ส่วนตัวเราเป็นคนพุทธที่ไม่เคยเชื่อเรื่องผีสางเลยค่ะ เชื่อวิทยาศาสตร์ เชื่อว่าคนตายไปก็คือ NIL เหมือนตอนโดนวางยาสลบ เรานับถือแต่พระไตรปิฏก ไม่ได้กราบพระนานแล้วด้วยซ้ำค่ะ (ข่าวไม่ดีเยอะ ไม่ค่อยสนิทใจ)
จนวันนึงเรากับคุณแม่เราและน้องสาวเรา(ยายและน้าของน้อง) พาน้องไปเยี่ยมทวดที่บ้านต่างจังหวัด ตอนน้องประมาณ1ขวบ7เดือน ทวดแก่มากแล้ว จะ90ปีแล้วค่ะ ทวดเป็นคนธรรมมะ ธรรมโม ถือศีลแปด เรารักทวดมากๆเลยค่ะ ตั้งใจจะไปอยู่ดูแลซักระยะ
บ้านนี้เป็นบ้านที่ตอนเด็กๆเราและน้องๆมาอยู่ตอนปิดเทอมบ่อยๆค่ะ ไม่เคยเจออะไร มีแต่ความทรงจำดีๆของเรากับยายที่เรารัก
บ้านทวดน้องอยู่ทางภาคเหนืองช่วงนั้นหน้าหนาว กลางวันยังปกติดี แต่คืนแรกน้องนอนไม่ได้เลยค่ะ ร้องไห้โยเย เราก็คิดว่าเพราะอุณหภูมิไม่พอดีหรือเปล่า ก็ปลอบกันไปจนเช้า
วันที่2 กลางวันก็เริ่มโยเย เราก็คิดว่าคงเพราะพักผ่อนไม่พอ ทวดบอกไม่มีอะไรหรอก ผูกข้อมือให้หลาน แล้วให้เราไปไหว้พระทุกจุดในบ้าน ทั้งไหว้อากงที่ล่วงลับด้วย บอกว่าพาหลานมาไรงี้ค่ะ เราก็ทำ พอตกกลางคืนเหมือนเดิม ร้องไห้เสียงดัง หวีดร้อง เราใจไม่ดี แต่ไม่ได้คิดไปแง่ผีสางนะคะ แต่ตกใจที่ลูกร้องเสียงดัง ไม่รู้เป็นอะไรมากกว่าค่ะ เรานอนเปิดไฟกัน น้องเราบอกว่าหลานนอนปัดป่ายตลอดเวลาเลยค่ะ
ตอนนี้น้องเริ่มติดแม่มากๆ ต้องกอดไว้กับอกตลอด ไปไหนก็ต้องอุ้ม ไม่เล่น ไม่กิน ไม่นอน ตอนนั้นเราท้องประมาณ5เดือนด้วย กลับมาปวดหลังเข้า รพ. เลยค่ะ
วันที่3 แม่เราที่เชื่อเรื่องแบบนี้ให้เราพาน้องไปหาลุงแถวบ้านเป่าน้ำมนต์ แม่บอกค่าครู200 เรายังว่าไม่ให้ไป งมงาย แต่ตอนนี้ทั้งเราและลูกอ่อนเพลียมาก ลูกไม่ค่อยยอมกินอะไร ร้องไห้ตัวอ่อนปวกเปียก เกาะแม่ทั้งวัน กลางคืนร้องเสียงดังมากๆ เราเริ่มคิดเรื่องกลับกรุงเทพแล้วค่ะ
วันนั้นเรานอนกลางวัน ตื่นมาลูกไม่อยู่ สรุปแม่เราพาไปเรียบร้อย กลับมาเรายังตึงๆใส่แม่ เราไม่ชอบเรื่องพวกนี้ ลูกเรากลับมามีสายสิญจน์ห้อยหอ ตรงกลางเป็นลักษณะแผ่นเหล็กสีทองแดงม้วนๆไว้ น่าจะเป็นยันต์ เราไม่แน่ใจ แต่เราไม่ชอบวัตถุแบบนี้ค่ะ
แล้ววันนั้นเป็นวันพระพอดี ลูกเราตกเย็นอ่อนเหมือนไม่มีกระดูก แล้วอ้วกออกมาเยอะมาก ถึงตอนนี้เราเริ่มคิดว่าลูกโดนผีกวนแล้วค่ะ พยายามถามเค้า แต่เค้าตอบไม่ได้ ร้องไห้อย่างเดียว
คืนนั้นเค้าตื่นมาร้องไห้กรี๊ดกลางดึกอีกแล้ว ทีนี้เค้าพยายามจะดึงสายสิญจน์ที่ข้อมือทั้ง2 กับที่คอออก
น้องสาวเรา(น้าของน้อง) เอาสร้องทองตัวเองที่เป็นสร้อยมามาคล้องคอ ลูกเราขวบกว่า กระชากทองขาดในทีเดียว ชี้ๆไปที่หัวเตียง ร้องไห้โฮ เราเลยโพล่งว่า “แค่นี้มรุงยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด ยังจะมาสร้างบาปอีก”
แต่เราไม่เอาแล้วค่ะ พาลูกขึ้นรถออกมากับยายและน้าน้อง มาหา รร นอน พอพ้นบ้านก็หยุดร้องทันที น้องหิวด้วยค่ะ ยายต้องกลับมาทำข้าวไข่เจียวไปให้กินตอนตี2
ถึงตอนนี้เราเชื่อว่าเป็นผีค่ะ
รุ่งเช้าเรากลับเข้าไปที่บ้าน ทวดเสียใจมาก ร้องไห้ ขาก็ไม่ดียังขึ้นไปห้องพระชั้น2ทำน้ำมนตร์มา รดทั่วบ้าน แต่เราไม่ไหวแล้วจริงๆค่ะ 4วันไม่มีใครได้กินได้นอน เราสงสารทั้งทวดและลูกเรา ร้องไห้กันเสียใจมาก ทวดอยากให้อยู่นานๆ พยายามบอกว่าไม่มีอะไรแล้ว แต่ต้องกลับแล้ว ลูกเราอยู่ไม่ได้ โรงแรมเต็มอีก
พอกลับมาไม่กี่วัน แม่เราคุยกับยาย ยายบอกว่ามีผีมาเข้าฝัน เป็นผีตายโหง เค้าเป็นญาติคนนึงแหละ
แล้วอีกไม่กี่วันนี้ เราจะพาลูกเราที่ตอนนี้2ขวบ คุยเก่งแล้ว กับน้องเค้าที่เพิ่งคลอดได้2เดือนไปหาทวดอีกค่ะ เรารู้ว่าทวดเหงา ตั้งตารอลูกๆหลานๆไปหา แต่ยิ่งใกล้วันเดินทาง เราก็ยิ่งกังวลใจ
ถ้าใครพอมีความรู้ หรือความเห็นในเรื่องนี้ ช่วยเราหน่อยนะคะ เรากลัวมากจริงๆ ไม่ได้กลัวผีนะคะ กลัวลูกเราโดนอีกค่ะ
ลูกวัย2ขวบโดนผีรบกวน
จนวันนึงเรากับคุณแม่เราและน้องสาวเรา(ยายและน้าของน้อง) พาน้องไปเยี่ยมทวดที่บ้านต่างจังหวัด ตอนน้องประมาณ1ขวบ7เดือน ทวดแก่มากแล้ว จะ90ปีแล้วค่ะ ทวดเป็นคนธรรมมะ ธรรมโม ถือศีลแปด เรารักทวดมากๆเลยค่ะ ตั้งใจจะไปอยู่ดูแลซักระยะ
บ้านนี้เป็นบ้านที่ตอนเด็กๆเราและน้องๆมาอยู่ตอนปิดเทอมบ่อยๆค่ะ ไม่เคยเจออะไร มีแต่ความทรงจำดีๆของเรากับยายที่เรารัก
บ้านทวดน้องอยู่ทางภาคเหนืองช่วงนั้นหน้าหนาว กลางวันยังปกติดี แต่คืนแรกน้องนอนไม่ได้เลยค่ะ ร้องไห้โยเย เราก็คิดว่าเพราะอุณหภูมิไม่พอดีหรือเปล่า ก็ปลอบกันไปจนเช้า
วันที่2 กลางวันก็เริ่มโยเย เราก็คิดว่าคงเพราะพักผ่อนไม่พอ ทวดบอกไม่มีอะไรหรอก ผูกข้อมือให้หลาน แล้วให้เราไปไหว้พระทุกจุดในบ้าน ทั้งไหว้อากงที่ล่วงลับด้วย บอกว่าพาหลานมาไรงี้ค่ะ เราก็ทำ พอตกกลางคืนเหมือนเดิม ร้องไห้เสียงดัง หวีดร้อง เราใจไม่ดี แต่ไม่ได้คิดไปแง่ผีสางนะคะ แต่ตกใจที่ลูกร้องเสียงดัง ไม่รู้เป็นอะไรมากกว่าค่ะ เรานอนเปิดไฟกัน น้องเราบอกว่าหลานนอนปัดป่ายตลอดเวลาเลยค่ะ
ตอนนี้น้องเริ่มติดแม่มากๆ ต้องกอดไว้กับอกตลอด ไปไหนก็ต้องอุ้ม ไม่เล่น ไม่กิน ไม่นอน ตอนนั้นเราท้องประมาณ5เดือนด้วย กลับมาปวดหลังเข้า รพ. เลยค่ะ
วันที่3 แม่เราที่เชื่อเรื่องแบบนี้ให้เราพาน้องไปหาลุงแถวบ้านเป่าน้ำมนต์ แม่บอกค่าครู200 เรายังว่าไม่ให้ไป งมงาย แต่ตอนนี้ทั้งเราและลูกอ่อนเพลียมาก ลูกไม่ค่อยยอมกินอะไร ร้องไห้ตัวอ่อนปวกเปียก เกาะแม่ทั้งวัน กลางคืนร้องเสียงดังมากๆ เราเริ่มคิดเรื่องกลับกรุงเทพแล้วค่ะ
วันนั้นเรานอนกลางวัน ตื่นมาลูกไม่อยู่ สรุปแม่เราพาไปเรียบร้อย กลับมาเรายังตึงๆใส่แม่ เราไม่ชอบเรื่องพวกนี้ ลูกเรากลับมามีสายสิญจน์ห้อยหอ ตรงกลางเป็นลักษณะแผ่นเหล็กสีทองแดงม้วนๆไว้ น่าจะเป็นยันต์ เราไม่แน่ใจ แต่เราไม่ชอบวัตถุแบบนี้ค่ะ
แล้ววันนั้นเป็นวันพระพอดี ลูกเราตกเย็นอ่อนเหมือนไม่มีกระดูก แล้วอ้วกออกมาเยอะมาก ถึงตอนนี้เราเริ่มคิดว่าลูกโดนผีกวนแล้วค่ะ พยายามถามเค้า แต่เค้าตอบไม่ได้ ร้องไห้อย่างเดียว
คืนนั้นเค้าตื่นมาร้องไห้กรี๊ดกลางดึกอีกแล้ว ทีนี้เค้าพยายามจะดึงสายสิญจน์ที่ข้อมือทั้ง2 กับที่คอออก
น้องสาวเรา(น้าของน้อง) เอาสร้องทองตัวเองที่เป็นสร้อยมามาคล้องคอ ลูกเราขวบกว่า กระชากทองขาดในทีเดียว ชี้ๆไปที่หัวเตียง ร้องไห้โฮ เราเลยโพล่งว่า “แค่นี้มรุงยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด ยังจะมาสร้างบาปอีก”
แต่เราไม่เอาแล้วค่ะ พาลูกขึ้นรถออกมากับยายและน้าน้อง มาหา รร นอน พอพ้นบ้านก็หยุดร้องทันที น้องหิวด้วยค่ะ ยายต้องกลับมาทำข้าวไข่เจียวไปให้กินตอนตี2
ถึงตอนนี้เราเชื่อว่าเป็นผีค่ะ
รุ่งเช้าเรากลับเข้าไปที่บ้าน ทวดเสียใจมาก ร้องไห้ ขาก็ไม่ดียังขึ้นไปห้องพระชั้น2ทำน้ำมนตร์มา รดทั่วบ้าน แต่เราไม่ไหวแล้วจริงๆค่ะ 4วันไม่มีใครได้กินได้นอน เราสงสารทั้งทวดและลูกเรา ร้องไห้กันเสียใจมาก ทวดอยากให้อยู่นานๆ พยายามบอกว่าไม่มีอะไรแล้ว แต่ต้องกลับแล้ว ลูกเราอยู่ไม่ได้ โรงแรมเต็มอีก
พอกลับมาไม่กี่วัน แม่เราคุยกับยาย ยายบอกว่ามีผีมาเข้าฝัน เป็นผีตายโหง เค้าเป็นญาติคนนึงแหละ
แล้วอีกไม่กี่วันนี้ เราจะพาลูกเราที่ตอนนี้2ขวบ คุยเก่งแล้ว กับน้องเค้าที่เพิ่งคลอดได้2เดือนไปหาทวดอีกค่ะ เรารู้ว่าทวดเหงา ตั้งตารอลูกๆหลานๆไปหา แต่ยิ่งใกล้วันเดินทาง เราก็ยิ่งกังวลใจ
ถ้าใครพอมีความรู้ หรือความเห็นในเรื่องนี้ ช่วยเราหน่อยนะคะ เรากลัวมากจริงๆ ไม่ได้กลัวผีนะคะ กลัวลูกเราโดนอีกค่ะ