ที่ดินมักกะสัน ที่พระราชทานเพื่อการรถไฟ ทำประโยชน์เพื่อประชาชน และเพื่อชาติ

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
ที่ดินมักกะสัน ที่พระราชทานเพื่อการรถไฟ ทำประโยชน์เพื่อประชาชน และเพื่อชาติ
ขอย้ำอีกครั้งหนึ่ง "เพื่อการรถไฟ ทำประโยชน์เพื่อประชาชน และเพื่อชาติ"


ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เหตุการณ์ทางด้านการเมือง สืบเนื่องมาจากนโยบายขยายอาณานิคมของอังกฤษและฝรั่งเศส แผ่มาครอบคลุมบริเวณเหลมอินโดจีน พระองค์ท่านทรงตระหนักถึงความสำคัญของการคมนาคมโดยเส้นทางรถไฟ เพราะการใช้แต่ทางเกวียนและแม่น้ำลำคลองเป็นพื้นนั้น ไม่เพียงพอแก่การบำรุงรักษาพระราชอาณาเขต ราษฎรที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงมีจิตใจโน้มเอียงไปทางประเทศใกล้เคียง สมควรที่จะสร้างทางรถไฟขึ้นในประเทศเพื่อติดต่อกับมณฑลชายแดนก่อนอื่น ทั้งนี้เพื่อสะดวกแก่การปกครอง ตรวจตราป้องกันการรุกรานเป็นการเปิดภูมิประเทศให้ประชาชนพลเมืองเข้าบุกเบิกพื้นที่ รกร้างว่างเปล่า ให้เป็นประโยชน์ทางเศรษกิจของประเทศ และจะเป็นเส้นทางขนส่งผู้โดยสารและสินค้าไปมาถึงกันได้ง่ายยิ่งขึ้น (ที่มา : กระทรวงคมนาคม)

ต่อมา เมื่อการคมนาคมขนส่งทางรถไฟมีความนิยม และแพร่หลายมากขึ้น  ทำให้โรงงานซ่อมบำรุงรถไฟที่มีอยู่เดิม คือ โรงซ่อมบำรุงที่สถานีกรุงเทพ (สถานีหัวลำโพง) และโรงงานซ่อมบำรุงที่สถานีบางกอกน้อย (สถานีธนบุรี) ไม่เพียงพอที่จะรองรับการขยายตัวของผู้โดยสาร และจำนวนสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นได้ จึงทำให้มีการเวนคืนพื้นที่สำหรับสร้างโรงงานใหญ่ของกรมรถไฟ ณ ตำบลทุ่งมักกะสัน  สร้างแล้วเสร็จ พร้อมเปิดทำการเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2453 โรงงานใหม่แห่งนี้มีหน้าที่ซ่อมรถจักร และล้อเลื่อนทุกประเภทของกรมรถไฟสายเหนือ สายโคราช และ สายตะวันออก ทำให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไปในนาม "โรงงานมักกะสัน"

โรงงานมักกะสัน หรือ Makkasan Workshop อู่ซ่อมรถไฟที่เคยใหญ่ที่สุดในประเทศ อายุ 108 ปี

ปัจจุบัน มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 500 ไร่  ประกอบด้วยพื้นที่ 5 ส่วนใหญ่ๆ คือ
• พื้นที่อาคารพัสดุ
• พื้นที่อาคารโรงงาน และบริเวณต่อเนื่องของคลังพัสดุ อะไหล่ เก็บรถจักร รถพ่วงที่รอการซ่อม
• พื้นที่สับเปลี่ยนย่านโรงงาน
• พื้นที่ย่านโรงงานที่จัดทำประโยชน์เพิ่มเติม
• พื้นที่ Airport Rail Link

สภาพพื้นที่บางส่วนภายในที่ดินมักกะสัน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ที่ดินมักกะสัน จัดได้ว่าเป็นที่ดินอีกหนึ่งทำเลทองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่รัฐบาลหลายยุคหลายสมัยมีความพยายามจะนำไปพัฒนาหารายได้เชิงพาณิชย์แต่ก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ เบื้องต้นก็ได้แค่ทำการศึกษาความเหมาะสม การศึกษาออกแบบรายละเอียดตลอดจนการศึกษาความเป็นไปได้หรือแม้กระทั่งการศึกษาความคุ้มค่าด้านการลงทุนครั้งแล้วครั้งเล่าเท่านั้น หมดงบประมาณเพื่อทบทวนผลการศึกษาไปจำนวนไม่น้อย แต่ก็ยังเสนอรัฐบาลอนุมัติให้ดำเนินการไม่สำเร็จสักที

“หากมองไปที่โครงการพัฒนาพื้นที่มักกะสันจะสามารถเกิดขึ้นมาได้นั้น แต่ไม่สามารถพัฒนาได้จริง เรียกได้ว่า ผ่านมาในหลายรัฐบาล ตั้งแต่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จนถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนปัจจุบัน ก็ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่คืนได้ แถมยังไม่มีกำหนดว่า โครงการพัฒนานี้จะมีสิทธิ์ได้เกิดในชาตินี้หรือไม่”

การพัฒนาที่ดินมักกะสัน เป็นโครงการนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ 1 ใน 4 ในกทม. และอยู่ใจกลางเมือง หากสามารถนำไปพัฒนาในทิศทางที่เหมาะสมจะส่งผลให้เกิดการเปิดพื้นที่ใหม่ ทำให้กรุงเทพสามารถเปลี่ยนเป็นเมืองที่มีความทันสมัยระดับสากล ทั้งทางเศรษฐกิจ จะมีผลด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต และระบบธุรกิจต่อประเทศโดยรวมจากโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก : EEC

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

พลิกปมข่าว เหตุผลค้านเช่าที่ดินมักกะสันแลกหนี้




ถึงแม้ว่า “พ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย 2494 มาตรา 43 " ระบุไว้ว่า
รายได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้รับจากการดำเนินงานให้ตกเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย...
"แต่ถ้ารายได้มีจำนวนไม่พอสำหรับรายจ่าย... และการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่สามารถหาเงินจากทางอื่น รัฐพึงจ่ายให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเท่าจำนวนที่ขาด"

กำลังถูกใช้เป็นข้ออ้างของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย

จำเป็นต้องประกาศให้ทุกคนได้ทราบว่า ที่ดินรถไฟแปลงที่มักกะสันจำนวน 497 ไร่ เป็นที่ดินที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐกาลที่ 5 พระราชทานให้กับการรถไฟ เพื่อใช้ในกิจการรถไฟ เพื่อหาประโยชน์มาบำรุงกิจการ เพื่อลดต้นทุนของการรถไฟฯ เพื่อให้พสกนิกรของพระองค์ได้รับบริการรถไฟในราคาที่ถูก

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่