นายกฯ เดินสายกระชับสัมพันธ์สองเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่แห่งยุโรปดึงดูดการลงทุนสู่อีอีซี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำทีมเศรษฐกิจ พร้อมขุนพลในโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี บินลัดฟ้าบุกเมืองผู้ดีและแดนน้ำหอม สหราชอาณาจักรกับฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 20 – 26 มิถุนายน 2561 โดยไฮไลท์สำคัญนอกเหนือจากจะกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าการลงทุนระหว่างประเทศในยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกแล้ว ยังไปเป็นสักขีพยานร่วมกับประธานาธิบดีมาครองแห่งฝรั่งเศส ในพิธีลงนามการร่วมทุนระหว่างบริษัทการบินไทยกับบริษัทแอร์บัส ในการดำเนินโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ด้วย

สำหรับโครงการ MRO (Maintenance, Repair & Overhaul) ถือเป็นหัวใจสำคัญของอีอีซี เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีสูงและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ รัฐบาลจึงให้ความสำคัญและผลักดันให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งศูนย์ซ่อมแห่งนี้จะมีความทันสมัย รองรับการซ่อมบำรุงเครื่องบินได้ทั้งของโบอิ้งและแอร์บัส คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2565

โดยทั้งการบินไทยและแอร์บัสหวังให้อู่ตะเภาเป็น “World Class MRO” อันดับ 1 ของโลก ที่มีความล้ำสมัย พร้อมรองรับเทคโนโลยีขั้นสูงของอากาศยานรุ่นใหม่ทุกรุ่นทุกขนาดในอีก 20 ปีข้างหน้า

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

การจัดตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา จะเป็นการกระตุ้นอุตสาหกรรมการซ่อมบำรุงอากาศยานภายในประเทศไทย และลดการสูญเสียรายได้ในการส่งอากาศยานไปซ่อมบำรุงต่างประเทศ ทั้งยังเป็นการดึงดูดผู้ประกอบการต่างชาติให้เข้ามาลงทุน


ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น รัฐบาลฝรั่งเศสเร่งเดินหน้าเพิ่มความร่วมมือกับไทยใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ เศรษฐกิจ ธุรกิจ และการศึกษา โดยคาดหวังให้ไทยเป็นประตูสู่การกระชับความร่วมมือระหว่างสหภาพยุโรป (อียู) และประชาคมอาเซียน ซึ่งไทยเป็นตลาดการลงทุนอันดับสองของฝรั่งเศสในอาเซียน และฝรั่งเศสก็สามารถเป็นประตูในการส่งออกสินค้าหรือเป็นต้นน้ำการผลิตของบริษัทไทยเพื่อป้อนตลาดยุโรปด้วย

ส่วนของภาคเอกชนฝรั่งเศสนั้นได้มองหาลู่ทางการลงทุนในไทยผ่านอีอีซี โดยก่อนหน้านี้ได้แสดงความสนใจลงทุนในด้านคมนาคม การบิน อวกาศ และการผลิตอาหาร ซึ่งรวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน การก่อสร้างสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และการขนส่งมวลชนขนาดเบารอบภูเก็ต

สำหรับสหราชอาณาจักรนั้นเป็นตลาดที่ไทยจัดลำดับความสำคัญไว้ในลำดับต้น ๆ ของตลาดในสหภาพยุโรป รวมถึงพิจารณาให้เป็นประเทศที่มีความสำคัญในระดับหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ของไทย

นอกจากนี้นักลงทุนไทยรายใหญ่ ๆ ก็ได้ไปประกอบธุรกิจในสหราชอาณาจักรมายาวนาน โดยประเภทธุรกิจที่ไทยมีมูลค่าการลงทุนสูงสุด คือ ธุรกิจโรงงานถลุงเหล็ก ธุรกิจอาหาร/เครื่องดื่ม และธุรกิจโรงแรม

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตั้งแต่เริ่มประกาศสร้างโครงการอีอีซี ทั้งนายกฯ รองนายกฯ และแม่ทัพอีอีซีต่างเร่งชักชวนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีซี ตลอดจนเร่งสร้างมาตรการจูงใจดึงดูดการลงทุนมากขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนต่างประเทศ ทำให้พอจะมองเห็นภาพรวมเศรษฐกิจไทยในอนาคตที่จะโชติช่วงอีกครั้งหนึ่ง โดยมีโครงการอีอีซีเป็นตัวขับเคลื่อน  


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่