รบกวนสอบถามผู้รู้ทุกท่านค่ะ
คือดิฉันทุกข์ใจเรื่องที่แฟนไม่ชอบเข้าวัดเอามากๆเลยค่ะ (เขาอคติกับพระสมัยนี้ค่ะ) คือดิฉันพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจแล้วเรื่องพระ ไม่ให้เขาเหมารวม เพราะพระที่ดียังมีอีกมาก แต่เขาก็ไม่ฟัง..
เรื่องทำบุญแล้วบริจาคเงินใส่ตู้ นู่นนี่ ใส่บาตรตอนเช้าดิฉันเอาปัจจัยใส่ไปด้วยก็ว่าดิฉันอีก (เราไม่เคยใส่บาตรตอนเช้าด้วยกันนะคะ ดิฉันใส่คนเดียว)
**มีอยู่ครั้งนึงที่ทำให้ดิฉันเลือกที่จะปฏิญาณกับตัวเองไว้..ว่าชาตินี้ดิฉันจะไม่ชวนแฟนไปทำบุญอีก หากเขาจะไปก็ให้ไปด้วยความสมัครใจของเขาเอง..
เนื่องจากวันนั้นเป็นวันพระที่ตรงกับวันอาทิตย์พอดี ดิฉันจึงชวนแฟนไปทำบุญที่วัดใกล้บ้าน เขาก็เงียบ..
ดิฉันจึงถามต่อว่าจะไปด้วยกันหน่อยได้ไหม ตั้งแต่อยู่กันมาไม่เคยใส่บาตรด้วยกันเลย เขาก็ตอบว่า ไปก็ไป..แต่สีหน้าไม่พอใจนัก
และในคืนนั้นเอง เพื่อนน้องชายมากินเลี้ยงที่บ้าน แฟนดิฉันจึงดื่มเบียร์ด้วย แต่ดิฉันยังคิดว่าไม่น่ามีอะไร..รุ่งขึ้นเช้าดิฉันตื่นตั้งแต่ตี 5 มาหุงข้าวทำกับข้าว พอเช้าก็ปลุกแฟนให้ไปทำบุญด้วยกัน..
ดิฉันตั้งใจเต็มที่ ความสุขเต็มเปี่ยมที่จะไปทำบุญ...แต่แล้ว...แฟนดิฉันก็ตื่นขึ้นมาและโมโหใส่ดิฉัน คำพูดของเขามันทำให้ดิฉันจุกไปหมดเลยค่ะ อยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก มันจุกแน่นที่อกเลย...แต่วันนั้นเขาก็ไปนะคะ ไปแบบไม่เต็มใจ ดิฉันก็ไปโดยไม่พูดอะไรกับเขาเช่นกัน ในใจคิดแต่ว่า ต่อจากนี้ไป "ดิฉันจะไม่ชวนคนๆนี้ไปทำบุญที่วัดอีกตลอดชีวิตค่ะ" วันนั้นดิฉันรู้สึกแย่มาก เป็นการไปทำบุญที่ไม่มีความสุขเลยสักนิด ต่างจากที่ดิฉันไปทำกับพ่อแม่ที่จะมีแต่ความสุขตลอด..
ดิฉันเคยได้ยินพระท่านสอนว่า "บุญ" คือสิ่งที่เราทำแล้วจิตใจเราเป็นสุข หากจิตใจเราเป็นสุข นั่นแหละเรียกว่า "บุญ"
แต่วันนั้นที่ไปทำบุญกับแฟน ใจดิฉันไม่มีความสุขเลยค่ะ คงไม่ได้บุญหรอก
ดิฉันพยายามพูดให้แฟนเข้าใจเรื่องบุญ พยายามบอกว่าเราใส่บาตรทำบุญไปแล้ว เราทำด้วยจิตใจบริสุทธิ์ เราทำแล้วเรามีความสุข และไม่ได้เดือดร้อน ส่วนใครจะเอาสิ่งของไปทำอะไรนั่นมันก็เป็นกรรมของเขา แค่เราทำไปแล้วใจเราเป็นสุขเราก็ได้บุญแล้ว แต่พูดไปก็เหมือนพูดกับโขดหิน ที่ไม่รู้เรื่องและไม่คิดจะเข้าใจใดๆ นอกจากเชื่อในความคิดตัวเองเท่านั้นค่ะ (เหมือนพวกบัวใต้โคลนตม)
ที่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่โผล่พ้นน้ำเสียที
ดิฉันเริ่มทำใจได้มาช่วงหลังๆค่ะ ได้คุยกับพี่คนนึงที่แกเลยแนะนำให้ต่างคนต่างทำ ให้คิดว่าบุญใครบุญมัน กรรมใครกรรมมัน เขาไม่ไปก็ช่างเขา
หากบุญเรามากกว่าเมื่อใด เขาก็จะไปจากเราเอง เพราะบุญไม่เสมอกัน เขาจะอยู่กับเราไม่ได้เองค่ะ...ทุกวันนี้ดิฉันเลยทำใจ และปล่อยเขาค่ะ
แต่ถามว่ารักไหม รักนะคะ รักเขามาก และอยากจะช่วยให้เขาตาสว่างบ้าง แต่ไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ..
***ท่านใดก็ได้ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ***
หากแฟนเป็นคนไม่ชอบเข้าวัดทำบุญ และมักไม่พอใจเวลาชวนไปทำบุญที่วัด แบบนี้จะไปกันรอดหรือคะ (ถ้าบุญไม่เสมอกัน)
คือดิฉันทุกข์ใจเรื่องที่แฟนไม่ชอบเข้าวัดเอามากๆเลยค่ะ (เขาอคติกับพระสมัยนี้ค่ะ) คือดิฉันพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจแล้วเรื่องพระ ไม่ให้เขาเหมารวม เพราะพระที่ดียังมีอีกมาก แต่เขาก็ไม่ฟัง..
เรื่องทำบุญแล้วบริจาคเงินใส่ตู้ นู่นนี่ ใส่บาตรตอนเช้าดิฉันเอาปัจจัยใส่ไปด้วยก็ว่าดิฉันอีก (เราไม่เคยใส่บาตรตอนเช้าด้วยกันนะคะ ดิฉันใส่คนเดียว)
**มีอยู่ครั้งนึงที่ทำให้ดิฉันเลือกที่จะปฏิญาณกับตัวเองไว้..ว่าชาตินี้ดิฉันจะไม่ชวนแฟนไปทำบุญอีก หากเขาจะไปก็ให้ไปด้วยความสมัครใจของเขาเอง..
เนื่องจากวันนั้นเป็นวันพระที่ตรงกับวันอาทิตย์พอดี ดิฉันจึงชวนแฟนไปทำบุญที่วัดใกล้บ้าน เขาก็เงียบ..
ดิฉันจึงถามต่อว่าจะไปด้วยกันหน่อยได้ไหม ตั้งแต่อยู่กันมาไม่เคยใส่บาตรด้วยกันเลย เขาก็ตอบว่า ไปก็ไป..แต่สีหน้าไม่พอใจนัก
และในคืนนั้นเอง เพื่อนน้องชายมากินเลี้ยงที่บ้าน แฟนดิฉันจึงดื่มเบียร์ด้วย แต่ดิฉันยังคิดว่าไม่น่ามีอะไร..รุ่งขึ้นเช้าดิฉันตื่นตั้งแต่ตี 5 มาหุงข้าวทำกับข้าว พอเช้าก็ปลุกแฟนให้ไปทำบุญด้วยกัน..
ดิฉันตั้งใจเต็มที่ ความสุขเต็มเปี่ยมที่จะไปทำบุญ...แต่แล้ว...แฟนดิฉันก็ตื่นขึ้นมาและโมโหใส่ดิฉัน คำพูดของเขามันทำให้ดิฉันจุกไปหมดเลยค่ะ อยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก มันจุกแน่นที่อกเลย...แต่วันนั้นเขาก็ไปนะคะ ไปแบบไม่เต็มใจ ดิฉันก็ไปโดยไม่พูดอะไรกับเขาเช่นกัน ในใจคิดแต่ว่า ต่อจากนี้ไป "ดิฉันจะไม่ชวนคนๆนี้ไปทำบุญที่วัดอีกตลอดชีวิตค่ะ" วันนั้นดิฉันรู้สึกแย่มาก เป็นการไปทำบุญที่ไม่มีความสุขเลยสักนิด ต่างจากที่ดิฉันไปทำกับพ่อแม่ที่จะมีแต่ความสุขตลอด..
ดิฉันเคยได้ยินพระท่านสอนว่า "บุญ" คือสิ่งที่เราทำแล้วจิตใจเราเป็นสุข หากจิตใจเราเป็นสุข นั่นแหละเรียกว่า "บุญ"
แต่วันนั้นที่ไปทำบุญกับแฟน ใจดิฉันไม่มีความสุขเลยค่ะ คงไม่ได้บุญหรอก
ดิฉันพยายามพูดให้แฟนเข้าใจเรื่องบุญ พยายามบอกว่าเราใส่บาตรทำบุญไปแล้ว เราทำด้วยจิตใจบริสุทธิ์ เราทำแล้วเรามีความสุข และไม่ได้เดือดร้อน ส่วนใครจะเอาสิ่งของไปทำอะไรนั่นมันก็เป็นกรรมของเขา แค่เราทำไปแล้วใจเราเป็นสุขเราก็ได้บุญแล้ว แต่พูดไปก็เหมือนพูดกับโขดหิน ที่ไม่รู้เรื่องและไม่คิดจะเข้าใจใดๆ นอกจากเชื่อในความคิดตัวเองเท่านั้นค่ะ (เหมือนพวกบัวใต้โคลนตม)
ที่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่โผล่พ้นน้ำเสียที
ดิฉันเริ่มทำใจได้มาช่วงหลังๆค่ะ ได้คุยกับพี่คนนึงที่แกเลยแนะนำให้ต่างคนต่างทำ ให้คิดว่าบุญใครบุญมัน กรรมใครกรรมมัน เขาไม่ไปก็ช่างเขา
หากบุญเรามากกว่าเมื่อใด เขาก็จะไปจากเราเอง เพราะบุญไม่เสมอกัน เขาจะอยู่กับเราไม่ได้เองค่ะ...ทุกวันนี้ดิฉันเลยทำใจ และปล่อยเขาค่ะ
แต่ถามว่ารักไหม รักนะคะ รักเขามาก และอยากจะช่วยให้เขาตาสว่างบ้าง แต่ไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ..
***ท่านใดก็ได้ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ***