พอดีไปส่งพัสดุไปต่างประเทศแล้วก็ลืมบอกไปว่าให้ลงทะเบียน ปรากฎว่าพนักงานส่งแบบธรรมดาให้ ซึ่งทางเราก็ได้ขอโทษและขอให้แก้ไขเป็นลงทะเบียนแทน แต่ปรากฎว่า จนท.บอกว่าไม่สามารถแก้ไขให้ได้แล้วเพราะบิลแรกคิดเงินไปแล้วถ้าจะส่งแบบลงทะเบียนคือต้องเปิดบิลใหม่เลยส่วนเงินที่คิดไปแล้วก็ไม่ได้คืนนะ เราก็เลยขอเรียกผู้จัดการสาขามาดูแลต่อ แต่มีน้องพนักงานอีกคนเดินมาบอกว่าไม่ยากเลยก็คิดเงินเพิ่มแค่ค่าลงทะเบียนก็ได้ สรุปคือทำได้เพิ่มเติมค่าบริการเพิ่มเติมได้ (ค่าบริการแบบลงทะเบียนแพงกว่ากว่าธรรมดา) แต่ที่แน่ ๆ คือที่หน้าพัสดุเราได้เขียนแปะไว้ด้วยว่า "ลงทะเบียน" ซึ่งพนักงานไม่ได้สังเกตหรืออย่างไร (กรณีที่ลืมบอกไป) หรือพนักงานรับมาก็กด ๆ เข้าระบบเสร็จ แล้วทำไมพนักงานอีกคนบอกว่าแก้ไขได้ เราก็เลยสงสัยว่าระบบของไปรษณีย์ไทยเป็นอย่างไรกันแน่ ส่วนอีกซองเราก็ส่งภายในประเทศโดยที่อยู่ผู้ส่งอยุ่กรุงเทพฯ แต่ไม่มีแขวงให้ นอกนั้นมีครบหมด พนักงานท่านเดิมบอกว่าอาจจะตีกลับนะชิ้นนี้ เราก็กังวลนะเพราะว่าเคยเจอมาบ่อย บางทีไม่มีหมู่ไปรษณีย์ก็ส่งไมได้ ทั้ง ๆ ที่มีเบอร์โทรศัพท์ติดที่หน้ากล่อง จริง ๆ ระบบไปรษณีย์คือในการจัดส่งคือยึดจากอะไร เราเข้าใจนะว่ายิ่งข้อมูลครบก็ยิ่งหาบ้านง่าย เช่นต้องมีบ้านเลขที่ ต. อ. จ.รหัสไปรษณีย์ ถ้าอันไหนตกหล่นไปก็อาจจะหาไม่เจอได้ ของก็ตีกลับประมาณนี้ รหัสไปรษณีย์นี่แยกไม่ได้ใช่ไหมที่จะจัดส่ง หรืออย่างไร
สรุปคือ.....เราไปส่งพัสดุไปต่างประเทศลืมแจ้งว่า ลงทะเบียน พนักงานส่งแบบธรรมดาให้ ขอเปลี่ยนตอนแรกบอกไม่ได้ ถ้าจะส่งลงทะเบียนจะไม่คืนยอดบิลแรกให้แล้วก็จ่ายใหม่ (คือทำการยกเลิกบิลแรกไม่ได้เพราะเงินโอนไปแล้ว) แต่ที่หน้าซอยพัสดุเขียนชัดเจนว่าลงทะเบียน
คำถามคือ....ยกเลิกไม่ได้หรือถ้าลูกค้าส่งผิดหรือพนักงานไม่รอบคอบ
คำถามอีกอย่างคือ...พนักงานพูดจาห้วน ๆ หน้าตาไม่ค่อยยิ้มแย้มนี่คือ.....ไปรษณีย์ไม่ได้มีการอบรมมารยาทการบริการมาหรืออย่างไร ถึงเจอพนักงานท่านนี้ซึ่งเป็นผู้หญิงอายุยังไม่เยอะมาก แต่ก็นะ.... สำหรับพนักงานท่านนี้เจอหลายหนแล้ว บางทีก็ทำผิด ๆ ถูก ๆ บางทียังถามเพื่อนอีกว่า รหัสประเทศนี้คืออะไรหรือ อะไรประมาณนั้น คือไม่มีการเตรียมความรู้ไว้รองรับการบริการเลย จริง ๆ หรือไปรษณีย์ไมมีการเทรนงานก่อนแล้วจับมานั่งบริการเลย
และวันที่ไปใช้บริการก็มีการล้างแอร์สำนักงาน โดยไม่มีป้ายใด ๆ ติดที่ตู้กดคิวเลย เราก็กดๆไปดิ ไม่มีพนักงานหรืออะไรมาบอกเลย แล้วพอเดินไปเคาน์เตอร์เราก็ยืนรอตามความเหมาะสมใครมาก่อนก็ให้ก่อน พนักงานท่านเดิมเรียกเราไปทำรายการแต่เราเห็นว่ามีน้องคนนึงมาก่อนเราแต่อยู่ีคนละช่องเราเลยถามว่า น้องเค้ามาก่อนไม่ใช่หรือไม่ให้เค้ามาก่อนตามคิว แต่พนักงานบอกว่าอะไรรู้ไหม "ก็ไฟดับ ใครมาต่อแถวไหนก็อยู่แถวนั้นแหละ ยึดตามแถวเอา แล้วบอกว่า แล้วแต่พี่ละกันจะยังไง ...เอิ่ม พนักงานท่านนี้นี่สุด ๆ เลยอะ คือมารยาทของคนคือใครมาก่อนก็ต้องได้ก่อนนะตามหลักทั่วไป เราพูดเสียงดังพอสมควรน้องคนนั้นเค้าก็มองนะ ตอนแรกจะเรียกน้องเค้ามาก่อนละแต่พนักงานท่านนี้ก็ทำหน้าไม่พอใจ "
คือยังไงหรือ....เราว่าส่วนใหญ่เป็นที่ตัวพนักงานแล้วแหละ ไปรษณีย์เค้าอาจจะทำดีแล้วมีระบบดีแล้ว
เราอยากให้ตอนที่สอบสัมภาษณ์เข้ามาทำงาน อยากให้พนักงานกลับไปฟังตัวเองตอบคำถามว่าจะตั้งใจทำงานหรือให้สัมภาษณ์ว่าอย่างไร เพราะพอได้เข้ามาทำงานจริง ๆ เหมือนรอรับเงินเดือนโดยไม่มีหัวใจบริการเลยจริงๆ
ดีนะที่ยังมีบริการขนส่งแบบอื่นให้รองรับเยอะขึ้น เช่น เคอร์รี่ ดีเอชแอล เอสซีจี ฯลฯ แต่ก็แล้วแต่สาขาอีกเช่นกัน เราคิดนะว่าทำไมงานบริการ เดี๋ยวนี้มันบริการกันด้วยแรงงานมากกว่าด้วยใจหรือเปล่า งานบริการจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องยากเลยถ้าเอาใจใส่ต่อตัวงาน เหมือนงานโรงแรม ไปดูตัวอย่างเค้าบ้างก็ได้ งานบริการที่ดีเป็นอย่างไร งานให้บริการคืออย่างไรกันแน่
เห้อ นะ ก็ต้องยอมรับไปแหละ .........ส่วนหนึ่งของประชาชนชาวไทย.......ไม่ได้ทั้งหมดแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ยังทำงานเรื่อย ๆ เปื่อยๆ
หรือว่าง ๆ จัดคนไปดูงานต่างประเทศบ้างก็ดีนะ ...จะได้เอามาปรับปรุงหน่วยงานกันบ้าง แล้วการจะรับคนมาทำงานนะ เลือกมากหน่อยอย่าหลับตาจิ้มมาทำงาน
ไปรษณีย์ไทย ..ใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้าง
สรุปคือ.....เราไปส่งพัสดุไปต่างประเทศลืมแจ้งว่า ลงทะเบียน พนักงานส่งแบบธรรมดาให้ ขอเปลี่ยนตอนแรกบอกไม่ได้ ถ้าจะส่งลงทะเบียนจะไม่คืนยอดบิลแรกให้แล้วก็จ่ายใหม่ (คือทำการยกเลิกบิลแรกไม่ได้เพราะเงินโอนไปแล้ว) แต่ที่หน้าซอยพัสดุเขียนชัดเจนว่าลงทะเบียน
คำถามคือ....ยกเลิกไม่ได้หรือถ้าลูกค้าส่งผิดหรือพนักงานไม่รอบคอบ
คำถามอีกอย่างคือ...พนักงานพูดจาห้วน ๆ หน้าตาไม่ค่อยยิ้มแย้มนี่คือ.....ไปรษณีย์ไม่ได้มีการอบรมมารยาทการบริการมาหรืออย่างไร ถึงเจอพนักงานท่านนี้ซึ่งเป็นผู้หญิงอายุยังไม่เยอะมาก แต่ก็นะ.... สำหรับพนักงานท่านนี้เจอหลายหนแล้ว บางทีก็ทำผิด ๆ ถูก ๆ บางทียังถามเพื่อนอีกว่า รหัสประเทศนี้คืออะไรหรือ อะไรประมาณนั้น คือไม่มีการเตรียมความรู้ไว้รองรับการบริการเลย จริง ๆ หรือไปรษณีย์ไมมีการเทรนงานก่อนแล้วจับมานั่งบริการเลย
และวันที่ไปใช้บริการก็มีการล้างแอร์สำนักงาน โดยไม่มีป้ายใด ๆ ติดที่ตู้กดคิวเลย เราก็กดๆไปดิ ไม่มีพนักงานหรืออะไรมาบอกเลย แล้วพอเดินไปเคาน์เตอร์เราก็ยืนรอตามความเหมาะสมใครมาก่อนก็ให้ก่อน พนักงานท่านเดิมเรียกเราไปทำรายการแต่เราเห็นว่ามีน้องคนนึงมาก่อนเราแต่อยู่ีคนละช่องเราเลยถามว่า น้องเค้ามาก่อนไม่ใช่หรือไม่ให้เค้ามาก่อนตามคิว แต่พนักงานบอกว่าอะไรรู้ไหม "ก็ไฟดับ ใครมาต่อแถวไหนก็อยู่แถวนั้นแหละ ยึดตามแถวเอา แล้วบอกว่า แล้วแต่พี่ละกันจะยังไง ...เอิ่ม พนักงานท่านนี้นี่สุด ๆ เลยอะ คือมารยาทของคนคือใครมาก่อนก็ต้องได้ก่อนนะตามหลักทั่วไป เราพูดเสียงดังพอสมควรน้องคนนั้นเค้าก็มองนะ ตอนแรกจะเรียกน้องเค้ามาก่อนละแต่พนักงานท่านนี้ก็ทำหน้าไม่พอใจ "
คือยังไงหรือ....เราว่าส่วนใหญ่เป็นที่ตัวพนักงานแล้วแหละ ไปรษณีย์เค้าอาจจะทำดีแล้วมีระบบดีแล้ว
เราอยากให้ตอนที่สอบสัมภาษณ์เข้ามาทำงาน อยากให้พนักงานกลับไปฟังตัวเองตอบคำถามว่าจะตั้งใจทำงานหรือให้สัมภาษณ์ว่าอย่างไร เพราะพอได้เข้ามาทำงานจริง ๆ เหมือนรอรับเงินเดือนโดยไม่มีหัวใจบริการเลยจริงๆ
ดีนะที่ยังมีบริการขนส่งแบบอื่นให้รองรับเยอะขึ้น เช่น เคอร์รี่ ดีเอชแอล เอสซีจี ฯลฯ แต่ก็แล้วแต่สาขาอีกเช่นกัน เราคิดนะว่าทำไมงานบริการ เดี๋ยวนี้มันบริการกันด้วยแรงงานมากกว่าด้วยใจหรือเปล่า งานบริการจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องยากเลยถ้าเอาใจใส่ต่อตัวงาน เหมือนงานโรงแรม ไปดูตัวอย่างเค้าบ้างก็ได้ งานบริการที่ดีเป็นอย่างไร งานให้บริการคืออย่างไรกันแน่
เห้อ นะ ก็ต้องยอมรับไปแหละ .........ส่วนหนึ่งของประชาชนชาวไทย.......ไม่ได้ทั้งหมดแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ยังทำงานเรื่อย ๆ เปื่อยๆ
หรือว่าง ๆ จัดคนไปดูงานต่างประเทศบ้างก็ดีนะ ...จะได้เอามาปรับปรุงหน่วยงานกันบ้าง แล้วการจะรับคนมาทำงานนะ เลือกมากหน่อยอย่าหลับตาจิ้มมาทำงาน