อัศวินเทเลอร์กับอาณาจักรแอตแลนติส...บทที่ 3 – จุดเริ่มต้นจากความตาย (Part 2)

กระทู้สนทนา
.....

          พวกเราทั้งสองหอบกันนิด ๆ เมื่อมาถึงห้องสมุดบนถนนสปรูซ ห้องสมุดนี้มีเนื้อที่ไม่ใหญ่มากนักแต่ด้วยแผนผังที่ได้ออกแบบมาอย่างมีระบบ ทำให้ที่นี่สามารถจุหนังสือได้เกือบแสนเล่มถ้าเทียบกับห้องสมุดทั่วไปถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว คุณนายแมร์รี่บรรณารักษ์สุดเนี้ยบยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์จ้องมองผมกับเทรซี่เมื่อเราหัวเราะเสียงดังหน้าประตู

          เราช่วยกันหาเรื่องเกี่ยวกับควอนตัม และเธอก็ถามบางเรื่องที่เธอไม่เข้าใจต่อ เธอดูประทับใจพอตัวที่ผมสามารถตอบคำถามของเธอได้อย่างชัดเจน แต่ตอนนี้ผมมีบางอย่างที่ต้องบอกเธอ
          “เทรซี่ ฉันไปเข้าห้องน้ำแปปนะ ไม่ไหวแล้ว”
          เธอไม่ทันจะหันมามองผมด้วยซ้ำ ผมก็วิ่งไปห้องน้ำอย่างรวดเร็วแต่ก่อนที่ผมจะถึง ผมได้ยินเสียงคนคุยกัน ในหมวดของสังคมศาสตร์และผมคงไม่สนใจ ถ้าเสียงที่ผมได้ยินมันไม่คุ้นหูมากขนาดนี้
          “แมทมันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ อย่ากังวลเกินเหตุสิ” เสียงผู้หญิงกำลังพูดกับแมท เขายืนหันหลังระหว่างช่องหนังสือ ผมจึงนั่งลงและค่อย ๆ คลานไปแอบอีกช่องเพื่อจับใจความ
          “ไม่รู้เหมือนกัน เขาฝันเป็นเรื่องเป็นราวมาก ฉันแค่รู้ว่าฉันสังหรณ์ใจกับเรื่องนี้ ถ้ามันมีอันตรายจริง ๆ ล่ะ ถ้าพวกนั้นรู้แล้วละ อาจจะมีอันตรายกับเขาก็ได้ ฉันควรจะบอกเรื่องนี้กับเขาดีไหม” เสียงแมทดูร้อนใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมยังคงแอบฟังเรื่อย ๆ เขาที่แมทพูดหมายถึงใคร
          “เขาจะได้หาว่านายเป็นบ้านะสิ แมท”
          “แล้วถ้ามันเกิดเรื่องร้ายขึ้นแล้วฉันจะทำไง พ่อฆ่าฉันตายแน่ ๆ”
          “ไม่รู้สิ แต่ฉันไม่เห็นด้วย มันอาจทำให้เขาเตลิดไปก็ได้และถ้ามันเกิดไม่มีอะไรจริง ๆ ความลับถูกแพร่งพราย เขาจะยิ่งอันตรายมากกว่าที่นายคิดนะ”
          ‘ฉันเห็นนายหายไปนานก็เลยเดินมาดู นายมานั่งทำอะไรตรงนี้’
           เสียงเทรซี่ทำผมสะดุ้งสุดตัว เธอมาทำอะไรตอนนี้ ที่นี่ อย่างน้อยก็ไม่ใช่เวลานี้

          “เทเลอร์!”
          แมทร้องสุดเสียงเมื่อเขาเดินออกมาจากชั้นหนังสือแล้วเจอผมนั่งอยู่ตรงล็อกถัดไป คนที่เดินตามมาคือบรรณารักษ์ฝึกหัดของที่นี่ กลอเรีย
          “เอ่อ...ฉันมาเข้าห้องน้ำแล้วก็เจอเล่มนี้” ผมมองไปที่ชั้นหนังสือและหยิบมาหนึ่งเล่ม แก้ไขสถานการณ์ตามพรสววรค์ “ประวัติศาสตร์จีน”
          “นายมาสนใจอะไรเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีน รายงานของอาจารย์สวันน่าหรอ” เทรซี่ถาม
          “ประมาณนั้น” ผมตอบตะกุกตะกัก
          แต่...ไม่ ทำไมผมต้องเป็นคนที่ถูกซัก คนนั้นมันควรจะเป็นแมทมากกว่า ผมหันกลับไปที่แมท ที่กำลังยืนหน้าซีดแอบอยู่หลังชั้นหนังสือ
          “แมท” ผมพูดเสียงห้วน “นายไม่ได้ไปคัดตัวนักกีฬาเทควันโดกับอาจารย์ไมเคิลหรอกเหรอ”
          “เสร็จแล้วก็เลยแวะมาห้องสมุด มาหาเรื่องที่จะทำโครงงาน” แมทตอบเสียงสั่น
          “ไม่ ที่ฉันเห็น นายไม่ได้คุยเรื่องนี้ นายคุยอะไรบางอย่างที่ฉันไม่เข้าใจ”
          “เรื่องโครงงานไง” แมทยังคงปากแข็ง
          “ไม่ แมท นายกำลังโกหกฉันอยู่ นายคุยเรื่องอะไรกับกลอเรียเมื่อกี้”
          “ฉันคุยเรื่อง...”
          “ความฝัน...นายบอกว่าครอบครัวเขากำลังมีอันตราย” ผมแทรกก่อนที่แมทจะทันพูดจบ “เขาที่นายว่าหมายถึงใคร”
          เทรซี่ยืนกอดอกมองหน้าแมทตาขมังก่อนที่จะตวาดเสียงดัง “นายบอกอะไรเขา...โอ้ว...ไม่นะ...นายคงไม่...” เทรซี่ใช้น้ำเสียงดุดันที่แฝงไปด้วยอารมณ์เซงชีวิตแบบสุดใจ

          แต่...

          แล้ว...

          ยังไง....

          ทำไมเทรซี่คุยกับแมท ทั้งสองคนนี้รู้เรื่องอะไร
          “นายฟังผิด” แมทยกมือห้ามเทรซี่และยืนยันเสียงเข้มกับผม
          “ถ้านายบอกเขาเรื่องนั้นนะ ฉันจะ...” เทรซี่ตะโกนใส่แมทพร้อมยกมือชี้หน้า “ฉันจะ...ฮืมมม” เธอครางในลำคอ
          ตอนนี้ผมชักงงไปหมดแล้ว เทรซี่รู้เรื่องที่แมทคุยกับกลอเรีย ทั้งสามคนนี้รู้เรื่อง คนที่เขาหมายถึงคือผมงั้นเหรอ แล้วผมกำลังจะเป็นอะไร ทำไมพวกเขาต้องกลัวขนาดนี้ หูผมอื้อไปไปพักใหญ่ ไม่ใช่เพราะผมหูตึงหรอกนะ แต่สมาธิใช้สมาธิกำลังลำดับเหตุการณ์
          “พวกนายคุยอะไรกัน” ผมพยายามถามแมทที่กำลังเจรจากับเทรซี่
          “หยุดสักที” ผมตะโกน “นี่มันเรื่องอะไรกัน ฉันไม่เข้าใจ”
          ทุกคนเงียบ ไม่เว้นแม้แต่เทรซี่ ปกติแล้วเธอไม่ชอบให้ใครตะโกนหรือตะคอกใส่หน้าเธอแบบนี้ ถ้าเธอเจอแบบนั้น อารมณ์เธอจะปรี๊ดเหมือนปรอทเลยทีเดียว
          “นายเล่าความฝันของนายให้พวกเราฟังก่อน แล้วเราจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวนาย” แมทยื่นข้อเสนอ ผมกวาดสายตาไปมองทั้งสาม พวกเขาดูจริงจังใช่เล่น
          “ฝันอะไร” เทรซี่แทรก
          “นายฝันอะไร เทเลอร์” เทรซี่ถามซ้ำอีกรอบ
          “ก็ได้ ก็ได้” ผมพยายามรื้อฟื้นความฝันตัวเอง ผมเห็นอะไรบ้างจากที่นั่น “กำแพงสูง ๆ ต้นไม้ ฉันรู้สึกหนาว มีตลาดแล้วก็บ้านเรือนมากมาย คนที่นั่นก็แต่งตัวแปลก ๆ”
          “แอตแลนติสเหรอ” กลอเรียพูดขึ้นเหมือนรู้แต่ดูเธอกำลังเดามากกว่า
          “อะไร แอตแลนติส” ผมถามกลับ
          “แล้วนายเจออะไรอีก ที่นั่นมีใครอีกไหม แล้วสภาพแวดล้อมเป็นไง การแต่งตัวล่ะ” กลอเรียยิงคำถามมาเป็นชุด จะให้ตอบคำถามไหนก่อนดีล่ะ นี่ฉันจำความฝันของฉันได้นะ ขอบคุณ
          “ฉันจำไม่ได้แต่ตอนที่อยู่ตลาดมีผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเรียกใครสักคนที่ฉันรู้จักว่าอะไรสักอย่าง ฉันจำได้แค่นี้”
          “อันทิโนอุส” กลอเรียบอก “ใช่อันทิโนอุสหรือเปล่า”
          ผมพยักหน้า “ผู้หญิงคนนั้นเรียกเขาแบบนั้น อย่างน้อยก็คล้าย ๆ กัน”
          “ทำไมอันทิโนอุสถึงมาหาเทเลอร์ล่ะ” แมทถาม
          “มันก็ต้องเกิดเรื่องนะสิ แม้เขาจะชำนาญนิมิตในฝัน แต่เขาก็ไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้ มันผิดกฏ” กลอเรียพูดและผมรู้สึกหงุดหงิด
          “เขาคุยกับนายว่าไงบ้าง” แมทถาม
          “เขาบอกว่าฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย”
          เมื่อผมพูดจบ แมทกับเทรซี่มองหน้ากัน ลักษณะของพวกเขาดูเข้าใจเรื่องราวเป็นอย่างดีแม้ไม่ต้องพูดอะไรออกมา
          “คำถามสุดท้าย” แมทกลืนน้ำลาย “ครีโทเนียสอยู่ในความฝันนายไหม”
          “อะไร ครีโทเนียส นายพูดเรื่องอะไรกันอยู่” ผมย้อน
          “ฉันหมายถึงนายเจอคนที่ชื่อครีโทเนียสหรือเปล่า”
          “พวกนายเป็นอะไรกันเนี่ย ฉันบอกว่าฉันจำความฝันบ้า ๆ นั่นไม่ได้ ที่ฉันเล่าให้พวกนายฟังนั้นมันก็มากแล้ว มันจะดีกว่าถ้านายเล่าเรื่องทั้งหมดที่นายรู้ให้ฉันฟัง เดี๋ยวนี้”
          “ฉันว่าคงไม่ใช่ครีโทเนียสหรอกแมท” เทรซี่พูด เหมือนเธอไม่สังเกตเห็นว่าผมอยากรู้เรื่องนี้แค่ไหน
          “โอเค ไม่เป็นไร ฉันกลับแล้ว” ผมต้องพูดเสียงดังกว่าเดิมเพื่อให้พวกเขาสนใจผม “ในเมื่อไม่มีใครบอกฉันว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันก็จะไปแล้ว”
          “เฮ้ ๆ ขอเวลาให้ฉันคิดก่อนได้ไหม” แมทพูดขึ้นเมื่อผมหันหลังให้พวกเขา
          “คิดอะไร” ผมถามแต่เขาไม่ตอบ แมทกลับหันไปปรึกษากลอเรียและเทรซี่ มันทำให้ผมรู้สึกอยู่ห่างไกลจากเรื่องนี้ไปทุกที จะบอกว่าเหมือนพวกเขาทิ้งผมไว้กลางทะเลทรายก็ว่าได้
          ‘เจอกันพรุ่งนี้ที่โรงเรียนนะ’
          ผมบอกลาทุกคนอย่างใจเย็นแล้วเดินออกจากห้องสมุดโดยมีแมทกับเทรซี่วิ่งตามมา
          “นี่เทเลอร์ ฉันก็อยากจะบอกเธอแต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้” เทรซี่พูดขึ้น
          “อะไรเทรซี่ เธอมีปัญหาอะไรกันแน่” ผมเริ่มเหวี่ยง
          “เทเลอร์ ฉันพูดกับเธอดีๆ นะ”
          “เหรอ” ผมหยุดเดินและหันไปมองเธอ “ฉันควรจะยิ้มแล้วบอกว่าพร้อมเมื่อไหร่ค่อยบอกฉันนะ แบบนี้นะเหรอ”
          “แต่...” เทรซี่หยุดและดูเหมือนเธอจะร้องไห้ “ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดี”
          “ตามสบาย ฉันไม่แคร์หรอก นั้นมันก็แค่ฝัน แต่ที่ฉันแปลกใจ เธอรู้ไหมว่าอะไร” ผมหันไปมองเทรซี่กับแมท “ฉันไม่รู้ว่านายรู้ได้อย่างไรว่าในฝันฉันเจอใครบ้าง”
          “เทเลอร์ นายบอกฉันว่า นายได้ยินชื่อเดียวนี่ ชื่อของอันทิโนอุส”
          “ฉันไม่ได้บอกนายว่าในฝันมีแค่ชื่อเดียวแมท ฉันแค่ไม่ได้บอกว่าครีโทเนียสก็เป็นอีกชื่อที่อยู่ในฝันนั้น”
          ผมตัดสินใจพูดและเดินหนี
          “ไม่ๆ เทเลอร์ เดี๋ยวๆ” แมทกระชากแขนผม “แล้วครีโทเนียสกำลังทำอะไร”
          “เฮ้ แมท นายทำอะไรของนายเนี่ย” ผมตะคอกเสียงดังด้วยความโกรธ “เป็นอะไรกัน”
          ผมตะโกนสติแตก มือไม้สั่นไปหมด
          แมทสูดอากาศเข้าไปเต็มปอด ผมรู้ว่าเขารู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยไปกว่าผม แต่ถ้าเขาไม่บอกอะไรผม ก็อย่าหวังว่าเขาจะได้อะไรจากผมเหมือนกัน
          “โอเค นายตอบฉันมาก่อนว่าครีโทเนียสกำลังทำอะไร”
          “ฉันไม่ได้คุยกับครีโทเนียส แค่อันทิโนอุสเอ่ยชื่อนั้นมา แล้วบอกแค่บอกว่าที่นี่ไม่ปลอดภัย”
          แมทหยุดคิดสักพัก อันที่จริงเขาแค่สูดลมหายใจ “โอเค เราจะไปบ้านนาย เราจะไปคุยเรื่องนี้กับแม่นายกัน” แมทพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ความราบเรียบนั้นมันทำให้ผมขนลุก เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
          “นายหมายถึงอะไร ฉันไม่เข้าใจ”
          “นายต้องกลับบ้านตอนนี้”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่