เนื่องจากตอนนี้ทีมผมน่าจะลอยลำไปแล้ว และสิ่งที่น่าสนใจที่สุดของไทยลีคเวลานี้ คือฟอร์มที่ตกลงอย่างน่าจะใจหายของทีมที่ผมเคยคิดว่ามีระบบและรูปแบบการเล่นที่น่าสนใจที่สุดทีมนึงในไทย แต่วันนี้ "ศัตรูที่รัก" ของผมกำลังเจอปัญหาในรูปแบบที่ไม่เคยคิดว่าจะเจอ จากการที่ผมตามแช่งเมืองทองฯบ่อยๆ เราลองมาคุยกันในเรื่องของแทคติกฟุตบอลล้วนๆ เพราะผมมองว่านี่คือปัญหาที่แท้จริงที่จะส่งผลกับหลายๆเรื่องให้กับสโมสรฟุตบอลครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(ถ้าไม่พอใจหรืออย่างไรขออภัยครับ แต่ผมจะพยายามใช้คำพูดที่มันให้เกียรติทุกฝ่ายที่สุด)
อย่างที่บอกไปเมืองทองเคยเป็นที่มีระบบการเล่นดีมาก แต่ระบบมันเริ่มมั่วซั่วตอนที่เอา
ชาริล ชัปปุยส์ เข้ามานี่แหละครับ ระบบที่เวิร์คที่สุดของเมืองทองคือ
433 กองกลาง 3 ตัว กองหน้า 3 ตัว วิธีการเล่นเกมรุกคือการเพิ่มตัวเข้าไปด้านหน้าเยอะๆเพื่อครองเกม หรือใช้การโต้กลับเร็วและใช้ความเร็วของกองหน้าในการจบสกอร์ หัวใจของระบบคือกองกลางที่มีการ assign ตำแหน่งที่ชัดเจน
AMC(เจ) - Box2Box(ตัง) - Holding(ตั้ม/วัฒนา/อีโฮ) ซึ่งตำแหน่ง Holding นี่แหละคือส่วนที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ระบบมันเวิร์ค การเสียตั้มไป แต่ได้อีโฮหรือวัฒนามายืนแทนในตอนที่ฟอร์มยังโอเค มันยังพอไปวัดไปวาได้ แต่พอมาถึงจุดนึง การที่นักเตะสำคัญในแต่ละตำแหน่งหายไปเรื่อยๆทั้ง เจ(มุ้ยเล่นตรงนั้นแทนพอไหว) ตังเจ็บและกลับมาไม่เหมือนเดิม รวมถึงการที่ผู้บริหารต้องการใส่ชัปปุยส์เข้ามาในระบบ แต่ชาริลไม่สามารถมอบความสามารถในการเล่น AMC ให้ได้อีกแล้ว ทีมเลยตัดสินใจเอาชัปปุยส์ไปเล่นเป็น Holding MF ซึ่งในแง่ของการครองเกมรุกชาริลก็ทำได้ดีแหละ ถ่ายบอลไปมาได้ มีวางบอลยาวบ้าง
แต่เรื่องการตัดเกมสวนกลับ การยืนเป็น Holding ที่แท้จริงก่อนจะถึงแผงหลัง ชาริล ทำให้ไม่ได้เลย ชัดเจนมากๆจากการเจอทีมที่มีการโต้กลับดีๆอย่างประจวบฯ แล้วยิ่งการกลับมาที่ไม่สมบูรณ์ของสารัชยิ่งไม่สามารถช่วยเหลือเกมรับได้หนักขึ้นไปอีก และที่ผมไม่เข้าใจหนักมากคือการขาย
ทษวรรษออกไป ซึ่งเจ้าตัวเองเป็นนักเตะที่สามารถเล่นเป็นตัวรับได้ดีมากๆคนนึงของไทย รวมถึงปรับไปเล่น Box2Box ได้ด้วย อาจจะยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอแต่ผมว่าประสิทธิภาพเขาไม่น้อยหน้าใครในแผงกลางที่เล่นไม่ได้ดีมากสักคนแน่นอน (แน่นอนรวมถึง รัชพล นาวันโน ด้วยที่เสียของมากๆ)
เอาหละ ขอเข้าสู่ความ Shipหาย จริงๆของเมืองทอง นั่นคือ
การจัดการหานักเตะเข้ามาทดแทนตัวที่หายไป ผมมองว่าการที่อุ้มกับตองหายไปไม่ใช่ปัญหาหลัก แต่มันคือการหายไปของ
มุ้ย มุ้ยเป็นนักเตะที่เล่นได้หลายตำแหน่งในเกมรุกทั้ง
CF,RLWF,SS,AMC และที่สำคัญมุ้ย
สามารถเชื่อมเกมจากกลางไปหน้าได้ ทีมน่าจะหวังว่าการเข้ามาของ
Herberty น่าจะเข้ามาทดแทนมุ้ยได้ ซึ่งกลายเป็นว่าสไตล์ของ Herberty ทำให้กลางของเมืองทองตั้งเกมไม่ถูก เพราะ
เขาเล่นด้วยความอิสระมากเกินไป จะเอาบอลไปเปิดเองหรือเอาไปยิงแถวสองเขาก็ทำได้หมด ในมุมนึงมันก็น่ากลัว แต่กลับกันระบบที่เคยเซทมามันก็ต้องโละใหม่หมด กลางสามตัวนอกจากฟอร์มตกแล้วก็ต้องเปลี่ยนสไตล์การขึ้นเกม หน้าสามตัวก็สับสน และไม่สามารถเล่น 433 ในแบบเก่าได้
ถึงตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าระบบของเมืองทองยืนกันในรูปแบบไหน Herberty เล่นยังไง เป็น AMC เป็น RWF หรือเป็นหน้าเป้า // การเซ็น
Jaja เข้ามาก็เหมือนจะเป็นไอเดียที่ดีในการที่จะเขามายืนค้ำหน้า ซึ่งเอาจริงๆแล้ว จาจ้า ทำผลงานกับบุรีรัมย์ได้ดีในฐานะหน้าคู่ ที่ไม่ต้องยืนสูงมาก ที่มาช่วยพักบอลตรงจุดเลยกลางสนามเยื้องมาด้านข้าง แต่ถ้าเอาไปโดนกองหลังรุมกินโต๊ะในสภาพที่ไม่ฟิตแบบเดิมก็เป็นอย่างที่เห็นกัน // นอกจากนั้นแล้ววิธีการเลือกซื้อนักเตะของเมืองดูแย่มากๆครับ เหมือนทีมไม่มีแมวมองแต่เน้นการเซ็นสัญญาจากนักเตะที่เคยมีชื่อเสียงในไทยลีคเข้ามา โดยไม่สนใจว่าเหมาะกับทีมหรือไม่
ชาริล ชัปปุยส์ คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ทีมไม่มีความจำเป็นต้องใช้เขาในฐานะตัวหลักแต่ควรจะเป็นตัวโรเตชั่นที่เอาไว้เปลี่ยนแทคติกมากกว่า
สิโรจน์ ฉัตรทอง เองก็เป็นเคสที่น่าสงสาร โดนปัญหาจากความกดดันระยะยาวและไม่สามารถจะกลับมาหาฟอร์มเก่งได้ การเอากองหน้าที่ยังไม่เคยพิสูจน์ตัวเองได้อย่าง
เจนรบ สำเภาดี เข้ามาผมว่าเพราะเป็นดีลที่สามารถจะ trigger ใช้เมื่อไรก็ได้ และก็เป็นนักเตะทีมชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดเท่าที่จะสามารถหาเข้าทีมได้ แต่ไม่เคยมองนักเตะที่ไม่ติดทีมชาติที่สร้างผลงานที่ดีในลีคอีกหลายๆคน // นี่เรายังไม่ได้พูดกันถึงเรื่องของนักเตะตัวหลักหมดความกระหาย อายุมากแล้ว สภาพร่างกายไม่ฟิต ผ่านอาการเจ็บหนักมาเกือบทุกคน เอาแค่ปัญหาจากการที่ Tactics ที่ไม่เหมาะกับทีมและปัญหาจากการซื้อขายนักเตะก็ยาวขนาดนี้แล้วครับ
สุดท้ายผมฝากไว้เรื่องการเปลี่ยน Tactics ในเมื่อมีสองกองหน้าที่น่ากลัวนะ หน้าที่ของกองกลางคือทำเกมรับให้ดีที่สุดเพื่อให้ HF7 กับ JJ50 ทำผลงานให้ดีที่สุดครับ
Attacking Formation: ทิ้งสองกองหน้าให้รับผิดชอบด้านบน อัดกลางให้แน่น ให้ศนุกรานต์กับสารัช ขึ้นมาซัพพอร์ทเกมรุกกับวิงซ้ายขวาเติมสูง ถ้าจะปรับให้หน้าสามก็ดันทริสตองสุดเส้น แล้วเขยิบวัฒนาไป Cover ฝั่งขวาแทน
Defensive Formation: เกมสวนกลับที่ดีควรจะมีการออกบอลจากแดนหลังที่มีประสิทธิภาพ และการเก็บบอลที่ดีจากกองหน้าตัวบน จาจ้าพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าทำได้ และอีโฮน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะถอยลงไปยืนเพื่อเปิดบอลจากแดนหลัง Bypass กองกลางไปเลย มาคอยไล่ปิดพื้นที่พอ
จริงๆแล้วผมว่าสไตล์แบบนี้เมืองทองน่าจะกำลังปรับให้เล่นแบบนี้กันอยู่นะครับ อาจจะยังไม่เจอประสิทธิภาพที่ดีพอ แต่ผมเชื่อว่ากองกลางต้องเร่งฟอร์ม ต้องหาจุดลงตัวในแดนกลางให้เร็วที่สุดครับ เอาใจช่วยครับ อยากดูบอลสนุกๆเสมอครับผม
จะแฟนทีมไหน หรือตามฟุตบอลเอาสนุกๆ ก็มาคุยกันได้ครับผม จะวิเคราะห์แผนการเล่นหรือจะลงลึกไปเรื่องอื่นๆผมว่าก็น่ามาสนทนากันแบบมีสาระดูบ้างครับ กระทู้ล้อเลียนมันเยอะไปหมดแล้ว
[ศัตรูที่รัก] แฟนบุรีรัมย์ขออนุญาตแฟนเมืองทองฯ มาพูดคุยและวิเคราะห์รูปแบบการเล่นปัจจุบันกันครับ
อย่างที่บอกไปเมืองทองเคยเป็นที่มีระบบการเล่นดีมาก แต่ระบบมันเริ่มมั่วซั่วตอนที่เอา ชาริล ชัปปุยส์ เข้ามานี่แหละครับ ระบบที่เวิร์คที่สุดของเมืองทองคือ 433 กองกลาง 3 ตัว กองหน้า 3 ตัว วิธีการเล่นเกมรุกคือการเพิ่มตัวเข้าไปด้านหน้าเยอะๆเพื่อครองเกม หรือใช้การโต้กลับเร็วและใช้ความเร็วของกองหน้าในการจบสกอร์ หัวใจของระบบคือกองกลางที่มีการ assign ตำแหน่งที่ชัดเจน AMC(เจ) - Box2Box(ตัง) - Holding(ตั้ม/วัฒนา/อีโฮ) ซึ่งตำแหน่ง Holding นี่แหละคือส่วนที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ระบบมันเวิร์ค การเสียตั้มไป แต่ได้อีโฮหรือวัฒนามายืนแทนในตอนที่ฟอร์มยังโอเค มันยังพอไปวัดไปวาได้ แต่พอมาถึงจุดนึง การที่นักเตะสำคัญในแต่ละตำแหน่งหายไปเรื่อยๆทั้ง เจ(มุ้ยเล่นตรงนั้นแทนพอไหว) ตังเจ็บและกลับมาไม่เหมือนเดิม รวมถึงการที่ผู้บริหารต้องการใส่ชัปปุยส์เข้ามาในระบบ แต่ชาริลไม่สามารถมอบความสามารถในการเล่น AMC ให้ได้อีกแล้ว ทีมเลยตัดสินใจเอาชัปปุยส์ไปเล่นเป็น Holding MF ซึ่งในแง่ของการครองเกมรุกชาริลก็ทำได้ดีแหละ ถ่ายบอลไปมาได้ มีวางบอลยาวบ้าง แต่เรื่องการตัดเกมสวนกลับ การยืนเป็น Holding ที่แท้จริงก่อนจะถึงแผงหลัง ชาริล ทำให้ไม่ได้เลย ชัดเจนมากๆจากการเจอทีมที่มีการโต้กลับดีๆอย่างประจวบฯ แล้วยิ่งการกลับมาที่ไม่สมบูรณ์ของสารัชยิ่งไม่สามารถช่วยเหลือเกมรับได้หนักขึ้นไปอีก และที่ผมไม่เข้าใจหนักมากคือการขายทษวรรษออกไป ซึ่งเจ้าตัวเองเป็นนักเตะที่สามารถเล่นเป็นตัวรับได้ดีมากๆคนนึงของไทย รวมถึงปรับไปเล่น Box2Box ได้ด้วย อาจจะยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอแต่ผมว่าประสิทธิภาพเขาไม่น้อยหน้าใครในแผงกลางที่เล่นไม่ได้ดีมากสักคนแน่นอน (แน่นอนรวมถึง รัชพล นาวันโน ด้วยที่เสียของมากๆ)
เอาหละ ขอเข้าสู่ความ Shipหาย จริงๆของเมืองทอง นั่นคือการจัดการหานักเตะเข้ามาทดแทนตัวที่หายไป ผมมองว่าการที่อุ้มกับตองหายไปไม่ใช่ปัญหาหลัก แต่มันคือการหายไปของมุ้ย มุ้ยเป็นนักเตะที่เล่นได้หลายตำแหน่งในเกมรุกทั้ง CF,RLWF,SS,AMC และที่สำคัญมุ้ยสามารถเชื่อมเกมจากกลางไปหน้าได้ ทีมน่าจะหวังว่าการเข้ามาของ Herberty น่าจะเข้ามาทดแทนมุ้ยได้ ซึ่งกลายเป็นว่าสไตล์ของ Herberty ทำให้กลางของเมืองทองตั้งเกมไม่ถูก เพราะเขาเล่นด้วยความอิสระมากเกินไป จะเอาบอลไปเปิดเองหรือเอาไปยิงแถวสองเขาก็ทำได้หมด ในมุมนึงมันก็น่ากลัว แต่กลับกันระบบที่เคยเซทมามันก็ต้องโละใหม่หมด กลางสามตัวนอกจากฟอร์มตกแล้วก็ต้องเปลี่ยนสไตล์การขึ้นเกม หน้าสามตัวก็สับสน และไม่สามารถเล่น 433 ในแบบเก่าได้ ถึงตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าระบบของเมืองทองยืนกันในรูปแบบไหน Herberty เล่นยังไง เป็น AMC เป็น RWF หรือเป็นหน้าเป้า // การเซ็น Jaja เข้ามาก็เหมือนจะเป็นไอเดียที่ดีในการที่จะเขามายืนค้ำหน้า ซึ่งเอาจริงๆแล้ว จาจ้า ทำผลงานกับบุรีรัมย์ได้ดีในฐานะหน้าคู่ ที่ไม่ต้องยืนสูงมาก ที่มาช่วยพักบอลตรงจุดเลยกลางสนามเยื้องมาด้านข้าง แต่ถ้าเอาไปโดนกองหลังรุมกินโต๊ะในสภาพที่ไม่ฟิตแบบเดิมก็เป็นอย่างที่เห็นกัน // นอกจากนั้นแล้ววิธีการเลือกซื้อนักเตะของเมืองดูแย่มากๆครับ เหมือนทีมไม่มีแมวมองแต่เน้นการเซ็นสัญญาจากนักเตะที่เคยมีชื่อเสียงในไทยลีคเข้ามา โดยไม่สนใจว่าเหมาะกับทีมหรือไม่ ชาริล ชัปปุยส์ คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ทีมไม่มีความจำเป็นต้องใช้เขาในฐานะตัวหลักแต่ควรจะเป็นตัวโรเตชั่นที่เอาไว้เปลี่ยนแทคติกมากกว่า สิโรจน์ ฉัตรทอง เองก็เป็นเคสที่น่าสงสาร โดนปัญหาจากความกดดันระยะยาวและไม่สามารถจะกลับมาหาฟอร์มเก่งได้ การเอากองหน้าที่ยังไม่เคยพิสูจน์ตัวเองได้อย่าง เจนรบ สำเภาดี เข้ามาผมว่าเพราะเป็นดีลที่สามารถจะ trigger ใช้เมื่อไรก็ได้ และก็เป็นนักเตะทีมชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดเท่าที่จะสามารถหาเข้าทีมได้ แต่ไม่เคยมองนักเตะที่ไม่ติดทีมชาติที่สร้างผลงานที่ดีในลีคอีกหลายๆคน // นี่เรายังไม่ได้พูดกันถึงเรื่องของนักเตะตัวหลักหมดความกระหาย อายุมากแล้ว สภาพร่างกายไม่ฟิต ผ่านอาการเจ็บหนักมาเกือบทุกคน เอาแค่ปัญหาจากการที่ Tactics ที่ไม่เหมาะกับทีมและปัญหาจากการซื้อขายนักเตะก็ยาวขนาดนี้แล้วครับ
สุดท้ายผมฝากไว้เรื่องการเปลี่ยน Tactics ในเมื่อมีสองกองหน้าที่น่ากลัวนะ หน้าที่ของกองกลางคือทำเกมรับให้ดีที่สุดเพื่อให้ HF7 กับ JJ50 ทำผลงานให้ดีที่สุดครับ
Attacking Formation: ทิ้งสองกองหน้าให้รับผิดชอบด้านบน อัดกลางให้แน่น ให้ศนุกรานต์กับสารัช ขึ้นมาซัพพอร์ทเกมรุกกับวิงซ้ายขวาเติมสูง ถ้าจะปรับให้หน้าสามก็ดันทริสตองสุดเส้น แล้วเขยิบวัฒนาไป Cover ฝั่งขวาแทน
Defensive Formation: เกมสวนกลับที่ดีควรจะมีการออกบอลจากแดนหลังที่มีประสิทธิภาพ และการเก็บบอลที่ดีจากกองหน้าตัวบน จาจ้าพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าทำได้ และอีโฮน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะถอยลงไปยืนเพื่อเปิดบอลจากแดนหลัง Bypass กองกลางไปเลย มาคอยไล่ปิดพื้นที่พอ
จริงๆแล้วผมว่าสไตล์แบบนี้เมืองทองน่าจะกำลังปรับให้เล่นแบบนี้กันอยู่นะครับ อาจจะยังไม่เจอประสิทธิภาพที่ดีพอ แต่ผมเชื่อว่ากองกลางต้องเร่งฟอร์ม ต้องหาจุดลงตัวในแดนกลางให้เร็วที่สุดครับ เอาใจช่วยครับ อยากดูบอลสนุกๆเสมอครับผม
จะแฟนทีมไหน หรือตามฟุตบอลเอาสนุกๆ ก็มาคุยกันได้ครับผม จะวิเคราะห์แผนการเล่นหรือจะลงลึกไปเรื่องอื่นๆผมว่าก็น่ามาสนทนากันแบบมีสาระดูบ้างครับ กระทู้ล้อเลียนมันเยอะไปหมดแล้ว