พอดีแต่งบทภาพยนตร์สั้น วันแม่ครับ ไม่มีความรู้เรื่องการเขียนบท เลยขอคำแนะนำหน่อยครับ

เป็นบทภาพยนตร์สั้นที่เขียนขึ้นมาเนื่องจากอยากเชิดชูความเป็นแม่ครับ ขอย้ำนะครับ ไม่มีควา่มรู้เรื่องการเขียนบทเลยครับ

https://www.facebook.com/naineungs.naineo/posts/1964075893643200?comment_id=1965829693467820&reply_comment_id=1965831226801000&notif_id=1531733215563364&notif_t=feed_comment


บทภาพยนต์สั้น : รองเท้าคู่ใหม่

องค์1 ตลาดสด
   ร้านอาหารตามสั่งเล็กๆตรงมุมหัวตลาดสดแห่งหนึ่ง ขณะที่ป้าแจ๋วกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารตามสั่งให้ลูกค้าที่นั่งภายในร้านนั่นเอง ทันใดนั้นเสียงที่แกมักจะคุ้นเคยดังมาเป็นระยะ จนชัดเจนขึ้นมาเรื่อยๆ
   “ ไอ้บ้าแขวนรองเท้า ไอ้บ้าแขวนรองเท้า” เสียงกลุ่มเด็ก3-4คน ซึ่งดูจากอายุประมาณ13-15ปีกำลังชุลมุนแหย่ชายสติไม่ดีที่มีรองเท้าแตะคู่ใหม่ซึ่งอยู่ในถุงแขวนไว้ที่คอ
   “ นี่ ไอ้พวกเด็กนี่จะแกล้งมันทำไม ทุกวันเลยนะพวกสงสารมันบ้างไหนนี่”ป้าแจ๋วตะโกนตำหนิเด็กกลุ่มนั้น​
   “ โถ่ ป้าก็ผมก็แค่แหย่ๆมันเล่นๆ ป้าก็เห็นมันโกรธที่ไหนละ มันยิ้มชอบใจอีกต่างหาก ” เด็กหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มพูด พร้อมหันไปล้อเลียนชายสติไม่ดีคนนั้นต่อ
   ​“ เจ้าเก่ง มันก็อยู่ที่วัดที่เลยตลาดไป4-5กิโลนี่แหละ เค้าบอกตั้งแต่แม่มันเสียมันก็อยู่กับหลวงตา มันชอบมาเดินตลาด ถึงสติมันไม่ค่อยดีแต่มันก็ไม่มีพิษมีภัยอะไรหลอก ใครจะพูดแหย่แกล้งมันมันก็ยิ้มตลอด หลายคนในตลาดนี่ก็รักมันนะ” ป๋าแจ๋วพูดพลางยิ้มมองดูเจ้าเก่งอย่างเอ็นดู
   “ ใครเห็นก็สงสารมัน บางทีคนให้เงินมัน บางทีมันก็ไม่ค่อยรับนะ แต่ป้าแปลกใจป้าเห็นมันพอมีเงินมันจะเอาเงินไปซื้อรองเท้าแตะคู่ใหม่ แต่มันไม่เคยใส่คู่ใหม่นะ มันซื้อมันก็จะห้อยคอไว้ เจ้าของร้านรองเท้าเคยถามมันบอกว่ากลัวหาย พูดแล้วป้าก็เอ็นดูมันนะ บางทีป้าก็ซื้อให้มัน อ้าว!! ป้าก็คุยซะเพลินเลย ถึงคิวใครแล้วนี่ ” ป้าแจ๋วหันไปทำอาหารของลูกค้าต่อ หลังจากที่เล่าเรื่องเจ้าเก่งให้ลูกค้าฟัง

องค์2 วัด
   ​“ อ้าว.. กลับมาแล้วหรือเจ้าเก่ง เป็นไงบ้างละวันนี้ วันนี้ไปเดินตลาดมาอีกแล้วละสิ นั่นแน่..ได้รองเท้าใหม่มาซะด้วย ” หลวงตาพูดพลางมองเจ้าเก่ง
เจ้าเก่งหันมามองพร้อมยกมือไหว้หลวงตา พลางเดินเลี่ยงไปทางหลังกุฏิของหลวงตา ปล่อยให้หลวงตาสนทนากับพระรูปใหม่ที่พึ่งเข้ามาจำพรรษาที่วัด
   ​“ เมื่อก่อนเจ้าเก่งมันอยู่กับแม่2คน บ้านอยู่ข้างๆวัดนี่แหละ เจ้าเก่งสติไม่ค่อยดีตั้งแต่เด็กๆแล้ว ตอนแม่เจ้าเก่งเสียตั้งแต่มันอายุได้10กว่าขวบ หลวงตาสงสารเลยช่วยดูแลมันเหมือนลูก ญาติพี่น้องมันก็ไม่มี แต่มันก็เป็นเด็กนิสัยดี ใครเห็นก็สงสารก็รักมัน” หลวงตาพูดไปพลางยิ้มนึกเอ็นดูเจ้าเก่งไป
   ​“ แล้วหลวงตาครับ แล้วรองเท้าที่เจ้าเก่งคู่ใหม่ที่ห้อยไว้ที่คอละครับ ทำไมไม่เอามาใส่ละครับ ” หลวงพี่พระใหม่ถามหลวงพ่อถึงความสงสัย
​   “ อยากรู้ใช่ไหม เดี๋ยวอีกสักพัก ตามอาตมามานะ รอเจ้าเก่งให้มันพร้อมและทำธุระของมันก่อน” หลวงตาพูดอย่างมีความนัย

องค์3 เจดีย์ท้ายวัด
​   ที่เจดีย์เก่าๆนั้น มีภาพหญิงชราที่รางๆไม่ค่อยชัดเจน แต่ยังมองเห็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นเจืออยู่ในรูปนั้น ตรงพื้นหน้าเจดีย์นั้น มีรองเท้าคู่ใหม่แกะออกจากถุงวางอยู่ ซึ่งรองเท้านั้นคือคู่ที่เจ้าเก่งห้อยมาตลอดนั่นเอง
​เจ้าเก่งนั่งข้างรองเท้านั้น พร้อมให้มือรูปไปบนรูปภาพที่จางๆ พร้อมกับพูดเบาๆ
   ​“ แม่จะได้เดินไม่เจ็บ เดินไม่เจ็บ ” เจ้าเก่งพูดพลางยิ้มกับรูป
​หลวงตาหันมามองหน้าหลวงพี่ซึ่งยืนมองเจ้าเก่งมาได้สักพักแล้ว
​   “ นี่แหละที่เจ้าเก่งมันได้รองเท้าใหม่มาเมื่อใหร่ จะเอามาวางที่เจดีย์นี้ทุกครั้ง แล้วมันเปลี่ยนคู่เก่าใส่ไปแทน รองเท้าคู่นี้ก็จะตากแดดตากฝน ทุกเช้าเจ้าเก่งก็จะมาเช็ดรองเท้าหน้าเจดีย์นี้ตลอด” หลวงตาพูดให้พระใหม่ฟังพร้อมมองไปที่เจ้าเก่งอย่างเอ็ดดู พร้อมเดินออกมาปล่อยให้เจ้าเก่งนั่งอยู่ตรงนั้น

องค์4 ภาพอดีต (จบ)
   ​แม่ลูกคู่หนึ่ง ซึ่งผู้หญิงคือผู้หญิงในรูปที่เจดีย์นั่นเอง แม่ของเก่งเป็นชาวบ้านชนบทเป็นชาวสวนเดินจูงมือเก่งตอนอายุประมาณ9ขวบ
​เก่งในวัยเด็กเดินกับแม่บนทางลูกรังที่แสงแดดอันร้อนระอุ เก่งใส่รองเท้าแตะคู่ใหม่ที่แม่พึ่งซื้อมาจากตลาด ด้วยความที่รองเท้าใหม่ใส่ยังไม่ถนัดเท้า พอเดินสะดุดก้อนดิน รองเท้าก็หลุดจากเท้า ทันทีที่เท้าเปล่าของเก่งสัมผัสกับพื้นที่ร้อนระอุเก่งก็ร้องขึ้นมาทันที
   ​“ ร้อน เจ็บๆ”เก่งร้องขึ้นมาอย่างดัง
​   “ ไม่เป็นไรลูกแม่ใส่ให้แล้ว ไม่ร้อนไม่เจ็บแล้วนะ” แม่พูดพลางลูบหัวเก่งอย่างเอ็นดู
​   “ แม่ รองเท้าแม่ ” เก่งพึ่งสังเกตว่าแม่ตัวเองไม่ใส่รองเท้า เดินเท้าเปล่าตลอด
   ​“ ไม่เป็นไรลูก เดี๋ยวแม่มีเงินค่อยซื้อใส่ แม่โตแล้ว แม่ไม่เจ็บหลอก แม่ทนได้ แม่อยากให้หนูสบายไม่เจ็บ” แม่พูดพลางน้ำตาซึม
​นี่คือความทรงจำเดียวของเก่งที่จำได้ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน
  
   (ภาพตัดมาช่วงเวลาปัจจุบัน)
   ​“ ให้แม่ แม่ใส่สบาย” เก่งพูดกับรูปที่เจดีย์เบาๆ แต่รอยยิ้มในใจของเก่งสดใสกว่ากว่าดวงอาทิตย์ที่กำลังลาลับยามเย็น
                                                                            -จบ-
ผู้แต่ง. สุรเชษฐ ชาวสวน
#ชอบช่วยแชร์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่