ปารีสเมืองแห่งการเดินเร็ว เรารู้สึกว่าทุกคนที่นู่นเดินกันเยอะนะ เดินเร็วด้วย ลุงป้าบางคนนี่เดินกันเสื้อโค้ทสะบัดเลยอ่ะ ตอนที่ไปก็เลยคิดว่าอยากจะเดินถ่ายรูปในเมืองของเค้า ให้รู้สึกว่าเหมือนเราอยู่ปารีสซะหน่อย อยากจะอินกับการเดินของเขาบ้าง เดินไปเรื่อยๆ ไม่รีบอะไร เจออะไรก็ถ่ายมา ไม่คิดว่าจะเดินเยอะอะไร แต่พอเอาเข้าจริงเราเดินรวมๆ แล้วเกือบ 10 กิโลเมตรต่อวันเลยนะ แต่มันเป็นเมืองที่น่าเดินเล่นจริงๆ แหละ ช่วงที่เราไปก็ปลายเดือนมิถุนายน อากาศไม่หนาวมาก แต่ฝนมีบ้างนะ รวมๆแล้วก็ยังน่าเดินเล่นอยู่ดี ถ้าใครกำลังทำหน้าเปื่อยๆ หรือว่างจนไม่รู้จะทำอะไร ลองแวะมาเปิดดูรูปเราเล่นๆ ก็ได้นะ

ตึกที่นี่รูปทรงมันดูเท่ดีอ่ะ ชอบตรงห้องใต้หลังคามาก บรรยากาศคงเหมือนในหนังซักเรื่อง

คนไร้บ้านที่นี่ก็เยอะนะ ไม่แพ้บ้านเราหรอก

ถ่ายรูปแทบจะทุกซอยเลยว่าก็ได้ มันแปลกตาสำหรับเรามากอ่ะ

เจอตรงนี้บอกเลยว่า งง อ่าวเฮ้ย เดินเข้ายังไงอ่ะ ห้ามหมดเลย นี่ห้ามรถหรอ แล้วคนด้วยเปล่า ตรงนี้เป็นซอยที่ป้ายอันนี้มันเยอะที่สุดละ ใครผ่านไปอย่าลืมถ่ายรูปมานะ

คนผิวสีที่เยอะมากอ่ะ เดินสะบัดบ๊อบไปมาทั้งเมือง

มองแล้วนึกถึงร้าน H&M

บอกแล้วว่าเขาเน้นเดิน เจอคุณป้าเมลิซ่าอายุประมาณ 60 เราเดินตามเขาไม่ทันอ่ะ เดินกันไวมาก เดินเหมือนมีเป้าหมายกันทุกคน

คุณป้าเมลิซ่าอีกคน

ที่เราเห็นส่วนใหญ่จะใส่รองเท้าวิ่ง หรือรองเท้าที่เหมาะกับการเดินอ่ะ ตัดภาพมาที่คือเราใส่บู๊ทไปเดิน น้ำตาจะไหล

ตอนถ่ายเสร็จแล้วแบบ เฮ้ยยย!!! รู้ตัวด้วยหรอ ถึงได้ชูสองนิ้วทันขนาดนั้น อ๋อ เค้าคุยกับคนในโทรศัพท์

ปารีสนี่เป็นเมืองโรแมนติกจริงๆ นะ ไม่ใช่แค่กับวัยรุ่นอย่างเดียว คนอายุมากก็ยังมานั่งคุยกันอยู่กลางแดด มองแล้วรู้สึกโรแมนติกยังไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูก

นี่ไม่ใช่ตรอกไดแอกอนนะ แต่คือ มงแซงมิเชล วิหารกลางน้ำที่ฝรั่งเศส แต่บรรยากาศยังกับหลุดเค้าไปอยู่ในหนังแฮรี่ยังไงยังงั้นเลย แต่ว่าที่นี่ต้องนั่งรถออกไปนอกเมืองปารีสไกลเหมือนกัน ตอนไปเราซื้อทัวร์วันเดียว เค้าก็จะนัดแล้วมารับเราตอนเช้า ถึงในปารีสอีกทีก็ประมาณสองทุ่มแหละ ตอนไปก็ทำแซนวิชไปกินกันตอนกลางวัน วิวดีนะ
แต่นั่งรถนานหน่อย

คุณลุงอัลเบิร์ตที่ถือบุหรี่และทำตัวเหมือนเจ้าพ่อมาเฟีย เท่มากลุง

kiss me.

เป็นนกที่หมดสิ้นแล้วซึ่งความกลัวทุกอย่างกระทั่งมนุษย์ อย่าตกใจถ้ามันจะมาโฉบหัวเราบ้าง ให้ทำหน้านิ่งๆ แล้วเอนหัวหลบประมาณ 45 องศาก็พอนะ

เป็นเด็กคนแรกที่มองหน้าเราแล้วไม่ร้อง เอ๊ะ หรือว่ากำลังจะร้อง

ไม่รู้ว่าเค้าแหงนดูอะไร แต่ที่แน่ๆ แต่มันต้องสำคัญมากแน่ๆ

ตรงนี้เราเรียกว่า จุดนัดพบกันโดยไม่ได้นัดหมาย คนเยอะมาก เพราะมันคือจุดถ่ายรูปหอไอเฟล ไม่ต้องแปลกใจนะ ถ้าไปถ่ายรูป แล้วติดคุณป้าเมลิซ่า หรือว่าคุณลุงอัลเบิร์ต

ถ้าเราเดินลงมาด้านล่างก็จะเป็นลานกว้างๆ ให้คนที่มาพักผ่อนหรือมาทำกิจกรรมกันได้สบายๆ ในบ่ายร้อนๆ

หรือจะไปนั่งดูน้ำพุที่มีอัตราการฉีดสูงก็ได้นะ แนะนำว่าให้ดูทิศทางลมดีดี ไม่งั้นมีตัวเปียกกันมั่งแหละ

ตรงอีกด้านเค้าก็มานั่งวาดรูปเล่นบนถนนกัน ไม่ใช่นั่งหลับนะ

พื้นที่หลบแดดของเราเอง

ไม่ถ่ายรูปหอไอเฟลหน่อยหรอน้อง ไม่เอาไรแล้วดิ

เป็นชุดยูนิฟอร์มกับพาหนะที่เข้ากันมาก

เชื่อแล้วว่าเสาต้นนี้ผ่านอะไรมาเยอะ

เสียใจด้วยเอลรอย นายวิ่งช้าไป

แม่น้ำแซน ตรงริมฝั่งด้านล่างจะเป็นทางเดินยาวๆ แล้วก็จะมีกิจกรรมเยอะแยะ เราไปนั่งกินเบียร์ก็เพลินดีนะ

คุณลุงโนเอลกับแท่งเหล็กโค้งสีทองเหลือง

การคมนาคมสุดฮิตของที่นี่ รถไฟใต้ดิน จริงๆ จะบอกว่ามันเป็นรถไฟใต้ดินก็ไม่ถูกซะทีเดียวนะ เพราะเดี๋ยวลง เดี๋ยวขึ้นมาด้านบน บางคันขับดีดี นี่คิดว่ารถไฟเหาะเลย ขึ้นลงเร็วมาก ทางโค้งนี่ไม่ต้องพูดถึง แทบดริฟต์ เอี๊ยดอ๊าดทั้งคัน

เป็นอีกวันที่นั่งรถไฟใต้ดินกับเพลงเพราะๆ

เราไม่รู้ว่าเขาเศร้าเรื่องอะไร แต่เรามองแล้วก็เศร้าตามนะ

ปิดท้ายกับคุณลุงโค้ดนีย์ ที่ขี้อายจนไม่กล้ามองกล้องในระยะห่างกันไม่ถึง 30 เซนติเมตร ขอบคุณที่นั่งดูรูปในมุมมองของเราจนมาถึงตรงนี้ ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้า ที่ที่เราก็ไม่รู้ว่าจะไปเดินเล่นกันต่อที่ไหน อ๋อแล้วชื่อทั้งหมดอ่ะเราตั้งขึ้นมาเฉยๆ นะ ไม่ใช่ชื่อจริงๆ พวกเขาหรอก merci beaucoup
33Photographs in Paris : เดินถ่ายรูปไม่ประณีตในปารีส
ตึกที่นี่รูปทรงมันดูเท่ดีอ่ะ ชอบตรงห้องใต้หลังคามาก บรรยากาศคงเหมือนในหนังซักเรื่อง
คนไร้บ้านที่นี่ก็เยอะนะ ไม่แพ้บ้านเราหรอก
ถ่ายรูปแทบจะทุกซอยเลยว่าก็ได้ มันแปลกตาสำหรับเรามากอ่ะ
เจอตรงนี้บอกเลยว่า งง อ่าวเฮ้ย เดินเข้ายังไงอ่ะ ห้ามหมดเลย นี่ห้ามรถหรอ แล้วคนด้วยเปล่า ตรงนี้เป็นซอยที่ป้ายอันนี้มันเยอะที่สุดละ ใครผ่านไปอย่าลืมถ่ายรูปมานะ
คนผิวสีที่เยอะมากอ่ะ เดินสะบัดบ๊อบไปมาทั้งเมือง
มองแล้วนึกถึงร้าน H&M
บอกแล้วว่าเขาเน้นเดิน เจอคุณป้าเมลิซ่าอายุประมาณ 60 เราเดินตามเขาไม่ทันอ่ะ เดินกันไวมาก เดินเหมือนมีเป้าหมายกันทุกคน
คุณป้าเมลิซ่าอีกคน
ที่เราเห็นส่วนใหญ่จะใส่รองเท้าวิ่ง หรือรองเท้าที่เหมาะกับการเดินอ่ะ ตัดภาพมาที่คือเราใส่บู๊ทไปเดิน น้ำตาจะไหล
ตอนถ่ายเสร็จแล้วแบบ เฮ้ยยย!!! รู้ตัวด้วยหรอ ถึงได้ชูสองนิ้วทันขนาดนั้น อ๋อ เค้าคุยกับคนในโทรศัพท์
ปารีสนี่เป็นเมืองโรแมนติกจริงๆ นะ ไม่ใช่แค่กับวัยรุ่นอย่างเดียว คนอายุมากก็ยังมานั่งคุยกันอยู่กลางแดด มองแล้วรู้สึกโรแมนติกยังไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูก
นี่ไม่ใช่ตรอกไดแอกอนนะ แต่คือ มงแซงมิเชล วิหารกลางน้ำที่ฝรั่งเศส แต่บรรยากาศยังกับหลุดเค้าไปอยู่ในหนังแฮรี่ยังไงยังงั้นเลย แต่ว่าที่นี่ต้องนั่งรถออกไปนอกเมืองปารีสไกลเหมือนกัน ตอนไปเราซื้อทัวร์วันเดียว เค้าก็จะนัดแล้วมารับเราตอนเช้า ถึงในปารีสอีกทีก็ประมาณสองทุ่มแหละ ตอนไปก็ทำแซนวิชไปกินกันตอนกลางวัน วิวดีนะ
แต่นั่งรถนานหน่อย
คุณลุงอัลเบิร์ตที่ถือบุหรี่และทำตัวเหมือนเจ้าพ่อมาเฟีย เท่มากลุง
kiss me.
เป็นนกที่หมดสิ้นแล้วซึ่งความกลัวทุกอย่างกระทั่งมนุษย์ อย่าตกใจถ้ามันจะมาโฉบหัวเราบ้าง ให้ทำหน้านิ่งๆ แล้วเอนหัวหลบประมาณ 45 องศาก็พอนะ
เป็นเด็กคนแรกที่มองหน้าเราแล้วไม่ร้อง เอ๊ะ หรือว่ากำลังจะร้อง
ไม่รู้ว่าเค้าแหงนดูอะไร แต่ที่แน่ๆ แต่มันต้องสำคัญมากแน่ๆ
ตรงนี้เราเรียกว่า จุดนัดพบกันโดยไม่ได้นัดหมาย คนเยอะมาก เพราะมันคือจุดถ่ายรูปหอไอเฟล ไม่ต้องแปลกใจนะ ถ้าไปถ่ายรูป แล้วติดคุณป้าเมลิซ่า หรือว่าคุณลุงอัลเบิร์ต
ถ้าเราเดินลงมาด้านล่างก็จะเป็นลานกว้างๆ ให้คนที่มาพักผ่อนหรือมาทำกิจกรรมกันได้สบายๆ ในบ่ายร้อนๆ
หรือจะไปนั่งดูน้ำพุที่มีอัตราการฉีดสูงก็ได้นะ แนะนำว่าให้ดูทิศทางลมดีดี ไม่งั้นมีตัวเปียกกันมั่งแหละ
ตรงอีกด้านเค้าก็มานั่งวาดรูปเล่นบนถนนกัน ไม่ใช่นั่งหลับนะ
พื้นที่หลบแดดของเราเอง
ไม่ถ่ายรูปหอไอเฟลหน่อยหรอน้อง ไม่เอาไรแล้วดิ
เป็นชุดยูนิฟอร์มกับพาหนะที่เข้ากันมาก
เชื่อแล้วว่าเสาต้นนี้ผ่านอะไรมาเยอะ
เสียใจด้วยเอลรอย นายวิ่งช้าไป
แม่น้ำแซน ตรงริมฝั่งด้านล่างจะเป็นทางเดินยาวๆ แล้วก็จะมีกิจกรรมเยอะแยะ เราไปนั่งกินเบียร์ก็เพลินดีนะ
คุณลุงโนเอลกับแท่งเหล็กโค้งสีทองเหลือง
การคมนาคมสุดฮิตของที่นี่ รถไฟใต้ดิน จริงๆ จะบอกว่ามันเป็นรถไฟใต้ดินก็ไม่ถูกซะทีเดียวนะ เพราะเดี๋ยวลง เดี๋ยวขึ้นมาด้านบน บางคันขับดีดี นี่คิดว่ารถไฟเหาะเลย ขึ้นลงเร็วมาก ทางโค้งนี่ไม่ต้องพูดถึง แทบดริฟต์ เอี๊ยดอ๊าดทั้งคัน
เป็นอีกวันที่นั่งรถไฟใต้ดินกับเพลงเพราะๆ
เราไม่รู้ว่าเขาเศร้าเรื่องอะไร แต่เรามองแล้วก็เศร้าตามนะ
ปิดท้ายกับคุณลุงโค้ดนีย์ ที่ขี้อายจนไม่กล้ามองกล้องในระยะห่างกันไม่ถึง 30 เซนติเมตร ขอบคุณที่นั่งดูรูปในมุมมองของเราจนมาถึงตรงนี้ ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้า ที่ที่เราก็ไม่รู้ว่าจะไปเดินเล่นกันต่อที่ไหน อ๋อแล้วชื่อทั้งหมดอ่ะเราตั้งขึ้นมาเฉยๆ นะ ไม่ใช่ชื่อจริงๆ พวกเขาหรอก merci beaucoup