ทำงานประจำโรงแรมในเชียงใหม่แห่งหนึ่ง เงินเดือนที่ได้ 8,500 บาทไม่มีโบนัส ไม่มี service charge เราควรจะอยู่ต่อดีไหม

กระทู้คำถาม
เราทำงาน ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใจกลางเมืองเชียงใหม่ย่านไนท์บาซาร์ มีรูปกล้วยไม้ อยู่บนตึก เราทำงานตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ทรัพย์สิน เงินเดือนเริ่มต้น ตอนที่มาทำงานใหม่ 4,500 บาทตอนนี้เราอยู่ที่นี้มา 13 ปีแล้ว เราได้เงินเดือน 8,900 หักประกันสังคมแล้วเหลือ 8,500 บาท
       เราขอเริ่มเรื่องตั้งแต่ตอนเลยแล้วกัน เราจบการศึกษาระดับ ปวสสาขาเทคนิคคอมพิวเตอร์ ตอนจบใหม่ เราได้ทำงานบริษัทรับติดตั้งกล้องวงจรปิดแห่งหนึ่ง ในเชียงใหม่ ทำอยู่ได้ ประมาณ 6 เดือน เราก่อลาออกจากที่นั่น เราก่อเริ่มหางานใหม่ แล้วเราก่อมาเห็นโรงแรมที่นี้เค้ารับสมัครช่าง เราก่อเลยมาสมัครตำแหน่งช่างเทคนิค ก่อไม่ได้คิดอะไรมากจนผ่านไปประมาณ 1 เดือน เค้าก่อโทรมาให้ไปเรียกสัมพาสงาน เค้าเห็นสาขาที่เราจบมา เค้าก่อเลยมีตำแหน่งว่าง คือ เจ้าหน้าที่ทรัพย์สิน แต่เงินเดือนเริ่มต้นที่ 4,500 บาท หยุด วันอาทิตย์ แล้ว ก่อวันสำคัญต่างๆ ทำงาน เข้า 8.00-17.00น.ตอนนั่นเราก่อเลยตัดสินใจทำไปก่อนเพื่อเอาประสบการ์ณ์ ตอนนั่นเราอายุได้ 21 ปี ที่ทำงานเพื่อนร่วมงานก่อดี ในตอนนั่นเรายังตัวคนเดียว ไม่มีภาระอะไร เราก่อยังวัยรุ่นไม่คิดอะไรมาก ทำไปเรื่อยๆ แต่ที่นี้สมัยนั่น ระบบ IT ยังไม่เหมือนปัจจุบัน จะมีแต่งานซ่อมคอมลงโปรแกรมต่างๆ แผนกช่างไม่มีใครทำได้สักคน เราจบสางานคอมพิวเตอร์มา เราก่อเลยต้องเป้นคนซ่อมเองตามที่เค้าจะสั่ง เราก่อไม่คิดมากเพราะเราทำได้ ทำมันเรื่อยๆมา จนเราได้ทำอยู่ 2 ตำแหน่ง ทั้งเจ้าหน้าที่ทรัพย์สิน และ ช่าง IT เงินเดือนที่เราได้ 5,000 ในตอนนั่น
      จนมาถึงช่วงหลังๆที่ระบบ INTERNET เข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนเรา ทางเจ้านายคนก่อน ได้มอบหมายให้เราทำการติดตั้ง และ วางระบบ INTERNET ของโรงแรมทั้งหมด เราก่อตั้งใจทำงานเป็นอย่างดีงานหนักมาก ทำทั้ง 2 ตำแหน่งแต่เราก่อตั้งใจทำมัน เพื่ออนาคตข้างหน้า จนผ่านไปเรื่อยๆงานที่หนักที่สุดคืองาน ระบบ internetnet เพราะเจ้าของใช้อุปกรณ์ราคาถูก ทำให้ปัญหาเกิดขึ้นเยอะมากมาย เราต้องค่อยวิ่งขึ้นลง service ตลอดเวลาเหนื่อยมาก สิ้นปีมาเงินเดือนปรับขึ้น เป็น 5500 บาท ทำอยู่แบบนี้มานานหลายปี เงินเดือนก่อปรับบ้างไม่ปรับบ้าง ขยันทำงาน จนผู้บริหาร เค้าบอกว่า จากการทำงานเราอาจจะได้เป็นหัวหน้า IT เพราะเค้าจะตั้งแผนก it ขึ้นมาแล้วให้เรารับผิดชอบ เราเหมือนมีความหวัง ตั้งใจทำงานไม่เคยบ่น จนผ่านไปปีแล้วปีเล่า ก่อยังไม่มีวี่แวว จนผู้บริหารลาออก
     จากนั่นลูกของเจ้าของก่อเข้ามาบริหารแทน คราวนี้ยิ่งดิ่งลงเหว ไม่ค่อยเข้ามาบริหาร เดือน 1 เข้ามา 1 ครั้ง มาเช็นเอกสาร จึงเกิดการที่หัวหน้าแผนกแต่หละแผนกตั้งตนเป็นเจ้าของโรงแรม แต่หละคนยิ่งใหญ่กันมาก มีแต่คนคอยเลียขาเจ้านาย เจ้าของโรงแรมได้มอบหมายให้คนเก่าคนแก่คนหนึ่งซึ่งเค้าทำตำแหน่งหัวหน้าบัญชี แล้วก่อ หัวหน้าจนซื้อ ในการเซ็นเอกสารแทน เจ้าของ นางคนนี้ได้ยึดอำนาจเอาใว้หมด นางตั้งตนเป็นใหญ่ พิจารณาเงินเดือนเอง ใครที่อยู่เป็นทาสนาง นางจะขึ้นเงินเดือนให้ แล้วเงินเดือนพนักงานก่อไม่ขึ้น จนปีแล้วปีเล่า ก่อไม่มีการปรับเงินเดือนพนักงาน พนักงานถาม เค้าก่อเลี่ยงบอกว่าทางโรงแรมผลประกอบการน้อย จนเลี่ยงไม่ไหว  จนมาปรับครั้งล่าสุดที่ทางรัฐบาลประกาศค่าแรงขั้นต่ำ เป็นวันหละ 300 บาท เราก่อเลยดีใจคิดว่าเงินเดือนจะปรับ ปรับจริง แต่ไม่ใช่อย่างที่เราคิด เราได้ปรับจริง แต่ได้ 8,900 บาท หักแล้วเหลือ 8500  เราจึงแฮกเข้าไปดูเอกสารที่นางทำเงินเดือน แล้วเอกสารที่นางกับเจ้าของโรงแรมทำส่ง กรมแรงงาน จำนานเงินที่รับกันจริงๆ 8900 แต่ทางโรงแรมจัดแต่งเอกสารส่งกรมแรงงาน เป็น 10000 กว่าบาททุกคน พนักงานไม่หลักฐาน เพราะเค้าไม่แจกสลิปเงินเดือน เราเหนเงินเดือนของคนที่เป็น ลิ่วล้อข้าทาสนาง ได้ 12000 ทุกคน เราเลยหมดกำลังใจ
ทำงานแทบตาย มา 13 ปี เงินเดือนน้อยมาก
         แต่ที่เราอดทนเพราะ มันสามารถลาหยุดได้ง่าย ตอนนี้เรามีลูก เวลาเราจะลางาน ไปเกี่ยวกับลูก มันง่ายถ้าเป็นที่อื่นมันทำไม่ได้ แต่เงินมันน้อยมากๆเราไม่พอเลี้ยงลูก เราส่งสารลูกเรา เราเลยคิดว่า เราจะให้อนาคตเราเป้นแบบนี้หรือไง แล้วลูกเราจะอยู่อย่างไร ตอนนี้เราก่อทำอาชีพเสริมโดยการไปขาย ซาลาเปา เพราะ บ้านแฟนเราทำ เค้าก่อสอนเราทำทั้งหมด จนพ่อแฟนเราเสีย เราก่อเลยทำต่อ เป็นรถแล่ขายตามที่ต่างๆตามจังหวัดลำพูน
         ลืมบอกไปเราแต่งงาน กับ แฟนเราเค้าเป็นคนลำพูน มีลูกแล้ว 1 คนเราก่อเลยอยู่กับลูกกับแฟนที่ลำพูน ก่อเลยได้ขาย ซาลาเปาที่จังหวัดลำพูน
1 อาทิตเราจะไปขายแค่ 1 วัน ในวันที่เราหยุดงานเท่านั่น ได้กำไรหักต้นทุนแล้วจะเหลือวันหละประมาณ 900-1000 แต่ขายตอน บ่าย 3 โมงเย็น ถึง ประมาณ 3 ทุ่ม เรามีลูกค้าขาประจำที่ติดใจในรสชาติ ขนมจีบ ซาลาเปาของเรา เพราะ 1 อาทิตเราไปขายแค่วันเดียว ลูกค้าเราก่อถามว่าวันอื่นไปขายที่ไหน เราก่อบอกว่าเราขายที่เดียว วันอื่นเราทำงานประจำอยู่
       เรากำลังคิดว่า เราจะลาออกจากงานประจำนี้ เพราะเราดูแล้วมันไม่มีโอกาสก้าวไปข้างหน้าได้ ทำงานแทบตายเงินเดือนก่อไม่ขึ้น
แล้วออกไปขายซาลาเปา ดีไหม แต่คิดในใจ ตอนนี้เราขายซาลาเปาได้ประมาณ 8 เดือนหละ
เรากลัวจะไม่มีเวลาให้ลูกตอนเย็น เวลาลูกกลับมาจากโรงเรียน เรากลัวว่า ขายซาลาเปาทุกวัน คนกินเค้าจะเบื่อ เรากลัวว่าจะไปไม่รอด เรากลัวคนไม่ซื้อของเรา เรากลัวไม่มีเงินให้ลูก แต่อยู่ที่นี้ เราก่อกลัวจะไม่มีเงินให้ลูก เพราะเงินเก็บให้ลูก ยังไม่มีเลย ต้องเอาเงินมาหมุนตลอดเวลา สงสารลูกสงสารเมีย
ตอนเราแต่งงาน เราได้สัญญา กับเค้า กับพ่อกับแม่เค้า ว่าเราจะดูแลเค้าให้ดีที่สุด เราไม่รู้ว่าเราจะทำอย่างไรดี ใครมีความคิดเห็นอย่างไรบอกเราด้วยนะ

Facepalm
Facepalm
Facepalm

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  มนุษย์เงินเดือน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่