เรเชล ชู อาจารย์มหาวิทยาลัยภาควิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ค สาวยุคใหม่ ที่ทั้งสวย เก่ง ฉลาด  เธอเป็น ABC (American Born Chinese)
หน้าตาของเธอนั้นเป็นคนจีน เธอพูดภาษาแมนดารินพอได้บ้าง เพราะแม่ของเธอสอน แต่จิตวิญญาณและความคิดความอ่านของเธอนั้นเป็นอเมริกันชนอย่างแท้จริง เรเชลมีแฟนหนุ่มชื่อนิค หยาง เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเหมือนกันกับเธอ นิคชวนเรเชลไปสิงคโปร์ บ้านเกิดของนิค เพื่อไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสนิทที่ชื่อว่าโคลิน งานนี้นิคจะกลับไปร่วมงานในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าว และถือเป็นการเปิดตัวเรเชล ให้กับครอบครัวของนิคได้รู้จัก นี่เป็นการเที่ยวเอเชียครั้งแรกของเรเชล เรเชลนั้นไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศที่ไหนเลย เธออยากรู้จักครอบครัวของนิคให้มากกว่านี้ และเธอยังอยากแวะไปหาเพื่อนรูมเมทสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ชื่อว่าเพคลิน ซึ่งเป็นคนสิงคโปร์เหมือนกับนิคอีกด้วย

เรื่องมันคงจะเฉยๆ และดีกว่านี้ หากครอบครัวของนิคเป็นแค่คนธรรมดา แต่บังเอิญว่าครอบครัวของนิคคืออภิมหาเศรษฐีใหญ่ ไม่กี่ตระกูลในสิงคโปร์
เป็นกลุ่มเศรษฐีใหญ่ชาวจีนที่อพยพมาตั้งรกรากที่สิงคโปร์ตั้งแต่ประเทศนี้ยังมีแค่ป่า ให้นึกภาพตระกูลเจ้าของเซ็นทรัล CP ไทยเบฟ บุญรอด อะไรประมาณนี้ โดยนิคจะเล่าประวัติพี่น้องของตนให้ฟังพอสังเขป

Alistair Cheng - น้องชายคนสุดท้าย ไปเป็นผู้กำกับที่ใต้หวัน กิ๊กกับดาราสาวสุดเซ็กซี่
Eddie Cheng - ชายผู้มีมุมหล่อเพียงด้านเดียว แต่งงานกับตระกูลเศรษฐีในฮ่องกงและไปตั้งรกรากที่นั่น มีลูกด้วยกันสามคน
Astrid Young Teo - เจ้าหญิงแห่งสิงคโปร์ หญิงสาวสวย รวย เรียนจบเกียรตินิยมจาก ม.อ๊อกฟอร์ด นิสัยดี สวยหวาน อ่อนโยน เธอเลือกที่จะแต่งงานกับนายพลหนุ่มผู้ซึ่งไม่มีอะไรเลย

จากที่นิคเล่า และจากรายชื่อใน imdb เราก็พอจะเดาได้ว่า Alistair และ Eddie นั้นเป็นหลานนอก (หลานที่เกิดจากลูกสาวในตระกูล)
ส่วน Nick กับ Astrid นั้นเป็นหลานใน (หลานที่เกิดจากลูกชายในตระกูล) ในหนังเราจะไม่เห็นพ่อของ Astrid ไม่แน่ใจว่า Astrid เป็นลูกของแม่เล็กหรือเปล่า

Nick กับ Astrid นั้น จะได้รับการคาดหวัง หรือการปลุกปั้นจากครอบครัวมากมาย และได้รับสมบัติเยอะที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้ง 4

เรเชลได้ไปพบกับเพื่อนรูมเมทสมัยหมาวิทยาลัย เพคลิน และตกใจที่พบว่าเพื่อนสาวของเธอนั้นมีบ้านหลังใหญ่ยังกะวัง มีห้องแต่งตัวเสื้อผ้าแบรนด์เนมมากมาย ในขณะที่เธอนั้นใส่เสื้อเดรสสีแดงยังกะซองแต๊ะเอีย ในห้างสรรพสินค้าที่ลดราคา โดยที่เรเชลหวังว่าจะใส่ชุดนี้ไปพบว่าที่แม่สามีในอนาคตในงานเลี้ยงคืนนี้ และเธอก็ได้ช็อคเมื่อรู้ความจริงว่า ตระกูลของนิค นั้นยิ่งใหญ่เพียงใด แต่สาวมั่นยุคใหม่อย่างเรเชลมีหรือจะหงอ สู้สิคะ

ครอบครัวของเพคลินนั้น เพคลินเป็นลูกสาวคนกลาง มีพี่ชาย และน้องสาวฝาแฝดตัวเล็กๆ ระดับเด็กประถม เพคลินนั้นเป็น Wednesday child
คือลูกคนกลาง ที่ได้รับการเอาใจใส่จากพ่อแม่น้อยที่สุด แต่กระนั้นครอบครัวของเพคลินก็ยังส่งเพคลินไปเรียนต่อที่นิวยอร์ค โดยพ่อของเพคลินนั้น
ชื่นชมเรเชลและอยากที่จะให้เพคลินกลายเป็นสาวสวย เก่ง โปรไฟล์ดีแบบเรเชล แต่กลับได้หญิงสาวมั่นไม่จริง ล้นๆ เกินเบอร์ เฮฮาไร้สาระไปวันๆ เป็นทอมหัวทอง (ฉายาที่พ่อตั้งใจ)

เราจะเห็นได้ว่าครอบครัวของเพคลิน ไม่ได้คาดหวัง ปลุกปั้นอะไรเพคลินมากมายเท่าไหร่นัก เพราะครอบครัวนี้มีพี่ชายที่รับสืบทอดกิจการครอบครัว และน้องสาวฝาแฝดที่น่ารัก อยู่เป็นเพื่อนแม่ ตัวเพคลินเองก็ใช้ชีวิตอยู่แบบไร้แก่นสารไปได้เรื่อยๆ

เรเชลนั้นรับรู้ได้ว่า แม่ของนิคดูจะไม่ค่อยชอบใจเธอนัก และเธอเองก็ได้รู้ความจริงบางอย่าง ว่าแม่ของนิคเองก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงในตัวเลือกของอาม่า ที่จะมาเป็นสะใภ้บ้านนี้ แม่ของนิคนั้นต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนัก เธอรักกับพ่อของนิคสมัยที่ทั้งคู่เป็นนักศึกษาในอังกฤษ แม่ของนิคบังเอิญตั้งท้อง เธอต้องยอมทิ้งอนาคตของตัวเอง โดยการลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อมาเป็นแม่บ้าน เลี้ยงลูก
เธอต้องแสดงให้เห็นว่า เธอทุ่มเทขนาดไหนเพื่อตระกูลนี้ เธอยอมเสียสละทุกอย่างทุกอย่างเพื่อการเป็นสะใภ้บ้านนี้ (การพิสูจน์ตัวเองแบบสมัยก่อน ที่เชื่อว่าความดีจะเอาชนะใจแม่สามีได้ในที่สุด) แม่ของนิคพูดตรงๆ กับเรเชลว่า เธอนั้นไม่ดีพอสำหรับนิค และไม่มีวัน (ด้วยความเป็นสาวหัวสมัยใหม่ อเมริกันชนอย่างเรเชลน่ะเหรอ จะยอมเสียสละตนเองขนาดนั้น เพื่อมาเป็นสะใภ้ตระกูลนี้ ในการกลับกันผู้หญิงอย่างเรเชลเนี่ยแหละ จะเป็นตัวปัญหาทำให้นิคออกนอกกรอบ ไม่อยู่ในโอวาทของผู้ใหญ่อีกต่อไป)

ความจริงแล้วนิคจะต้องกลับมารับตำแหน่งประธานบริษัทตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่นิคไม่ยอมกลับมา ขอเลื่อนเป็นปี ทุกคนมองว่าเรเชลคือตัวการ ไม่มีใครในที่นี่จริงใจกับเรเชล ยกเว้นแอสทริด

ในหนังยังมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย ผมขอข้ามจุดๆ นี้ไปเลยนะครับ ไปถึงตอนจบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นางนัดแม่พระเอกมาเล่นไพ่นกกระจอก พร้อมพูดความในใจก่อนกลับอเมริกา ไพ่ของนางชนะแม่พระเอกตั้งนานแล้ว และรู้ว่าแม่พระเอกกำลังรอไพ่ใบนี้อยู่ ก่อนที่นางจะมอบไพ่ใบนี้ให้ นางบอกกับแม่พระเอกว่า เธอเองก็รู้ว่านิครักฉันมากแค่ไหน ชีวิตของนิคมีทางเลือกอยู่สองทางเท่านั้น คือยอมออกจากตระกูลและหนีไปใช้ชีวิตอยู่กับเรเชลที่อเมริกา หรือกลับไปรับตำแหน่งโดยบางหมดกับแม่ตลอดไป ซึ่งเธอเองไม่ใช่คนใจร้ายแบบนั้น
เธอน่ะรักนิคมาก แต่ก็ไม่เห็นแก่ตัว จงจำไว้ว่า ถ้านิคไม่แต่งงานกับชั้น ไม่ใช่เพราะว่าชั้นน่ะไม่ดีพอสำหรับลูกคุณ แต่เพราะว่าชั้นน่ะดีพอที่จะเสียสละต่างหาก และอนาคตถ้าพระเอกได้แต่งงานกับคนที่แม่เลือกให้  มีหลานให้แม่เลี้ยง ทั้งหมดนั่นล่ะเป็นเพราะนาง ผู้หญิงที่ถูกมองว่าเป็นคนธรรมดา  ไม่มีชาติตระกูล  นางหงายหน้าไพ่ให้ดูว่านางชนะแม่พระเอกนานแล้ว แต่ก็ยอมแพ้ให้แม่พระเอก

ในหนังยังมีประเด็นที่น่าสนใจสำหรับแอสทริด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แอสทริดนั้นพยายามที่จะทำให้สามีของตนไม่ดูด้อยค่า นางแอบซ่อนของใช้แพงๆ ที่นางแอบชอปปิ้งมา ภายในบ้านไม่ให้สามีเห็น แต่สุดท้ายก็ถูกสามีนอกใจ โดยสามีนั้นอึดอัดกับสภาพที่เป็นอยู่ การที่แอสทริดทำแบบนี้ยิ่งทำให้สามีดูด้อยค่าลงไปอีก ตอนที่ถูกจับได้ สามีของแอสทริดนั้นหวังที่จะให้แอสทริดร้องไห้ฟูมฟายเหมือนกับผู้หญิงทั่วไป ไม่ใช่ต้องปั้นหน้ายิ้ม ไม่ให้สังคมตั้งคำถาม เพื่อรักษาหน้าและวงตระกูล แต่หลังจากที่แอสทริดได้รับพลังด้านบวกจากเรเชล ทำให้เธอได้รู้ว่า สามีของเธอนั้น ไม่ได้ต่อสู้อะไรเพื่อให้ตัวเองมีค่าขึ้นมาในสายตาของตระกูลเลย เธอจึงตัดสินใจหย่ากับสามี

ความคิดเห็นส่วนตัว
ในหนังเราจะเพลิดเพลินไปกับชีวิตที่เริศหรูอลังการไฮโซ พาชวนฝัน จินตนาการ ในอีกโลกที่เราอยากไปสัมผัส ในประเทศที่ค่าครองชีพแพงติดอันดับโลก แต่กลับซ่อนชีวิตความอึดอัดของลูกหลานครอบครัวใหญ่ ที่คาดหวังจะให้เราเป็นดั่งพวกเขา เป็นแบบคนรุ่นเก่าที่ประสบความสำเร็จ จขกท มีเพื่อนที่มาจากครอบครัวใหญ่ บ้านรวย แต่พอเรียนจบ ก็ไปหางานทำ ไปอยู่หอ ไม่อยากกลับไปอยู่ที่บ้าน
บางทีการได้ใช้ชีวิตของเรเชลนั้น อาจจะเป็นที่อิจฉาของคนรวยบางคน (เกิดมาในครอบครัวคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ต่อสู้ดิ้นรนกันมา รักและเข้าใจกันดีระหว่างแม่กับลูก) ในขณะที่คนอย่างเราๆ ก็ได้แต่ใฝ่ฝันใช้ชีวิตสวยๆ หรูหราไฮโซแบบตระกูลพระเอก ลางเนื้อชอบลางยา ชีวิตของพวกเขานั้น ดูดี มีความสุขทุกอย่าง ยกเว้นสิ่งที่เรียกว่าบ้าน มันกลับอึดอัดและไม่น่าอยู่เอาเสียเลย การเลี้ยงลูกแบบเอเชียที่คาดหวังจะให้ลูกมีอนาคตที่ดีแบบที่เราอยากให้เป็น การเลี้ยงลูกแบบฝรั่งที่ให้มีอิสระทางความคิดกล้าแสดงออกเปิดเผยตัวตน อายุ 18 ก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง ในหนังจะเห็นการพูดจิกกัดกันไปมาระหว่างสองฝั่ง เพราะต่างฝ่ายก็ต่างมีเหตุผลของตัวเอง

เราจะเห็นได้ว่า ทั้งเรเชลและแม่ของนิคเอง ก็ต่างไม่เป็นที่ยอมรับของแม่สามีทั้งคู่ แต่การแก้ปัญหานั้นเป็นไปตามยุคสมัย เหมือนกับละครบ้านเรา ยุคของแม่ ก็เป็นยุคนางเอกแสนดี ผู้ยอมเสียสละ ใช้ความดีเอาชนะแม่สามี แต่ยุคของเรเชลนั้นไม่ใช่แล้ว