สวัสดีค่ะ หนูมีเรื่องอยากปรึกษาค่ะ
หนูเรียนจบสาขาภาษาจีน หลังจากจบหนูไม่รู้ว่าอยากทำงานอะไร รู้แค่ไม่ชอบงานเอกสาร อยากทำงานที่ไม่ต้องนั่งอยู่กับที่และได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เลยหางานโดยการดูเงินเดือนเป็นหลัก เห็นงานหนึ่ง ชื่องานที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ฐานเงินเดือนดีมาก เลยสมัครไป บอกพระเจ้าว่าถ้าเป็นน้ำพระทัยก็ขอให้ได้งานนี้ เป็นงานแรกในชีวิตที่สัมภาษณ์และได้งานดังที่อธิษฐานไว้ ได้รู้ตอนสัมภาษณ์ว่าเป็นงานเซลล์ขายคอนโดให้คนจีน ทำงานไปแล้วสรุปเจอสิ่งที่ชอบ แต่งานยุ่งมาก ต้องเดินทางไปขายคอนโดที่เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต บ่อยมาก และขายคอนโดในกรุงเทพด้วย ยุ่งจนไม่ได้เข้าโบสถ์ ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณไม่เติบโต ก่อนเข้ามาทำงาน ก.ท.ม. ได้บอกกับพระเจ้าไว้ว่าจะติดสนิทกับพระเจ้า และเฝ้าเดี่ยว แต่ทำไม่ได้ดังที่ได้บอกกับพระเจ้าไว้ วันหนึ่งเจ้านายโดนย้ายกลับมาเลย์เซีย มีเจ้านายใหม่มา ชีวิตการทำงานเริ่มไม่แฮปปี้ โดนบีบสารพัด เพราะไม่ได้เป็นคนพูดจาหวานแหววประจบนาย บุคลิคก็ห้าวๆหน่อย เกิดเหตุให้ต้องลาออก ได้งานที่บริษัทใหม่ทันที เป็นงานอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน แล้วเจ้านายก็ย้ายให้มาขายวิลล่าที่สมุย โดยให้เงื่อนไขว่าเพิ่มเงินเดือนให้ และมีรถให้ใช้ เป็นเซลล์คนเดียวของบริษัทที่อยู่สมุย ดังนั้นลูกค้าจะได้รับเองคนเดียว วันไหนไม่มีลูกค้าเราก็เข้าออฟฟิตของทางโครงการ(หนูไปในฐานะเอเจ้นท์ที่ไปทำงานกับโครงการ) พอมาถึง ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง ลูกค้าที่มาดูวิลล่าน้อยมาก บางเดือนก็ 2-3คน มากสุดก็7 คน หนูมีเวลาว่างมากก เลยได้เข้าโบสถ์ทำงานรับใช้ในโบสถ์ เข้ากลุ่มเซลล์ ชีวิตจากที่ยุ่งมาก กลายเป็นว่างมาก หนูเริ่มฟุ้งซ่านคิดว่าเป็นการเสียดายเวลาไหม เพื่อนๆโบสถ์หนุนใจว่าพระเจ้ามีแผนการณ์ที่ให้หนูมาสมุย หนูเลยเอาเวลาว่างมาฝึกกีต้าร์ ฝึกภาษาอังกฤษ หาหนังสือการลงทุนอ่านบ้าง วันหนึ่งทางโครงการก็บอกมาว่าหนูไม่ต้องเข้าออฟฟิต เพราะเขามีพนักงานใหม่มา ที่นั่งเต็ม เขาต้องให้พนักงานเขาก่อน ทุกวันนี้หนูเหงามาก หนูว่างมาก ทั้งบริษัทมีหนูคนเดียวที่สมุย ออฟฟิตก็ไม่มีนั่ง หลังจากทำงานไปสี่เดือน หนูขายวิลล่าไปสองหลัง ซึ่งค่าคอมมากกว่าขายคอนโดมาก แต่หนูเกิดความคิดที่ว่า หนูกำลังพลาดโอกาสบางอย่างใน กทม. หรือเปล่า วัยของหนูอยู่ชิลๆแบบนี้มันใช่หรอ หนูควรต้องได้ทำงานที่ต้องเหนื่อยให้สมกับวัยตัวเองสิ หนูควรจะ
1. ลาออกแล้วไปหางานใหม่ที่กรุงเทพ เพราะบริษัทเก่าตอนนี้ไม่ยอมให้กลับแน่ เนื่องจากไม่ค่อยมีใครในบริษัทยอมมาสมุย
2. หางานใหม่ในสมุย โดยหาบริษัทที่มีลูกค้าเยอะๆ จะได้ไม่ว่างมาก
แต่ก็มีอีกเสียงบอกหนูว่าพระเจ้ามีแผนการณ์ที่ดี ให้รอไปก่อน จนกว่าพระเจ้าจะสำแดงให้หนทาง แต่หนูต้องรอไปจนถึงเมื่อไหร่
ปรึกษาแม่ แม่ก็บอกดีแล้ว ที่ทำงานสบายและมีเงินเดือน ปรึกษาเพื่อน เพื่อนบอกว่าชีวิตดีเพราะเงินเดือนดีกว่าเพื่อน
ปล.หนูเพิ่งทำงานครบปีเมื่อวันที่ 4/7/2018 ถ้าต้องหางานใหม่หนูไม่กลัวการเริ่มต้นใหม่เลย
น้ำพระทัยพระเจ้าในชีวิตการทำงาน สำหรับคริสตเตียนที่เพิ่งออกสู่โลกกว้างได้ไม่นาน
หนูเรียนจบสาขาภาษาจีน หลังจากจบหนูไม่รู้ว่าอยากทำงานอะไร รู้แค่ไม่ชอบงานเอกสาร อยากทำงานที่ไม่ต้องนั่งอยู่กับที่และได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เลยหางานโดยการดูเงินเดือนเป็นหลัก เห็นงานหนึ่ง ชื่องานที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ฐานเงินเดือนดีมาก เลยสมัครไป บอกพระเจ้าว่าถ้าเป็นน้ำพระทัยก็ขอให้ได้งานนี้ เป็นงานแรกในชีวิตที่สัมภาษณ์และได้งานดังที่อธิษฐานไว้ ได้รู้ตอนสัมภาษณ์ว่าเป็นงานเซลล์ขายคอนโดให้คนจีน ทำงานไปแล้วสรุปเจอสิ่งที่ชอบ แต่งานยุ่งมาก ต้องเดินทางไปขายคอนโดที่เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต บ่อยมาก และขายคอนโดในกรุงเทพด้วย ยุ่งจนไม่ได้เข้าโบสถ์ ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณไม่เติบโต ก่อนเข้ามาทำงาน ก.ท.ม. ได้บอกกับพระเจ้าไว้ว่าจะติดสนิทกับพระเจ้า และเฝ้าเดี่ยว แต่ทำไม่ได้ดังที่ได้บอกกับพระเจ้าไว้ วันหนึ่งเจ้านายโดนย้ายกลับมาเลย์เซีย มีเจ้านายใหม่มา ชีวิตการทำงานเริ่มไม่แฮปปี้ โดนบีบสารพัด เพราะไม่ได้เป็นคนพูดจาหวานแหววประจบนาย บุคลิคก็ห้าวๆหน่อย เกิดเหตุให้ต้องลาออก ได้งานที่บริษัทใหม่ทันที เป็นงานอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน แล้วเจ้านายก็ย้ายให้มาขายวิลล่าที่สมุย โดยให้เงื่อนไขว่าเพิ่มเงินเดือนให้ และมีรถให้ใช้ เป็นเซลล์คนเดียวของบริษัทที่อยู่สมุย ดังนั้นลูกค้าจะได้รับเองคนเดียว วันไหนไม่มีลูกค้าเราก็เข้าออฟฟิตของทางโครงการ(หนูไปในฐานะเอเจ้นท์ที่ไปทำงานกับโครงการ) พอมาถึง ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง ลูกค้าที่มาดูวิลล่าน้อยมาก บางเดือนก็ 2-3คน มากสุดก็7 คน หนูมีเวลาว่างมากก เลยได้เข้าโบสถ์ทำงานรับใช้ในโบสถ์ เข้ากลุ่มเซลล์ ชีวิตจากที่ยุ่งมาก กลายเป็นว่างมาก หนูเริ่มฟุ้งซ่านคิดว่าเป็นการเสียดายเวลาไหม เพื่อนๆโบสถ์หนุนใจว่าพระเจ้ามีแผนการณ์ที่ให้หนูมาสมุย หนูเลยเอาเวลาว่างมาฝึกกีต้าร์ ฝึกภาษาอังกฤษ หาหนังสือการลงทุนอ่านบ้าง วันหนึ่งทางโครงการก็บอกมาว่าหนูไม่ต้องเข้าออฟฟิต เพราะเขามีพนักงานใหม่มา ที่นั่งเต็ม เขาต้องให้พนักงานเขาก่อน ทุกวันนี้หนูเหงามาก หนูว่างมาก ทั้งบริษัทมีหนูคนเดียวที่สมุย ออฟฟิตก็ไม่มีนั่ง หลังจากทำงานไปสี่เดือน หนูขายวิลล่าไปสองหลัง ซึ่งค่าคอมมากกว่าขายคอนโดมาก แต่หนูเกิดความคิดที่ว่า หนูกำลังพลาดโอกาสบางอย่างใน กทม. หรือเปล่า วัยของหนูอยู่ชิลๆแบบนี้มันใช่หรอ หนูควรต้องได้ทำงานที่ต้องเหนื่อยให้สมกับวัยตัวเองสิ หนูควรจะ
1. ลาออกแล้วไปหางานใหม่ที่กรุงเทพ เพราะบริษัทเก่าตอนนี้ไม่ยอมให้กลับแน่ เนื่องจากไม่ค่อยมีใครในบริษัทยอมมาสมุย
2. หางานใหม่ในสมุย โดยหาบริษัทที่มีลูกค้าเยอะๆ จะได้ไม่ว่างมาก
แต่ก็มีอีกเสียงบอกหนูว่าพระเจ้ามีแผนการณ์ที่ดี ให้รอไปก่อน จนกว่าพระเจ้าจะสำแดงให้หนทาง แต่หนูต้องรอไปจนถึงเมื่อไหร่
ปรึกษาแม่ แม่ก็บอกดีแล้ว ที่ทำงานสบายและมีเงินเดือน ปรึกษาเพื่อน เพื่อนบอกว่าชีวิตดีเพราะเงินเดือนดีกว่าเพื่อน
ปล.หนูเพิ่งทำงานครบปีเมื่อวันที่ 4/7/2018 ถ้าต้องหางานใหม่หนูไม่กลัวการเริ่มต้นใหม่เลย