่วนสมองของเราก็จะยังมีความเสี่ยงจากแรงกดและแรงเหวี่ยงจากความเร่ง แม้ว่าร่างของไอ้มดแดงอาจจะทนแรงกระแทกได้ 100g แบบสบายๆ แต่ถ้าสมองที่อยู่ข้างในยังเป็นก้อนไขมันไม่ใช่ไบโอชิพ มนุษย์แปลงผู้นั้นก็ยังคงจะถูกกระแทกสลบหรือสมองเหลวเป็นวุ้นจากการถูกปะทะได้อยู่ดี


ระหว่าง Full Cyborg กับ Partial Cyborg เราอาจเทียบไซบอร์กอสูรเจนอส ที่ร่างกายเป็นเครื่องจักรทั้งหมดยกเว้นสมอง กับเด็กด้วนเตี้ยตะแมะแคะ อ่า เอดเวิร์ด เอลริค ที่ใช้ออโต้เมล์แทนแขนขาที่เสียไป ในที่นี้ แม้ออโต้เมล์จะแข็งแกร่งเพียงใดมันก็ยังจะออกแรงได้ไม่เกินเฟรมที่เชื่อมต่อกับเนื้อเยื่อและกระดูกอยู่ดี ต่างจากเจนอสที่ทุกส่วนถูกยึดเข้ากับเฟรมโลหะและสามารถออกแรงได้เกินขีดความสามารถของร่างกายมนุษย์ไปมาก


ในแง่ของอายุขัยการใช้งาน อุปกรณ์เสริมมันต้องมีค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุง และด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน มันยังไม่ง่ายที่จะบอกว่า คุณภาพชีวิตของไซบอร์กจะดีกว่าร่างกายเลือดเนื้อ ในอนาคต การเปลี่ยนร่างกายเป็นอวัยวะเทียมอาจเป็นไปได้ ถ้าอวัยวะเทียมจะพิสูจน์ได้ชัดเจนว่า มันมีประสิทธิภาพดีกว่า อายุขัยการใช้งานดีกว่าอวัยวะเลือดเนื้อ และมีความปลอดภัยจากการถูกลอยแพจาก บริษัทที่เป็น Provider ของร่างไซบอร์ก หรือถูกแฮก สำหรับการเกิดของวัฒนธรรมไซบอร์ก มันอาจเริ่มจากการเสริมอวัยวะ เป็นการใส่เข้า ไม่ใช่การตัดออกทดแทน และแม้ว่าคุณอาจไม่แข็งแกร่งแบบไอ้มดแดง แต่พลังพิเศษที่คุณได้มา ก็อาจใช้ต่อกรกับเหล่าร้ายได้ไม่แพ้กัน

การเสริมเครื่องจักรเข้ากับอวัยวะที่มีอยู่เดิม



อวัยวะเสริมพลังอย่างตาและหู ในแง่ของการเสริมสมรรถนะตาและหู เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอวัยวะเป็นอวัยวะเทียมทั้งหมด ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องการเชื่อมต่อของระบบประสาท ซึ่ง ปัจจุบัน การเชื่อมต่อประสาทเข้ากับตาเทียมถ้าเข้าใจไม่ผิดยังอยู่ในระดับแค่ทำให้เห็นความสว่างได้ และอย่างมากก็ทำให้เห็นภาพเป็น Pixel เราสามารถใช้การ Implant ฝังอุปกรณ์เสริมบางส่วนเช่น Bionic Lens หรือเครื่องช่วยฟังเข้ากับหูและทำการขยายขอบเขตการมองเห็น Bionic Lens เป็นเลนส์เทียมฝังเข้าแทนเลนส์ตาในกรณีการผ่าตัดต้อกระจกต่างๆ ซึ่งสามารถเสริมศักยภาพการมองเห็นได้ในระดับดีกว่าคนปรกติ 3 เท่า[3] ถ้าเทียบกับสายตา คนปรกติที่ 20/20 อะไหล่ทดแทนนี้จะสามารถทำให้เราสามารถมองเห็นได้ที่ระยะ 20 เมตรเหมือนคนปรกติมองที่ระยะห่าง 5 – 10 เมตรก็เป็นได้


คุณไม่ต้องดัดแปลงร่างกายเป็น V3 เพื่อใช้อิเลคโตรอาย และคุณไม่ต้องการขีดจำกัดทางสายเลือดใช้เนตรสีขาว อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ที่ฝังแทนเลนส์ตาสามารถแสดงข้อมูลจากฐานข้อมูลในไซเบอร์สเปซ มองผ่านกล้องวงจรปิดเพื่อแกะรอยได้ไม่แพ้กันหรืออาจจะเหนือกว่า


การเชื่อมต่อกับเครื่องจักร
แนวทางการใช้งานอวัยวะเทียม เดิมเราใช้แนวคิดการเชื่อมต่อระบบประสาทเข้ากับอวัยวะเทียม แต่ในอีกด้านหนึ่ง ถ้าเราเชื่อมต่อประสาทกับอุปกรณ์สัญญาณได้ เราก็ย่อมจะเชื่อมต่อประสาทหรือสมองเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้ การทำ Brain-Machine Interface (BMI) นอกจากการเชื่อมปลายประสาทเข้ากับอิเลคโทรดเพื่อควบคุมอวัยวะ การสแกนสัญญาณไฟฟ้าของสมอง ก็สามารถเอามาใช้ในการควบคุมอุปกรณ์ภายนอกร่างกายได้



สรุปแล้วอนาคตของมนุษย์แปลง มันควรเป็นอย่างไร
สิ่งที่เราต้องสังเกต ถึงเราจะดัดแปลงร่างกายให้แข็งแกร่งขึ้นขนาดไหน เราก็คงจะยังไม่แข็งแกร่งไปกว่ารถถังและเครื่องบิน และเราก็คงถูกยิงทะลุได้ด้วยกระสุนเจาะเกราะ การดัดแปลงร่างกายที่น่าจะเกิดขึ้นก่อนแบบปลอดภัยคือการเสริมสมรรถนะอวัยวะที่มีอยู่เดิมในส่วนการรับรู้ ตา หู จมูก และขยายไปสู่การควบคุมเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกโดยตรงผ่านสมอง ส่วนอุปกรณ์แบบร่างเทียม 100% นอกจากกรณีการบาดเจ็บพิการ มันอาจจะง่ายกว่า ถ้ามนุษย์ที่ดัดแปลงให้สมองสามารถรับรู้และสั่งการเครื่องจักรภายนอกโดยตรงผ่านสมอง จะควบคุมหุ่นยนต์เข้าปฏิบัติภารกิจ ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจ หรือสู้รบผ่านโดรน และ ร่างกลที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบอวัยวะเทียมได้อย่างอิสระ แทนจะแปลงร่างเป็นยอดมนุษย์เข้าต่อสู้หรือทำการสำรวจด้วยตัวเอง อย่างน้อยก็จนกว่าเราทิ้งร่างเนื้อทั้งหมด กลายเป็นวิญญาณ (Ghost) แบบโมโตโกะ ใน Ghost in the Shell หรือข้อมูลที่อยู่ในชิพแบบ ดร. โนวา ใน Battle Angel Alita และยอมรับการ back up ข้อมูลออกมาเป็นตัวตนของเรานั่นละนะครับ




อ้างอิง
[1] https://www.wired.com/2010/12/robot-runs-on-human-like-legs/
[2] http://www.pitt.edu/~nbm8/engineeringissues.html
[3] http://www.eyedesignoptometry.com/bionic-lens/
[4] https://www.nanalyze.com/2017/03/smart-contact-lenses/
[5] https://www.popsci.com/tiny-wireless-implants-could-monitor-your-brain#page-3

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่