ขอความรู้หน่อยคะ
เรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล แล้ว หากผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยอยู่ ในกระบวนการต้องยุติ เรื่องไหมค่ะ อยากทราบหนะค่ะ
รวิฐา อาจผิดหวังอีกครั้ง นำคำวินิจฉัยผู้ตรวจการฯ ..ชงเข้า สนช./spotlight
จุดส่งมอบสินค้าปลอดอากร(Pick up Counter) ยังไม่จบ
เปิด พรป.ผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุชัด
คดีอยู่ในศาล.. ให้ยุติการพิจารณา
*************
หลายคนคงจะได้ยินบ่อยครั้ง ถึงชื่อของ รวิฐา พงศ์นุชิต นายกสมาคมการค้าร้านค้าปลอดอากร ซึ่งมีสมาชิกคือ ห้างสรรพสินค้าเครือใหญ่ ทั้งในและต่างประเทศ เข้าร่วม
ชื่อของเธอกลายเป็น “ตำนาน” อดีตของเธอคือ “ไพฑูรย์ พงษ์เกสร” รองอธิบดีกรมสรรพากร ผู้ออกมาแถลงข่าวให้การการันตีเรื่องการขายหุ้น 7.3 หมื่นล้านโดยไม่ต้องเสียภาษีแม้สตางค์แดงเดียว ของอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ในอดีต เธอเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามใหม่...นั่นเอง
แล้วมันเกิดปัญหาอะไรจากนั้นต่อมา...เมื่อเธอออกจากราชการ “รวิฐา พงศ์นุชิต” กลับมาในมาดของ ตัวแทน “ล๊อตเต้ ดิวตี้ฟรี ไทยแลนด์” ร่วมถือหุ้นสลับซับซ้อน เพื่อที่จะทำธุรกิจร้านค้าปลอดอากรในเมือง โดยต้องการจะให้รัฐบาลช่วยเปิดช่องทางนำสินค้าออกในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ดอนเมือง สร้างผลกำไรให้กับธุรกิจของเธอและพรรคพวก
ทีนี้เรื่องมันมีอยู่ว่า ธุรกิจในท่าอากาศยานฯ มันใช้ระบบประมูล ที่เรียกว่าสัมปทาน
ที่นี้เจ้าที่ทำอยู่ เขาก้อประมูลมาอย่างถูกต้อง (มีบริษัทเข้าร่วมการแข่งขันทั้งด้านราคา และ ด้านเทคนิค หลายเจ้า) และย้ำว่า ยังอยู่ในระยะเวลาสัญญาสัมปทาน
แต่..เธอจะมาของแบ่งพื้นที่ไปใช้ มองไปมองมา คนอ่านกฎหมายรู้ ดูกฎหมายเป็น เขาก็จะตั้งคำถามกันว่า มันจะต่างอะไรกับ ปล้นกลางวันแสก ๆ กันนี่หละ
เธอไปร้องหลายแห่ง ไปร้องหลายที่ โดยใช้คอนเน็คชั่นที่ไม่ธรรมดาของคนเคยเป็น รองอธิบดีกรมสรรพากร ไม่ว่าจะเป็น พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, คุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กรมศุลกากร, ทอท. , ผู้ตรวจการแผ่นดิน, สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
คือไปร้องที่ไหน ๆ ก็ตาม ส่วนใหญ่เขาก็เห็นว่า สัมปทานเดิมยังไม่หมด จะไปแบ่งจากมือผู้รับสัมปทานเดิมเขาได้อย่างไร หน่วยงานรัฐจะโดนฟ้องร้อง เสีย “ค่าโง่” กัน บักโกรก แน่ ๆ
แต่มันก็น่าแปลกว่า กิจกรรมร้องเรียนอันล่าสุด ที่เธอนำมากล่าวอ้างคือผลร้องเรียนกับ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้วินิจฉัย ท่านผู้ตรวจการฯ ก็วินิจฉัยให้กับเธอเสียด้วย เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560
เขียนถึงตรงนี้ นึกถึงเพลง “พี่เต๋อ” ... มันแปลกดีนะ... มันแปลกดีม๊ะ...
เรื่องมันแปลกตรงที่ว่า...ผู้ตรวจการแผ่นดิน...วินิจฉัยออกมาเป็นหนึ่งในหน่วยงานส่วนที่เห็นแตกต่างจากส่วนใหญ่ที่เธอไปร้องเรียน และส่งเรื่องไปให้ คณะรัฐมนตรี
แล้วกำลังนี้ !!! ... จะชงให้เรื่องไปถึง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณาด้วย
ที่ว่าแปลกคือ.. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ.2560
มาตรา 37 กำหนดว่า...ห้ามมิให้ผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้วเห็นว่ามีลักษณะดังต่อไปนี้ ไว้พิจารณา
(2) เรื่องที่มีการฟ้องร้องเป็นคดีอยู่ในศาลหรือเรื่องที่ศาลมีคำพิพากษา คำสั่ง หรือคำวินิจฉัยเสร็จเด็ดขาดแล้ว เว้นแต่เป็นการศึกษาเพื่อประโยชน์ในการเสนอแนะให้มีการปรับปรุงกฎหมายหรือกฎที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม
เราตามมาดู .. ในวรรคสุดท้ายของมาตรานี้ เขียนไว้อย่างชัดเจนอีกเช่นกันว่า “...ในกรณีที่ความปรากฏในภายหลังว่าเป็นเรื่องที่มีลักษณะตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินสั่งยุติเรื่อง”
คุณทั้งหลายคงอดสังสัยไม่ได้ว่า...แล้วมันมีคดีไปขึ้นโรงขึ้นศาลกันตั้งแต่ตอนไหน
ตามเรามาอ่านข่าวนี้กัน .. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 เวลาประมาณ 10.00 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำสั่งรับคำฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อท. 352/2560 ระหว่างนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการ ด้านกลไกการปราบปรามการทุจริต คณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายประสงค์ พูนธเนศ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 18 คน หนึ่งในข้อกล่าวหา ในข้อที่ 3. ไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าปลอดอากรในเมืองรายอื่นเช่าพื้นที่ในสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง เพื่อใช้เป็นจุดส่งมอบสินค้า (Pick-up Counter)
มันก็น่าจะชัดเจนว่าเรื่องนี้ ศาลท่านรับพิจารณาแล้ว ทำไมกระบวนการที่เกี่ยวกับผู้ตรวจการแผ่นดิน ยังถูกนำมากล่าวอ้าง จะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.ต่อไปอีก ...
ไม่กดดัน ก็เหมือน กดดัน
ควรจะให้เป็นข้อยุติ เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ บนแผ่นดินไทย ได้พิจารณาตัดสินมากกว่า ...
คัดลอกจาก เพจ 1morenews
เรื่องที่ศาลรับคดีแล้ว ผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้องยุติกระบวนการวินิจฉัย ใช่ไหม
เรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล แล้ว หากผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยอยู่ ในกระบวนการต้องยุติ เรื่องไหมค่ะ อยากทราบหนะค่ะ
รวิฐา อาจผิดหวังอีกครั้ง นำคำวินิจฉัยผู้ตรวจการฯ ..ชงเข้า สนช./spotlight
จุดส่งมอบสินค้าปลอดอากร(Pick up Counter) ยังไม่จบ
เปิด พรป.ผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุชัด
คดีอยู่ในศาล.. ให้ยุติการพิจารณา
*************
หลายคนคงจะได้ยินบ่อยครั้ง ถึงชื่อของ รวิฐา พงศ์นุชิต นายกสมาคมการค้าร้านค้าปลอดอากร ซึ่งมีสมาชิกคือ ห้างสรรพสินค้าเครือใหญ่ ทั้งในและต่างประเทศ เข้าร่วม
ชื่อของเธอกลายเป็น “ตำนาน” อดีตของเธอคือ “ไพฑูรย์ พงษ์เกสร” รองอธิบดีกรมสรรพากร ผู้ออกมาแถลงข่าวให้การการันตีเรื่องการขายหุ้น 7.3 หมื่นล้านโดยไม่ต้องเสียภาษีแม้สตางค์แดงเดียว ของอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ในอดีต เธอเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามใหม่...นั่นเอง
แล้วมันเกิดปัญหาอะไรจากนั้นต่อมา...เมื่อเธอออกจากราชการ “รวิฐา พงศ์นุชิต” กลับมาในมาดของ ตัวแทน “ล๊อตเต้ ดิวตี้ฟรี ไทยแลนด์” ร่วมถือหุ้นสลับซับซ้อน เพื่อที่จะทำธุรกิจร้านค้าปลอดอากรในเมือง โดยต้องการจะให้รัฐบาลช่วยเปิดช่องทางนำสินค้าออกในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ดอนเมือง สร้างผลกำไรให้กับธุรกิจของเธอและพรรคพวก
ทีนี้เรื่องมันมีอยู่ว่า ธุรกิจในท่าอากาศยานฯ มันใช้ระบบประมูล ที่เรียกว่าสัมปทาน
ที่นี้เจ้าที่ทำอยู่ เขาก้อประมูลมาอย่างถูกต้อง (มีบริษัทเข้าร่วมการแข่งขันทั้งด้านราคา และ ด้านเทคนิค หลายเจ้า) และย้ำว่า ยังอยู่ในระยะเวลาสัญญาสัมปทาน
แต่..เธอจะมาของแบ่งพื้นที่ไปใช้ มองไปมองมา คนอ่านกฎหมายรู้ ดูกฎหมายเป็น เขาก็จะตั้งคำถามกันว่า มันจะต่างอะไรกับ ปล้นกลางวันแสก ๆ กันนี่หละ
เธอไปร้องหลายแห่ง ไปร้องหลายที่ โดยใช้คอนเน็คชั่นที่ไม่ธรรมดาของคนเคยเป็น รองอธิบดีกรมสรรพากร ไม่ว่าจะเป็น พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, คุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กรมศุลกากร, ทอท. , ผู้ตรวจการแผ่นดิน, สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
คือไปร้องที่ไหน ๆ ก็ตาม ส่วนใหญ่เขาก็เห็นว่า สัมปทานเดิมยังไม่หมด จะไปแบ่งจากมือผู้รับสัมปทานเดิมเขาได้อย่างไร หน่วยงานรัฐจะโดนฟ้องร้อง เสีย “ค่าโง่” กัน บักโกรก แน่ ๆ
แต่มันก็น่าแปลกว่า กิจกรรมร้องเรียนอันล่าสุด ที่เธอนำมากล่าวอ้างคือผลร้องเรียนกับ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้วินิจฉัย ท่านผู้ตรวจการฯ ก็วินิจฉัยให้กับเธอเสียด้วย เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560
เขียนถึงตรงนี้ นึกถึงเพลง “พี่เต๋อ” ... มันแปลกดีนะ... มันแปลกดีม๊ะ...
เรื่องมันแปลกตรงที่ว่า...ผู้ตรวจการแผ่นดิน...วินิจฉัยออกมาเป็นหนึ่งในหน่วยงานส่วนที่เห็นแตกต่างจากส่วนใหญ่ที่เธอไปร้องเรียน และส่งเรื่องไปให้ คณะรัฐมนตรี
แล้วกำลังนี้ !!! ... จะชงให้เรื่องไปถึง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณาด้วย
ที่ว่าแปลกคือ.. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ.2560
มาตรา 37 กำหนดว่า...ห้ามมิให้ผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้วเห็นว่ามีลักษณะดังต่อไปนี้ ไว้พิจารณา
(2) เรื่องที่มีการฟ้องร้องเป็นคดีอยู่ในศาลหรือเรื่องที่ศาลมีคำพิพากษา คำสั่ง หรือคำวินิจฉัยเสร็จเด็ดขาดแล้ว เว้นแต่เป็นการศึกษาเพื่อประโยชน์ในการเสนอแนะให้มีการปรับปรุงกฎหมายหรือกฎที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม
เราตามมาดู .. ในวรรคสุดท้ายของมาตรานี้ เขียนไว้อย่างชัดเจนอีกเช่นกันว่า “...ในกรณีที่ความปรากฏในภายหลังว่าเป็นเรื่องที่มีลักษณะตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินสั่งยุติเรื่อง”
คุณทั้งหลายคงอดสังสัยไม่ได้ว่า...แล้วมันมีคดีไปขึ้นโรงขึ้นศาลกันตั้งแต่ตอนไหน
ตามเรามาอ่านข่าวนี้กัน .. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 เวลาประมาณ 10.00 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำสั่งรับคำฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อท. 352/2560 ระหว่างนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการ ด้านกลไกการปราบปรามการทุจริต คณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายประสงค์ พูนธเนศ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 18 คน หนึ่งในข้อกล่าวหา ในข้อที่ 3. ไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าปลอดอากรในเมืองรายอื่นเช่าพื้นที่ในสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง เพื่อใช้เป็นจุดส่งมอบสินค้า (Pick-up Counter)
มันก็น่าจะชัดเจนว่าเรื่องนี้ ศาลท่านรับพิจารณาแล้ว ทำไมกระบวนการที่เกี่ยวกับผู้ตรวจการแผ่นดิน ยังถูกนำมากล่าวอ้าง จะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.ต่อไปอีก ...
ไม่กดดัน ก็เหมือน กดดัน
ควรจะให้เป็นข้อยุติ เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ บนแผ่นดินไทย ได้พิจารณาตัดสินมากกว่า ...
คัดลอกจาก เพจ 1morenews