"ชัยปุระ" ชื่อนี้ผมได้รู้จักครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว จากหนังสืออ่านเล่นในกระเป๋าหน้าที่นั่งของแอร์เอเชีย จำได้ว่าตอนที่เปิดอ่าน ก็รู้สึกว่าเป็นเมืองที่สวยดี แต่เพราะว่ามันเป็นอินเดีย ประเทศที่ภาพมโนในหัวมีแต่ขอทานเต็มถนน ผู้ชายมีหนวดตัวดำหน้าดุ ผู้หญิงขอบตาดุดันดำปี๋และมีจุดสีแดงที่หน้าผาก อาหารการกินที่มีแต่กลิ่นเครื่องเทศและนมเนยคละคลุ้ง ความคับคั่งของเมืองที่อัดแน่นไปด้วยประชากรยากจนที่คอยแต่จะใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกเอาเงินจากนักท่องเที่ยว และความแห้งแล้งร้อนระอุของสภาพอากาศ เหล่านี้ทำให้ผมไม่เคยคิดว่าอยากไปหรือจะต้องไปเที่ยวอินเดียให้ได้แม้แต่น้อย แม้ว่าภาพถ่ายและเรื่องราวที่ถูกนำเสนอในหนังสือที่เห็นในวันนั้นจะสวยงามและน่าสนใจขนาดไหนก็ตาม
แต่หลังจากที่ผมกับรุ่นน้องที่มหาลัยอีกสองคนกลับจากเที่ยวญี่ปุ่นด้วยกัน แต่ความคันยังไม่หาย เลยใช้คุกกี้เสี่ยงทายหาที่เที่ยวกันต่อ โดยมีข้อกำหนดว่าต้องไม่แพง เพราะเพิ่งจะหมดเงินจากญี่ปุ่นกันมา ตอนแรกหวยไปออกที่จางเจียเจี้ย เรา 3 คน ตกลงกันกันว่าจะซื้อทัวร์ราคาถูกที่ขายกันอยู่ในอินเตอร์เน็ต แต่เมื่อเคลียร์วันลาได้ตรงกันเรียบร้อย ก็ปรากฏว่าทัวร์จีนที่ตั้งใจจะซื้อก็เต็มไปซะก่อน และที่ยังพอมีขายอยู่ราคาก็อัพขึ้นไปแล้ว ทริปจางเจียเจี้ยของเราจึงมีอันล้มพับดับสูญไปนับตั้งแต่บัดนั้น
แต่แม้ว่าทริปเมืองจีนจะล่ม แต่ผมและน้องน้องก็ไม่เคยท้อแท้ เรายังคงช่วยกันหาทางเลือกอื่นไม่ว่าจะเป็นเวียดนามกัมพูชาหรือบาหลี ส่วนตัวผมเองมาอ่านรีวิวในพันธุ์ทิพย์เกี่ยวกับเมืองชัยปุระ ก็พบว่าเมืองชัยปุระนั้นน่าสนใจและไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แถมยังไม่แพงอีกด้วย ผมเลยแชร์ลิ้งค์ชัยปุระให้น้อง ๆ ดู พร้อมกับจัดการหาเที่ยวบินและที่พักมานำเสนอไปพร้อมกัน ผลปรากฏว่าคนหนึ่งสนใจ อีกคนหนึ่งกลัว อันที่จริงคนที่สนใจก็ไม่ใช่ว่าจะไม่กลัวนะ รวมทั้งตัวผมก็ยังนำเสนอไปแบบกลัว ๆ เพราะยังสลัดภาพอินเดียอย่างที่บอกออกไปจากหัวไม่ได้ กลัวโดนหลอก กลัวร้อน กลัวสกปรก แต่สรุปแล้วเราก็ตกลงใจที่จะไป ไปมันทั้งกลัว ๆ นี่แหละ
เนื่องจากวันลาเราน้อย ทริปของเราจำเป็นต้องสั้น เลยออกมาเป็นแบบ 2 คืน 2 วัน และนี่ก็คือรายละเอียดทริปของเรา ที่ได้จากการจองผ่าน Expedia
ซึ่งค่าใช้จ่าย คร่าว มีดังนี้
ราคาตั๋วไทยสมายล์รวมที่พัก 2 คืน คนละประมาณ 9,500 บาท
ค่าวีซ่าออนไลน์คนละประมาณ 1,800 บาท
ค่าเช่ารถพร้อมคนขับทั้งทริป คนละประมาณ 800 บาท
แลกเงินไป 5,000 บาท (เหลือกลับมาอีก เพราะไม่ค่อยได้ซื้ออะไร)
ให้ Driver พาไป ที่ชัยปุระ
แต่หลังจากที่ผมกับรุ่นน้องที่มหาลัยอีกสองคนกลับจากเที่ยวญี่ปุ่นด้วยกัน แต่ความคันยังไม่หาย เลยใช้คุกกี้เสี่ยงทายหาที่เที่ยวกันต่อ โดยมีข้อกำหนดว่าต้องไม่แพง เพราะเพิ่งจะหมดเงินจากญี่ปุ่นกันมา ตอนแรกหวยไปออกที่จางเจียเจี้ย เรา 3 คน ตกลงกันกันว่าจะซื้อทัวร์ราคาถูกที่ขายกันอยู่ในอินเตอร์เน็ต แต่เมื่อเคลียร์วันลาได้ตรงกันเรียบร้อย ก็ปรากฏว่าทัวร์จีนที่ตั้งใจจะซื้อก็เต็มไปซะก่อน และที่ยังพอมีขายอยู่ราคาก็อัพขึ้นไปแล้ว ทริปจางเจียเจี้ยของเราจึงมีอันล้มพับดับสูญไปนับตั้งแต่บัดนั้น
แต่แม้ว่าทริปเมืองจีนจะล่ม แต่ผมและน้องน้องก็ไม่เคยท้อแท้ เรายังคงช่วยกันหาทางเลือกอื่นไม่ว่าจะเป็นเวียดนามกัมพูชาหรือบาหลี ส่วนตัวผมเองมาอ่านรีวิวในพันธุ์ทิพย์เกี่ยวกับเมืองชัยปุระ ก็พบว่าเมืองชัยปุระนั้นน่าสนใจและไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แถมยังไม่แพงอีกด้วย ผมเลยแชร์ลิ้งค์ชัยปุระให้น้อง ๆ ดู พร้อมกับจัดการหาเที่ยวบินและที่พักมานำเสนอไปพร้อมกัน ผลปรากฏว่าคนหนึ่งสนใจ อีกคนหนึ่งกลัว อันที่จริงคนที่สนใจก็ไม่ใช่ว่าจะไม่กลัวนะ รวมทั้งตัวผมก็ยังนำเสนอไปแบบกลัว ๆ เพราะยังสลัดภาพอินเดียอย่างที่บอกออกไปจากหัวไม่ได้ กลัวโดนหลอก กลัวร้อน กลัวสกปรก แต่สรุปแล้วเราก็ตกลงใจที่จะไป ไปมันทั้งกลัว ๆ นี่แหละ
เนื่องจากวันลาเราน้อย ทริปของเราจำเป็นต้องสั้น เลยออกมาเป็นแบบ 2 คืน 2 วัน และนี่ก็คือรายละเอียดทริปของเรา ที่ได้จากการจองผ่าน Expedia
ซึ่งค่าใช้จ่าย คร่าว มีดังนี้
ราคาตั๋วไทยสมายล์รวมที่พัก 2 คืน คนละประมาณ 9,500 บาท
ค่าวีซ่าออนไลน์คนละประมาณ 1,800 บาท
ค่าเช่ารถพร้อมคนขับทั้งทริป คนละประมาณ 800 บาท
แลกเงินไป 5,000 บาท (เหลือกลับมาอีก เพราะไม่ค่อยได้ซื้ออะไร)