คุณรักอะไร ใน Olympus 35 SP

เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้พบกับกล้องตัวหนึ่งซึ่งก่อนจะตัดสินใจนำมันมาอยู่ด้วยนั้น ผมได้ใช้เวลาหาข้อมูลไม่มากนัก ถือได้ว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบก็ว่าได้ ซึ่งถือได้ว่าค่าตัวก็ไม่ใช่เล่น

จนกระทั่งรับเจ้า Olympus 35 SP ตัวนี้มาอยู่ด้วย



เมื่อเจอหน้ากัน ความรู้สึกแรก รู้สึกได้เลยว่าหล่อมาก สภาพ near mint เลยก็ว่าได้ มาพร้อมกับฟูลเคส และสายแท้ ฝาปิดเลนส์แท้ ทำให้รู้สึกเลยว่า เมื่อเทียบกับค่าตัวที่เสียไป ก็ถือว่าพอสมเหตุสมผล ยิ่งสำรวจภายใน จับผิดร่องรอยต่างๆ ยิ่งทำให้รู้สึกว่าโชคดีมากที่ได้สภาพนี้มา เมื่อเทียบจากความเสี่ยงซึ่งคุยกับคนขายผ่านเพียงช่องแชทเท่านั้น

มาพูดถึงเรื่องความรู้สึกในการใช้งาน จังหวะแรกที่ขึ้นฟิล์ม เล็ง และโฟกัส รู้สึกเลยว่าโฟกัสยากมาก เรียกว่าหน้ามืดกันเลยทีเดียว กว่าจะลงชัตเตอร์ได้นี่ ปวดตาเลย ซึ่งก็พอรู้กิตติศัพท์ของกล้อง rangefinder มา จนกระทั่งมาเจอด้วยตัวเองนี่แหละ

หลังจาถ่ายจนหมดม้วนก็นำภาพมาดู รู้สึก ว้าวมาก คือไม่คิดว่าภาพที่ได้จะขนาดนี้ ซึ่งพยายามมองที่เส้นและแสงเป็นหลัก เพราะสีที่ได้ก็อาจขึ้นอยู่กับฟิล์มหรือการล้างสแกนของทางร้าน ซึ่งก็อาจเทียบไม่ได้กับการล้างในสมัยก่อน บวกกับเครื่องสแกนก็อาจถ่ายทอดสีได้ไม่ตรงนัก แต่แสงและเส้นที่ได้คือดีมาก มันคมดีนะ คือตัวผมซึ่งก็อาจไม่ได้มีความรู้เรื่องการถ่ายรูปนัก อาจจะแค่งูๆปลาๆ แต่ก็มองในแบบคนบ้านๆมองนี่แหละ คือรู้สึกเลยว่ามันคม มันดูจริง ซึ่งก็พูดกันตรงๆว่า ในสมัยนี้ที่คนเล่นกล้องฟิล์มชอบกันคือภาพที่ออกมาฟุ้งๆ แต่สำหรับผม ผมชอบภาพที่ดูจริง คมๆ ซึ่งกล้องตัวนี้ถ่ายทอดออกมาได้ตรงตามความรู้สึกที่ผมอยากให้มันเป็น เลยก็คงต้องยกเครดิตนี้ให้กับเลนส์ของเจ้าตัวนี้ ซึ่งหลายคนการันตีให้เป็นเลนส์ที่ดีที่สุดตัวหนึ่งที่ Olympus ออกแบบมา

ไหนๆก็พูดถึงเจ้าตัวนี้แล้ว ก็แอบพูดเรื่องการใช้งานหน่อยละกัน คือเจ้า 35 SP นี้นั้น เป็นกล้องที่มีโหมดการใช้งาน 3 โหมดด้วยกัน คือ โหมด manual คือปรับเองทุกอย่าง ทั้งรูรับแสงและสปีดชัตเตอร์ และโหมด shutter priority ซึ่งเราแค่ปรับสปีดชัตเตอร์เอง กล้องจะคำนวณสปีดชัตเตอร์ให้สัมพันธ์กับสภาพแสง และสุดท้ายคือโหมด AE ก็คือเหมือนโหมด program ในกล้อง slr นั่นเอง คือกล้องจะคำนวณให้ทั้งสปีดชัตเตอร์และรูรับแสงจากสภาพแสงขณะนั้น โดยการแสดงค่าวัดแสงของกล้องนั้น จะแสดงเป็นค่า EV ซึ่งเป็นแถบตัวเลข แล้วมีเข็มเลื่อนไปมาบนแถบ โดยในโหมด manual เราก็ปรับรูรับแสดงและสปีดให้ได้ค่า EV ตามที่กล้องคำนวณให้ ซึ่งสำหรับผมถือว่าใช้ง่ายดี ไม่มีปัญหา แถมในโหมดออโต้ค่านี้ก็ยังแสดงอยู่ เราก็พอเดาได้ว่ากล้องคำนวณรูรับแสงหรือสปีดชัตเตอร์ให้เท่าไร แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ค่อยได้ใช้ทุกโหมดหรอกครับ ปกติก็ manual เอาเอง จะใช้ก็ต่อเมื่อขี้เกียจบ้างบางครั้ง แหะๆๆ แต่จากที่ใช้มาจะไม่ค่อยประทับใจกับโหมด AE เท่าไร คือภาพที่ออกมามันแสงแปลกๆ มันดูตลกๆยังไงบอกไม่ถูก แต่ก็ไม่อยากโทษกล้องมาก บางทีคงเป็นที่ไอ้คนถ่ายเองก็ได้ครับ 55555  อีกอย่างที่แถมมาคือ ปุ่มวัดแสงแบบ spot คือวัดแสงเฉพาะจุด เหมาะกับใช้ถ่ายคนหรือสิ่งของในสภาพย้อนแสง คือภาพคนหรือสิ่งของเนี่ยจะไม่ดรอปไม่มืด เพราะจุดที่มันวัดแสงคือจุดเดียว คือพอกดปุ่มนี้ เข็มวัดแสงมันก็จะเปลี่ยนไปบอกค่าแสงแค่จุดที่คนหรือสิ่งของอยู่เท่านั้น  พอมานั่งดูรวมๆแล้ว เจ้าตัวนี้ถือว่าครบเครื่องเรื่องฟังก์ชันเลยทีเดียว

มาพูดถึงเรื่องความเหมาะสมกับการใช้งานบ้าง ผมเองก็บอกจากประสบการเลยละกันครับว่า กล้องตัวนี้อาจไม่ได้เหมาะสำหรับสายโบเก้มากนัก ง่ายๆคือจะมาโบเก้ตอนแดดจ้าๆนี่จบ เพราะสปีดชัตเตอร์สูงสุดแค่ 1/500 เท่านั้น ถ้าอยากโบเก้ก็คงตั้งช่วงแดดร่มลมตกเท่านั้นล่ะ และอีกอย่างที่ไม่เหมาะคือสายถ่ายดอกไม้ ขนมเค้ก อาหารบนโต๊ะ หรือถ่ายวัตถุแบบใกล้ๆ อะไรประมาณนี้ ก็คงไม่เหมาะนัก ด้วยเลนส์ที่ให้มาคือ 42 mm. ซึ่งก็ค่อนข้าง wide แต่สำหรับผมมันไม่เป็นปัญหา เพราะส่วนตัวมักถ่ายภาพวิว ถาพ street ซะมากกว่า ถ้าในสภาพการใช้งานแบบนี้ บอกเลยว่าเหมาะมาก และใช้ได้ดีเลย จะเสียอย่างเดียวก็คือเรื่องโฟกัสนี่ล่ะครับ ที่จะลำบากสักหน่อย อาจพลาดโอกาสไปบ้างบางจังหวะ แต่เอาเข้าจริง พอใช้ไปสักพักก็จะเริ่มจับทางมันได้เองครับ แถมอีกอย่างละกันครับกับเรื่องที่ต้องทำใจและต้องให้ชิน อาจต้องเพิ่มสติสักนิด ก็คือเรื่อง parallax error อีกสิ่งหนึ่งสำหรับสาวก rangefinder พึงต้องยอมรับ ซึ่งไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป็น เสน่ห์ หรือ ปัญหา เพราะบางทีมันก็ทำให้ภาพดูมีอะไร แต่บางทีเราก็ไม่ได้ต้องการมันนัก เรื่องของเรื่องคือ ช่องมองภาพที่เราเล็งมันอยู่มุมซ้าย ส่วนเลนส์กล้องมันอยู่กลางกล้อง ง่ายๆเลยคือภาพที่เราเห็นในช่องมอง มันจะไม่ใช่ภาพที่เลนส์เราถ่ายทอดเลย ซึ่งสำหรับกล้องตัวนี้ก็ยังดีที่มีกรอบในช่องมองช่วยให้เราจัดองค์ประกอบ ให้ภาพใกล้เคียงกับที่ตาเราเห็นได้บ้าง แต่ก็ช่วยไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกครับ กรณีนี้ต้องใช้ประสบการณ์เข้ามาช่วยมากที่สุด คือใช้ๆไปก็จะพอจับทางได้เองครับ

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ผมมองว่ามันคือเสน่ห์นะ คือในขณะที่เรามี digital ใช้กันแล้ว ทั้งสะดวก รวดเร็ว แถมยิ่งสมัยนี้ ภาพมันก็จบลงที่โปรแกรมซะส่วนใหญ่ สุดท้ายแล้วกล้องก็คืออุปกรณ์ที่ทำให้ได้ภาพมานั่นเอง จะทำให้ได้ฟิลลิ่งแบบฟิล์มก็ง่ายดายแค่มือคลิก ช่างภาพมืออาชีพหลายคนถึงขั้นแอนตี้เหล่าคนที่กลับมาใช้ฟิล์ม ว่าไร้สาระ แต่ผมเองมองแบบนี้นะครับว่า ถ้าจะมองให้เป็นกลาง ก็มองว่ามันเป็นเหมือน hobby คือสิ่งที่เราชอบทำยามว่าง เหมือนการปลูกต้นไม้ เหมือนการออกกำลังกาย เหมือนการเตะบอล อะไรพวกนี้ ก็มีบ้างที่ต้องลงทุน จะมากจะน้อยมันก็เป็นเรื่องของความสุขไป เราเล่นบอลก็ต้องเสียค่าสนาม เราปลูกต้นไม้ก็ต้องเสียค่าเมล็ด เราออกกำลังกายก็ต้องเสียค่าอุปกรณ์หรือค่าโปรตีน (ที่พูดแบบนี้เพราะผมเองก็ทำมาหมดแหละครับ ปลูกต้นไม้ เตะบอล ออกกำลังกาย) สุดท้ายแล้วที่เสียไปมันก็คือความสุขเล็กน้อย เสียน้อยเสียมากมันก็ขึ้นอยู่กับกำลังและการตัดสินใจของแต่ละคน ก็เลยรู้สึกว่า อย่าไปซีเรียสมากเลยครับ ชอบต่างกัน สุขของแต่ละคนก็ต่างกัน

ว่ามายืดยาว ก็ขอสรุปจากความรู้สึกของตัวเองเลยว่า ไม่ผิดหวังที่ได้เจ้าตัวนี้มาครับ ถึงจะมีอารมณ์เข้ามาบ้างบางครั้งว่า ก็อยากหาตัว slr มาอยู่เป็นเพื่อนมันสักตัว แต่ก็ยังไม่ได้หามาอยู่ด้วยสักที เพราะกลัวมันน้อยใจ แต่เอาเข้าจริง มันเป็นประเภทกล้องที่ดีเสียต่างกัน คงเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ ซึ่งจนแล้วจนรอดตอนนี้ก็ยังมีมันอยู่แค่ตัวเดียว ก็ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ซึ่งผมก็บอกตรงๆเลยครับว่ารักมัน คงไม่คิดจะให้มันไปอยู่กับคนอื่นแน่นอน เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่มันมอบให้กับเรา คือความสุขเล็กน้อยนั่นเองครับ

สุดท้ายแล้วก็อยากจะพูดครับว่า กระทู้นี้ถือซะว่าเป็นกระทู้ที่เล่าสู่กันฟังละกันครับ ไม่อยากให้คิดมากว่ามาสอนหรือมาอะไรแบบนั้น ผมเองก็บ้านๆที่หาข้อมูลมาเองลองใช้เอง ไม่ได้มีพื้นฐานการถ่ายรูปที่มากมายอะไร อาศัยว่าเคยจับกล้อง DSLR มาบ้าง พอเข้าใจหลักการบ้าง อยากให้กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่มาคุยกัน ทั้งคนที่เคยใช้และคนที่สนใจอยากใช้ อารมณ์ประมาณว่า มานั่งคุยแลกเปลี่ยนกัน หรือจะบ่นก็ได้ 55555 ยังไงแล้วก็อยากให้คนที่เคยใช้ หรือตอนนี้ยังใช้อยู่ มาคุยกันเล่นๆขำๆ เผื่อว่าคนที่สนใจกล้องตัวนี้จะเข้ามาอ่าน ก็อาจเป็นประโยชน์ได้ ในบางประโยคที่เขียนออกไปถ้าไม่ชอบใจหรือไม่ถูกใจก็ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

ไปแล้วนะครับ สวัสดีครับผม
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  เทคนิคการถ่ายรูป บทความ ภาพถ่ายฟิล์ม
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่