ปัญหาด้านศีลธรรม
มีผู้บริหารฟีฟาหลายคนถูกกล่าวหาว่าให้สินบน และรับสินบน ไม่ว่าจะเป็นนายริคาร์โด ไทเซียรา ผู้บริหารฟีฟาบราซิล ที่ต้องลาออกเพราะมีข่าวว่าลูกสาววัย 10 ขวบของเขาได้เงินช่วยเหลือปีละ 3.4 ล้านดอลลาร์ ภายหลังจากที่เขาโหวตให้กาตาร์เป็นเจ้าภาพ ขณะที่นายโมฮัมเหม็ด บิน ฮัมมัม รองประธานฟีฟาของกาตาร์ จ่ายสินบนไปทั้งก่อนและหลังการโหวตถึง 5 ล้านดอลลาร์ จนต้องโทษแบนตลอดชีวิตจากฟีฟา ส่วนนายแจ็ค วอร์เนอร์ เจ้าหน้าที่ฟีฟาอีกคนถูกกล่าวหาว่ารับเงิน 2 ล้านดอลลาร์จากบริษัทกาตาร์จนต้องโทษแบนตลอดชีวิตเช่นกัน
ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน
สมาพันธ์สหภาพการค้าระหว่างประเทศรายงานว่าคนงานเนปาล และอินเดียมากถึง 1,200 คนเสียชีวิตในกาตาร์นับตั้งแต่ประเทศนี้ได้รับเลือกเมื่อปี 2553 ให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก โดยหนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดี้ยนของอังกฤษรายงานว่ากาตาร์ใช้แรงงานทาส โดยคนงานเหล่านี้ไม่ได้รับค่าแรง ถูกบังคับให้ทำงานท่ามกลางแดดร้อนโดยไม่มีน้ำดื่ม ถูกกักอยู่ในค่ายพักที่ซ่อมซอ แถมยังถูกยึดพาสปอร์ตเพื่อป้องกันการหนีกลับบ้าน
ปัญหาด้านการก่อสร้าง
กาตาร์ไม่มีสิ่งที่จะมารองรับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกเลย ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬาที่ต้องสร้างใหม่หมดทุกแห่ง รวมไปถึงโรงแรม และสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ทำให้คาดว่างบจะบานปลายถึง 200,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 4 เท่าที่รัสเซียใช้ในการจัดโอลิมปิกที่เมืองโซชิ
ที่สำคัญ เมืองลูซาอิล สถานที่จัดการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศนั้นยังไม่ปรากฎบนแผนที่ด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ สนามกีฬาติดแอร์ที่ใช้ระบบทำความเย็นแบบที่ไม่เคยมีใครใช้มาก่อนอาจสร้างไม่ได้จริงตามที่กาตาร์รับปากเอาไว้ เพราะบริษัทที่รับสร้างสนามกีฬากล่าวว่าระบบนี้แพงเกินไป และไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ในสเกลใหญ่แบบนี้
ล่าสุด มีรายงานว่ากาตาร์ได้ลดจำนวนสนามกีฬาระดับเวิล์ดคลาสที่จะสร้างลงเหลือ 8 สนามแล้วจากที่รับปากเอาไว้ว่าจะสร้าง 10 สนาม
ปัญหาเรื่องสภาพอากาศ
กาตาร์มีอากาศร้อนจัดถึง 48 องศาเซลเซียสในหน้าร้อน ทำให้มีการเสนอให้ย้ายการแข่งขันไปจัดช่วงหน้าหนาว ซึ่งจะก่อให้เกิดเรื่องยุ่งยากตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นตารางการแข่งขันฟุตบอลลีกต่าง ๆ ของยุโรปที่จะต้องรวนตามไปด้วย แถมฟีฟาอาจต้องเจรจาสัญญาใหม่กับสถานีโทรทัศน์ทั่วโลกหากต้องเลื่อนการแข่งขัน
ปัญหาด้านศาสนา
แม้ว่ากาตาร์จะมีเสรีภาพมากกว่าหลายประเทศมุสลิมในตะวันออกกลาง แต่ก็ยังมีกฎหมายต่อต้านรักร่วมเพศอยู่ ทำให้ชาวเกย์ที่อยากเดินทางไปชมฟุตบอลโลกอาจเจอปัญหาได้ นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้มากว่าอาจมีการห้ามขายเบียร์ในสนาม เพราะกฎหมายกาตาร์ห้ามดื่มเหล้าในที่สาธารณะ
credit:
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/587328
มีใครเห็นด้วยกับผมบ้างครับที่ไม่อยากให้กาต้าร์เป็นเจ้าภาพ เพราะ กลัวจะเป็นบอลโลกครั้งที่กร่อยที่สุดในประวัติศาสตร์ และ กลัวปัญหาหลายๆอย่างอาจจะตามมาด้วย แสดงความเห็นกันได้ครับ
เหตุผลที่กาต้าร์ไม่ควรเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022
มีผู้บริหารฟีฟาหลายคนถูกกล่าวหาว่าให้สินบน และรับสินบน ไม่ว่าจะเป็นนายริคาร์โด ไทเซียรา ผู้บริหารฟีฟาบราซิล ที่ต้องลาออกเพราะมีข่าวว่าลูกสาววัย 10 ขวบของเขาได้เงินช่วยเหลือปีละ 3.4 ล้านดอลลาร์ ภายหลังจากที่เขาโหวตให้กาตาร์เป็นเจ้าภาพ ขณะที่นายโมฮัมเหม็ด บิน ฮัมมัม รองประธานฟีฟาของกาตาร์ จ่ายสินบนไปทั้งก่อนและหลังการโหวตถึง 5 ล้านดอลลาร์ จนต้องโทษแบนตลอดชีวิตจากฟีฟา ส่วนนายแจ็ค วอร์เนอร์ เจ้าหน้าที่ฟีฟาอีกคนถูกกล่าวหาว่ารับเงิน 2 ล้านดอลลาร์จากบริษัทกาตาร์จนต้องโทษแบนตลอดชีวิตเช่นกัน
ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน
สมาพันธ์สหภาพการค้าระหว่างประเทศรายงานว่าคนงานเนปาล และอินเดียมากถึง 1,200 คนเสียชีวิตในกาตาร์นับตั้งแต่ประเทศนี้ได้รับเลือกเมื่อปี 2553 ให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก โดยหนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดี้ยนของอังกฤษรายงานว่ากาตาร์ใช้แรงงานทาส โดยคนงานเหล่านี้ไม่ได้รับค่าแรง ถูกบังคับให้ทำงานท่ามกลางแดดร้อนโดยไม่มีน้ำดื่ม ถูกกักอยู่ในค่ายพักที่ซ่อมซอ แถมยังถูกยึดพาสปอร์ตเพื่อป้องกันการหนีกลับบ้าน
ปัญหาด้านการก่อสร้าง
กาตาร์ไม่มีสิ่งที่จะมารองรับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกเลย ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬาที่ต้องสร้างใหม่หมดทุกแห่ง รวมไปถึงโรงแรม และสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ทำให้คาดว่างบจะบานปลายถึง 200,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 4 เท่าที่รัสเซียใช้ในการจัดโอลิมปิกที่เมืองโซชิ
ที่สำคัญ เมืองลูซาอิล สถานที่จัดการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศนั้นยังไม่ปรากฎบนแผนที่ด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ สนามกีฬาติดแอร์ที่ใช้ระบบทำความเย็นแบบที่ไม่เคยมีใครใช้มาก่อนอาจสร้างไม่ได้จริงตามที่กาตาร์รับปากเอาไว้ เพราะบริษัทที่รับสร้างสนามกีฬากล่าวว่าระบบนี้แพงเกินไป และไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ในสเกลใหญ่แบบนี้
ล่าสุด มีรายงานว่ากาตาร์ได้ลดจำนวนสนามกีฬาระดับเวิล์ดคลาสที่จะสร้างลงเหลือ 8 สนามแล้วจากที่รับปากเอาไว้ว่าจะสร้าง 10 สนาม
ปัญหาเรื่องสภาพอากาศ
กาตาร์มีอากาศร้อนจัดถึง 48 องศาเซลเซียสในหน้าร้อน ทำให้มีการเสนอให้ย้ายการแข่งขันไปจัดช่วงหน้าหนาว ซึ่งจะก่อให้เกิดเรื่องยุ่งยากตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นตารางการแข่งขันฟุตบอลลีกต่าง ๆ ของยุโรปที่จะต้องรวนตามไปด้วย แถมฟีฟาอาจต้องเจรจาสัญญาใหม่กับสถานีโทรทัศน์ทั่วโลกหากต้องเลื่อนการแข่งขัน
ปัญหาด้านศาสนา
แม้ว่ากาตาร์จะมีเสรีภาพมากกว่าหลายประเทศมุสลิมในตะวันออกกลาง แต่ก็ยังมีกฎหมายต่อต้านรักร่วมเพศอยู่ ทำให้ชาวเกย์ที่อยากเดินทางไปชมฟุตบอลโลกอาจเจอปัญหาได้ นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้มากว่าอาจมีการห้ามขายเบียร์ในสนาม เพราะกฎหมายกาตาร์ห้ามดื่มเหล้าในที่สาธารณะ
credit:http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/587328
มีใครเห็นด้วยกับผมบ้างครับที่ไม่อยากให้กาต้าร์เป็นเจ้าภาพ เพราะ กลัวจะเป็นบอลโลกครั้งที่กร่อยที่สุดในประวัติศาสตร์ และ กลัวปัญหาหลายๆอย่างอาจจะตามมาด้วย แสดงความเห็นกันได้ครับ