ตอนกำเนิด =
https://pantip.com/topic/37708632
ตอนที่ 2 เปิดตัวต่อสาธารณชน ผจญปีศาจนก =
https://pantip.com/topic/37725740
ตอนที่ 3 กุหลาบมฤตยู =
https://pantip.com/topic/37751251
วีรชัยกำลังดูข่าวสด Breaking News ทางสถานีข่าว 24 ชั่วโมงช่องหนึ่งในบ้านพัก มันเป็นรายงานข่าวการสูญหายของคนจำนวนมากซึ่งเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวบ้าง สำรวจบ้าง ภายในถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งเพิ่งถูกค้นพบใหม่ บริเวณเทือกเขาตะนาวศรี ณ จุดสูงสุดคือเทือกเขาบีล็อกตอง ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี จุดสูงสุดของเทือกเขานี้สูงถึง 2,231 เมตร มีแนวเทือกเขาที่ลากต่อลงไปทางใต้ จนกระทั่งบรรจบกับปลายสุดด้านเหนือของคอคอดกระ
เสียงลือเสียงเล่าอ้างมากมายกล่าวกันว่า ถ้ำซึ่งถูกค้นพบใหม่แห่งนั้น ใครก็ตามที่เข้าไปแล้วจะไม่มีวันกลับออกมาได้อีก จะหายเข้าไปในนั้นตลอดกาล และเรื่องที่เคยเกิดขึ้นก็สอดคล้องตามคำร่ำลือ คือไม่เคยมีใครที่เข้าไปแล้วกลับออกมาสักราย
เรื่องที่น่าตื่นตระหนกคือ มีคณะสื่อมวลชนกลุ่มหนึ่งเข้าไปเพื่อสำรวจและหาเบาะแส โดยหวังว่าจะได้รายงานสกู๊ปข่าวเด็ด แล้วหายไปหมดทั้งคณะ! ทำให้พวกเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวรวมทั้งชาวบ้านได้แต่ปักหลักออกันอยู่บริเวณหน้าปากถ้ำ ไม่มีใครกล้าเข้าไปข้างใน
ในที่สุด มีการประกาศรับสมัคร "อาสาสมัคร" ที่จะเข้าไปในถ้ำ เพื่อค้นหาคนที่สูญหาย
"ทางรัฐบาล ร่วมกับบริษัทเอกชนหลายราย ได้ลงขันกันตั้งเงินกองทุนสำหรับอาสาสมัครที่จะเข้าไปในถ้ำ" เสียงจากการรายงานข่าวทางทีวีกระตุ้นความสนใจให้เกิดขึ้นกับวีรชัยอย่างแรง
"หากอาสาสมัครซึ่งจะเข้าไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมกันค้นหา สามารถพบตัวและพาคนที่สูญหายกลับออกมาได้จะได้รับเงินรางวัลตอบแทนคนละ 20 ล้านบาท และถ้าตัวอาสาสมัครเข้าไปแล้วกลับสูญหายไปเสียเอง ครอบครัวของอาสาสมัครจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละหนึ่งร้อยล้านบาท ผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 25 ถึง 35 ปี มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ถ้าเป็นนักกีฬา หรือนักปีนเขา จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ ขณะนี้เริ่มมีผู้สมัครเข้ามาบ้างเล็กน้อย ท่านผู้ชมท่านใดสนใจจะสมัคร ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ สายด่วน โทร ****ตลอด 24 ชั่วโมง ความคืบหน้าจะนำมาเสนอต่อไปเป็นระยะๆค่ะ"
วีรชัยตัดสินใจโทรศัพท์ติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ซึ่งผู้ประกาศข่าวบอกไว้ทันที และเมื่อทางปลายสายทราบว่าผู้ที่ติดต่อเข้ามา คืออดีตนักกีฬาเทควอนโด้เหรียญทองโอลิมปิก ก็ตอบรับทันที และนัดพบกันที่สำนักงานของพวกเขาในอีกสองชั่วโมงเพื่อคุยกันในรายละเอียด และวีรชัยก็เดินทางไปพบตามเวลาที่นัดหมาย
สาเหตุที่วีรชัยตัดสินใจสมัครเข้าร่วมค้นหาคนหายนี้ มิใช่เพราะอยากได้เงินรางวัลอันมากมาย
แต่เป็นเพราะเขาสงสัยว่า เรื่องประหลาดซึ่งเกิดขึ้นนี้ อาจจะเป็นฝีมือของพวกมิลเลนเนี่ยม ช็อกเกอร์ ก็เป็นได้!
และหากเป็นเช่นนั้น เขาจะต้องพยายามหาคนที่หายสาบสูญไปให้พบ และพาพวกเขาออกมาจากถ้ำปริศนานั้นให้จงได้ สำคัญที่สุดก็คือ ต้องจัดการกับพวกมิลเลนเนี่ยมช็อกเกอร์ให้พินาศ ขัดขวางพวกมันให้ถึงที่สุด!
**********************************************************************************
สามวันต่อมา....
วีรชัย พร้อมกับทีมอาสาสมัครอีก 10 คน และเจ้าหน้าที่ทหารกับตำรวจอีกจำนวนหนึ่งรวมตัวกันอยู่หน้าปากถ้ำปริศนานั้น พร้อมที่จะเข้าไปข้างใน
"ขอให้ทุกๆท่านโชคดี ได้พบคนที่หายไป และพาพวกเขากลับออกมาสำเร็จนะครับ" นายทหารชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งกล่าวกับทีมอาสาสมัคร
"ขอบคุณครับ ท่านนายพล" ชายผิวสีแทนร่างกายกำยำล่ำสันคนหนึ่งกล่าวแล้วยกมือขึ้นทำวันทยาหัตถ์ เขาคือ พันเอกสุวิทย์ ทหารจากกองทัพบกนายหนึ่งซึ่งอาสาเข้ามาร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำ อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆซึ่งจะเข้าไปในถ้ำต้องฟังคำสั่งของเขาแต่เพียงผู้เดียว
"ดูแลอาสาสมัครทุกๆคนให้ดีนะ ผู้พัน" ท่านนายพลกล่าว
"ครับผม ผมจะดูแลทุกคนให้ดีที่สุดครับผม" ผู้พันสุวิทย์ตอบเสียงดังหนักแน่น ยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา แล้วบอกกับผู้ที่จะเข้าไปทุกคน
"เก้านาฬิกา เก้านาที ได้ฤกษ์งามยามดีแล้ว ไปกันได้แล้วครับ ทุกคนเดินเรียงแถวตามผมมาครับ อย่าแตกแถวนะครับ"
แล้วเขาก็ออกเดินนำหน้าทุกคนเข้าสู่ปากถ้ำอันมองเห็นแต่ความมืดดำรออยู่ข้างใน และทุกคนเดินเรียงแถวตามเข้าไป...
*****************************************************************************
ทางเดินภายในถ้ำนั้น ในระยะแรกๆ เป็นทางแคบ แต่เมื่อเดินไปเรื่อยๆ ทางเดินก็กว้างขึ้นทีละน้อยๆ ราวกับรูปทรงกรวยซึ่งแคบตรงทางเข้ามา และผายกว้างออกภายในถ้ำ ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าไรก็พบว่ามันกว้างมากขึ้นเท่านั้น จนเป็นลานกว้างใหญ่อย่างเหลือเชื่อ และมีโพรงหรือถ้ำเล็กบ้างใหญ่บ้างอยู่ตามผนังถ้ำทุกด้าน เหนือศีรษะของทุกคนเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยละลานตา
ผู้พันสุวิทย์หยุดเดินแล้วยกมือขวาขึ้นเป็นสัญญาณให้ทุกคนหยุดเดิน ซึ่งทุกคนก็หยุดตามสัญญาณมือของเขา แต่ละคนส่องไฟฉายกราดดูไปรอบๆ
"เราเจอปัญหาใหญ่กันแล้วหละครับ" ผู้พันเอ่ยขึ้นเบาๆ แต่เสียงก็ก้องกังวาน "มีถ้ำย่อยอีกมากมาย ทุกด้าน ต้องตัดสินใจว่าจะลอดเข้าไปตรงไหนก่อนดี ตอนนี้เราลองสำรวจดูบริเวณนี้ก่อนนะครับว่าจะมีร่องรอยหรือข้าวของอะไรของคนที่เคยเข้ามาก่อนตกหล่นอยู่บ้างหรือไม่ แยกย้ายกันสำรวจดูครับ อย่าเพิ่งเข้าไปในถ้ำย่อยหรือโพรงตรงไหนโดยเด็ดขาดนะครับ"
ทุกคนแยกย้ายกันส่องไฟฉายสำรวจไปทั่วบริเวณตามคำสั่ง...
เวลาผ่านไปราวสิบนาที ไม่มีใครพบวัตถุสิ่งของใดๆที่จะสันนิษฐานได้ว่าเป็นของคนที่เคยเข้ามาก่อนหน้าแล้วหายสาบสูญ
แต่ มีรอยเท้าของคนหลายคนปรากฏบนพื้น แยกกันไปสู่ถ้ำย่อยสี่ห้าแห่ง เหมือนกับพวกเขาเหล่านั้นพากันเดินเข้าไป และไม่กลับออกมา !!
ผู้พันสุวิทย์ขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิดหนัก ถ้ารอยเท้าเหล่านั้นพากันไปเพียงทางสองทางก็พอทำเนา แต่นี่แยกกันไปตั้งสี่ห้าทาง และดูจากจำนวนรอยเท้าแล้วก็มีมากพอๆกันทุกทาง
"เอาไงกันดีครับ ผู้พัน ?" วีรชัยเอ่ยถามหัวหน้าทีม
"ผมก็ยังคิดไม่ออกครับ คุณวีรชัย" เขาส่ายหน้าแบบมึนๆ "เดี๋ยวผมขอปรึกษากับทางหน่วยเหนือดูก่อนนะครับ"
ผู้พันร่างใหญ่หยิบไมค์ของวิทยุสื่อสารจากเป้บนหลังมาเปิดแล้ววิทยุเรียก "หน่วยเหนือ" ที่เขาว่า
"คอบร้า เรียกอีเกิ้ล คอบร้า เรียกอีเกิ้ล ตอบด้วย"
คำตอบที่ได้รับ คือเสียงคลื่นวิทยุดังโครกคราก แต่มีเสียงคนตอบแทรกเข้ามา และขาดหายเป็นช่วงๆ และเบากว่าเสียงโครกครากอันน่ารำคาญซึ่งรบกวนอยู่ตลอดเวลา
"
โครก.......คราก.........ยิน....โครก.......คราก...........เกิ้ล....แล้ว....โครก.......คราก.........ได้...โครก.......คราก.....โครก.......คราก........ไหม.....อี....โครก.......คราก............แล้วอะไร....."
"อีเกิ้ล ได้ยินคอบร้าชัดเจนทุกคำหรือไม่ เปลี่ยน!!" ผู้พันสุวิทย์ตะเบ็งเสียงดังขึ้น
".....
โครก.......คราก.....โครก.......คราก..........ไม่ชัด....โครก.......คราก..........ดัง.....ได้ไหม...โครก.......คราก.................ครั้ง......"
"อีเกิ้ล เราพบถ้ำเล็กๆอีกหลายแห่งข้างใน และมีรอยเท้าคนจำนวนมากเดินเข้าไปประมาณสี่ห้าแห่ง ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะตามเข้าไปทางไหนดี เปลี่ยน!"
"
โครก......คราก........ มีถ้ำ...โครก.......คราก........คน...โครก.......คราก..........โครก.......คราก......เข้าไป....โครก.......คราก......ที่สุดก่อน....โครก.......คราก......เปลี่ยน......โครก......คราก........"
"อีเกิ้ล คำสั่งไม่ชัดเจน โปรดสั่งมาอีกครั้ง เปลี่ยน!"
"
โครก.......คราก..........โครก.......คราก..... ที่กว้างที่...โครก.......คราก....... เข้าใจไหม....โครก.....คราก.....โครก...คราก......."
"กว้างที่สุด ใช่หรือไม่ เปลี่ยน!!"
"
โครก.......คราก..........ที่สุด...โครก.......คราก........โครก.......คราก...ตามนั้น.......โครก....คราก..... เลิกกัน"
แล้วเสียงจากหน่วยเหนือก็เงียบไป
"ดูเหมือนว่า หน่วยเหนือสั่งให้พวกเราเข้าไปในถ้ำที่กว้างที่สุด คุณได้ยินเหมือนผมไหม วีรชัย ?" ผู้พันหันมาถามหลังจากเก็บไมค์วิทยุสื่อสารแล้ว
"ครับผม ได้ยินตรงกันครับ" คนถูกถามพยักหน้าตอบ อันที่จริง วีรชัยได้ใช้ความสามารถพิเศษจากการเป็นมนุษย์แปลง เปิดเครื่องรับสัญญาณภายในหัวและขยายสัญญาณฟังดูด้วยตนเองแล้วและสามารถฟังได้ชัดเจนกว่า ได้ยินถ้อยคำมากกว่าที่ผู้พันได้ยิน แม้ว่าขณะนี้เขายังไม่ได้แปลงร่างก็ตาม
"อืม....ถ้าอย่างนั้น เราก็ทำตามคำสั่งของหน่วยเหนือกันเถอะครับ"
"ว่าไงว่าตามกันครับผม"
ผู้พันพยักหน้า แล้วหันไปมองถ้ำย่อยแต่ละแห่งๆ แล้วชี้ไปยังถ้ำหนึ่งซึ่งดูปากถ้ำกว้างกว่าที่อื่น
"เข้าไปทางนั้นกันครับ ดูแล้วกว้างกว่าที่อื่น ผมจะนำเข้าไปก่อน ทุกคนตามมานะครับ"
กล่าวจบ ผู้พันสุวิทย์ก็เดินนำหน้าทุกคน มือซ้ายส่องไฟฉายเข้าไปในถ้ำย่อยแห่งนั้น มือขวาถือปืนเอ็ม 16 แนบลำตัว มองสำรวจข้างในอย่างระแวดระวังตามด้วยทหารผู้ใต้บังคับบัญชาอีกสามนาย และอาสาสมัครทุกคน
ขณะที่ทุกคนกำลังเดินลึกเข้าไป เสียงประหลาดอย่างหนึ่งซึ่งไม่มีใครเคยได้ยินก็ดังแว่วมาแต่ไกลจากเบื้องหน้า และดังใกล้เข้ามาทีละน้อย
"กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....."
ผู้พันสุวิทย์ชะงักกึก ยกมือขวาซึ่งถือปืนเอ็ม 16 อยู่ตั้งฉาก ทุกคนหยุดเดินตามสัญญาณนั้น
"เสียงอะไรนั่น ?" ผู้พันหลุดปากถามออกมา ถือปืนกระชับมั่น มองไปข้างหน้าและทางซ้ายขวา
วีรชัยรู้สึกคุ้นๆ กับเสียงนั้น! เขาอยู่ในอาการสงบและเตรียมพร้อม ในขณะที่หลายคนเริ่มตื่นตระหนก
"กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....."
เสียงประหลาดดังใกล้เข้ามาทุกทีๆ
"ผีป่าหรือเปล่าน่ะ!" ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
"ปากเสีย!" อีกคนหนึ่งส่งเสียงด่าเพื่อห้ามปราม "อยู่ในป่าในถ้ำ อย่าพูดแบบนี้สิ!"
"เดี๋ยวก็รู้ ว่าผีหรือปืน ใครจะแน่กว่ากัน!" ผู้พันสุวิทย์คำราม เอาไฟฉายในมือซ้ายเก็บใส่เป้หลังแล้วถือปืนกระชับมั่นด้วยสองมือ
ทันใดนั้นเอง เกิดมีกลุ่มหมอกควันประหลาดสีขาวปรากฏขึ้นเบื้องหน้า และขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว! ไม่นานทุกคนก็ตกอยู่ใจกลางหมอกควันนั้น และมันส่งกลิ่นแปลกๆ ทำให้ทุกคนรู้สึกมึนงง และเมื่อทุกคนมองไปบนที่สูง ก็พบเห็นร่างเงาดำตะคุ่มๆหลายร่าง มีดวงตาที่เรืองแสงในความมืด ส่งเสียงประหลาดซึ่งทุกคนได้ยินมาก่อนหน้านี้
"กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....."
"ยิงมัน !!!" ผู้พันสุวิทย์ตะโกนก้อง แล้วกราดเอ็ม 16 ในมือเข้าใส่ร่างลึกลับเหล่านั้นเป็นคนแรก จากนั้นทหารอีกสามนายก็พากันระดมยิงตาม
"ปังปังปังปังปังปังปัง!!!!"
"กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....."
ร่างเหล่านั้นกระโดดหยองแหยงหลบกระสุนปืนอย่างรวดเร็วเหมือนเงาปีศาจ ในขณะเดียวกัน หมอกควันประหลาดซึ่งเจือด้วยควันยาสลบก็หนาแน่นขึ้นทุกทีๆ จนทำให้สมาชิกทีมอาสาสมัครหมดสติล้มลงไปทีละคนๆ
ยกเว้น...วีรชัย!
เขาเพียงรับรู้ถึงกลิ่นจากหมอกควัน แต่ไม่เกิดอาการอะไรทั้งสิ้น ถึงตอนนี้ เขาแน่ใจว่ากำลังเผชิญกับพวกมิลเลนเนี่ยมช็อกเกอร์อย่างแน่นอน และอยากรู้ว่าพวกมันจะพาคนเหล่านี้ซึ่งสลบไสลกันไปหมดแล้วไปไหน และพาไปทำอะไร เขาจึงแกล้งล้มตัวลงนอนทำทีว่าหมดสติไปแล้วเหมือนคนอื่นๆ
"กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....."
เสียงประหลาดอันน่าระคายหูสำหรับวีรชัยดังใกล้เข้ามาจนระยะประชิด แล้วก็มีอีกเสียงหนึ่งซึ่งแปลกกว่าดังขึ้น
"กีซซซ........กีซซซซซ.....จับพวกมันเข้าไปในฐานให้หมด กีซซซซซซ แล้วเตรียมการเปลี่ยนทุกคนเป็นพวกเรา!! ทีมห้องปฏิบัติการพร้อมแล้ว กำลังรออยู่ กีซซซซ....."
(มีต่อครับ)
✨💫✨ มนุษย์แปลง (MASKED RIDER ANT - ตอนที่ 4) ถ้ำปริศนา ✨💫✨
ตอนที่ 2 เปิดตัวต่อสาธารณชน ผจญปีศาจนก = https://pantip.com/topic/37725740
ตอนที่ 3 กุหลาบมฤตยู = https://pantip.com/topic/37751251
วีรชัยกำลังดูข่าวสด Breaking News ทางสถานีข่าว 24 ชั่วโมงช่องหนึ่งในบ้านพัก มันเป็นรายงานข่าวการสูญหายของคนจำนวนมากซึ่งเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวบ้าง สำรวจบ้าง ภายในถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งเพิ่งถูกค้นพบใหม่ บริเวณเทือกเขาตะนาวศรี ณ จุดสูงสุดคือเทือกเขาบีล็อกตอง ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี จุดสูงสุดของเทือกเขานี้สูงถึง 2,231 เมตร มีแนวเทือกเขาที่ลากต่อลงไปทางใต้ จนกระทั่งบรรจบกับปลายสุดด้านเหนือของคอคอดกระ
เสียงลือเสียงเล่าอ้างมากมายกล่าวกันว่า ถ้ำซึ่งถูกค้นพบใหม่แห่งนั้น ใครก็ตามที่เข้าไปแล้วจะไม่มีวันกลับออกมาได้อีก จะหายเข้าไปในนั้นตลอดกาล และเรื่องที่เคยเกิดขึ้นก็สอดคล้องตามคำร่ำลือ คือไม่เคยมีใครที่เข้าไปแล้วกลับออกมาสักราย
เรื่องที่น่าตื่นตระหนกคือ มีคณะสื่อมวลชนกลุ่มหนึ่งเข้าไปเพื่อสำรวจและหาเบาะแส โดยหวังว่าจะได้รายงานสกู๊ปข่าวเด็ด แล้วหายไปหมดทั้งคณะ! ทำให้พวกเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวรวมทั้งชาวบ้านได้แต่ปักหลักออกันอยู่บริเวณหน้าปากถ้ำ ไม่มีใครกล้าเข้าไปข้างใน
ในที่สุด มีการประกาศรับสมัคร "อาสาสมัคร" ที่จะเข้าไปในถ้ำ เพื่อค้นหาคนที่สูญหาย
"ทางรัฐบาล ร่วมกับบริษัทเอกชนหลายราย ได้ลงขันกันตั้งเงินกองทุนสำหรับอาสาสมัครที่จะเข้าไปในถ้ำ" เสียงจากการรายงานข่าวทางทีวีกระตุ้นความสนใจให้เกิดขึ้นกับวีรชัยอย่างแรง "หากอาสาสมัครซึ่งจะเข้าไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมกันค้นหา สามารถพบตัวและพาคนที่สูญหายกลับออกมาได้จะได้รับเงินรางวัลตอบแทนคนละ 20 ล้านบาท และถ้าตัวอาสาสมัครเข้าไปแล้วกลับสูญหายไปเสียเอง ครอบครัวของอาสาสมัครจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละหนึ่งร้อยล้านบาท ผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 25 ถึง 35 ปี มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ถ้าเป็นนักกีฬา หรือนักปีนเขา จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ ขณะนี้เริ่มมีผู้สมัครเข้ามาบ้างเล็กน้อย ท่านผู้ชมท่านใดสนใจจะสมัคร ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ สายด่วน โทร ****ตลอด 24 ชั่วโมง ความคืบหน้าจะนำมาเสนอต่อไปเป็นระยะๆค่ะ"
วีรชัยตัดสินใจโทรศัพท์ติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ซึ่งผู้ประกาศข่าวบอกไว้ทันที และเมื่อทางปลายสายทราบว่าผู้ที่ติดต่อเข้ามา คืออดีตนักกีฬาเทควอนโด้เหรียญทองโอลิมปิก ก็ตอบรับทันที และนัดพบกันที่สำนักงานของพวกเขาในอีกสองชั่วโมงเพื่อคุยกันในรายละเอียด และวีรชัยก็เดินทางไปพบตามเวลาที่นัดหมาย
สาเหตุที่วีรชัยตัดสินใจสมัครเข้าร่วมค้นหาคนหายนี้ มิใช่เพราะอยากได้เงินรางวัลอันมากมาย แต่เป็นเพราะเขาสงสัยว่า เรื่องประหลาดซึ่งเกิดขึ้นนี้ อาจจะเป็นฝีมือของพวกมิลเลนเนี่ยม ช็อกเกอร์ ก็เป็นได้!
และหากเป็นเช่นนั้น เขาจะต้องพยายามหาคนที่หายสาบสูญไปให้พบ และพาพวกเขาออกมาจากถ้ำปริศนานั้นให้จงได้ สำคัญที่สุดก็คือ ต้องจัดการกับพวกมิลเลนเนี่ยมช็อกเกอร์ให้พินาศ ขัดขวางพวกมันให้ถึงที่สุด!
สามวันต่อมา....
วีรชัย พร้อมกับทีมอาสาสมัครอีก 10 คน และเจ้าหน้าที่ทหารกับตำรวจอีกจำนวนหนึ่งรวมตัวกันอยู่หน้าปากถ้ำปริศนานั้น พร้อมที่จะเข้าไปข้างใน
"ขอให้ทุกๆท่านโชคดี ได้พบคนที่หายไป และพาพวกเขากลับออกมาสำเร็จนะครับ" นายทหารชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งกล่าวกับทีมอาสาสมัคร
"ขอบคุณครับ ท่านนายพล" ชายผิวสีแทนร่างกายกำยำล่ำสันคนหนึ่งกล่าวแล้วยกมือขึ้นทำวันทยาหัตถ์ เขาคือ พันเอกสุวิทย์ ทหารจากกองทัพบกนายหนึ่งซึ่งอาสาเข้ามาร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำ อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆซึ่งจะเข้าไปในถ้ำต้องฟังคำสั่งของเขาแต่เพียงผู้เดียว
"ดูแลอาสาสมัครทุกๆคนให้ดีนะ ผู้พัน" ท่านนายพลกล่าว
"ครับผม ผมจะดูแลทุกคนให้ดีที่สุดครับผม" ผู้พันสุวิทย์ตอบเสียงดังหนักแน่น ยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา แล้วบอกกับผู้ที่จะเข้าไปทุกคน
"เก้านาฬิกา เก้านาที ได้ฤกษ์งามยามดีแล้ว ไปกันได้แล้วครับ ทุกคนเดินเรียงแถวตามผมมาครับ อย่าแตกแถวนะครับ"
แล้วเขาก็ออกเดินนำหน้าทุกคนเข้าสู่ปากถ้ำอันมองเห็นแต่ความมืดดำรออยู่ข้างใน และทุกคนเดินเรียงแถวตามเข้าไป...
ทางเดินภายในถ้ำนั้น ในระยะแรกๆ เป็นทางแคบ แต่เมื่อเดินไปเรื่อยๆ ทางเดินก็กว้างขึ้นทีละน้อยๆ ราวกับรูปทรงกรวยซึ่งแคบตรงทางเข้ามา และผายกว้างออกภายในถ้ำ ยิ่งเดินเข้าไปลึกเท่าไรก็พบว่ามันกว้างมากขึ้นเท่านั้น จนเป็นลานกว้างใหญ่อย่างเหลือเชื่อ และมีโพรงหรือถ้ำเล็กบ้างใหญ่บ้างอยู่ตามผนังถ้ำทุกด้าน เหนือศีรษะของทุกคนเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยละลานตา
ผู้พันสุวิทย์หยุดเดินแล้วยกมือขวาขึ้นเป็นสัญญาณให้ทุกคนหยุดเดิน ซึ่งทุกคนก็หยุดตามสัญญาณมือของเขา แต่ละคนส่องไฟฉายกราดดูไปรอบๆ
"เราเจอปัญหาใหญ่กันแล้วหละครับ" ผู้พันเอ่ยขึ้นเบาๆ แต่เสียงก็ก้องกังวาน "มีถ้ำย่อยอีกมากมาย ทุกด้าน ต้องตัดสินใจว่าจะลอดเข้าไปตรงไหนก่อนดี ตอนนี้เราลองสำรวจดูบริเวณนี้ก่อนนะครับว่าจะมีร่องรอยหรือข้าวของอะไรของคนที่เคยเข้ามาก่อนตกหล่นอยู่บ้างหรือไม่ แยกย้ายกันสำรวจดูครับ อย่าเพิ่งเข้าไปในถ้ำย่อยหรือโพรงตรงไหนโดยเด็ดขาดนะครับ"
ทุกคนแยกย้ายกันส่องไฟฉายสำรวจไปทั่วบริเวณตามคำสั่ง...
เวลาผ่านไปราวสิบนาที ไม่มีใครพบวัตถุสิ่งของใดๆที่จะสันนิษฐานได้ว่าเป็นของคนที่เคยเข้ามาก่อนหน้าแล้วหายสาบสูญ แต่ มีรอยเท้าของคนหลายคนปรากฏบนพื้น แยกกันไปสู่ถ้ำย่อยสี่ห้าแห่ง เหมือนกับพวกเขาเหล่านั้นพากันเดินเข้าไป และไม่กลับออกมา !!
ผู้พันสุวิทย์ขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิดหนัก ถ้ารอยเท้าเหล่านั้นพากันไปเพียงทางสองทางก็พอทำเนา แต่นี่แยกกันไปตั้งสี่ห้าทาง และดูจากจำนวนรอยเท้าแล้วก็มีมากพอๆกันทุกทาง
"เอาไงกันดีครับ ผู้พัน ?" วีรชัยเอ่ยถามหัวหน้าทีม
"ผมก็ยังคิดไม่ออกครับ คุณวีรชัย" เขาส่ายหน้าแบบมึนๆ "เดี๋ยวผมขอปรึกษากับทางหน่วยเหนือดูก่อนนะครับ"
ผู้พันร่างใหญ่หยิบไมค์ของวิทยุสื่อสารจากเป้บนหลังมาเปิดแล้ววิทยุเรียก "หน่วยเหนือ" ที่เขาว่า
"คอบร้า เรียกอีเกิ้ล คอบร้า เรียกอีเกิ้ล ตอบด้วย"
คำตอบที่ได้รับ คือเสียงคลื่นวิทยุดังโครกคราก แต่มีเสียงคนตอบแทรกเข้ามา และขาดหายเป็นช่วงๆ และเบากว่าเสียงโครกครากอันน่ารำคาญซึ่งรบกวนอยู่ตลอดเวลา
"โครก.......คราก.........ยิน....โครก.......คราก...........เกิ้ล....แล้ว....โครก.......คราก.........ได้...โครก.......คราก.....โครก.......คราก........ไหม.....อี....โครก.......คราก............แล้วอะไร....."
"อีเกิ้ล ได้ยินคอบร้าชัดเจนทุกคำหรือไม่ เปลี่ยน!!" ผู้พันสุวิทย์ตะเบ็งเสียงดังขึ้น
".....โครก.......คราก.....โครก.......คราก..........ไม่ชัด....โครก.......คราก..........ดัง.....ได้ไหม...โครก.......คราก.................ครั้ง......"
"อีเกิ้ล เราพบถ้ำเล็กๆอีกหลายแห่งข้างใน และมีรอยเท้าคนจำนวนมากเดินเข้าไปประมาณสี่ห้าแห่ง ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะตามเข้าไปทางไหนดี เปลี่ยน!"
"โครก......คราก........ มีถ้ำ...โครก.......คราก........คน...โครก.......คราก..........โครก.......คราก......เข้าไป....โครก.......คราก......ที่สุดก่อน....โครก.......คราก......เปลี่ยน......โครก......คราก........"
"อีเกิ้ล คำสั่งไม่ชัดเจน โปรดสั่งมาอีกครั้ง เปลี่ยน!"
"โครก.......คราก..........โครก.......คราก..... ที่กว้างที่...โครก.......คราก....... เข้าใจไหม....โครก.....คราก.....โครก...คราก......."
"กว้างที่สุด ใช่หรือไม่ เปลี่ยน!!"
"โครก.......คราก..........ที่สุด...โครก.......คราก........โครก.......คราก...ตามนั้น.......โครก....คราก..... เลิกกัน"
แล้วเสียงจากหน่วยเหนือก็เงียบไป
"ดูเหมือนว่า หน่วยเหนือสั่งให้พวกเราเข้าไปในถ้ำที่กว้างที่สุด คุณได้ยินเหมือนผมไหม วีรชัย ?" ผู้พันหันมาถามหลังจากเก็บไมค์วิทยุสื่อสารแล้ว
"ครับผม ได้ยินตรงกันครับ" คนถูกถามพยักหน้าตอบ อันที่จริง วีรชัยได้ใช้ความสามารถพิเศษจากการเป็นมนุษย์แปลง เปิดเครื่องรับสัญญาณภายในหัวและขยายสัญญาณฟังดูด้วยตนเองแล้วและสามารถฟังได้ชัดเจนกว่า ได้ยินถ้อยคำมากกว่าที่ผู้พันได้ยิน แม้ว่าขณะนี้เขายังไม่ได้แปลงร่างก็ตาม
"อืม....ถ้าอย่างนั้น เราก็ทำตามคำสั่งของหน่วยเหนือกันเถอะครับ"
"ว่าไงว่าตามกันครับผม"
ผู้พันพยักหน้า แล้วหันไปมองถ้ำย่อยแต่ละแห่งๆ แล้วชี้ไปยังถ้ำหนึ่งซึ่งดูปากถ้ำกว้างกว่าที่อื่น
"เข้าไปทางนั้นกันครับ ดูแล้วกว้างกว่าที่อื่น ผมจะนำเข้าไปก่อน ทุกคนตามมานะครับ"
กล่าวจบ ผู้พันสุวิทย์ก็เดินนำหน้าทุกคน มือซ้ายส่องไฟฉายเข้าไปในถ้ำย่อยแห่งนั้น มือขวาถือปืนเอ็ม 16 แนบลำตัว มองสำรวจข้างในอย่างระแวดระวังตามด้วยทหารผู้ใต้บังคับบัญชาอีกสามนาย และอาสาสมัครทุกคน
ขณะที่ทุกคนกำลังเดินลึกเข้าไป เสียงประหลาดอย่างหนึ่งซึ่งไม่มีใครเคยได้ยินก็ดังแว่วมาแต่ไกลจากเบื้องหน้า และดังใกล้เข้ามาทีละน้อย
"กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....."
ผู้พันสุวิทย์ชะงักกึก ยกมือขวาซึ่งถือปืนเอ็ม 16 อยู่ตั้งฉาก ทุกคนหยุดเดินตามสัญญาณนั้น
"เสียงอะไรนั่น ?" ผู้พันหลุดปากถามออกมา ถือปืนกระชับมั่น มองไปข้างหน้าและทางซ้ายขวา
วีรชัยรู้สึกคุ้นๆ กับเสียงนั้น! เขาอยู่ในอาการสงบและเตรียมพร้อม ในขณะที่หลายคนเริ่มตื่นตระหนก
"กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....."
เสียงประหลาดดังใกล้เข้ามาทุกทีๆ
"ผีป่าหรือเปล่าน่ะ!" ใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
"ปากเสีย!" อีกคนหนึ่งส่งเสียงด่าเพื่อห้ามปราม "อยู่ในป่าในถ้ำ อย่าพูดแบบนี้สิ!"
"เดี๋ยวก็รู้ ว่าผีหรือปืน ใครจะแน่กว่ากัน!" ผู้พันสุวิทย์คำราม เอาไฟฉายในมือซ้ายเก็บใส่เป้หลังแล้วถือปืนกระชับมั่นด้วยสองมือ
ทันใดนั้นเอง เกิดมีกลุ่มหมอกควันประหลาดสีขาวปรากฏขึ้นเบื้องหน้า และขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว! ไม่นานทุกคนก็ตกอยู่ใจกลางหมอกควันนั้น และมันส่งกลิ่นแปลกๆ ทำให้ทุกคนรู้สึกมึนงง และเมื่อทุกคนมองไปบนที่สูง ก็พบเห็นร่างเงาดำตะคุ่มๆหลายร่าง มีดวงตาที่เรืองแสงในความมืด ส่งเสียงประหลาดซึ่งทุกคนได้ยินมาก่อนหน้านี้
"กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....."
"ยิงมัน !!!" ผู้พันสุวิทย์ตะโกนก้อง แล้วกราดเอ็ม 16 ในมือเข้าใส่ร่างลึกลับเหล่านั้นเป็นคนแรก จากนั้นทหารอีกสามนายก็พากันระดมยิงตาม
"ปังปังปังปังปังปังปัง!!!!"
"กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....."
ร่างเหล่านั้นกระโดดหยองแหยงหลบกระสุนปืนอย่างรวดเร็วเหมือนเงาปีศาจ ในขณะเดียวกัน หมอกควันประหลาดซึ่งเจือด้วยควันยาสลบก็หนาแน่นขึ้นทุกทีๆ จนทำให้สมาชิกทีมอาสาสมัครหมดสติล้มลงไปทีละคนๆ
ยกเว้น...วีรชัย!
เขาเพียงรับรู้ถึงกลิ่นจากหมอกควัน แต่ไม่เกิดอาการอะไรทั้งสิ้น ถึงตอนนี้ เขาแน่ใจว่ากำลังเผชิญกับพวกมิลเลนเนี่ยมช็อกเกอร์อย่างแน่นอน และอยากรู้ว่าพวกมันจะพาคนเหล่านี้ซึ่งสลบไสลกันไปหมดแล้วไปไหน และพาไปทำอะไร เขาจึงแกล้งล้มตัวลงนอนทำทีว่าหมดสติไปแล้วเหมือนคนอื่นๆ
"กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....กี๊ย์....กี๊ย์.....กี๊ย์....."
เสียงประหลาดอันน่าระคายหูสำหรับวีรชัยดังใกล้เข้ามาจนระยะประชิด แล้วก็มีอีกเสียงหนึ่งซึ่งแปลกกว่าดังขึ้น
"กีซซซ........กีซซซซซ.....จับพวกมันเข้าไปในฐานให้หมด กีซซซซซซ แล้วเตรียมการเปลี่ยนทุกคนเป็นพวกเรา!! ทีมห้องปฏิบัติการพร้อมแล้ว กำลังรออยู่ กีซซซซ....."
(มีต่อครับ)