เคยสงสัยไหมว่า...
มือถือเครื่องที่เราซื้อเงินสด แต่กลับดัดแปลงซอฟต์แวร์เองไม่ได้ เปลี่ยน UI ไม่ได้ ลบแอปติดเครื่องไม่ได้ Root แล้วหมดประกันทันที — แล้วมันเรียกว่าเป็นของเราจริง ๆ ไหม?
ทั้งที่ รถยนต์ เรายังแต่งเครื่อง เปลี่ยนเบรก ติดเทอร์โบ เปลี่ยนไฟท้ายเองได้
แต่ มือถือ? ดัดแปลงเอง = ผิด
แล้วลองจินตนาการว่า... ถ้าในอนาคตเรามี ไซบอร์ก — ร่างกายเทียม หรืออุปกรณ์ในสมอง/ดวงตา/แขนขา ที่ถูกผลิตโดยบริษัทใหญ่ ๆ เหมือนมือถือตอนนี้
เราจะเจอแบบเดิมไหม?
อัปเดตแขนไม่ได้ถ้าไม่สมัครสมาชิกรายเดือน
ดัดแปลงสมองตัวเองไม่ได้เพราะ “ขัดต่อนโยบายผู้ผลิต”
ถ้าฝังอะไรเพิ่มเอง จะโดนตัดฟังก์ชันเดิมเหมือนมือถือโดนแบนซอฟต์แวร์
ถ้าร่างกายเรากลายเป็นฮาร์ดแวร์ แล้วบริษัทล็อกหมดแบบนี้…
เรายังจะเป็นเจ้าของร่างกายของตัวเองอยู่จริง ๆ ไหม?
ผม เลยคิดว่า “ไซบอร์กแบบเปิดซอร์ส” หรือ “อุปกรณ์ฝังในร่างกายที่ผู้ใช้สามารถพัฒนาเองได้” น่าจะเป็นทางเลือกใหม่ของมนุษย์ในอนาคต
“สิ่งที่ฝังอยู่ในร่างกาย ควรเป็นของเรา... ไม่ใช่ของบริษัทไหนทั้งนั้น”
มือถือยังห้ามดัดแปลง แล้วถ้าในอนาคตไซบอร์กก็ถูกล็อกเหมือนกัน เราจะยังเป็นเจ้าของร่างกายตัวเองอยู่ไหม?
มือถือเครื่องที่เราซื้อเงินสด แต่กลับดัดแปลงซอฟต์แวร์เองไม่ได้ เปลี่ยน UI ไม่ได้ ลบแอปติดเครื่องไม่ได้ Root แล้วหมดประกันทันที — แล้วมันเรียกว่าเป็นของเราจริง ๆ ไหม?
ทั้งที่ รถยนต์ เรายังแต่งเครื่อง เปลี่ยนเบรก ติดเทอร์โบ เปลี่ยนไฟท้ายเองได้
แต่ มือถือ? ดัดแปลงเอง = ผิด
แล้วลองจินตนาการว่า... ถ้าในอนาคตเรามี ไซบอร์ก — ร่างกายเทียม หรืออุปกรณ์ในสมอง/ดวงตา/แขนขา ที่ถูกผลิตโดยบริษัทใหญ่ ๆ เหมือนมือถือตอนนี้
เราจะเจอแบบเดิมไหม?
อัปเดตแขนไม่ได้ถ้าไม่สมัครสมาชิกรายเดือน
ดัดแปลงสมองตัวเองไม่ได้เพราะ “ขัดต่อนโยบายผู้ผลิต”
ถ้าฝังอะไรเพิ่มเอง จะโดนตัดฟังก์ชันเดิมเหมือนมือถือโดนแบนซอฟต์แวร์
ถ้าร่างกายเรากลายเป็นฮาร์ดแวร์ แล้วบริษัทล็อกหมดแบบนี้…
เรายังจะเป็นเจ้าของร่างกายของตัวเองอยู่จริง ๆ ไหม?
ผม เลยคิดว่า “ไซบอร์กแบบเปิดซอร์ส” หรือ “อุปกรณ์ฝังในร่างกายที่ผู้ใช้สามารถพัฒนาเองได้” น่าจะเป็นทางเลือกใหม่ของมนุษย์ในอนาคต
“สิ่งที่ฝังอยู่ในร่างกาย ควรเป็นของเรา... ไม่ใช่ของบริษัทไหนทั้งนั้น”