ติดตามข่าวน้องๆทีมหมูป่า 13 ชีวิต ขอส่งแรงใจให้ทุกคนรวมทั้งเจ้าหน้าที่ ให้ปลอดภัย
คนไทยทุกคนเอาใจช่วยอยู่
วันนี้เห็นข่าวนี้ เลยนึกถึงเรื่องความสัมพันธ์ ไทย-จีน เมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว
เมื่อสถานการณ์การเมืองในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้มีการเปลี่ยนแปลง
ภัยคอมมูนิสต์เริ่มเป็นที่วิตกมากขึ้น มีผู้ที่มีวิสัยทัศน์ยอดเยี่ยมเล็งว่า
เราควรจะเปิดความสัมพันธไมตรีกับจีนขึ้นมาใหม่ คณะทำงานปิดทองหลังพระจึงเริ่มทำงานนี้แบบลับๆ
หลังการเลือกตั้ง 2518 พรรคกิจสังคมที่มี ม.ร.ว คึกฤทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรค แม้จะมี
คะแนนเสียงเพียง 18 เสียง
แต่ก็สามารถขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้
ม.ร.ว คึกฤทธิ์ สานต่อนโยบายนี้ทันที โดยมอบหมายให้
นาย
อานันท์ ปันยารชุน เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน และ
พลตรีชาติชาย ชุณหะวัณ ร.ม.ต ว่าการกระทรวงต่างประเทศทำงานร่วมกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ยศและตำแหน่งในขณะนั้น
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น จนถึงขั้นตอนสุดท้ายที่จะนัดหมายการเดินทาง
ช่วงที่ดำเนินการอย่างลับๆ ของภารกิจนี้ สหรัฐ ซึ่งไม่ต้องการให้ดีลนี้เกิดขึ้น
เริ่มระแคะระคาย วันที่ฝ่ายไทยต้องให้คำตอบยืนยันครั้งสุดท้ายกับจีน
เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ รู้แกว แสร้งจัดงานเลี้ยงรับรอง พลตรีชาติชาย
เวลานัดหมายกับฝ่ายจีนใกล้เข้ามาทุกที ในใจของฝั่งไทยก็ร้อนรุ่ม แต่ยังหาทางปลีกตัว
ออกจากงานเลี้ยงไม่ได้ ในท่ามกลางความกังวลนี้ มีผู้หนึ่งเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ได้
ท่านผู้นี้คือ
ท่านผู้หญิง บุญเรือน ชุณหะวัณ ภรรยาท่านชาติชาย
ท่านผู้หญิงบุญเรือน เป็นผู้หญิงที่มีหน้าตาสะสวย และด้วยการที่เป็นภรรยาท่านทูตชาติชาย
เรื่องการเข้าสังคมจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับท่าน ท่านแก้ปัญหาด้วยการชวน คิสซิงเจอร์
เต้นรำ เต้นเพลงแล้วเพลงเล่า คิสซิงเจอร์
เหมือนต้องมนต์สะกด ละสายตาจากพลตรี ชาติชาย
เจมส์ บอนด์ อย่างพลตรีชาติชาย พอได้จังหวะนาทีทองแบบนี้ รีบพุ่งไปที่ห้องครัวที่นายอานันท์ รออยู่ก่อนแล้ว
ทั้งคู่เปลี่ยนเสื้อผ้า ออกไปพบฝ่ายจีน นัดหมายกันเป็นครั้งสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย
แล้วจึงกลับมาในงาน โดยที่ฝ่ายสหรัฐไม่รู้เรื่องเลย
วันนี้ 29 มิถุนายน เมื่อ 43 ปีที่แล้ว ม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมช จึงบินไปเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ
เปิดความสัมพันธ์ ไทย-จีน ขึ้นมาใหม่
เป็นมิตรภาพที่ยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบันนี้
ภาพ นายกคึกฤทธิ์ จับมือกับ ท่านประธาน เหมาเจ๋อตง
ภาพ นายกคึกฤทธิ์ กับ ท่านนายกรัฐมนตรี โจวเอินไหล ซึ่งขณะนั้นป่วยเป็นมะเร็ง
ในตอนต้น มีการกล่าวถึงผู้ปิดทองหลังพระในการประสานภารกิจทางการทูต
ที่ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดในรอบหลายสิบปี
สองในหลายๆท่านที่จะยกมาในที่นี่คือใคร ?
ย้อนไป พ.ศ 2498 ในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.
มีการประชุมกลุ่มประเทศเอเชียแอฟริกา (AFRO-ASIAN NATION) ที่นครบันดง ประเทศอินโดนีเซีย
ในการนี้ ที่ปรึกษาคนสนิทจอมพล ป. คือ
นายสังข์ พัทโนทัย ได้พบกับ พณ.ท่าน โจวเอินไหล
และประทับใจในบุคคลิกภาพของท่านโจว
เมื่อกลับมา คุณสังข์ได้เล่าพร้อมกับเสนอให้ จอมพล ป. เปิดสัมพันธ์กับจีน
และเพื่อแสดงความจริงใจ นายสังข์ ถึงกับยอมเสียสละส่งบุตรชาย และ บุตรสาว ที่ยังเล็กอยู่
ไปเป็นบุตรบุญธรรมท่านโจว
(เปรียบเสมือน ตัวประกันในสมัยโบราณของจีน)
บุตรสองคนของนายสังข์นั้นคือ
เด็กชาย วรรณไว และเด็กหญิง สิรินทร์ พัทโนทัย
ภาพ นายก โจวเอินไหล กับ เด็กหญิงสิรินทร์ พัทโนทัย
ซึ่งเด็กทั้งสองคนนี้แหละ ที่เป็นคนประสานให้ภารกิจ เปิดความสัมพันธ์ไทยจีนครั้งนี้
ประสบความสำเร็จอย่างราบรื่น เกิดผลประโยชน์มหาศาลระหว่างสองประเทศตราบจนทุกวันนี้
เนื้อเรื่องโดยละเอียดหาอ่านได้ในหนังสือ
มุกมังกร
หนังสือที่คุณ สิรินทร์ เขียนขึ้นจากประสบการณ์จริงๆ
ป.ล ในประวัติศาสตร์ไทย ยังมีผู้ปิดทองหลังพระในลักษณะนี้อีกมากมาย
แต่สังคมไทยมักไม่สืบหาค้นคว้าหาข้อเท็จจริง
คนเหล่านี้จึงถูกกลืนหายไปในประวัติศาสตร์ อย่างน่าเสียดาย
ป.ล 2 รูปโลโก้ของ จขกท ก็คือรูปท่านโจวเอินไหล ขณะประชุมที่บันดง นี่แหละ
ป.ล 3 เครื่องบินที่นายกรัฐมนตรีคึกฤทธิ์บินไปจีน เป็นเครื่องการบินไทยที่ชื่อว่า
"สุดาวดี"
ป.ล 4 เนื่องจากนายกโจว ป่วยหนัก คนที่ต้อนรับคณะไทยนอกจากงานเลี้ยงคือ
ท่านเติ้ง เสี่ยว ผิง
ป.ล 5 ไทยเป็นประเทศ
ลำดับที่ 101 ที่เปิดสัมพันธ์กับจีน
อาทิตย์หน้าไม่ว่างแล้ว อาจจะไม่ได้กลับมาเขียน พบกันใหม่ เมื่อห้องเพลงต้องการ
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** 29/6/2561 ความสัมพันธ์ไทย-จีน....เจมส์บอนด์ 007 ....มุกมังกร cnck
คนไทยทุกคนเอาใจช่วยอยู่
วันนี้เห็นข่าวนี้ เลยนึกถึงเรื่องความสัมพันธ์ ไทย-จีน เมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว
เมื่อสถานการณ์การเมืองในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้มีการเปลี่ยนแปลง
ภัยคอมมูนิสต์เริ่มเป็นที่วิตกมากขึ้น มีผู้ที่มีวิสัยทัศน์ยอดเยี่ยมเล็งว่า
เราควรจะเปิดความสัมพันธไมตรีกับจีนขึ้นมาใหม่ คณะทำงานปิดทองหลังพระจึงเริ่มทำงานนี้แบบลับๆ
หลังการเลือกตั้ง 2518 พรรคกิจสังคมที่มี ม.ร.ว คึกฤทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรค แม้จะมีคะแนนเสียงเพียง 18 เสียง
แต่ก็สามารถขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้
ม.ร.ว คึกฤทธิ์ สานต่อนโยบายนี้ทันที โดยมอบหมายให้
นาย อานันท์ ปันยารชุน เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน และ
พลตรีชาติชาย ชุณหะวัณ ร.ม.ต ว่าการกระทรวงต่างประเทศทำงานร่วมกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น จนถึงขั้นตอนสุดท้ายที่จะนัดหมายการเดินทาง
ช่วงที่ดำเนินการอย่างลับๆ ของภารกิจนี้ สหรัฐ ซึ่งไม่ต้องการให้ดีลนี้เกิดขึ้น
เริ่มระแคะระคาย วันที่ฝ่ายไทยต้องให้คำตอบยืนยันครั้งสุดท้ายกับจีน
เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ รู้แกว แสร้งจัดงานเลี้ยงรับรอง พลตรีชาติชาย
เวลานัดหมายกับฝ่ายจีนใกล้เข้ามาทุกที ในใจของฝั่งไทยก็ร้อนรุ่ม แต่ยังหาทางปลีกตัว
ออกจากงานเลี้ยงไม่ได้ ในท่ามกลางความกังวลนี้ มีผู้หนึ่งเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ได้
ท่านผู้นี้คือ ท่านผู้หญิง บุญเรือน ชุณหะวัณ ภรรยาท่านชาติชาย
ท่านผู้หญิงบุญเรือน เป็นผู้หญิงที่มีหน้าตาสะสวย และด้วยการที่เป็นภรรยาท่านทูตชาติชาย
เรื่องการเข้าสังคมจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับท่าน ท่านแก้ปัญหาด้วยการชวน คิสซิงเจอร์
เต้นรำ เต้นเพลงแล้วเพลงเล่า คิสซิงเจอร์ เหมือนต้องมนต์สะกด ละสายตาจากพลตรี ชาติชาย
เจมส์ บอนด์ อย่างพลตรีชาติชาย พอได้จังหวะนาทีทองแบบนี้ รีบพุ่งไปที่ห้องครัวที่นายอานันท์ รออยู่ก่อนแล้ว
ทั้งคู่เปลี่ยนเสื้อผ้า ออกไปพบฝ่ายจีน นัดหมายกันเป็นครั้งสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย
แล้วจึงกลับมาในงาน โดยที่ฝ่ายสหรัฐไม่รู้เรื่องเลย
วันนี้ 29 มิถุนายน เมื่อ 43 ปีที่แล้ว ม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมช จึงบินไปเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ
เปิดความสัมพันธ์ ไทย-จีน ขึ้นมาใหม่ เป็นมิตรภาพที่ยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบันนี้
ภาพ นายกคึกฤทธิ์ จับมือกับ ท่านประธาน เหมาเจ๋อตง
ภาพ นายกคึกฤทธิ์ กับ ท่านนายกรัฐมนตรี โจวเอินไหล ซึ่งขณะนั้นป่วยเป็นมะเร็ง
ในตอนต้น มีการกล่าวถึงผู้ปิดทองหลังพระในการประสานภารกิจทางการทูต
ที่ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดในรอบหลายสิบปี สองในหลายๆท่านที่จะยกมาในที่นี่คือใคร ?
ย้อนไป พ.ศ 2498 ในสมัยรัฐบาลจอมพล ป.
มีการประชุมกลุ่มประเทศเอเชียแอฟริกา (AFRO-ASIAN NATION) ที่นครบันดง ประเทศอินโดนีเซีย
ในการนี้ ที่ปรึกษาคนสนิทจอมพล ป. คือ นายสังข์ พัทโนทัย ได้พบกับ พณ.ท่าน โจวเอินไหล
และประทับใจในบุคคลิกภาพของท่านโจว
เมื่อกลับมา คุณสังข์ได้เล่าพร้อมกับเสนอให้ จอมพล ป. เปิดสัมพันธ์กับจีน
และเพื่อแสดงความจริงใจ นายสังข์ ถึงกับยอมเสียสละส่งบุตรชาย และ บุตรสาว ที่ยังเล็กอยู่
ไปเป็นบุตรบุญธรรมท่านโจว (เปรียบเสมือน ตัวประกันในสมัยโบราณของจีน)
บุตรสองคนของนายสังข์นั้นคือ
เด็กชาย วรรณไว และเด็กหญิง สิรินทร์ พัทโนทัย
ภาพ นายก โจวเอินไหล กับ เด็กหญิงสิรินทร์ พัทโนทัย
ซึ่งเด็กทั้งสองคนนี้แหละ ที่เป็นคนประสานให้ภารกิจ เปิดความสัมพันธ์ไทยจีนครั้งนี้
ประสบความสำเร็จอย่างราบรื่น เกิดผลประโยชน์มหาศาลระหว่างสองประเทศตราบจนทุกวันนี้
เนื้อเรื่องโดยละเอียดหาอ่านได้ในหนังสือ มุกมังกร
หนังสือที่คุณ สิรินทร์ เขียนขึ้นจากประสบการณ์จริงๆ
ป.ล ในประวัติศาสตร์ไทย ยังมีผู้ปิดทองหลังพระในลักษณะนี้อีกมากมาย
แต่สังคมไทยมักไม่สืบหาค้นคว้าหาข้อเท็จจริง คนเหล่านี้จึงถูกกลืนหายไปในประวัติศาสตร์ อย่างน่าเสียดาย
ป.ล 2 รูปโลโก้ของ จขกท ก็คือรูปท่านโจวเอินไหล ขณะประชุมที่บันดง นี่แหละ
ป.ล 3 เครื่องบินที่นายกรัฐมนตรีคึกฤทธิ์บินไปจีน เป็นเครื่องการบินไทยที่ชื่อว่า "สุดาวดี"
ป.ล 4 เนื่องจากนายกโจว ป่วยหนัก คนที่ต้อนรับคณะไทยนอกจากงานเลี้ยงคือ ท่านเติ้ง เสี่ยว ผิง
ป.ล 5 ไทยเป็นประเทศลำดับที่ 101 ที่เปิดสัมพันธ์กับจีน
อาทิตย์หน้าไม่ว่างแล้ว อาจจะไม่ได้กลับมาเขียน พบกันใหม่ เมื่อห้องเพลงต้องการ