สืบเนื่องจากกระทู้นี้
https://pantip.com/topic/37952262 จากการติดต่อหลังไมค์ ทรูได้ยอมรับว่ามียอดเงินเกินเข้าไปในระบบจริง ตามที่เราได้ทักท้วงไปค่ะ และทรูเองก็ยินดีที่จะจ่ายเงินคืนโดยใช้วิธีการโอนผ่านบัญชีออมทรัพย์
แต่ปัญหามันมีอยู่ว่าชื่อผู้จดทะเบียนอินเตอร์เน็ตก็คือคุณพ่อของเราเอง ซึ่งท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว เรามีแค่เพียงใบมรณะบัตร แต่ทางทรูต้องการให้เราจัดหาหนังสือ ผจก มรดกให้ แต่เราไม่มี เพราะว่าก่อนที่คุณพ่อจะเสีย ท่านป่วยอยู่นาน ทรัพย์สินต่างๆจึงได้ทำการผ่องถ่ายไปทั้งหมดแล้ว
ต่อมาทรูหลังไมค์ ก็บอกให้เราต้องไปเปลี่ยนคู่สัญญาเป็นชื่อเราที่ทรูช็อป ซึ่งทำให้เราหัวเสียมากเพราะมันไม่เม๊กเซ๊นอะไรเลย ต่อว่าทรูไปพอสมควร แต่ก็ยอมเสียเวลาไปตามที่ทรูหลังไมค์ต้องการ ก็ปรากฎว่า จนท ทรูช็อป บอกว่ามันเปลี่ยนชื่อไม่ได้เพราะสัญญามันถูกยกเลิกไปแล้ว ผลที่ได้ก็คือข้อความขอโทษจากทรูหลังไมค์ที่ให้ข้อมูลผิดพลาด จนเราเองไม่รู้จะว่ายังไงเพราะก็ได้ต่อว่าไปเยอะแล้วก่อนหน้านี้ ก็รู้แต่เพียงว่าองค์กรนี้ทำงานได้อย่างไม่โปรเฟสชั่นนัลกันมากๆ
หลังจากนั้นทรูหลังไมค์ ก็ถึงยอมที่จะส่งสำเนาบุคแบ๊งค์ของเรา+ใบมรณบัตร เพื่อยื่นขอคืนเงินจากทีมหลังบ้านให้ แต่ผลปรากฎว่า ทรู ก็ยังคงต้องการที่จะได้หนังสือมอบอำนาจจัดการทรัพย์ทรัพย์สินโดยที่เราต้องเป็นผู้รับมอบอำนาจ ซึ่งเราก็มีคำถามกลับไปแล้วว่า ทรู ต้องการให้ใครเป็นผู้มอบอำนาจให้เรา?!?! ซึ่งตรงนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบค่ะ และเราเองก็ยังท้วงทรูไปด้วยว่า ตามความเห็นของเรา ทรูชักจะหลงประเด็นมากไป เรื่องทั้งหมดนี้มันไม่ใช่การจัดการทรัพย์มรดกอะไรเลย แต่มันเป็นเรื่องที่ทรูตัดเงินผิดจากบัตรเครดิต ซึ่งวิธีการที่ง่ายและเป็นสากลที่สุด ก็คือเครดิตเงินคืนเข้ามาในบัตรแค่นั้นเอง
ตอนนี้เรื่องมันก็เลยคาราคาซัง ก็เลยอยากปรึกษาเพื่อนๆพันธิปด้วยค่ะว่าเราต้องทำยังไงต่อดี เพราะเราก็คิดว่าทรูกำลังทำให้เรื่องมันซับซ้อนเกินกว่าเหตุ
ปล1.เราได้ทำรายการตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติไว้ โดยที่สมัครทำรายการผ่านทรูช็อป หลังจากที่เกิดเหตุการณ์การตัดยอดเข้ามาเกิน เราก็ได้โทรไปยกเลิกการตัดบัตรอัตโนมัติกับธนาคารสีเหลืองเจ้าของบัตร แต่กลายเป็นว่าเราไม่มีสิทธิยกเลิก ธ.บอกเราว่าทำการยกเลิกให้ไม่ได้โดยอ้างว่า ธ.เองไม่มีข้อมูลตรงนี้ เพราะเป็นการสมัครโดยตรงกับทรู ต้องให้ทรูเป็นคนทำเรื่องเข้ามา?!?! ซึ่งเราไม่แน่ใจว่ามันเป็นแบบนี้ทุกแบ๊งค์หรือเปล่า แต่ถ้าหลักการมันเป็นอย่างที่ทาง ธ. บอกจริง มันก็ทำให้เรารู้สึกว่า ไม่รู้ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของบัตร สิทธิขาดมันควรอยู่ที่ใคร เราจึงอยากเตือนเพื่อนๆชาวพันธิปให้ระมัดระวังเรื่องการตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติแบบนี้ไว้ด้วยค่ะ
ปล2.อยากจะบอกว่าย้ายค่ายอินเตอร์เน็ตแล้วชีวิตดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมากค่ะ ถ้าใครอยากย้ายเล็งๆอยู่ก็จัดเลยไม่ต้องลังเล จริงๆเราหลวมตัวเซ็นเอกสารลดค่าบริการ 50% 1 ปี ไปแล้วด้วยนะที่ทรูช็อป ซึ่งทางช็อปแจ้งว่าจะมี จนท โทรมาคอนเฟิร์มอีกครั้ง แต่ยังโชคดีที่จะเป็นอาทิตย์แล้ว ก็ยังไม่เห็นมีใครติดต่อมา แล้วก็อินเตอร์เน็ตก็ยังเน่าได้ใจเหมือนเดิม เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องมันตกหล่นยังไง ทำให้เราไม่ต้องติดสัญญาทาสต่อ ตอนนนี้รู้สึกดีจริงๆที่ได้ย้ายออกมา แต่ดันมีปัญหาเรื่องตัดเงินเกินแทน ฮ่าาาาาาา
ขอคำแนะนำเรื่องการขอคืนเงินจากทรูอินเตอร์เน็ตค่ะ
แต่ปัญหามันมีอยู่ว่าชื่อผู้จดทะเบียนอินเตอร์เน็ตก็คือคุณพ่อของเราเอง ซึ่งท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว เรามีแค่เพียงใบมรณะบัตร แต่ทางทรูต้องการให้เราจัดหาหนังสือ ผจก มรดกให้ แต่เราไม่มี เพราะว่าก่อนที่คุณพ่อจะเสีย ท่านป่วยอยู่นาน ทรัพย์สินต่างๆจึงได้ทำการผ่องถ่ายไปทั้งหมดแล้ว
ต่อมาทรูหลังไมค์ ก็บอกให้เราต้องไปเปลี่ยนคู่สัญญาเป็นชื่อเราที่ทรูช็อป ซึ่งทำให้เราหัวเสียมากเพราะมันไม่เม๊กเซ๊นอะไรเลย ต่อว่าทรูไปพอสมควร แต่ก็ยอมเสียเวลาไปตามที่ทรูหลังไมค์ต้องการ ก็ปรากฎว่า จนท ทรูช็อป บอกว่ามันเปลี่ยนชื่อไม่ได้เพราะสัญญามันถูกยกเลิกไปแล้ว ผลที่ได้ก็คือข้อความขอโทษจากทรูหลังไมค์ที่ให้ข้อมูลผิดพลาด จนเราเองไม่รู้จะว่ายังไงเพราะก็ได้ต่อว่าไปเยอะแล้วก่อนหน้านี้ ก็รู้แต่เพียงว่าองค์กรนี้ทำงานได้อย่างไม่โปรเฟสชั่นนัลกันมากๆ
หลังจากนั้นทรูหลังไมค์ ก็ถึงยอมที่จะส่งสำเนาบุคแบ๊งค์ของเรา+ใบมรณบัตร เพื่อยื่นขอคืนเงินจากทีมหลังบ้านให้ แต่ผลปรากฎว่า ทรู ก็ยังคงต้องการที่จะได้หนังสือมอบอำนาจจัดการทรัพย์ทรัพย์สินโดยที่เราต้องเป็นผู้รับมอบอำนาจ ซึ่งเราก็มีคำถามกลับไปแล้วว่า ทรู ต้องการให้ใครเป็นผู้มอบอำนาจให้เรา?!?! ซึ่งตรงนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบค่ะ และเราเองก็ยังท้วงทรูไปด้วยว่า ตามความเห็นของเรา ทรูชักจะหลงประเด็นมากไป เรื่องทั้งหมดนี้มันไม่ใช่การจัดการทรัพย์มรดกอะไรเลย แต่มันเป็นเรื่องที่ทรูตัดเงินผิดจากบัตรเครดิต ซึ่งวิธีการที่ง่ายและเป็นสากลที่สุด ก็คือเครดิตเงินคืนเข้ามาในบัตรแค่นั้นเอง
ตอนนี้เรื่องมันก็เลยคาราคาซัง ก็เลยอยากปรึกษาเพื่อนๆพันธิปด้วยค่ะว่าเราต้องทำยังไงต่อดี เพราะเราก็คิดว่าทรูกำลังทำให้เรื่องมันซับซ้อนเกินกว่าเหตุ
ปล1.เราได้ทำรายการตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติไว้ โดยที่สมัครทำรายการผ่านทรูช็อป หลังจากที่เกิดเหตุการณ์การตัดยอดเข้ามาเกิน เราก็ได้โทรไปยกเลิกการตัดบัตรอัตโนมัติกับธนาคารสีเหลืองเจ้าของบัตร แต่กลายเป็นว่าเราไม่มีสิทธิยกเลิก ธ.บอกเราว่าทำการยกเลิกให้ไม่ได้โดยอ้างว่า ธ.เองไม่มีข้อมูลตรงนี้ เพราะเป็นการสมัครโดยตรงกับทรู ต้องให้ทรูเป็นคนทำเรื่องเข้ามา?!?! ซึ่งเราไม่แน่ใจว่ามันเป็นแบบนี้ทุกแบ๊งค์หรือเปล่า แต่ถ้าหลักการมันเป็นอย่างที่ทาง ธ. บอกจริง มันก็ทำให้เรารู้สึกว่า ไม่รู้ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของบัตร สิทธิขาดมันควรอยู่ที่ใคร เราจึงอยากเตือนเพื่อนๆชาวพันธิปให้ระมัดระวังเรื่องการตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติแบบนี้ไว้ด้วยค่ะ
ปล2.อยากจะบอกว่าย้ายค่ายอินเตอร์เน็ตแล้วชีวิตดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมากค่ะ ถ้าใครอยากย้ายเล็งๆอยู่ก็จัดเลยไม่ต้องลังเล จริงๆเราหลวมตัวเซ็นเอกสารลดค่าบริการ 50% 1 ปี ไปแล้วด้วยนะที่ทรูช็อป ซึ่งทางช็อปแจ้งว่าจะมี จนท โทรมาคอนเฟิร์มอีกครั้ง แต่ยังโชคดีที่จะเป็นอาทิตย์แล้ว ก็ยังไม่เห็นมีใครติดต่อมา แล้วก็อินเตอร์เน็ตก็ยังเน่าได้ใจเหมือนเดิม เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องมันตกหล่นยังไง ทำให้เราไม่ต้องติดสัญญาทาสต่อ ตอนนนี้รู้สึกดีจริงๆที่ได้ย้ายออกมา แต่ดันมีปัญหาเรื่องตัดเงินเกินแทน ฮ่าาาาาาา