คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ถึงแม้ยากที่จะเชื่อได้ว่า พรุ่งนี้ย่อมจะดีกว่าวันนี้
แต่ควรลองพยายามพิจารณาดูว่า แต่ละเวลาวินาที เราย่อมจะสามารถสลัดหลุดหรือเป็นอิสระ
จากอดีตได้เสมอ อดีตของเราตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน จนถึงแม้แต่ใน ๑ นาทีที่แล้ว ก็จะ
แสดงผลถึงตัวตนและจิตใจของเราณ.ขณะนี้ ได้เพียงแต่ในรูปแบบของลักษณะหน้าตา รูปร่าง
สุขภาพ สภาพอารมณ์ ความเชื่อ ความคิด ความทรงจำ ปัญหาณ.ปัจจุบัน ซึ่งถึงแม้มันจะส่งผล
ให้เห็นเป็นเราเช่นในตอนนี้ แต่เราก็ย่อมสามารถที่จะทิ้งความกังวลเกี่ยวกับมันได้ทั้งหมด ไว้ใน
วินาทีนี้ และเริ่มวินาทีต่อไปด้วยการคิดใหม่ ทำสิ่งใหม่ ได้เสมออยู่ตลอดเวลา เพราะสิ่งหลักที่
เชื่อมโยงเราเข้ากับอดีตจนเราหลงคิดว่ามันมีความสืบเนื่องถึงกันจนแยกไม่ออก ก็คือความทรง
จำที่เรายึดมั่นถือมั่นเอาไว้เท่านั้นเอง แต่แท้ที่จริงแล้ว เราสามารถเป็นอิสระจากสภาพตัวตนเก่า
ได้อยู่ตลอดเวลา ถ้าเราเลือกที่จะทำ
แต่ควรลองพยายามพิจารณาดูว่า แต่ละเวลาวินาที เราย่อมจะสามารถสลัดหลุดหรือเป็นอิสระ
จากอดีตได้เสมอ อดีตของเราตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน จนถึงแม้แต่ใน ๑ นาทีที่แล้ว ก็จะ
แสดงผลถึงตัวตนและจิตใจของเราณ.ขณะนี้ ได้เพียงแต่ในรูปแบบของลักษณะหน้าตา รูปร่าง
สุขภาพ สภาพอารมณ์ ความเชื่อ ความคิด ความทรงจำ ปัญหาณ.ปัจจุบัน ซึ่งถึงแม้มันจะส่งผล
ให้เห็นเป็นเราเช่นในตอนนี้ แต่เราก็ย่อมสามารถที่จะทิ้งความกังวลเกี่ยวกับมันได้ทั้งหมด ไว้ใน
วินาทีนี้ และเริ่มวินาทีต่อไปด้วยการคิดใหม่ ทำสิ่งใหม่ ได้เสมออยู่ตลอดเวลา เพราะสิ่งหลักที่
เชื่อมโยงเราเข้ากับอดีตจนเราหลงคิดว่ามันมีความสืบเนื่องถึงกันจนแยกไม่ออก ก็คือความทรง
จำที่เรายึดมั่นถือมั่นเอาไว้เท่านั้นเอง แต่แท้ที่จริงแล้ว เราสามารถเป็นอิสระจากสภาพตัวตนเก่า
ได้อยู่ตลอดเวลา ถ้าเราเลือกที่จะทำ
แสดงความคิดเห็น
ถ้ารู้สึกว่าชีวิตตัวเองตกต่ำ สิ่งที่คิด สิ่งที่หวัง ผิดพลาดไปหมด ควรเอาธรรมมะเรื่องไหนเข้าช่วยดีคะ
แล้วน้องสาวก็ทักว่าให้สวดมนต์ แผ่เมตตาก่อนนอน มีคนท้วงว่าอาจมีอะไรบางอย่างที่เราไปทำผิดพลาด ต่อผู้อื่นเอาไว้โดยที่ไม่รู้ตัว
เค้าก็แค่มาตามทวงเอาที่เรา ครอบครัวเรา คนรักของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างถึงดิ่งลงเหวไปหมด ทั้งการเงิน (เป็นหนี้จากการลงทุนที่ผิดพลาด)
การงาน (ซวยเจอแจคพอต เครียดจนต้องลาออก และไม่สามารถทำงานได้อีกเลย) ครอบครัว (ทะเลาะกัน และเจ็บป่วย ทั้งผ่าตัด ทั้งไอซียู)
สุขภาพ (ป่วยทั้งทางกาย ทางจิตใจ) และความรัก (ไม่มีอะไรจะอธิบายแล้ว)
เรารู้ตัวว่าจิตใจเรายังไม่นิ่ง ยังฟุ้งซ่าน อยู่ไม่สุข สร้างมโนกรรมซ้ำหปซ้ำมา คิดฟุ้ง เรื่องต่างๆ เต็มไปหมด
เราเคยเป็นคนที่ไม่เชื่อในศาสนาใดเป็นพิเศษ ก็อ่านและเรียนรู้ทุกศาสนา
แต่ตอนนี้ เราต้องการเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจอย่างมาก
ไม่ทราบมีคำแนะนำไหมคะ
หรือควรทำยังไงดี จิตใจถึงจะฟื้นฟูขึ้นมาได้บ้าง
ช่วงระยะเวลาก่อนหน้านี้ เราจะคุยกับคนๆนึงทุกวัน จนกลายเป็นความเคยชิน พอไม่มีแล้ว
ทุกคืน ก่อนหลับตานอน ตอนที่อยู่เงียบๆมันจะมีแต่เรื่องต่างๆที่เคยผ่านมา ผู้คนที่เคยมีไมตรี แต่จากกันไปแล้ว
วนเวียนในความคิด ในหัว และสลัดไปไม่พ้น และมันเป็นฝันร้ายที่ทำให้ไม่อยากเจอวันพรุ่งนี้เลยเรากลัวมันแย่ไปกว่าวันนี้
ทุกการตัดสินใจของเราเอง ยิ่งตัดสินใจ ยิ่งพบกับความผิดพลาด
ตั้งแต่วันนั้น เราไม่เคยมีความรู้สึกว่า วันพรุ่งนี้มันจะดี และมีความหวังอีกแล้ว