เรื่องของผมคือ ผมเป็นอาจารย์มหาลัยดังในจังหวัดเชียงใหม่ สอบเข้ามาโดยไม่มีเส้นสาย(ได้อันดับ 1 ) ในคณะของครู ผมทำงานที่นี้มา 4 ปี เป็นแบบสัญญาจ้งรายปี เนื่องจากต้องรอจบ ปริญญาเอก ถึงจะสอบบรรจุแบบถาวรได้ ผลการปฏิบัติงานอยู่ในเกณฑ์ผ่านทุกครั้งจนถึงปี 59 ได้มีปากเสียงกับหัวหน้าสาขาคนใหม่ ซึงผมมันใจว่าเป็นเรื่องงาน ความคิดผมคือเราสามารถแสดงความคิดเห็นหรือแสดงออกทางความคิดทางวิชาการได้เต็มที่เพื่อพัฒนาองค์กร แต่กลับเป็นว่าผมไม่ให้ความเคารพ และต่อมาไปทำเรื่องแจ้งต่อคณบดี ว่าขอไม่ต่อสัญญาจ้างกับผมอีก เนื่องจากไม่สามารถร่วมงานกับผลได้ แต่ทางคณะขอเหตุผลอื่นๆอีก ผมมาทราบภายหลังว่าหัวหน้าสาขาท่านนี้ได้เรียกประชุมอาจารย์ในสาขาแต่ไม่เชิญผมน่ะเรื่องจะไม่จ้างผมโดยใช้มติที่ประชุมสาขาโหวดให้ออกโดยผมทราบจากอาจารย์ในที่ประชุมว่า หัวหน้าสาขาแจ้งต่อที่ประชุมว่า หัวหน้าสาขาขอไม่จ้างผมโดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถร่วมงานด้วยได้ โดยอาจารย์ส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ท่านนี้และอาจารย์ใหม่อีก 2 ท่าน ซึ่งทุกคนมีอายุน้อยกว่ามาก โดยมีอาจารย์ให้เหตุผลต่างๆแต่ไม่รับฟังโดยบอกแค่ใครจะรับก็รับพี่ไม่เอาทุกคนเลยต้องตามอาจารย์ท่านน้น หลังจากนั้นอาจารย์ท่านนั้นก็ส่งเรื่องให้กับคณบดี เวลาผ่านไปไม่ถึง 2 เดือน หัวหน้าสาขาท่านนั้นได้ทำหนังสือลาออกจากมหาวิทยาลัย เนื่องจากขาดการพัฒนาตำแหน่งทางวิชาการในเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด (คือไม่ได้เป็น ผศ, รศ, ศ ) จึงชิงลาออกก่อนที่ตะโดให้ออก ทำให้เรื่องของผมนึกว่าจะจบลง แต่ไม่จบด้วยหัวหน้าสาขาคนใหม่ มาใหม่ไฟแรงเวอร์ ซึ่งไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน เข้ามาไม่ถึงปี บอกว่า ขอให้ยึดเจตนารมณ์ของหัวหน้าสาขาท่านเดิมไว้ไม่อยากไปยุ้ง งานเข้าอีกรอบ ผมเลยทำหนังสือร้องอุธร-ทุกข์ ต่อมหาลัย และขอความช่วยเกลือจากศูนย์ดำรงธรรม แต่ไม่เป็นผลเนื่องจาก มหาลัยแจ้งว่าเป็นสิทธ์ของคณะในการจ้างโดยอธิการบดีมีหนังสือมอบอำนาจให้แต่ละคณะไปแล้ว 2 ยังไม่มีเอกสารยืนยันความผิดของผู้เกี่ยวข้องใดๆ ซึ่งผมไม่เรยได้รับ ไม่เคยถูกเชิญให้ชี้แจงหรือแสดงข้อมูลใดๆเลยอม้แต่ครั้งเดี่ยว จนจบอายุสัญญาจ้าง
หลังจากออกจากมหาลัยมา ผมก็ตั้งใจเรียน ป.เอกให้จบ และทำหนังสือข้อคำชี้แจงจากคณะมาตลอด จนเดือน กค. 60 ได้มีโอกาสเข้าไปชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งหมดที่เป็นเหตุของการไม่ต่อสัญญา ซึ่งผมมีข้อมูลและหลักฐานแสดงหักล้างข้อกล่าวหาทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้ทำไมทางคณะไม่เคยสอบถามหรือรับฟังผม หลังประชุมเสร็จ เอกสารการประชุมไม่ครบถ้วน ผมก็ไม่เข้าใจทั้งภาษาทั้งข้อมูลขาดหาย จนผมจบ ป.เอก ผมตัดสินใจข้อหลักฐานทั้งหมดเพื่อจะฟ้องศาลปกครอง เอกสารที่ได้รับคือกระดาษ 1 แผ่นมีข้อความประมาณว่า เราให้หลักฐานทั้งหมดแล้ว ....
จากเรื่องทั้งหมดสิ่งที่ผมต้องพบเจอคือ
1 ผมตกงาน ไปสมัครงานที่ไหน เค้าจะโทรกลับมาถามว่าเคยทำงานที่นี้รึเปล่า หรือสอบถามจากคนรู้จักว่าเคยรู้จักอาจารย์นนี้บ้างรึเปล่า ผลคือรู้จัก เคยทำงาน แต่ไม่รู้ทำไมคณะไม่จ้างต่อ ...ผมถามว่าวงการการศึกษาไม่ได้กว้างอะไร แค่ปากต่อปากที่ไป ความจริงหรือไม่ ไม่มีใครรู้ ผมเสียหาย หาที่ทำงานใกล้บ้านไม่ได้ เพราะทุกที่กลัวผมเป็นตัวปัญหา รึเปล่า...
2 ก่อนที่ ผู้มีอำนาจจะคัดสินใจอะไร เคยดูข้อมูลก้อนรึเปล่า หรือเชื่อแต่คนเก่าคนแก่ (ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร) เคยคิดถึงผลกระทบที่ตามมารึไม่ เคยชั่งน้ำหนักระหว่างความถูกต้องยุติธรรมกับพักพวกพี่น้องหรือเปล่า
ท้ายที่สุดผมถามคำนึง การที่ผมตั้งใจทำงาน ต้องการพัฒนาองค์กร โดยอาจจะเปลี่ยนแปลงวัฒธรรมที่คุณอยู่กันมาโดยผมคิดแค่ความก้าวหน้าพัฒนาวิชาชีพ และทุกคนมีความเสมอภาคทางความคิด เป็นนักวิชาการเท่ากัน แต่ผมก็เคารพผู้อาวุโสตลอดเวลา ผมผิดใช่มั้ย สังคมไทยยังไม่พร้อมกับการเปลี่ยนแปลง วัดกันที่ผลงานหรือตัวงาน แต่ดูอายุงาน อาวุโส
คนที่อายุน้อยไม่ได้หมายความว่า ขาดประสบการณ์ ขาดความรู้ ขาดความพยายาม หรือขาดอะไรอื่น แต่ที่เราขาดคือ เราเกิดช้ากว่าทำให้เราเด็กและต้องผิดเสมอไป....
ปล. ผมยังไม่ยอมแพ้จะทำให้ถึงที่สจะเรียกศักดิ์ศรีของผมกลับมาให้ได้....
ทำไมความจริง ความถูกต้องถึงแพ้ ความเป็นพวกกู แล้วคนที่ไม่ผิดแต่ไม่มีพวกต้องมารับกรรมอย่างนั้นเหรอ.
หลังจากออกจากมหาลัยมา ผมก็ตั้งใจเรียน ป.เอกให้จบ และทำหนังสือข้อคำชี้แจงจากคณะมาตลอด จนเดือน กค. 60 ได้มีโอกาสเข้าไปชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งหมดที่เป็นเหตุของการไม่ต่อสัญญา ซึ่งผมมีข้อมูลและหลักฐานแสดงหักล้างข้อกล่าวหาทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้ทำไมทางคณะไม่เคยสอบถามหรือรับฟังผม หลังประชุมเสร็จ เอกสารการประชุมไม่ครบถ้วน ผมก็ไม่เข้าใจทั้งภาษาทั้งข้อมูลขาดหาย จนผมจบ ป.เอก ผมตัดสินใจข้อหลักฐานทั้งหมดเพื่อจะฟ้องศาลปกครอง เอกสารที่ได้รับคือกระดาษ 1 แผ่นมีข้อความประมาณว่า เราให้หลักฐานทั้งหมดแล้ว ....
จากเรื่องทั้งหมดสิ่งที่ผมต้องพบเจอคือ
1 ผมตกงาน ไปสมัครงานที่ไหน เค้าจะโทรกลับมาถามว่าเคยทำงานที่นี้รึเปล่า หรือสอบถามจากคนรู้จักว่าเคยรู้จักอาจารย์นนี้บ้างรึเปล่า ผลคือรู้จัก เคยทำงาน แต่ไม่รู้ทำไมคณะไม่จ้างต่อ ...ผมถามว่าวงการการศึกษาไม่ได้กว้างอะไร แค่ปากต่อปากที่ไป ความจริงหรือไม่ ไม่มีใครรู้ ผมเสียหาย หาที่ทำงานใกล้บ้านไม่ได้ เพราะทุกที่กลัวผมเป็นตัวปัญหา รึเปล่า...
2 ก่อนที่ ผู้มีอำนาจจะคัดสินใจอะไร เคยดูข้อมูลก้อนรึเปล่า หรือเชื่อแต่คนเก่าคนแก่ (ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร) เคยคิดถึงผลกระทบที่ตามมารึไม่ เคยชั่งน้ำหนักระหว่างความถูกต้องยุติธรรมกับพักพวกพี่น้องหรือเปล่า
ท้ายที่สุดผมถามคำนึง การที่ผมตั้งใจทำงาน ต้องการพัฒนาองค์กร โดยอาจจะเปลี่ยนแปลงวัฒธรรมที่คุณอยู่กันมาโดยผมคิดแค่ความก้าวหน้าพัฒนาวิชาชีพ และทุกคนมีความเสมอภาคทางความคิด เป็นนักวิชาการเท่ากัน แต่ผมก็เคารพผู้อาวุโสตลอดเวลา ผมผิดใช่มั้ย สังคมไทยยังไม่พร้อมกับการเปลี่ยนแปลง วัดกันที่ผลงานหรือตัวงาน แต่ดูอายุงาน อาวุโส
คนที่อายุน้อยไม่ได้หมายความว่า ขาดประสบการณ์ ขาดความรู้ ขาดความพยายาม หรือขาดอะไรอื่น แต่ที่เราขาดคือ เราเกิดช้ากว่าทำให้เราเด็กและต้องผิดเสมอไป....
ปล. ผมยังไม่ยอมแพ้จะทำให้ถึงที่สจะเรียกศักดิ์ศรีของผมกลับมาให้ได้....