JJNY : ชี้ยุ่งเหยิงพยานมีสิทธิถอนประกัน│กระแส'มิลลิ'ทำแม่ค้ามือเป็นระวิง│เซี่ยงไฮ้พบติดโควิดเสียชีวิต3│ชัชชาติโชว์วิชั่น

กระทู้ข่าว

นักการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ ดนุภา คณาธีรกุล (มินนี่) (MILLI) ข่าวต่างประเทศ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

รอง ผบช.น. ประชุมคืบหน้าคดี ‘ปริญญ์’ ชี้ยุ่งเหยิงพยานมีสิทธิถอนประกัน
https://www.dailynews.co.th/news/966498/

รอง ผบช.น. เรียกประชุมชุดสอบสวนคดี ปริญญ์ ชี้หากยุ่งเหยิงพยานมีสิทธิถูกถอนประกัน ส่วนกระแสนายตำรวจยศ พ.ต.อ. เสนอเงินเคลียร์คดี ยังไม่มีรายงานเข้ามา

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ สน.ลุมพินี พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าคดีของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาคดีกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุเกินกว่า 15 ปี 2 คดี และคดีข่มขืนกระทำชำเรา 1 คดี รวม 3 คดี ในพื้นที่ สน.ลุมพินี ภายหลังเข้าประชุมคดีดังกล่าว ว่า สำหรับคดีทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ สน.ลุมพินี 3 คดี และ สภ.เมืองเพชรบุรี 1 คดี ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายแจ้งความที่ จ.เชียงใหม่ นั้น ได้รับรายงานแล้ว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ไม่สามารถนำคดีต่างๆ มารวมกันได้ เพราะผู้เสียหาย รวมถึงวันเวลาที่เกิดเหตุ แตกต่างกัน ไม่ใช่คดีที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง

พล.ต.ต.ไตรรงค์ เผยอีกว่า คดีแรกที่ผู้เสียหายอายุ 18 ปี เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้พอสมควร ขณะนี้ได้ส่งภาพจากคลิปวิดีโอให้กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อทำการตรวจสอบว่ามีความถูกต้อง รวมถึงผ่านการดัดแปลงหรือไม่ โดยขณะนี้ทำการสอบพยานไปหลายปาก และในเบื้องต้นให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนคดีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ตำรวจก็พยายามเต็มที่ในการหาหลักฐาน และถือว่าคดียังอยู่ในอายุความ

ส่วนการยื่นประกันตัวของผู้ต้องหา หากพบว่ามีการกระทำที่ผิดเงื่อนไข ตำรวจก็จะยื่นเรื่องต่อพนักงานอัยการให้เพิกถอนการประกันตัวได้ อย่างไรก็ตาม ต้องมีพยานบุคคลหรือวัตถุพยานที่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ต้องหากระทำผิดเงื่อนไขการประกันตัวจริง ส่วนผู้เสียหายที่จะเดินทางมาในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ได้รับรายงานจาก ผกก.สน.ลุมพินี รวมถึงได้เตรียมคณะพนักงานสอบสวนไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม การรวมคดีให้ บช.น. เป็นผู้ดำเนินการเพียงหน่วยงานเดียวกันนั้น ไม่สามารถทำได้ แต่ในกรณีที่ผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความที่ สน.ลุมพินี แต่เหตุเกิดในพื้นที่อื่นก็จะประสานส่งเรื่องต่อไปให้ ยืนยันว่าตำรวจทำงานตามพยานหลักฐาน เมื่อมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีและพบความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ตำรวจต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่สนใจว่าจะเป็นเรื่องทางการเมืองหรือไม่.

พล.ต.ต.ไตรรงค์ เผยอีกว่า ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีข้าราชการยศ พ.ต.อ. และตัวผู้ต้องหาเอง พยายามเจรจากับผู้เสียหายเพื่อให้ยุติบทบาททางคดี ซึ่งอาจผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวของศาลนั้น ขณะนี้ยังไม่พบพยานหลักฐานที่ชัดเจน มีเพียงคำกล่าวอ้างและกระแสข่าวเท่านั้น แต่หากมีพยานหลักฐานมายืนยันในภายหลัง ตำรวจก็พร้อมที่จะไปยื่นให้ศาลให้เพิกถอนการประกันตัวได้ ทั้งนี้จากการสืบสวนของตำรวจยังไม่พบว่า มีการทำลายพยานหลักฐานจากโดยกลุ่มผู้ต้องหา มีเพียงพยานหลักฐานที่หมดอายุการเก็บรักษาตามปกติ อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวสามารถดำเนินการทันกรอบเวลาการส่งสำนวนให้อัยการอย่างแน่นอน

พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ส่วนการรวมโทษทางคดีนั้น ศาลจะพิจารณาตามแต่ละคดี เพราะเป็นคดีต่างกรรมต่างวาระ โดยจะรวมโทษหรือไม่อยู่ที่ดุลพินิจของศาล โดยพนักงานสอบสวนมีหน้าที่รวบรวมหลักฐานส่งให้พนักงานอัยการ.

ขายแทบไม่ทัน! กระแส 'มิลลิ' ทำแม่ค้ามือเป็นระวิง 'ข้าวเหนียวมะม่วง' ยอดพุ่งทั่วไทย
https://ch3plus.com/news/social/middaynews/287274

"มิลลิ" สุดปัง! ดันยอดขายข้าวเหนียวมะม่วงพุ่ง ด้านชาวสวนและร้านข้าวเหนียวมะม่วง ออกมาขอบคุณ และอยากเอากระเช้ามะม่วงไปมอบให้

หลังจากที่แร็พเปอร์สาว มิลลิ ดนุภา คณาธีรกุล ศิลปินชาวไทยวัย 19 ปี ขึ้นโชว์บนเวที Coachella 2022 (โคชเชลลา) เทศกาลดนตรีระดับโลก ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นศิลปินเดี่ยวคนแรกของประเทศไทยที่ได้ร่วมขึ้นโชว์ จนเป็นกระแสไปทั่วโลกออนไลน์ ทำให้ #MILLILiveatCoachella ติดเทรนด์ทวิตเตอร์

โดยมิลลิ ได้แสดงในโชว์ HEAD IN THE BLOUD FOREVER ของค่าย 88rising ที่มีไลน์อัพศิลปินคือ แจ็คสัน หวัง, ฮิคารุ อูทาดะ, CL เป็นต้น ซึ่งมิลลิ ขึ้นปรากฎตัวชุดสีแดงสุดแซ่บ พร้อมขนเพลงดังอย่าง Mirror Mirror และสุดปัง ไปแสดงโชว์ ทั้งร้อง เต้น แร็พ เอาอยู่หมด เรียกเสียงเชียร์จากผู้ชมอย่างล้นหลาม

นอกจากนี้ มิลลิยังสร้างกระแสด้วยการนำเรื่องราวในประเทศไทยมาบอกเล่าผ่านเพลง Mirror อีกด้วย โดยเริ่มต้นจากการไหว้ย่อสวยๆ ก่อนจะบอกว่า เธอเป็นคนไทยและอยากจะเล่าเรื่องของชีวิตในประเทศให้ฟัง ด้วยประโยค I’m Thai, Thailand so hot so hot

ตามด้วยท่อนที่บอกว่า "ช่วยลบภาพจำของชาวต่างชาติที่มองว่า คนไทยต้องขี่ช้างในชีวิตประจำวัน รถไฟฟ้าบีทีเอสก็มีค่ะ subway ก็มี" ต่อด้วยท่อนที่พูดถึง "เสาไฟกินรีต้นละแสนก็มี รถไฟสมัย ร.5 ใช้มาแล้ว 120 ปี" เสียดสีข่าวดังเสาไฟกินรี

ยังมีประโยคที่ว่า "Country is good. People is good. Our food is good. But goverment is bood" (ประเทศดีนะ ผู้คนก็ดี อาหารก็ดี แต่รัฐบาลคือบูด)
ก่อนจะจบโชว์ มิลลิก็ขอจบแบบไม่เหมือนใคร ด้วยการหยิบข้าวเหนียวมะม่วง เมนูเด็ดของไทย ขึ้นมาทานกลางเวที ก่อนจะเดินลงเวทีไป

หลังจากเธอได้โชว์การแสดงบนเวที Coachella ก็เกิดเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ เพจ Milli ได้โพสต์ภาพ สาวมิลลิ ได้กินข้าวเหนียวมะม่วงโชว์ พร้อมกับระบุข้อความว่า "Show me your mango sticky rice"

ขณะที่ในโลกออนไลน์ก็มีคนโพสต์ภาพข้าวเหนียวมะม่วงจำนวนมาก และจากกระแส sticky rice ก็ส่งผลทำให้บรรยากาศร้านขายข้าวเหนียวมะม่วงชื่อดัง แม่วารี ปากซอยทองหล่อ ซึ่งวันนี้พบว่า มีไรเดอร์และประชาชนจำนวนมาก ต่อคิวรอซื้อข้าวเหนียวมะม่วงตั้งแต่เปิดร้าน

ลูกค้ารายหนึ่ง บอกว่า ปกติอุดหนุนร้านเป็นประจำ แต่จะทานไม่บ่อย หลังเห็นกระแสโซเชียลเมื่อคืนพยายามโทรสั่ง แต่ทางร้านระบุว่ามีลูกค้าสั่งมากต้องรอนาน จึงตัดสินใจเดินทางมาซื้อเช้าวันนี้

ด้านเจ้าของร้าน บอกว่า ปกติทางร้านจะขายได้วันละ 40 เข่ง แต่หลังจากมีกระแส ทางร้านขายได้ 3-4 เท่า

ส่วนที่อุทัยธานี ก่อนหน้านี้ร้านข้าวเหนียวมะม่วงในพื้นที่เงียบเหงามานาน ปรากฎว่าวันนี้กลับมามีสีสันคึกคักขายดีขึ้นเป็นเท่าตัว แม่ค้าร้านข้าวเหนียวมะม่วง บอกอยากขอบคุณมิลลิ ที่ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักขนมของหวานประเทศไทย

นอกจากนี้ยังมีชาวสวนมะม่วง ออกมาบอกว่า ถือเป็นการช่วยเหลือชาวสวนมะม่วงอย่างมาก เพราะช่วงที่ผ่านมาราคาผลผลิตตกต่ำลดลงจากปีก่อนๆ มาก เชื่อว่า หลังจากนี้ กระแสของการบริโภคข้าวเหนียวมะม่วงภายในประเทศจะเพิ่มมากขึ้น และอยากตอบแทนด้วยการพากลุ่มชาวสวนนำมะม่วงเกรดคุณภาพส่งออกเดินทางไปขอบคุณมิลลิ

เซี่ยงไฮ้พบผู้ติดโควิดเสียชีวิตสามรายแรก นับตั้งแต่ล็อกดาวน์
https://www.nationtv.tv/news/378870343

เซี่ยงไฮ้พบผู้ติดโควิดเสียชีวิตสามรายแรก นับตั้งแต่ล็อกดาวน์มานานสามสัปดาห์ ซึ่งทางการยังเดินหน้าตรวจโควิดประชาชนทั้งเมืองแบบปูพรม เพื่อหาตัวผู้ติดเชื้อและแยกออกมากักตัว

ทางการเซี่ยงไฮ้เปิดเผยว่าพบผู้ติดเชื้อโควิดเสียชีวิตสามรายแรกนับตั้งแต่เริ่มทำการล็อกดาวน์เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้งสามคนเป็นผู้สูงอายุหญิงสองคน อายุ 89 และ 91 ปี และผู้ป่วยชายหนึ่งคนอายุ 91 ปี โดยทั้งสามคนมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ทั้งโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคความดัน ซึ่งคณะกรรมการด้านสาธารณสุขของเซี่ยงไฮ้ยืนยันว่าแพทย์และพยาบาลพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาอาการป่วยของทั้งสามคน แต่ว่าร่างกายของคนไข้ไม่ตอบสนองต่อการรักษาจนเสียชีวิต

ในวันนี้ เซี่ยงไฮ้รายงานผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 22,248 คน เป็นผู้ป่วยที่แสดงอาการ 2,417 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิดแบบปูพรมทั้งเมือง เพื่อแยกผู้ป่วยไปกักตัว โดยทางการตั้งเป้าว่าจะยุติการแพร่ระบาดของโควิด นอกพื้นที่กักตัวให้ได้ภายในวันพุธนี้ ซึ่งจะทำให้เริ่มคลายการล็อกดาวน์ได้ในบางพื้นที่ และประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้

ที่ผ่านมา ชาวเซี่ยงไฮ้ซึ่งอยู่ภายใต้การล็อกดาวน์มานาน 3 สัปดาห์แล้ว หงุดหงิดและไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีความพร้อมในการดูแลประชาชน โดยเฉพาะเรื่องการส่งอาหารที่ล่าช้าและไม่เพียงพอ การสูญเสียรายได้ในระหว่างการปิดเมือง สภาพความเป็นอยู่ในศูนย์กักตัวที่ไม่ได้มาตรฐาน จนมีประชาชนออกมาประท้วงและโพสต์คลิปวิดีโอระบายความอัดอั้นผ่านโซเชียลมีเดียจำนวนมาก

ด้านไมเคิล ซง ศาสตราจารย์วิชาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยจีนในฮ่องกง คาดการณ์ว่าการล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ ทำให้ค่า GDP ของจีนลดลงสูงถึง 2.5 ถึง 3% ในเดือนนี้ เพราะเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองเศรษฐกิจและศูนย์กลางการเงินที่สำคัญของจีน