แชร์ประสบการณ์ ทำธุรกิจอะไรดีในวัย 28 ? (ตอนหาไอเดีย)

สวัสดีค่ะชาวพันทิป ก่อนอื่นขอบอกเลยว่า เราเล่นกระทู้พันทิปไม่เป็น ซึ่งเป็นเจนวายที่ไม่เชี่ยวชาญออนไลน์เลย (555+) เลยขอยืมไอดีเพื่อนมาแชร์ความเห็นจ้ะ เพราะร้อนวิชาอยากแชร์จริง ๆ

เคยได้ยินคำที่ว่าเริ่มก่อนล้มก่อนไหมคะ ? นั่นแหละค่ะชีวิตเรา จึงอยากแชร์เรื่องราวสุดเฟลส่วนตัว เพื่อเป็นบทเรียนที่ห้ามลอกเลียนแบบ กระทู้นี้เราอยากแชร์ประสบการณ์การทำธุรกิจร้านอาหารส่วนตัวที่ทำแล้ว เจ๊ง !! ล้มพับไม่เป็นท่า ด้วยความที่ไร้ประสบการณ์ มั่นใจในตัวเองเกิ๊น (อันนี้ไม่น่าเลียนแบบนะคะบอกเลย)

เล่าย้อนไปเมื่อปี 2016 เราเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัวร้านอาหารและร้านกาแฟสโลว์ไลฟ์ เราลงมือทำทุกอย่างตั้งแต่ทาสี คุมงาน จัดร้าน ซื้อของ เรียนทำกาแฟเป็นบาริสต้า เรียนทำขนม ทำสเต็ก และอื่น ๆ อีกเพียบ เพียงคิดว่า ร้านที่มีเมนูสวย ๆ สำหรับถ่ายรูป โลเคชั่นถ่ายภาพเก๋ ๆ ก็เพียงพอ

แต่ที่ไหนได้ “เราคิดผิดค่ะ” เริ่มธุรกิจในวัย 27 ก็เจ๊งตอนอายุ 27 ปี ผ่านไม่กี่เดือนพัง ไปไม่รอด สูญเงินหลายหลักมลายหายไปแว้บเดียว ความสวยไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอด จากยอดขายหลายหมื่น เหลือเพียงหลักพันต่อวัน ทุนหายกำไรหดจนต้องยอมถอย

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะธุรกิจไร้ความแตกต่าง ไม่มีความโดดเด่น ดังแปป ๆ คนก็ลืม กลืนหายไปกับสายลม ไร้แบรนด์ดิ้ง ไม่สามารถบริหารคุณภาพอาหารให้คงที่ เราจึงทำได้แค่ต้องยอมรับ และถอยกลับมาเป็นมนุษย์เงินเดือน

ราวกับวิถีโคนันแทรกซึมอยู่ในชีวิตเราทุกลมหายใจ เพราะจากชีวิตมนุษย์เงินเดือนต้องกลับกลายมาเป็นฟรีแลนซ์หน้าใหม่เข้าให้ “นอนเลื่อนมือถือแบบคนหมดหวัง” เหมือนสวรรค์เปิดทางให้เราค่ะ เพราะเลื่อนเปิดไปเจอเพจเฟซบุ๊กสถาบันความรู้ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อสุขภาพ IOI Training By CDIP

ถึงจะเราจะพลาด แต่ไม่ขอยอมแพ้ เรียกพลัง งัดความกล้าที่อยากจะเอาชนะความกลัวอีกครั้ง จะรออะไรคะ ส่งใบสมัครเลย ก็งานฟรีนิหน่า อิอิ และฝันก็กลายเป็นจริงค่ะ ทางบริษัท ซีดีไอพี (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน ตอบรับให้เราได้เข้าร่วมงาน ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

“เย้” ได้รับโอกาสอีกครั้ง มีหรือจะไม่ไป เราก็คงต้องลองค่ะ ขอไม่พลาดจริง ๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้เราเองก็ยังไม่ได้ตกลงปลงใจอยากทำธุรกิจจริงจัง แต่อยากเรียนรู้เบื้องต้นว่า ธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจริง ๆ แล้วเป็นอย่างไร “ไปค่ะ”

อยากเล่าต่อให้ฟังจริง ๆ ค่ะ เพราะการไปงานครั้งนี้ ตอนแรกเราเองคิดก่อนเลยว่า วิทยาศาสตร์ต้องเป็นเรื่องยากชัวร์ !!

ภาพบรรยากาศภายในงานค่ะ เยี่ยมชมตึก MTEC

แต่ที่ไหนได้เข้าใจง่ายและใกล้ตัวมาก ๆ ภายในงาน CDIP Open House บรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเอง ให้ความรู้แบบ One Day Trip จัดขึ้นโดย สวทช. ภาครัฐ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ หรือวัยรุ่นไฟแรงที่ต้องการมีกิจการเป็นของตัวเองให้เข้าไปสัมผัสอุทยานวิทยาศาสตร์ ชนิดที่ตื่นตาตื่นใจสุด ราวกับได้ทัศนศึกษาอีกครั้ง ว่าเมืองไทยยังมีวิทยาศาสตร์เจ๋ง ๆ อยู่อีกเพียบ


เช่น  นวัตกรรมถุงพลาสติกหายใจได้ (Active PAK) ช่วยคายน้ำ ลดการเน่าเสียของผลไม้และผัก ช่วยให้เก็บได้ยาวนาน และโชว์เคสอาหารเพื่ออนาคต อย่างเมนูสำหรับผู้สูงอายุ เคี้ยวง่าย กลืนสะดวก ช่วยให้ผู้สูงวัยทานอาหารสบายขึ้น ฯลฯ

แต่นี่ยังไม่ใช่ประเด็นหลัก !! เนื่องจากไฮไลท์ของงานนี้คือ การแนะนำเส้นทางการเป็นนักธุรกิจมือใหม่ เพียงแค่มีไอเดียสินค้า หรือมีวัตถุดิบอยู่ในมือ ก็เริ่มทำธุรกิจสินค้าเพื่อสุขภาพได้ เหมาะสำหรับนักธุรกิจมือใหม่ผู้มองหาโอกาส โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์

ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ หรือดร.ปุ๊ย ซีอีโอแห่ง CDIP ค่ะ

ด้านการรับจ้างวิจัยผลิตภัณฑ์สุขภาพโดยเฉพาะ ได้แก่ เครื่องสำอาง ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ สมุนไพรเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร บอกเลยว่า มาที่นี่จะได้รับคำปรึกษาที่ครบครันตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ เพียงแค่มีไอเดีย มีวัตถุดิบและมีเงินทุน หรือยังไม่มีเงินทุนก็ขอคำปรึกษาด้านธุรกิจได้เช่นกัน

นำทีมให้ความรู้ในงานสัมมนานี้ โดย ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ หรือดร.ปุ๊ย ซีอีโอหนุ่มแห่ง CDIP นักวิจัยมือฉมังของเมืองไทย ผู้คิดค้นวิจัยผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และยังเป็นเจ้าของบริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอลพี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งรับผลิตสินค้า มีลูกค้าขาประจำกว่า 500 รายในเมืองไทย

ปกติเราเคยติดตาม ดร.ปุ๊ย ตามสื่อและอ่านข่าวคราวมาตลอด แต่นี้เป็นครั้งแรกที่เราได้เจอกับดร.ปุ๊ย ตัวเป็น ๆ และรู้สึกทึ่งปนกับสงสัยหน่อย ๆ กับประโยคที่ว่า “นำไอเดียของคุณมาบอกผม และผมจะเป็นที่ปรึกษา เปลี่ยนไอเดียให้เป็นผลิตภัณฑ์ หรือผลผลิตทางการเกษตรที่เหลือทิ้งมาปรับให้เป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ เพิ่มมูลค่าให้มากขึ้นกว่าเดิม

เพียงแค่คุณ หรือ SME ที่มีหัวใจนักสู้ มีไอเดีย อยากมีแบรนด์ธุรกิจเป็นของตัวเอง พร้อมทำการตลาด ขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของคุณ ไม่ยอมแพ้ตลอดระยะเวลา 3 ปี หากคุณมีคุณสมบัตินี้ ผมช่วยคุณได้ ถ้าไม่มีเงินทุน ผมก็สามารถหาทุนจากภาครัฐให้คุณได้ ขอให้เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีประโยชน์ เมื่อบริษัทฯ ของลูกค้าประสบความสำเร็จ รัฐบาลก็จะได้ภาษีมาพัฒนาประเทศชาติต่อไป”

คุณพระ !! จริงหรือนี่ ?? การเริ่มธุรกิจฟรี ๆ แบบนี้จะเกิดขึ้นได้จริง ๆ หรือ ? ในยุคข้าวยากหมากแพง แกลบก็ต้องซื้อ

คงไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้ดี นอกจาก ดร.ปุ๊ย เราจึงถือโอกาสเดินเข้าพูดคุยแบบตรงไปตรงมาแบบกำปั้นทุบดิน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า "มีอยู่จริงหรอคะที่ธุรกิจไม่ต้องมีเงินลงทุน และเป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้ ? "

ดร.ปุ๊ย ตอบทันควันเลยว่า “มีอยู่จริงครับ เพราะ CDIP สามารถเขียนขอทุนจากรัฐบาลได้ หากโครงการน่าสนใจ และด้วยความที่เรา CDIP เป็นตัวกลางเชื่อมต่อกับระหว่างสวทช. นักวิจัยระดับประเทศโรงงานผลิต JSP และผู้ประกอบการ ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น อยากทำอะไรจ้างเราทำได้ทั้งหมด เพราะเรารู้จักครอบคลุมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และรายใหญ่เป็นลูกค้าเราอยู่แล้ว”

ทันใดนั้นเราเกิดสงสัยใคร่รู้ ขึ้นมาอีกข้อว่า หากมีธุรกิจผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพครบเครื่อง ครบวงจรขนาดนี้ ทำไม ดร.ปุ๊ย ถึงไม่ลุยทำธุรกิจด้วยตัวเอง ? เปิดโอกาสให้ผู้อื่นขายทำไม ?

(เอาแล้วไง… เราถามตรงเกินไปไหมนะ ก็อยากรู้นิหน่าเลยต้องถาม)

เราก็ได้คำตอบของดร.ปุ๊ย มาว่า “ผมเชื่อว่า คนเราเก่งได้แค่อย่างเดียว ผมทำทุกอย่างพร้อมกันไม่ได้ ในขณะที่ CDIP มีความเป็นเลิศด้านการวิจัยพัฒนาเบอร์ 1 ของประเทศ ส่วน JSP เป็นผู้นำด้านการรับจ้างผลิตของประเทศ”  

ด้วยความที่ ดร.ปุ๊ย รู้จักตลาด แต่เขายอมรับตรง ๆ เลยว่า “ไม่มีแรงทำ รู้ทุกอย่างแต่ทำไม่ไหว”

พร้อมกับย้ำว่า “ถ้าคุณทำการตลาด ตื่นมาก็ต้องอยู่กับการตลาด แต่ชีวิตผมตื่นมาผมคิดถึงแต่งานวิจัยตลอดเวลา ขณะที่คุณพิษณุ แดงประเสริฐ (คุณป๋อ) ฝาแฝดของผมตื่นขึ้นมารู้อย่างเดียวคือรับจ้างผลิต สิ่งนี้ทำให้เราเลือกที่จะทำในสิ่งที่เราถนัด ยกตัวอย่าง 1 วันของผมคิดเรื่องวิจัย คุยกับอาจารย์มหาวิทยาลัย หาทุนให้ลูกค้า ส่วนเวลาที่เหลือขอดูแลให้ครอบครัวบ้างครับ” ดร.ปุ๊ย พูดพลางยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุข  

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทำให้เราฉุกคิดตามเลยว่า การทำงานที่รักพร้อมกับได้อยู่ดูแลครอบครัวด้วย นี่ก็เป็นอีกสมการความสุขล้ำค่าที่ชีวิตคนเราต้องตามหาด้วยตัวเอง


สุดท้าย ดร.ปุ๊ย บอกเราว่าการเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ “จงเป็นเลิศหนึ่งเรื่อง ถ้าอยากเป็นนักวิจัยที่ดี ต้องเป็นนักวิจัยที่ดี ดังนั้น ทำธุรกิจคุณจะต้องเชี่ยวชาญอย่างใดอย่างหนึ่งให้สุด อย่าเลือกทำอะไรหลายอย่าง ทำอะไรต้องทำเต็มที่”

ถึงแม้การมา CDIP Open House สัมมนางานวิทยาศาสตร์โดยสวทช. ครั้งนี้ ได้จุดไฟฝันให้เรามีไอเดียทำธุรกิจในวัย 28 ปี หวนคืนมาอีกครั้ง และยังได้ปรัชญาการทำงาน การทำธุรกิจ การใช้ชีวิตกลับบ้านเป็นกระบุง !! คุ้มค่าจริงเชียว

และก็เป็นเรื่องดี ๆ ที่เราอยากแชร์ให้ฟังค่ะ และถ้าสนใจเปิดประสบการณ์เช่นเดียวกับเรา ติดตามเพจ IOI Training By CDIP (https://www.facebook.com/ioitraining) ซึ่งปลอดภัย เพราะเป็นงานจัดขึ้นโดยภาครัฐ สวทช. มีเปิดอบรมฟรีทุกเดือน ไม่คิดค่าใช้จ่าย แถมได้ไอเดียเพื่อธุรกิจด้วยนะ ไว้กระทู้ถัดไปเราจะนำเรื่องราวดี ๆ มาเล่าให้ฟังกันใหม่ ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะ บ๊ายบาย

ปล. ขอบคุณเพื่อนรักผู้เป็นเจ้าของไอดีมาก ๆ ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่