ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปเป็นอนัตตา.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้ารูปนี้จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ รูปนี้ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และจะพึงได้ในรูปว่า ขอรูปของเราจงเป็นอย่างนี้ รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่เพราะรูปเป็นอนัตตา ฉะนั้น รูปจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และย่อมไม่ได้ในรูปว่า ขอรูปของเราจงเป็นอย่างนี้ รูปของเราจงอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย. เวทนาเป็นอนัตตา.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าเวทนานี้จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ เวทนานี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และพึงได้ในเวทนาว่า ขอเวทนาของเราจงเป็นอย่างนี้ เวทนาของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่เพราะเวทนาเป็นอนัตตา ฉะนั้น เวทนาจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และย่อมไม่ได้ในเวทนาว่า ขอเวทนาของเราจงเป็นอย่างนี้
เวทนาของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย. สัญญาเป็นอนัตตา.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าสัญญานี้จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ สัญญานี้ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และพึงได้ในสัญญาว่า ขอสัญญาของเราจงเป็นอย่างนี้ สัญญาของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่เพราะสัญญาเป็นอนัตตา ฉะนั้น สัญญาจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และย่อมไม่ได้ในสัญญาว่า ขอสัญญาของเราจงเป็นอย่างนี้
สัญญาของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย. สังขารเป็นอนัตตา.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าสังขารนี้จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ สังขารนี้ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และจะพึงได้ในสังขารว่า ขอสังขารของเราจงเป็นอย่างนี้ สังขารของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่เพราะสังขารเป็นอนัตตา ฉะนั้น สังขารจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และย่อมไม่ได้ในสังขารว่า ขอสังขารของเราจงเป็น
อย่างนี้ สังขารของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
วิญญาณเป็นอนัตตา. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าวิญญาณ
นี้จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ วิญญาณนี้ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และจะพึงได้ในวิญญาณว่า ขอวิญญาณของเราจงเป็นอย่างนี้ วิญญาณของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่เพราะวิญญาณเป็นอนัตตา ฉะนั้น วิญญาณจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และย่อมไม่ได้ในวิญญาณว่า ขอวิญญาณของเราจงเป็นอย่างนี้ วิญญาณของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
โดยรวมคือ ตามความเป็นจริงนั้นเอง ไม่เป็นอย่างอื่น เป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้
เหมือนเรานอนหลับ ธรรมชาติจิตย่อมรู้ด้วยตัวของมันเองโอ้เมื่อคืนฉันหลับเป็นตายเลยวะ HAHA
มันเป็นอย่างนั้น ไม่เป็นอย่างอื่น หมายความว่า ตามความเป็นจริงแห่งอริยสัจ 4
ตามความเป็นจริง
พระสูตรนี้มันสอยย่อยใส่ข้อความละเอียดอ่านแล้ว งงๆ
แต่ก็คือ มันเป็นอย่างนั้นของมัน ไม่เป็นอย่างอื่น
ตามความเป็นจริงของอริสัย 4
หันปลายดาบ หันปืนไปทางนู้น หึหึ เส้นทางหนอ เส้นทางแห่งการตรัสรู้ธรรม หุหุ 555 อิอิ ก๊ากๆ
อัตตาแล้วไซร้ รูปนี้ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. รู้แล้วคือไรหนอ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้ารูปนี้จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ รูปนี้ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และจะพึงได้ในรูปว่า ขอรูปของเราจงเป็นอย่างนี้ รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่เพราะรูปเป็นอนัตตา ฉะนั้น รูปจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และย่อมไม่ได้ในรูปว่า ขอรูปของเราจงเป็นอย่างนี้ รูปของเราจงอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย. เวทนาเป็นอนัตตา.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าเวทนานี้จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ เวทนานี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และพึงได้ในเวทนาว่า ขอเวทนาของเราจงเป็นอย่างนี้ เวทนาของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่เพราะเวทนาเป็นอนัตตา ฉะนั้น เวทนาจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และย่อมไม่ได้ในเวทนาว่า ขอเวทนาของเราจงเป็นอย่างนี้
เวทนาของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย. สัญญาเป็นอนัตตา.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าสัญญานี้จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ สัญญานี้ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และพึงได้ในสัญญาว่า ขอสัญญาของเราจงเป็นอย่างนี้ สัญญาของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่เพราะสัญญาเป็นอนัตตา ฉะนั้น สัญญาจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และย่อมไม่ได้ในสัญญาว่า ขอสัญญาของเราจงเป็นอย่างนี้
สัญญาของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย. สังขารเป็นอนัตตา.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าสังขารนี้จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ สังขารนี้ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และจะพึงได้ในสังขารว่า ขอสังขารของเราจงเป็นอย่างนี้ สังขารของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่เพราะสังขารเป็นอนัตตา ฉะนั้น สังขารจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และย่อมไม่ได้ในสังขารว่า ขอสังขารของเราจงเป็น
อย่างนี้ สังขารของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
วิญญาณเป็นอนัตตา. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าวิญญาณ
นี้จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ วิญญาณนี้ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และจะพึงได้ในวิญญาณว่า ขอวิญญาณของเราจงเป็นอย่างนี้ วิญญาณของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่เพราะวิญญาณเป็นอนัตตา ฉะนั้น วิญญาณจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ. และย่อมไม่ได้ในวิญญาณว่า ขอวิญญาณของเราจงเป็นอย่างนี้ วิญญาณของเราอย่าได้เป็นอย่างนี้เลย.
โดยรวมคือ ตามความเป็นจริงนั้นเอง ไม่เป็นอย่างอื่น เป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้
เหมือนเรานอนหลับ ธรรมชาติจิตย่อมรู้ด้วยตัวของมันเองโอ้เมื่อคืนฉันหลับเป็นตายเลยวะ HAHA
มันเป็นอย่างนั้น ไม่เป็นอย่างอื่น หมายความว่า ตามความเป็นจริงแห่งอริยสัจ 4
ตามความเป็นจริง
พระสูตรนี้มันสอยย่อยใส่ข้อความละเอียดอ่านแล้ว งงๆ
แต่ก็คือ มันเป็นอย่างนั้นของมัน ไม่เป็นอย่างอื่น
ตามความเป็นจริงของอริสัย 4
หันปลายดาบ หันปืนไปทางนู้น หึหึ เส้นทางหนอ เส้นทางแห่งการตรัสรู้ธรรม หุหุ 555 อิอิ ก๊ากๆ