เรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายของวีคนี้ ดูแค่ชื่อเรื่อง นึกว่าเป็นเรื่องตลกขำขัน แต่พออ่านไปๆ กลับไม่ใช่ครับ ไปอีกแนวหนึ่งเลย แถมตอนต้น มีการอ้างถึงเกมถุงมือและกรรมการอีกด้วย เอ้อ!
เรื่องมันจะอะไรยังไง ตามอ่านกันเลยครับ หลังจากนั้นก็ตัดเกรด แล้วเล็งหาตัวคนเขียนดู ใครกันหนอ...


เมื่อเห็นการประกาศแจ้งเตือนจากคุณหวางว่าเรื่องสั้นในสต๊อคกำลังลดลงจนถึงระดับวิกฤติ เขาก็มีดำริว่าจะเขียนส่งเข้าไปสักเรื่องหนึ่ง เพื่อบรรเทาอาการ “เรื่องสั้นพร่อง” ภายในชมรมถุงมือนักเขียน
แต่ภารกิจการงานที่ช่างรัดตัวทำให้เขาต้องผัดวันประกันพรุ่งมาหลายคราเต็มที
แล้วก็ถึงเส้นตายที่เขาแอบกำหนดกับตนเองเอาไว้ว่าจะต้องเขียนแล้วเสร็จภายในวันนี้ให้จงได้ เขารีบสะสางงานการให้เรียบร้อยตั้งแต่เย็น อาบน้ำสระผมทำตัวให้สดชื่น ชงชาหนึ่งเหยือกมานั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน คิดว่าใช้เวลาไม่เกินสองชั่วโมงทั้งคิดเรื่องและพิมพ์ก็คงจะแล้วเสร็จ
เข็มนาฬิกาเวียนหมุนวนไปเรื่อย ๆ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองเวลาก็พบว่าล่วงเลยไปแล้วกว่าสามชั่วโมง แต่งานเขียนกลับยังไม่ได้เริ่มแม้แต่คำเดียว แต่ละนาทีถูกเผาทิ้งไปโดยเฟสบุ๊ค กระทู้น่าสนใจในพันทิป รวมไปถึงการเกาะติดรายการทายชื่อเจ้าของถุงมือ
ลุกขึ้นบิดตัวแก้เมื่อยแล้วก็เดินออกจากโต๊ะทำงาน คิดจะหาอะไรรองท้องสักนิด หวังว่าเมื่อได้ทานอะไรบ้างสมองน่าจะโปร่งขึ้น ก่อนเที่ยงคืนเรื่องก็น่าจะเขียนเสร็จ แล้วจะได้เข้านอนเสียที หลังจากเลือกเอาวัสดุที่มีอยู่ในตู้เย็นและบนโต๊ะในห้องครัวมารวมกันก็ได้แซนวิชมาสามสี่ชิ้น เขาเติมน้ำร้อนลงในเหยือกชาให้พอได้ปริมาณสักหนึ่งถ้วยชา จากนั้นก็หยิบเอาชุดของว่างกลับมานั่งบนโต๊ะทำงาน ไม่แน่บางทียังไม่ทันจะทานหมด เรื่องสั้นของเขาอาจพร่างพรูมาจนเสร็จก่อนก็ได้ ใครจะรู้
อาหารว่างพร้อมน้ำชาหนึ่งถ้วยหมดไปนานแล้ว แต่งานเขียนของเขายังไม่ชิ้นเป็นอัน พยายามนึกพล็อตแล้วก็พิมพ์ไป แต่ได้ไม่กี่บรรทัดก็ลบทิ้งพร้อมนึกพล็อตใหม่ เป็นอย่างนี้เวียนอยู่หลายครั้ง
แว่วเสียงสุนัขในซอยเห่าสลับหอนมาเป็นระยะ ยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด ตอนนี้น่าจะล่วงเข้าหลังสี่ทุ่มแล้ว ทำไมสมองของเขาวันนี้มันถึงได้ตื้อนักนะ หรืออาจจะเป็นเพราะเขาตั้งใจกำหนดตัวเองจนเกินไป
ออกไปข้างนอกน่าจะดี เดินเล่นเปลี่ยนสถานที่หากาแฟดื่ม ขณะเปิดลิ้นชักเพื่อหยิบเอากุญแจบ้าน สายตาของเขาก็เหลือบเห็นซองบุหรี่กองปนอยู่กับของอื่นภายในลิ้นชัก ในระยะหลังเขาพยายามลดการสูบให้น้อยลง จะมีบ้างก็ต่อเมื่อได้ออกไปนั่งสังสรรค์กับมิตรสหาย หรือสูบขณะดื่มกาแฟสักมวนเพื่อใช้ความคิดในเรื่องงาน มัลโบโร่ไลท์ซองนี้เหลืออยู่ไม่กี่มวน เขาวางทิ้งไว้เกือบสิบวันแล้วโดยไม่คว้ามันขึ้นมา นับว่าเป็นการลดที่ใช้ได้ทีเดียว
ตอนนี้บนร่างของเขานุ่งกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดคอกลมอยู่ จึงเพียงคว้าเสื้อแจ็กเก็ตออกมาคลุมร่างอีกหนึ่งชั้น ก็เพียงพอแล้วสำหรับการเดินเล่นออกไปปากซอย บุหรี่ฝรั่งซองสีขาวและกุญแจบ้านถูกหยิบใส่กระเป๋าแจ็คเก็ตก่อน ตามด้วยกระเป๋าเงิน ไฟแช็ค โทรศัพท์มือถือยัดรวมกันอยู่ในกระเป๋ากางเกง หยิบปากกาเหน็บเข้ากับปกแจ็กเก็ต คว้ากระดาษเอสี่พับครึ่งติดมือไปด้วยสองสามแผ่น เผื่อความคิดดี ๆ เกิดขึ้นระหว่างอยู่ข้างนอก
ความตั้งใจแรกคือไปนั่งร้านกาแฟแบรนด์ดังที่ตั้งอยู่ตรงปากซอย สาขานี้เปิดถึงห้าทุ่ม ถึงแม้ดูตามเวลาแล้วร้านน่าจะใกล้ปิดเต็มที แต่ในใจเขาก็ลุ้นให้ยังคงเหลือลูกค้านั่งอยู่บ้าง เร่งจ้ำอ้าวไม่ถึงห้านาทีก็มาถึงเป้าหมาย ประตูร้านยังผลักเปิดออกได้ แต่เมื่อกวาดสายตาไปโดยรอบก็พบว่ามีเพียงเขาคนเดียวเป็นลูกค้าภายในร้าน ดูจากสภาพการเก็บของและทำความสะอาด คาดว่าลูกค้าชุดสุดท้ายน่าจะลุกออกไปได้นานโข
แล้วความหวังของเขาก็หมดลงเมื่อพนักงานตรงเคาน์เตอร์ซึ่งกำลังง่วนนับเงินอยู่เงยหน้าขึ้นมาบอกว่าได้ปิดเครื่องชงกาแฟแล้ว
ยังไม่ยากนักที่จะหาที่นั่งดื่มยามค่ำคืนในเวลานี้ เขาตัดสินใจเดินต่อไปยังซอยถัดไปซึ่งอยู่ห่างเพียงร้อยกว่าเมตร ปากซอยเป็นร้านสะดวกซื้อเดินเข้าไปในซอยไม่กี่ก้าวก็เป็นบาร์ญี่ปุ่นเรียงกันสองสามร้าน เขารีบจ้ำผ่านเพราะหากแวะเข้าไปรับรองว่านอกจากจะไม่ได้ไอเดียงานเขียนแล้วเงินในกระเป๋าก็คงจะถูกปลิ้นออกไปจนไม่เหลือหลอเป็นแน่
เดินเลยร้านค้าอีกสองสามร้านและ โรงแรมแบบโฮสเทลขนาดสองคูหา เป้าหมายใหม่ของเขาเป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ อยู่เลยโฮสเทลไปสามสี่ห้อง เจ้าของร้านเป็นชาวญี่ปุ่นขายทั้งกาแฟ ชา และเหล้าเบียร์ เหมือนเอาไว้เป็นแหล่งพบปะของคนชาติเดียวกันซึ่งมีปริมาณมากพอสมควรในย่านนี้
ร้านนี้จะปิดตามใจเจ้าของ แต่โดยปกติแล้วก็ดึกพอสมควร เขาเคยนั่งเล่นอยู่กับลูกค้าคนอื่น ๆ ได้ถึงตีหนึ่ง แต่แล้วก็ต้องผิดหวังอีกครั้งเมื่อไปถึงพบว่าประตูเหล็กหน้าร้านถูกดึงลงปิดเป็นที่เรียบร้อย
ลึกเข้าไปในซอยยังมีแสงสว่างของร้านต่าง ๆ อยู่หลากหลาย เขาเดินทอดน่องไปเรื่อย ๆ ผ่านร้านบุฟเฟ่ท์เกาหลี ผับวัยรุ่นแบบเปิดเพลงแดนซ์ และคาราโอเกะ ซึ่งต่างก็ไม่ใช่ร้านที่จะนั่งแช่หาไอเดีย ในที่สุดก็เข้ามาลึกกว่าสามร้อยเมตร ต่อจากนี้ไปก็จะเป็นย่านบ้านพักอาศัยแล้ว
กำลังจะหันร่างกลับด้วยความผิดหวัง พลันก็สะดุดตากับร้านขายของชำขนาดสองคูหาที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม ในร้านแบ่งมุมด้านหน้าส่วนหนึ่งเป็นเคาน์เตอร์บาร์เล็ก ๆ วางโถเหล้ายาดองอยู่สี่ห้าโหล ด้านหน้าเคาน์เตอร์บาร์มีสตูลสูงตั้งอยู่สองตัว ถัดมาตรงฟุตบาทหน้าร้านมีชุดโต๊ะพับเก็บได้ตั้งเรียงกันอยู่สามชุด
ด้านหลังของเคาน์เตอร์บาร์ดีไซน์ได้สวยแบบมีสไตล์ไม่น้อย โดยเอาไม้กระดานเก่ามาตีเป็นฉากและมีชั้นวางตกแต่งด้วยของใช้ยุคปีหกศูนย์ มีตู้แช่เครื่องดื่มแบบโบราณซึ่งภายในอัดเครื่องดื่มต่าง ๆ พร้อมเบียร์หลากยี่ห้องเรียงรายอยู่จนเต็ม
ตอนนี้ตรงโต๊ะตัวหนึ่งมีลูกค้าต่างชาตินั่งดื่มเบียร์กันอยู่สองคนคุยกันเบา ๆ เขาจึงก้าวตรงไปนั่งบนสตูลสูงหน้าเคาน์เตอร์บาร์ บรรยากาศแบบนี้ได้เบียร์สักสองกระป๋องก็น่าจะเหมาะเหมือนกัน และที่ถูกใจยิ่งกว่าก็คือเห็นที่เขี่ยบุหรี่วางเตรียมไว้ให้แก่ลูกค้า
ชายวัยกลางคนอายุราวหกสิบเดินมาจากส่วนร้านของชำถามถึงความต้องการ เขาสั่งเบียร์ไปหนึ่งกระป๋อง ชายเจ้าของร้านเปิดตู้แช่หยิบเบียร์ออกมาให้ พร้อมบอกราคา เขาวางม้วนกระดาษเอสี่ในมือลงบนบาร์ ล้วงกระเป๋ากางเกงควักเงินออกมาจ่าย ข้าวของซึ่งรวมปนอยู่ในกระเป๋าจึงได้ถูกล้วงออกมาพร้อมกันและวางทับไว้บนกระดาษ
ดื่มไปได้หนึ่งอึกเขาถามถึงของขบเคี้ยวที่จะทานเล่นแกล้มเบียร์ เจ้าของร้านพยักหน้าไปทางชั้นวางสินค้าตรงส่วนร้านของชำ เขาเข้าใจความหมายจึงเดินออกไปวนเลือกของเอาเอง
เมื่อเดินย้อนมาถึงเคาน์เตอร์บาร์ ก็พบว่าบนสตูลตัวด้านข้างปรากฏร่างหนึ่งมานั่งร่วมโต๊ะด้วย เป็นชายหนุ่มชาวต่างชาติหัวกระเซิงนุ่งกางเกงขาก๊วย ใส่เสื้อกล้าม สวมรองเท้าแตะ พร้อมมีกลิ่นกายฉุนกึ๊กคล้ายไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน ขณะเขาหย่อนก้นลงนั่งเคียงข้าง หนุ่มผมกระเซิงได้หันมามอง ยักคิ้วให้พร้อมผิวปากแบบไม่เป็นเพลง
หลังจากแสดงอาการเป็นเชิงทักทายเขาแบบแสนยียวนกวนบาทาแล้ว หนุ่มต่างชาติก็หันไปรับเครื่องดื่มจากมือเจ้าของร้าน ซึ่งดันเป็นเบียร์ยี่ห้อเดียวกันกับของเขา เอามือเกี่ยวห่วงงัดเปิดฝาเสียดังแล้วยกขึ้นดื่มด้วยท่าทีกระหาย
เมื่อกระป๋องเบียร์ถูกดึงออกจากปาก ชายหนุ่มยังคงถือค้างชูอยู่เบื้องหน้าทำท่าพออกพอใจ จากนั้นก็หันมาพยักหน้าให้ เขาหัวเราะในลำคออย่างไม่ถือสา นักท่องเที่ยวคนนี้คงเดินมาจากโฮสเทลที่เดินผ่านมาเมื่อตะกี้ ท่าทางขี้เล่นแบบห่าม ๆ เป็นธรรมดาของพวกเด็กหนุ่มชาวแบ็คแพ็ค เขายกเบียร์ในมือขึ้นดื่มบ้าง ส่วนหนุ่มต่างชาติก็หันเหม่อไปอีกทางพลางล้วงเอาไฟแช็คแกสอันละสิบบาทมาเคาะเล่นกับโต๊ะอยู่เบา ๆ
คั่นระหว่างกลางของทั้งสองคือแผ่นกระดาษเอสี่และของต่าง ๆ ที่เขาเอาวางไว้ตอนแรก เมื่อวางกระป๋องเบียร์ลงเขาได้หยิบไฟแช็คของตนเองพร้อมซองมัลโบโร่ไลท์ที่วางอยู่ถัดไปขึ้นมาเคาะบุหรี่ออกจุดไฟสูบ
เพิ่งอัดควันเข้าปอดเขาก็แทบสำลัก เมื่อหนุ่มต่างชาติหัวกระเซิงหันมายักคิ้วให้อีกครั้งพลางหยิบเอาซองมัลโบโร่ของเขาเคาะตัวบุหรี่ออกไปจุดสูบบ้าง อัดควันลึกแล้วทำหลับตาพริ้มแหงนหน้าพ่นควันขึ้นด้านบน
เขาส่ายหน้าเล็กน้อย ถึงแม้จะไม่พอใจที่เด็กหนุ่มถือวิสาสะเกินไปโดยไม่กล่าวขอสักคำ แต่บุหรี่แค่หนึ่งมวน ไม่จำเป็นต้องถือโกรธ
เบียร์หมดไปครึ่งกระป๋อง รู้สึกว่าไอเดียยังคงค้างคา เขาจึงเอื้อมมือไปหยิบมือไปหยิบซองบุหรี่ที่ชายหนุ่มวางคืนไว้ตรงที่เดิม กะสูบต่อเนื่องกันสักสองมวนเพื่อกระตุ้นความคิด และก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับวันนี้ จุดบุหรี่เสร็จก็ขยับลากกระดาษเอสี่มาตรงหน้าพร้อมหยิบปากกาขึ้นจรดเขียน แต่แล้วก็มีเรื่องที่ทำให้เขาต้องชะงักค้างเมื่อหนุ่มหัวกระเซิงหยิบเอาซองมัลโบโร่ขึ้นไปเคาะตัวบุหรี่ออกมาจุดสูบอีกมวนบ้าง แถมครานี้ยังมองไปอีกทางทำเป็นเหมือนไม่รู้ไม่ชี้
เขายกเบียร์ขึ้นดื่มจนหมด ข่มความไม่พอใจในอกลง ชะเง้อหาเจ้าของร้านบอกขอเพิ่มเบียร์อีกหนึ่งกระป๋อง เมื่อชายวัยกลางคนเดินมาหลังเคาน์เตอร์หยิบเอาเบียร์จากตู้แช่ออกมาส่งให้เขา หนุ่มหัวกระเซิงคนนั้นก็ผิวปากเหมือนจะทำเสียงเรียกพลางพยักหน้าและยกนิ้วชี้ของตัวเองขึ้นชู ซึ่งเจ้าของร้านก็เข้าใจและก้มลงหยิบกระป๋องเบียร์ส่งให้บ้าง
ถึงขณะนี้เขายังไม่ได้เริ่มอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน หลังจากยกเบียร์กระป๋องที่สองขึ้นดื่ม มือก็ควานหาซองบุหรี่ตามความเคยชิน แต่กลับไม่พบว่าอยู่ที่เดิม
พอเงยขึ้นมองหาก็ต้องเลือดฉีดขึ้นหน้าเมื่อเห็นซองสีขาวอยู่ในมือหนุ่มหัวกระเซิง และกำลังดึงตัวบุหรี่ออกมาอย่างช้า ๆ ครั้นเห็นเขาจ้องไปก็โยนซองบุหรี่กลับตรงที่เดิมอย่างเสียมารยาท พลางเบะปากยิ้มแสยะให้อย่างกวนบาทา
เขาหยิบซองบุหรี่ออกมาจุดสูบ อัดควันหนัก ๆ ติดต่อกันสองสามครั้ง พยายามข่มความโมโห แต่สมาธิในการจะคิดเขียนเรื่องนั้นไม่มีแล้ว จึงยกเบียร์ขึ้นดื่มติดต่อกันจนเกือบหมดแล้วตัดสินใจกลับ เมื่อตะกี้ตอนหยิบซองบุหรี่ ความรู้สึกบอกอยู่ว่าน่าจะเหลือเพียงหนึ่งหรือสองมวน นึกถึงบุหรี่เขาก็ชำเลืองไปแล้วก็เห็นว่าชายหนุ่มกำลังจ้องอยู่เช่นกัน
คงต้องสั่งสอนมันเสียบ้าง เขานึกในใจแล้วรีบตะครุบคว้ามัลโบโร่ซองนั้นมาเสียก่อน จากนั้นฉีกซองคลี่ออกก็พบว่ามีบุหรี่เหลือเพียงสองมวนจริง ๆ เขาจุดมวนหนึ่งสูบ พลางหยีตามองหน้าหนุ่มต่างชาติ พ่นควันอย่างแช่มช้าแล้วคีบห้อยไว้ตรงริมฝีปาก บุหรี่อีกมวนยังถือไว้ในมือขณะรวบเก็บข้าวของบนเคาน์เตอร์ เมื่อลงจากสตูลมายืนตั้งมั่นดีแล้ว ก็ยักคิ้วให้ฝรั่งหนุ่มคนนั้นบ้าง พลางโยนมวนบุหรี่ในมือไปบนเคาน์เตอร์ โดยคิดเสียว่าโยนให้ขอทาน
ระหว่างเดินกลับเขาอารมณ์ดีขึ้นมาก บุหรี่แค่ไม่กี่ตัวเขาไม่ได้รู้สึกเสียดาย เพียงแต่โมโหในท่าทางอันยียวนแถมยังไร้มารยาทของชายหนุ่มชาวต่างชาติคนนั้น แต่บัดนี้ก็ได้กวนบาทากลับคืนไปแล้ว ในหัวรู้สึกปลอดโปร่งคิดว่าจะนำเรื่องของฝรั่งหนุ่มคนนี้มาเขียนสักหน่อย
เมื่อมาถึงบ้านพล็อตเรื่องในหัวก็พุ่งกระฉูดพร่างพรูจนถึงขีดสุด เขาเปิดประตูรั้วที่เพียงแค่งับทิ้งไว้เข้าไป เดินถึงหน้าประตูก็ล้วงกระเป๋าเสื้อแจ๊คเก็ตเพื่อหยิบเอากุญแจบ้าน
แล้วยิ้มของเขาก็ต้องชะงักค้าง เมื่อพบว่าในกระเป๋าเสื้อมีบุหรี่ซองหนึ่งรวมอยู่กับพวงกุญแจ
---------------------
จบ ----------------------------
THE WEEKLY GLOVES ไตรมาสสุดท้าย วีคที่ 35 เรื่องสั้น#75 "กวนบาทา" โดย ถุงมือ "สมองกลวง"
เรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายของวีคนี้ ดูแค่ชื่อเรื่อง นึกว่าเป็นเรื่องตลกขำขัน แต่พออ่านไปๆ กลับไม่ใช่ครับ ไปอีกแนวหนึ่งเลย แถมตอนต้น มีการอ้างถึงเกมถุงมือและกรรมการอีกด้วย เอ้อ!
เรื่องมันจะอะไรยังไง ตามอ่านกันเลยครับ หลังจากนั้นก็ตัดเกรด แล้วเล็งหาตัวคนเขียนดู ใครกันหนอ...
เมื่อเห็นการประกาศแจ้งเตือนจากคุณหวางว่าเรื่องสั้นในสต๊อคกำลังลดลงจนถึงระดับวิกฤติ เขาก็มีดำริว่าจะเขียนส่งเข้าไปสักเรื่องหนึ่ง เพื่อบรรเทาอาการ “เรื่องสั้นพร่อง” ภายในชมรมถุงมือนักเขียน
แต่ภารกิจการงานที่ช่างรัดตัวทำให้เขาต้องผัดวันประกันพรุ่งมาหลายคราเต็มที
แล้วก็ถึงเส้นตายที่เขาแอบกำหนดกับตนเองเอาไว้ว่าจะต้องเขียนแล้วเสร็จภายในวันนี้ให้จงได้ เขารีบสะสางงานการให้เรียบร้อยตั้งแต่เย็น อาบน้ำสระผมทำตัวให้สดชื่น ชงชาหนึ่งเหยือกมานั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน คิดว่าใช้เวลาไม่เกินสองชั่วโมงทั้งคิดเรื่องและพิมพ์ก็คงจะแล้วเสร็จ
เข็มนาฬิกาเวียนหมุนวนไปเรื่อย ๆ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองเวลาก็พบว่าล่วงเลยไปแล้วกว่าสามชั่วโมง แต่งานเขียนกลับยังไม่ได้เริ่มแม้แต่คำเดียว แต่ละนาทีถูกเผาทิ้งไปโดยเฟสบุ๊ค กระทู้น่าสนใจในพันทิป รวมไปถึงการเกาะติดรายการทายชื่อเจ้าของถุงมือ
ลุกขึ้นบิดตัวแก้เมื่อยแล้วก็เดินออกจากโต๊ะทำงาน คิดจะหาอะไรรองท้องสักนิด หวังว่าเมื่อได้ทานอะไรบ้างสมองน่าจะโปร่งขึ้น ก่อนเที่ยงคืนเรื่องก็น่าจะเขียนเสร็จ แล้วจะได้เข้านอนเสียที หลังจากเลือกเอาวัสดุที่มีอยู่ในตู้เย็นและบนโต๊ะในห้องครัวมารวมกันก็ได้แซนวิชมาสามสี่ชิ้น เขาเติมน้ำร้อนลงในเหยือกชาให้พอได้ปริมาณสักหนึ่งถ้วยชา จากนั้นก็หยิบเอาชุดของว่างกลับมานั่งบนโต๊ะทำงาน ไม่แน่บางทียังไม่ทันจะทานหมด เรื่องสั้นของเขาอาจพร่างพรูมาจนเสร็จก่อนก็ได้ ใครจะรู้
อาหารว่างพร้อมน้ำชาหนึ่งถ้วยหมดไปนานแล้ว แต่งานเขียนของเขายังไม่ชิ้นเป็นอัน พยายามนึกพล็อตแล้วก็พิมพ์ไป แต่ได้ไม่กี่บรรทัดก็ลบทิ้งพร้อมนึกพล็อตใหม่ เป็นอย่างนี้เวียนอยู่หลายครั้ง
แว่วเสียงสุนัขในซอยเห่าสลับหอนมาเป็นระยะ ยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด ตอนนี้น่าจะล่วงเข้าหลังสี่ทุ่มแล้ว ทำไมสมองของเขาวันนี้มันถึงได้ตื้อนักนะ หรืออาจจะเป็นเพราะเขาตั้งใจกำหนดตัวเองจนเกินไป
ออกไปข้างนอกน่าจะดี เดินเล่นเปลี่ยนสถานที่หากาแฟดื่ม ขณะเปิดลิ้นชักเพื่อหยิบเอากุญแจบ้าน สายตาของเขาก็เหลือบเห็นซองบุหรี่กองปนอยู่กับของอื่นภายในลิ้นชัก ในระยะหลังเขาพยายามลดการสูบให้น้อยลง จะมีบ้างก็ต่อเมื่อได้ออกไปนั่งสังสรรค์กับมิตรสหาย หรือสูบขณะดื่มกาแฟสักมวนเพื่อใช้ความคิดในเรื่องงาน มัลโบโร่ไลท์ซองนี้เหลืออยู่ไม่กี่มวน เขาวางทิ้งไว้เกือบสิบวันแล้วโดยไม่คว้ามันขึ้นมา นับว่าเป็นการลดที่ใช้ได้ทีเดียว
ตอนนี้บนร่างของเขานุ่งกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดคอกลมอยู่ จึงเพียงคว้าเสื้อแจ็กเก็ตออกมาคลุมร่างอีกหนึ่งชั้น ก็เพียงพอแล้วสำหรับการเดินเล่นออกไปปากซอย บุหรี่ฝรั่งซองสีขาวและกุญแจบ้านถูกหยิบใส่กระเป๋าแจ็คเก็ตก่อน ตามด้วยกระเป๋าเงิน ไฟแช็ค โทรศัพท์มือถือยัดรวมกันอยู่ในกระเป๋ากางเกง หยิบปากกาเหน็บเข้ากับปกแจ็กเก็ต คว้ากระดาษเอสี่พับครึ่งติดมือไปด้วยสองสามแผ่น เผื่อความคิดดี ๆ เกิดขึ้นระหว่างอยู่ข้างนอก
ความตั้งใจแรกคือไปนั่งร้านกาแฟแบรนด์ดังที่ตั้งอยู่ตรงปากซอย สาขานี้เปิดถึงห้าทุ่ม ถึงแม้ดูตามเวลาแล้วร้านน่าจะใกล้ปิดเต็มที แต่ในใจเขาก็ลุ้นให้ยังคงเหลือลูกค้านั่งอยู่บ้าง เร่งจ้ำอ้าวไม่ถึงห้านาทีก็มาถึงเป้าหมาย ประตูร้านยังผลักเปิดออกได้ แต่เมื่อกวาดสายตาไปโดยรอบก็พบว่ามีเพียงเขาคนเดียวเป็นลูกค้าภายในร้าน ดูจากสภาพการเก็บของและทำความสะอาด คาดว่าลูกค้าชุดสุดท้ายน่าจะลุกออกไปได้นานโข
แล้วความหวังของเขาก็หมดลงเมื่อพนักงานตรงเคาน์เตอร์ซึ่งกำลังง่วนนับเงินอยู่เงยหน้าขึ้นมาบอกว่าได้ปิดเครื่องชงกาแฟแล้ว
ยังไม่ยากนักที่จะหาที่นั่งดื่มยามค่ำคืนในเวลานี้ เขาตัดสินใจเดินต่อไปยังซอยถัดไปซึ่งอยู่ห่างเพียงร้อยกว่าเมตร ปากซอยเป็นร้านสะดวกซื้อเดินเข้าไปในซอยไม่กี่ก้าวก็เป็นบาร์ญี่ปุ่นเรียงกันสองสามร้าน เขารีบจ้ำผ่านเพราะหากแวะเข้าไปรับรองว่านอกจากจะไม่ได้ไอเดียงานเขียนแล้วเงินในกระเป๋าก็คงจะถูกปลิ้นออกไปจนไม่เหลือหลอเป็นแน่
เดินเลยร้านค้าอีกสองสามร้านและ โรงแรมแบบโฮสเทลขนาดสองคูหา เป้าหมายใหม่ของเขาเป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ อยู่เลยโฮสเทลไปสามสี่ห้อง เจ้าของร้านเป็นชาวญี่ปุ่นขายทั้งกาแฟ ชา และเหล้าเบียร์ เหมือนเอาไว้เป็นแหล่งพบปะของคนชาติเดียวกันซึ่งมีปริมาณมากพอสมควรในย่านนี้
ร้านนี้จะปิดตามใจเจ้าของ แต่โดยปกติแล้วก็ดึกพอสมควร เขาเคยนั่งเล่นอยู่กับลูกค้าคนอื่น ๆ ได้ถึงตีหนึ่ง แต่แล้วก็ต้องผิดหวังอีกครั้งเมื่อไปถึงพบว่าประตูเหล็กหน้าร้านถูกดึงลงปิดเป็นที่เรียบร้อย
ลึกเข้าไปในซอยยังมีแสงสว่างของร้านต่าง ๆ อยู่หลากหลาย เขาเดินทอดน่องไปเรื่อย ๆ ผ่านร้านบุฟเฟ่ท์เกาหลี ผับวัยรุ่นแบบเปิดเพลงแดนซ์ และคาราโอเกะ ซึ่งต่างก็ไม่ใช่ร้านที่จะนั่งแช่หาไอเดีย ในที่สุดก็เข้ามาลึกกว่าสามร้อยเมตร ต่อจากนี้ไปก็จะเป็นย่านบ้านพักอาศัยแล้ว
กำลังจะหันร่างกลับด้วยความผิดหวัง พลันก็สะดุดตากับร้านขายของชำขนาดสองคูหาที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม ในร้านแบ่งมุมด้านหน้าส่วนหนึ่งเป็นเคาน์เตอร์บาร์เล็ก ๆ วางโถเหล้ายาดองอยู่สี่ห้าโหล ด้านหน้าเคาน์เตอร์บาร์มีสตูลสูงตั้งอยู่สองตัว ถัดมาตรงฟุตบาทหน้าร้านมีชุดโต๊ะพับเก็บได้ตั้งเรียงกันอยู่สามชุด
ด้านหลังของเคาน์เตอร์บาร์ดีไซน์ได้สวยแบบมีสไตล์ไม่น้อย โดยเอาไม้กระดานเก่ามาตีเป็นฉากและมีชั้นวางตกแต่งด้วยของใช้ยุคปีหกศูนย์ มีตู้แช่เครื่องดื่มแบบโบราณซึ่งภายในอัดเครื่องดื่มต่าง ๆ พร้อมเบียร์หลากยี่ห้องเรียงรายอยู่จนเต็ม
ตอนนี้ตรงโต๊ะตัวหนึ่งมีลูกค้าต่างชาตินั่งดื่มเบียร์กันอยู่สองคนคุยกันเบา ๆ เขาจึงก้าวตรงไปนั่งบนสตูลสูงหน้าเคาน์เตอร์บาร์ บรรยากาศแบบนี้ได้เบียร์สักสองกระป๋องก็น่าจะเหมาะเหมือนกัน และที่ถูกใจยิ่งกว่าก็คือเห็นที่เขี่ยบุหรี่วางเตรียมไว้ให้แก่ลูกค้า
ชายวัยกลางคนอายุราวหกสิบเดินมาจากส่วนร้านของชำถามถึงความต้องการ เขาสั่งเบียร์ไปหนึ่งกระป๋อง ชายเจ้าของร้านเปิดตู้แช่หยิบเบียร์ออกมาให้ พร้อมบอกราคา เขาวางม้วนกระดาษเอสี่ในมือลงบนบาร์ ล้วงกระเป๋ากางเกงควักเงินออกมาจ่าย ข้าวของซึ่งรวมปนอยู่ในกระเป๋าจึงได้ถูกล้วงออกมาพร้อมกันและวางทับไว้บนกระดาษ
ดื่มไปได้หนึ่งอึกเขาถามถึงของขบเคี้ยวที่จะทานเล่นแกล้มเบียร์ เจ้าของร้านพยักหน้าไปทางชั้นวางสินค้าตรงส่วนร้านของชำ เขาเข้าใจความหมายจึงเดินออกไปวนเลือกของเอาเอง
เมื่อเดินย้อนมาถึงเคาน์เตอร์บาร์ ก็พบว่าบนสตูลตัวด้านข้างปรากฏร่างหนึ่งมานั่งร่วมโต๊ะด้วย เป็นชายหนุ่มชาวต่างชาติหัวกระเซิงนุ่งกางเกงขาก๊วย ใส่เสื้อกล้าม สวมรองเท้าแตะ พร้อมมีกลิ่นกายฉุนกึ๊กคล้ายไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน ขณะเขาหย่อนก้นลงนั่งเคียงข้าง หนุ่มผมกระเซิงได้หันมามอง ยักคิ้วให้พร้อมผิวปากแบบไม่เป็นเพลง
หลังจากแสดงอาการเป็นเชิงทักทายเขาแบบแสนยียวนกวนบาทาแล้ว หนุ่มต่างชาติก็หันไปรับเครื่องดื่มจากมือเจ้าของร้าน ซึ่งดันเป็นเบียร์ยี่ห้อเดียวกันกับของเขา เอามือเกี่ยวห่วงงัดเปิดฝาเสียดังแล้วยกขึ้นดื่มด้วยท่าทีกระหาย
เมื่อกระป๋องเบียร์ถูกดึงออกจากปาก ชายหนุ่มยังคงถือค้างชูอยู่เบื้องหน้าทำท่าพออกพอใจ จากนั้นก็หันมาพยักหน้าให้ เขาหัวเราะในลำคออย่างไม่ถือสา นักท่องเที่ยวคนนี้คงเดินมาจากโฮสเทลที่เดินผ่านมาเมื่อตะกี้ ท่าทางขี้เล่นแบบห่าม ๆ เป็นธรรมดาของพวกเด็กหนุ่มชาวแบ็คแพ็ค เขายกเบียร์ในมือขึ้นดื่มบ้าง ส่วนหนุ่มต่างชาติก็หันเหม่อไปอีกทางพลางล้วงเอาไฟแช็คแกสอันละสิบบาทมาเคาะเล่นกับโต๊ะอยู่เบา ๆ
คั่นระหว่างกลางของทั้งสองคือแผ่นกระดาษเอสี่และของต่าง ๆ ที่เขาเอาวางไว้ตอนแรก เมื่อวางกระป๋องเบียร์ลงเขาได้หยิบไฟแช็คของตนเองพร้อมซองมัลโบโร่ไลท์ที่วางอยู่ถัดไปขึ้นมาเคาะบุหรี่ออกจุดไฟสูบ
เพิ่งอัดควันเข้าปอดเขาก็แทบสำลัก เมื่อหนุ่มต่างชาติหัวกระเซิงหันมายักคิ้วให้อีกครั้งพลางหยิบเอาซองมัลโบโร่ของเขาเคาะตัวบุหรี่ออกไปจุดสูบบ้าง อัดควันลึกแล้วทำหลับตาพริ้มแหงนหน้าพ่นควันขึ้นด้านบน
เขาส่ายหน้าเล็กน้อย ถึงแม้จะไม่พอใจที่เด็กหนุ่มถือวิสาสะเกินไปโดยไม่กล่าวขอสักคำ แต่บุหรี่แค่หนึ่งมวน ไม่จำเป็นต้องถือโกรธ
เบียร์หมดไปครึ่งกระป๋อง รู้สึกว่าไอเดียยังคงค้างคา เขาจึงเอื้อมมือไปหยิบมือไปหยิบซองบุหรี่ที่ชายหนุ่มวางคืนไว้ตรงที่เดิม กะสูบต่อเนื่องกันสักสองมวนเพื่อกระตุ้นความคิด และก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับวันนี้ จุดบุหรี่เสร็จก็ขยับลากกระดาษเอสี่มาตรงหน้าพร้อมหยิบปากกาขึ้นจรดเขียน แต่แล้วก็มีเรื่องที่ทำให้เขาต้องชะงักค้างเมื่อหนุ่มหัวกระเซิงหยิบเอาซองมัลโบโร่ขึ้นไปเคาะตัวบุหรี่ออกมาจุดสูบอีกมวนบ้าง แถมครานี้ยังมองไปอีกทางทำเป็นเหมือนไม่รู้ไม่ชี้
เขายกเบียร์ขึ้นดื่มจนหมด ข่มความไม่พอใจในอกลง ชะเง้อหาเจ้าของร้านบอกขอเพิ่มเบียร์อีกหนึ่งกระป๋อง เมื่อชายวัยกลางคนเดินมาหลังเคาน์เตอร์หยิบเอาเบียร์จากตู้แช่ออกมาส่งให้เขา หนุ่มหัวกระเซิงคนนั้นก็ผิวปากเหมือนจะทำเสียงเรียกพลางพยักหน้าและยกนิ้วชี้ของตัวเองขึ้นชู ซึ่งเจ้าของร้านก็เข้าใจและก้มลงหยิบกระป๋องเบียร์ส่งให้บ้าง
ถึงขณะนี้เขายังไม่ได้เริ่มอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน หลังจากยกเบียร์กระป๋องที่สองขึ้นดื่ม มือก็ควานหาซองบุหรี่ตามความเคยชิน แต่กลับไม่พบว่าอยู่ที่เดิม พอเงยขึ้นมองหาก็ต้องเลือดฉีดขึ้นหน้าเมื่อเห็นซองสีขาวอยู่ในมือหนุ่มหัวกระเซิง และกำลังดึงตัวบุหรี่ออกมาอย่างช้า ๆ ครั้นเห็นเขาจ้องไปก็โยนซองบุหรี่กลับตรงที่เดิมอย่างเสียมารยาท พลางเบะปากยิ้มแสยะให้อย่างกวนบาทา
เขาหยิบซองบุหรี่ออกมาจุดสูบ อัดควันหนัก ๆ ติดต่อกันสองสามครั้ง พยายามข่มความโมโห แต่สมาธิในการจะคิดเขียนเรื่องนั้นไม่มีแล้ว จึงยกเบียร์ขึ้นดื่มติดต่อกันจนเกือบหมดแล้วตัดสินใจกลับ เมื่อตะกี้ตอนหยิบซองบุหรี่ ความรู้สึกบอกอยู่ว่าน่าจะเหลือเพียงหนึ่งหรือสองมวน นึกถึงบุหรี่เขาก็ชำเลืองไปแล้วก็เห็นว่าชายหนุ่มกำลังจ้องอยู่เช่นกัน
คงต้องสั่งสอนมันเสียบ้าง เขานึกในใจแล้วรีบตะครุบคว้ามัลโบโร่ซองนั้นมาเสียก่อน จากนั้นฉีกซองคลี่ออกก็พบว่ามีบุหรี่เหลือเพียงสองมวนจริง ๆ เขาจุดมวนหนึ่งสูบ พลางหยีตามองหน้าหนุ่มต่างชาติ พ่นควันอย่างแช่มช้าแล้วคีบห้อยไว้ตรงริมฝีปาก บุหรี่อีกมวนยังถือไว้ในมือขณะรวบเก็บข้าวของบนเคาน์เตอร์ เมื่อลงจากสตูลมายืนตั้งมั่นดีแล้ว ก็ยักคิ้วให้ฝรั่งหนุ่มคนนั้นบ้าง พลางโยนมวนบุหรี่ในมือไปบนเคาน์เตอร์ โดยคิดเสียว่าโยนให้ขอทาน
ระหว่างเดินกลับเขาอารมณ์ดีขึ้นมาก บุหรี่แค่ไม่กี่ตัวเขาไม่ได้รู้สึกเสียดาย เพียงแต่โมโหในท่าทางอันยียวนแถมยังไร้มารยาทของชายหนุ่มชาวต่างชาติคนนั้น แต่บัดนี้ก็ได้กวนบาทากลับคืนไปแล้ว ในหัวรู้สึกปลอดโปร่งคิดว่าจะนำเรื่องของฝรั่งหนุ่มคนนี้มาเขียนสักหน่อย
เมื่อมาถึงบ้านพล็อตเรื่องในหัวก็พุ่งกระฉูดพร่างพรูจนถึงขีดสุด เขาเปิดประตูรั้วที่เพียงแค่งับทิ้งไว้เข้าไป เดินถึงหน้าประตูก็ล้วงกระเป๋าเสื้อแจ๊คเก็ตเพื่อหยิบเอากุญแจบ้าน
แล้วยิ้มของเขาก็ต้องชะงักค้าง เมื่อพบว่าในกระเป๋าเสื้อมีบุหรี่ซองหนึ่งรวมอยู่กับพวงกุญแจ