สวัสดีค่ะ ตอนแรกก็ว่าจะไม่ตั้งกระทู้อะไรแบบนี้แล้วนะ แต่เริ่มทนไม่ไหวละ หลังจากโทรคุยกับ Call center 1558 มาเกือบ 2 เดือน
แต่ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร นอกจากคำว่า กำลังตรวจสอบๆๆๆ และกำลังตรวจสอบ เลยอยากจะให้เรื่องของเรามันกลายเป็นสาธารณะมากขึ้น
อย่างน้อยก็ช่วยเตือนให้คนที่ใช้บัตรแบบเราได้ลองเช็คตัวเองดูบ้าง
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนเดือน พ.ค. 61 ที่ผ่านมา เราก็ได้รับบิลบัตรเครดิตปกติตามรอบบิล แต่เรามาเอะใจ ตรงช่องเครดิตเงินคืน เครดิตเงินคืนสะสมปีนี้ของเรา = 0
ซึ่งมันจะเป็นไปได้ยังไง (เราถามตัวเองในใจ) บัตรนี้คือ ซื้อของครบ 1000 บาท (อะไรก็ได้) สามารถกดผ่อน 0% 3 เดือนได้ แต่ถ้าไม่ผ่อน จะได้ cash back คืน 1% ต่อยอดใช้จ่ายในแต่ละครั้ง (ไม่รวมพวกจ่ายค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอินเตอร์เนต ประกันภัย กองทุน ฯลฯ) ซึ่งมันก็จะมีบ้างที่ยอดไหนเราไม่ถึง 1000 เราก็ไม่ผ่อน มันก็ต้องได้มั่งแหละ เดือนละ 5-9 บาทอะ แต่นี่คือไม่มีเลย !!

เราเลยโทรไป 1558 จำวันที่แน่นอนไม่ได้นะคะ แต่เป็นช่วงปลายเดือน พ.ค. น่าจะ 21 พ.ค. ถ้าจะไม่ผิดนะ
เราก็แจ้งเจ้าหน้าที่ไปว่า เราว่าเราไม่ได้ cash back เลย ยอด cash back สะสมเราเป็น 0 มันเป็นไปได้ยังไง ช่วยตรวจสอบหน่อย
เจ้าหน้าที่ก็ตรวจสอบให้ (นานมาก 30 นาทีเห็นจะได้ ที่ให้เรารอสาย) เจ้าหน้าที่แจ้งเราว่า.....
ที่เราไม่ได้ cash back เลยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
เป็นเพราะว่ายอด cash back เราติดลบ!
เราเลยถามเจ้าหน้าที่กลับไปว่าติดลบได้ยังไง เจ้าหน้าที่จึงใช้เวลาขุดประวัติการใช้บัตรเราย้อนขึ้นไปอีก (รอไปอีก 15 นาที) ได้ความว่า....
เนื่องจากเรามียอดยกเลิกค่าใช้จ่ายของรายการที่พัก airbnb และได้รับเงินคืนเข้ามาตอนเดือน ก.ย. 60 เป็นจำนวนเงิน 353 USD (ตามรูปด้านล่าง)
ทำให้ระบบตัดยอด cash back ของเราออกไป 1% จากยอดที่ได้รีฟันคืนมา ! เราสตั้นเลย รู้สาเหตุแล้ว....

คือยอด 11306.78 ที่เรายกเลิก และได้เครดิตเงินคืนกลับมา เป็นยอดที่เราจองที่พัก airbnb ไว้ตั้งนานแล้ว กดผ่อน 0% 3 เดือนและผ่อนเสร็จเรียบร้อย แต่เพิ่งมายกเลิกเพราะดูรีวิวแล้วไม่โอ แล้วไปจองที่ใหม่ (ตามที่เห็นยอด 16,xxx)
เราถามเจ้าหน้าที่ว่า มาหัก cash back เราไปได้ยังไง ในเมื่อธรรมชาติการใช้บัตรเราอะ เกิน 1000 บาท เราก็กดผ่อน 0% ตลอด เป็นไปไม่ได้ที่ยอดเป็นหมื่นเราจะไม่ผ่อน ไม่เชื่อไปย้อนดูประวัติได้เลย
เจ้าหน้าวางสายไป ขอเวลาตรวจสอบ และโทรกลับมาหาเราช่วง 2 ทุ่มของวันเดียวกันว่า ตรวจสอบแล้ว พบว่ายอดที่เราได้ refund กลับมานี้ เรากดผ่อนไปจริง
แต่ระบบไม่รู้เรื่องว่ายอดไหนผ่อน ยอดไหนไม่ผ่อน ระบบเลยหัก cash back ออกอัติโนมัติในทุกยอดที่มีการ refund คืนเข้ามาในบัตร คือเราแบบ...อ่าววว แบบนี้เป็นที่ระบบล่ะสิ แล้วถ้าเราไม่เอะใจ เราก็คงเสีย cash back ที่เราควรได้รับ (ยอดใช้จ่ายหลังรายการ refund) ไปหลายสิบหลายร้อยบาทแล้ว
เราถามเจ้าหน้าที่ต่อว่า อาจจะมีคนที่เค้าไม่ได้มาสนใจอะไรพวกนี้ คนที่เค้าไม่รู้ว่า ระบบแยกแยะไม่ได้ว่ายอด refund ไหนได้ cash back ยอดไหนไม่ได้ จะทำไง
เจ้าหน้าที่ตอบว่า : ก็ต้องโทรมาแจ้งเป็นเคสๆไปค่ะ O_o เอิ่ม คือถ้าไม่เกิดปัญหา เราไม่รู้เลยนะ ว่าระบบมันผิดอะ จริงๆ ถ้ารู้ว่าข้อบกพร่องของระบบคือตรงไหน ควรแจ้งลูกค้าไปเลยมั้ยอะว่า ในกรณีที่มีการรีฟันยอด ให้แจ้งด้วยว่า เป็นยอดผ่อนหรือไม่ผ่อน ไม่งั้นอาจจะโดนหัก cash back ไปทั้งๆที่ไม่เคยได้ตั้งแต่แรกแล้วก็ได้
เหตุการณ์วันนั้นผ่านไป ... เจ้าหน้าที่รับเรื่อง (เรามีชื่อ มีรหัสเจ้าหน้าที่ด้วยนะ หึหึ) บอกว่าจะรีบตรวจสอบยอด cash back ที่เราต้องได้รับคืนมาให้
แล้วจะแจ้งกลับ ไม่เกินรอบบิลถัดไป
ผ่านไป 1 รอบบิล .... ไม่ได้ cash back คืนจ้าา.... ถามว่าขึ้นมั้ย ขึ้นนะ คือพูดไม่เป็นคำพูด พูดแบบขอไปทีรึไง แล้วไม่มีโทรมาแจ้งความคืบหน้า
เราโทรไปใหม่...ติดตามเรื่อง... ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่คนนั้น รับเรื่องเราไว้ แต่ไม่ส่งเรื่องไปให้ผู้มีอำนาจในการดำเนินการจัดการต่อ....คอลเซ็นเตอร์ที่รับเรื่องในวันนั้น รับปากว่าจะประสานงานต่อให้
เราถามเจ้าหน้าที่ว่า ยอดเงินที่เราต้องได้คืนเป็นจำนวนกี่บาท เพื่อเช็คความถูกต้อง เจ้าหน้าที่แจ้งกลับมา หลักร้อย (ซึ่งตรงกับที่เรานั่งหาตัวเลขเองใน statement ของบัตรเราย้อนหลัง ตั้งแต่เดือน ต.ค. 61 เป็นต้นมา)
เวลาผ่านไป....จนอีกไม่กี่วันจะครบรอบบิลอีกครั้งแล้วในวันที่ 12 นี้ เราโทรกลับไป 1558 ใหม่เพื่อติดตามความคืบหน้า
เจ้าหน้าที่รับสาย บอกว่าเรื่องเพิ่งเข้ามาวันที่ 7/7/2561 เราแบบ เห้ยยย คือแล้วที่ผ่านมาที่บอกว่าจะดำเนินการให้คือยังไง คือดองไว้ คือลืม คือไม่ใส่ใจ หรือยังไงอะ ยอดที่ต้องคืนก็รู้แล้วว่าเท่าไหร่ แล้วคือจะรอตรวจสอบอะไรอีก เจ้าหน้าที่ก็ได้แต่แจ้งว่า เจ้าหน้าที่มีอำนาจแค่รับเรื่องและประสานให้ แต่ไม่มีอำนาจจัดการตรงนั้น เราต้องรอจนกว่าเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องคนแรกจะติดต่อเรา (ที่เราบอกว่าเรามีชื่อเค้านั่นแหละ) พอเราขอเบอร์เจ้าหน้าที่คนนนั้น ก็บอกว่าให้เราไม่ได้....
คือเราก็ไม่รุ้กระบวนการหรอกนะ แต่สงสัยว่านี่มันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนหรอ เราเข้าใจว่ามันก็เงินไม่กี่บาท แต่ถ้าธนาคารทำแบบนี้กับลูกค้าเป็นร้อยๆคนล่ะ ถ้ามีลูกค้าหลายคนไม่เช็คตรงนี้ ลูกค้าก็เสียสิทธิ์ไปฟรีๆ รวมๆกันหลายคนก็เป็นหลักหลายหมื่นหลายแสนบาทได้
สุดท้ายเราก็วางสายไปโดยที่ไมไ่ด้ความคืบหน้าอะไรที่แตกต่างจากครั้งก่อนๆเลย คือ กำลังตรวจสอบ เดี๋ยวจะเร่งเป็นเรื่องด่วนให้ ขอโทษที่ทำให้ไม่สะดวก .... เปลี่ยนจากคำขอโทษเป็นพัฒนาระบบให้ดีกว่านี้จะดีกว่ามั้ยคะ และช่วยเดือดร้อนในเรื่องของลูกค้า ให้เหมือนเป็นเรื่องของตัวเอง เป็นเงินของตัวเองได้มั้ยคะ - -
และถ้าตรวจสอบกันไม่เสร็จอีก เราก็ต้องรอไปอีก 1 เดือน เพื่อลุ้นว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเสร็จมั้ย เราจะได้เงินคืนในรอบบิลหน้ามั้ย ซึ่งถ้าได้ ก็จะเป็นเวลาเกือบ 3 เดือนสำหรับการแก้ปัญหายอด cash back ของ TMB
ขอจบการบ่นแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณสำหรับพื้นที่ค่ะ
ขอพื้นที่ระบาย...ใช้บัตรเครดิต TMB SO SMART CASH BACK หายจะ 2 เดือนแล้วยังไม่ได้คืน
แต่ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร นอกจากคำว่า กำลังตรวจสอบๆๆๆ และกำลังตรวจสอบ เลยอยากจะให้เรื่องของเรามันกลายเป็นสาธารณะมากขึ้น
อย่างน้อยก็ช่วยเตือนให้คนที่ใช้บัตรแบบเราได้ลองเช็คตัวเองดูบ้าง
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนเดือน พ.ค. 61 ที่ผ่านมา เราก็ได้รับบิลบัตรเครดิตปกติตามรอบบิล แต่เรามาเอะใจ ตรงช่องเครดิตเงินคืน เครดิตเงินคืนสะสมปีนี้ของเรา = 0
ซึ่งมันจะเป็นไปได้ยังไง (เราถามตัวเองในใจ) บัตรนี้คือ ซื้อของครบ 1000 บาท (อะไรก็ได้) สามารถกดผ่อน 0% 3 เดือนได้ แต่ถ้าไม่ผ่อน จะได้ cash back คืน 1% ต่อยอดใช้จ่ายในแต่ละครั้ง (ไม่รวมพวกจ่ายค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอินเตอร์เนต ประกันภัย กองทุน ฯลฯ) ซึ่งมันก็จะมีบ้างที่ยอดไหนเราไม่ถึง 1000 เราก็ไม่ผ่อน มันก็ต้องได้มั่งแหละ เดือนละ 5-9 บาทอะ แต่นี่คือไม่มีเลย !!
เราเลยโทรไป 1558 จำวันที่แน่นอนไม่ได้นะคะ แต่เป็นช่วงปลายเดือน พ.ค. น่าจะ 21 พ.ค. ถ้าจะไม่ผิดนะ
เราก็แจ้งเจ้าหน้าที่ไปว่า เราว่าเราไม่ได้ cash back เลย ยอด cash back สะสมเราเป็น 0 มันเป็นไปได้ยังไง ช่วยตรวจสอบหน่อย
เจ้าหน้าที่ก็ตรวจสอบให้ (นานมาก 30 นาทีเห็นจะได้ ที่ให้เรารอสาย) เจ้าหน้าที่แจ้งเราว่า.....
ที่เราไม่ได้ cash back เลยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เป็นเพราะว่ายอด cash back เราติดลบ!
เราเลยถามเจ้าหน้าที่กลับไปว่าติดลบได้ยังไง เจ้าหน้าที่จึงใช้เวลาขุดประวัติการใช้บัตรเราย้อนขึ้นไปอีก (รอไปอีก 15 นาที) ได้ความว่า....
เนื่องจากเรามียอดยกเลิกค่าใช้จ่ายของรายการที่พัก airbnb และได้รับเงินคืนเข้ามาตอนเดือน ก.ย. 60 เป็นจำนวนเงิน 353 USD (ตามรูปด้านล่าง)
ทำให้ระบบตัดยอด cash back ของเราออกไป 1% จากยอดที่ได้รีฟันคืนมา ! เราสตั้นเลย รู้สาเหตุแล้ว....
คือยอด 11306.78 ที่เรายกเลิก และได้เครดิตเงินคืนกลับมา เป็นยอดที่เราจองที่พัก airbnb ไว้ตั้งนานแล้ว กดผ่อน 0% 3 เดือนและผ่อนเสร็จเรียบร้อย แต่เพิ่งมายกเลิกเพราะดูรีวิวแล้วไม่โอ แล้วไปจองที่ใหม่ (ตามที่เห็นยอด 16,xxx)
เราถามเจ้าหน้าที่ว่า มาหัก cash back เราไปได้ยังไง ในเมื่อธรรมชาติการใช้บัตรเราอะ เกิน 1000 บาท เราก็กดผ่อน 0% ตลอด เป็นไปไม่ได้ที่ยอดเป็นหมื่นเราจะไม่ผ่อน ไม่เชื่อไปย้อนดูประวัติได้เลย
เจ้าหน้าวางสายไป ขอเวลาตรวจสอบ และโทรกลับมาหาเราช่วง 2 ทุ่มของวันเดียวกันว่า ตรวจสอบแล้ว พบว่ายอดที่เราได้ refund กลับมานี้ เรากดผ่อนไปจริง แต่ระบบไม่รู้เรื่องว่ายอดไหนผ่อน ยอดไหนไม่ผ่อน ระบบเลยหัก cash back ออกอัติโนมัติในทุกยอดที่มีการ refund คืนเข้ามาในบัตร คือเราแบบ...อ่าววว แบบนี้เป็นที่ระบบล่ะสิ แล้วถ้าเราไม่เอะใจ เราก็คงเสีย cash back ที่เราควรได้รับ (ยอดใช้จ่ายหลังรายการ refund) ไปหลายสิบหลายร้อยบาทแล้ว
เราถามเจ้าหน้าที่ต่อว่า อาจจะมีคนที่เค้าไม่ได้มาสนใจอะไรพวกนี้ คนที่เค้าไม่รู้ว่า ระบบแยกแยะไม่ได้ว่ายอด refund ไหนได้ cash back ยอดไหนไม่ได้ จะทำไง
เจ้าหน้าที่ตอบว่า : ก็ต้องโทรมาแจ้งเป็นเคสๆไปค่ะ O_o เอิ่ม คือถ้าไม่เกิดปัญหา เราไม่รู้เลยนะ ว่าระบบมันผิดอะ จริงๆ ถ้ารู้ว่าข้อบกพร่องของระบบคือตรงไหน ควรแจ้งลูกค้าไปเลยมั้ยอะว่า ในกรณีที่มีการรีฟันยอด ให้แจ้งด้วยว่า เป็นยอดผ่อนหรือไม่ผ่อน ไม่งั้นอาจจะโดนหัก cash back ไปทั้งๆที่ไม่เคยได้ตั้งแต่แรกแล้วก็ได้
เหตุการณ์วันนั้นผ่านไป ... เจ้าหน้าที่รับเรื่อง (เรามีชื่อ มีรหัสเจ้าหน้าที่ด้วยนะ หึหึ) บอกว่าจะรีบตรวจสอบยอด cash back ที่เราต้องได้รับคืนมาให้
แล้วจะแจ้งกลับ ไม่เกินรอบบิลถัดไป
ผ่านไป 1 รอบบิล .... ไม่ได้ cash back คืนจ้าา.... ถามว่าขึ้นมั้ย ขึ้นนะ คือพูดไม่เป็นคำพูด พูดแบบขอไปทีรึไง แล้วไม่มีโทรมาแจ้งความคืบหน้า
เราโทรไปใหม่...ติดตามเรื่อง... ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่คนนั้น รับเรื่องเราไว้ แต่ไม่ส่งเรื่องไปให้ผู้มีอำนาจในการดำเนินการจัดการต่อ....คอลเซ็นเตอร์ที่รับเรื่องในวันนั้น รับปากว่าจะประสานงานต่อให้
เราถามเจ้าหน้าที่ว่า ยอดเงินที่เราต้องได้คืนเป็นจำนวนกี่บาท เพื่อเช็คความถูกต้อง เจ้าหน้าที่แจ้งกลับมา หลักร้อย (ซึ่งตรงกับที่เรานั่งหาตัวเลขเองใน statement ของบัตรเราย้อนหลัง ตั้งแต่เดือน ต.ค. 61 เป็นต้นมา)
เวลาผ่านไป....จนอีกไม่กี่วันจะครบรอบบิลอีกครั้งแล้วในวันที่ 12 นี้ เราโทรกลับไป 1558 ใหม่เพื่อติดตามความคืบหน้า
เจ้าหน้าที่รับสาย บอกว่าเรื่องเพิ่งเข้ามาวันที่ 7/7/2561 เราแบบ เห้ยยย คือแล้วที่ผ่านมาที่บอกว่าจะดำเนินการให้คือยังไง คือดองไว้ คือลืม คือไม่ใส่ใจ หรือยังไงอะ ยอดที่ต้องคืนก็รู้แล้วว่าเท่าไหร่ แล้วคือจะรอตรวจสอบอะไรอีก เจ้าหน้าที่ก็ได้แต่แจ้งว่า เจ้าหน้าที่มีอำนาจแค่รับเรื่องและประสานให้ แต่ไม่มีอำนาจจัดการตรงนั้น เราต้องรอจนกว่าเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องคนแรกจะติดต่อเรา (ที่เราบอกว่าเรามีชื่อเค้านั่นแหละ) พอเราขอเบอร์เจ้าหน้าที่คนนนั้น ก็บอกว่าให้เราไม่ได้....
คือเราก็ไม่รุ้กระบวนการหรอกนะ แต่สงสัยว่านี่มันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนหรอ เราเข้าใจว่ามันก็เงินไม่กี่บาท แต่ถ้าธนาคารทำแบบนี้กับลูกค้าเป็นร้อยๆคนล่ะ ถ้ามีลูกค้าหลายคนไม่เช็คตรงนี้ ลูกค้าก็เสียสิทธิ์ไปฟรีๆ รวมๆกันหลายคนก็เป็นหลักหลายหมื่นหลายแสนบาทได้
สุดท้ายเราก็วางสายไปโดยที่ไมไ่ด้ความคืบหน้าอะไรที่แตกต่างจากครั้งก่อนๆเลย คือ กำลังตรวจสอบ เดี๋ยวจะเร่งเป็นเรื่องด่วนให้ ขอโทษที่ทำให้ไม่สะดวก .... เปลี่ยนจากคำขอโทษเป็นพัฒนาระบบให้ดีกว่านี้จะดีกว่ามั้ยคะ และช่วยเดือดร้อนในเรื่องของลูกค้า ให้เหมือนเป็นเรื่องของตัวเอง เป็นเงินของตัวเองได้มั้ยคะ - -
และถ้าตรวจสอบกันไม่เสร็จอีก เราก็ต้องรอไปอีก 1 เดือน เพื่อลุ้นว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเสร็จมั้ย เราจะได้เงินคืนในรอบบิลหน้ามั้ย ซึ่งถ้าได้ ก็จะเป็นเวลาเกือบ 3 เดือนสำหรับการแก้ปัญหายอด cash back ของ TMB
ขอจบการบ่นแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณสำหรับพื้นที่ค่ะ