Management Tools ไม่ยากอย่างที่คิด : How How Chart สำหรับนักคิดหรือพัฒนาองค์กร แบบ Kaizen

สวัสดีครับ ความที่เกริ่มในเรื่องของ  Management Tools  ที่ไว้ใช้ในการปรับปรุงให้ดีขึ้น สูงขึ้น นั่นคือ How How Chart  ซึ่ง Tools ในกลุ่มนี้จะยากกว่ากลุ่ม  Why why analysis  เพราะว่าต้องเกี่ยวข้องกับการทดลอง การลงทุน ซึ่งก็ยังไม่แน่ชัดว่าลงทุนไปแล้ว ปรับปรุงไปแล้ว ผลที่คาดว่าจะได้รับนั้น อยู่ที่กี่เปอร์เซนต์ครับ แต่อย่างไรถ้าโรงงานปิดกั้นโอกาสการปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยนั้น  ต้นทุนการบริหารจัดการจะเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ ดังนั้นในหลาย ๆ องค์กรระดับโลกจึงมีหน่วยงานมาสนับสนุนการปรับปรุงด้านต่าง ๆ ให้ดีขึ้น นั่นก็คือ หน่วยงาน R & D [ Research & Development ]  ซึ่งหลายองค์กรระดับโลกนั่น ลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำการควบคุมค่าใช้จ่ายและลดค่าใช้จ่ายลงนั่นเอง
   ผู้อ่านท่านใด สนใจและหาอ่านบทความต่าง ๆ รบกวนติดตามทั้งทาง pantip และทาง facebook ของผู้เขียนคือ "  TPM Tools  " ครับ
ฝากงานเขียนกระทู้เก่า
Management Tools ไม่ยากอย่างที่คิด ตอน เข้าใจหลักการของ KPI & KAI กันแบบจริงจังกันดีกว่าครับ [รวม KMI ด้วยครับ ]
http://pantip.com/topic/35518942
[CR]Management Tools ไม่ยากอย่างที่คิด เรามาศึกษาการใช้ Management Tools ขององค์กรที่ใช้กันอยู่แบบฟรี ๆ ดีกว่าครับ ตอน การใช้ตัวชี้วัด OEE
http://pantip.com/topic/35497879
Management Tools ไม่ยากอย่างที่คิด : ตอน เหตุผลการจัดงาน Kick Off ในแต่ละกิจกรรมที่ประกาศใช้ในโรงงาน
http://pantip.com/topic/35539962
Management Tools ไม่ยากอย่างที่คิด : ตอน Makigami ที่คนนำไปใช้ยังสับสนและยังคงค้นหาว่า Tools นี้แท้ที่จริงมันเป็นเช่นไร
http://pantip.com/topic/35574498
Management Tools ไม่ยากอย่างที่คิด : ตอน วงจร P-D-C-A เป็น Tools พื้นฐานของการปรับปรุง มาดูเรียนรู้แบบเชิงลึกกันดีกว่า
https://pantip.com/topic/35624388
Management Tools ไม่ยากอย่างที่คิด : ตอน เรามาทำความรู้จัก Yield Loss กันดีกว่า ครับ เพื่อการพัฒนาในธุรกิจ
https://pantip.com/topic/37230459
Management Tools ไม่ยากอย่างที่คิด : ตอน สร้าง Road Map of my life กันเถอะ (เอาไว้กันหลงทางในช่วงวัยทำงาน-เกษียณอายุ)
https://pantip.com/topic/37307300
Management Tools ไม่ยากอย่างที่คิด : เจ้าของธุรกิจ ควรเรียนรู้ Cost - Loss Matrix ที่จะลดความสูญเสียให้กับองค์กรท่าน
https://pantip.com/topic/37449394
    
   หลากหลายองค์กร หรือหน่วยงานนี้ ยังไม่เกิดเป็นรูปร่างในอุตสาหกรรมในประเทศไทยอย่างชัดเจน เพราะว่าหลายองค์กรในประเทศไทยนั้น ได้เพียงแต่ซื้อเครื่องจักร, ผลิต , ขาย และก็บริหารจัดการ โดยผู้บริหารกลุ่มหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ติดกรอบความคิดในเรื่องหลักการทำงาน ความแตกต่างนี้จะเห็นได้ชัดมาก ถ้าเพียงเราไปดูหนัง  Superhero ของภาพยนต์จากต่างประเทศ  จะเห็นได้ว่า ยอดมนุษย์ต่าง ๆ หรือ  เครื่องจักรแปลก ๆ  นั้น ส่วนใหญ่ได้มากจากการวิจัยและทดลอง อีกทั้งยังมีการสนับสนุนการออกทุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้กับนักศึกษาที่สนใจในเฉพาะด้นนั้น ๆ ซึ่งทำให้นักศึกษารุ่นใหม่ นั้นมีกรอบความคิดที่แตกต่างกันออกไป มีการตั้งคำถามต่าง ๆ ว่า ทำไมต้องทำแบบเดิม ๆ ,  ทำไมต้องเหมือนเดิม  แตกต่างจากเดิมได้หรือไม่ ถ้าได้  จะทำอย่างไรดีหละ นั่นจึงเป็นที่มาของคำว่า  How How  Chart  ครับ  
     การใช้ How How Chart  tools จากที่เกริ่นนำไปครั้งที่แล้ว อีกทั้งจากภาพที่แสดงวงจรชีวิตของเครื่องจักรคร่าว ๆ จะเห็นได้ว่า ในกรณีที่เราซื้อเครื่องจักรมา เมื่อใช้งานไประยะหนึ่ง ชิ้นส่วนอุปกรณ์บางชิ้นจะเริ่ม สึกหรอ และเสื่อมสภาพตามอายุงานที่ใช้ไป เมื่อเครื่องจักรเริ่มเสื่อมลง ประสิทธิภาพของการแต่ละชุด ( Component ) ก็จะลดลงตามไปด้วย ซึ่งถ้าให้ทางผู้เขียนแนะนำตัวอย่าง จะขอยกตัวอย่าง มอเตอร์ไซด์ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันแล้วกันครับ
  เมื่อเราได้ออกมอเตอร์ไซด์ ใหม่ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ก็ง่าย กดครั้งเดียวติด เวลาไปขับแทบจะไม่ได้ยินเสียงผิดปกติ ระบบเบรก ก็ดียอดเยี่ยม การวิ่งเข้าโค้งก็เกาะถนน นั่นคือระบบปกติของเครื่องจักร เมื่อเราได้ใช้ มอเตอร์ไซด์ ไปได้ซัก 1-2 ปี เราก็จะพบว่าการกดปุ่มสตาร์ทใช้ระยะเวลานานขึ้น บางครั้งเหมือนจะไม่ติดด้วย เมื่อใช้เบรก ก็เริ่มมีเสียงดัง นี่หละครับที่เราเรียกสถานะนี้ว่า เสียหายเล็ก ๆ น้อย ๆ ( Failure ) และเมื่อเราปล่อยทิ้งไว้ และไม่ยอมบำรุงรักษาจุดที่เสียหายเล็ก ๆ น้อย ๆ สุดท้ายก็รุกลามจนแปลงสถานะเป็น เสียหายแบบกระทันหันหรือ แบบไม่สามารถใช้งานมันได้ เช่น เราสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด , ระบบเบรกไม่สามารถชะลอรถได้ จนอาจเกิดอุบัติเหตุ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ทางผู้อ่านหลาย ๆ จะต้องใช้ Why Why Analysis  tools  เข้าไปแก้ไขปัญหากับจัดการกับสาเหตุต่าง ๆ เพื่อให้มอเตอร์ไซด์ใช้งานได้ตามปกติครับ ( ทางผู้เขียนเคยเขียนในเรื่อง Why Why Analysis tools แล้ว ) เมื่อมอเตอร์ไซด็เข้าสู่สภาพวะปกติ เราก็ใช้ชีวิตปกติ
อ้าวและ How how Chart  tools จะใช้ตอนไหน ช่วงใดครับ ทางผู้เขียนก็บอกเลยว่า ถ้าทางผู้อ่านต้องการเพิ่มสมรรถนะของระบบเบรกให้มีระยะเบครสั้นลง , หรือต้องการใช้สตาร์ทเครื่องยนต์สั้นขึ้น หรือหลายหลายเรื่องที่ต้องการจะใช้มอเตอร์ไซด์ดีขึ้น เราควรทำอย่างไร นั่นหละครับ เราจึงจะใช้ How how Chart  tools เข้ามาวิเคราะห์ข้อมูลกัน
    จากรูปภาพที่ยกตัวอย่างนั้น จะเห็นได้ว่า เราสามารถคิดค้นหัวเรื่องการปรับปรุงได้มากกว่า 7 ข้อ จากความต้องการเพียงแค่จะปรับปรุงให้มีระยะเบครสั้นลง ซึ่งแต่ละหัวข้อนั้นก็ต้องมีงบการลงทุนจำมาก อีกทั้งยังไม่ชี้ชัดด้วยว่า การลงทุนไปแล้วจะทำให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มขึ้นกี่ % สามารถลดระยะทางเบครได้สั้นลงเท่าใด เหมาะสมกับการลงทุนหรือไม่ หรือว่า Over spec มากเกินความจำเป็น นี่คือสิ่งเราจะต้องไปพิสูจน์ในแต่ละหัวเรื่องของการปรับปรุงว่าจะในเรื่องใดก่อน ซึ่งเราก็จะต้องนำ spec ของแต่เรื่องมาเปรียบเทียบ และพิสูจน์กันว่า เรื่องใดควรทดลองก่อนครับ
จะเห็นได้ว่าถ้าเราไม่รู้จัการใช้ How How chart  เราก็เดินเข้าร้าน Racing และให้ผู้ที่เขาเชี่ยวชาญกว่าเรามาปรับปรุงหรือตกแต่งให้ แต่ถ้าย้อนกลับไปที่การลงทุนหละครับ ถ้าเราซื้อมอเตอร์ไซด์มา 5-6 หมื่นบาท แต่เราต้องใช้เงินลงทุนในระบบเบรค ประมาณ 1 – 1..5 หมื่นบาท เพียงเพื่อระบบเบรกเพียง 1 ชุด ( component ) และถ้าเราต้องการปรับปรุงระบบอื่น ๆ นอกจากระบบเบรกครับ จะต้องลงทุนอีกเท่าใด ดังนั้น การวิเคราะห์โดยใช้ How How Chart  นั้นเป็นสิ่งที่โรงงานจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ เพื่อบริหารต้นทุนและจัดการปรับปรุง เพื่อให้เกิดความเหมาะสมที่สุด
     จากครั้งที่แล้ว เราได้ทำการวิเคราะห์ สำหรับ  How How Chart  tools. ในการปรับปรุงชุดระบบเบครให้ดีขึ้น เมื่อเราได้หัวเรื่องที่จะปรับปรุงนั้น ทางหน่วยงานที่จะเกี่ยวข้องนั้นจะต้องทำไปทำการพิสูจน์ผล หรือหาข้อมูลในการปรับปรุง หรือไม่ก็ต้องทำการทดลองจริง หรืออาจสร้าง  model เพื่อเข้ามาทดสอบประสิทธิภาพในแต่ละเรื่อง เพื่อให้ได้ผลที่มีความเหมาะสมและคุ้มค่าแก่การลงทุนมากที่สุด การปรับปรุงใด ๆ ก็ตามจะต้องมีการคำนึงถึงจุดคุ้มทุน และต้นทุนต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการลงไป  ซึ่งดังนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโรงงานที่ไม่ได้นำมาคำนึงถึงไม่ได้ครับ
   จากรูป ( สมมุตทางผู้เขียน ได้มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเบรคมาทดลอง และสรุปคร่าว ๆ ได้ตามภาพ ) จะเห็นได้ว่า การลงทุนทั้งหมดนั้นจะได้ต้องใช้เงินจำนวนถึง 9,600 บาท ซึ่งก็ค่อนข้างแพง อีกทั้งถ้าจะมีการลงทุนทั้งหมดนั้นก็ยังไม่สามารถคิดจุดคุ้มทุนได้ เพราะว่าเนื่องจากเป็นรูปแบบการป้องกันหรือปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อช่วยในเรื่องการอาจเกิดอุบัติเหตุเพียงเท่านั้น  ซึ่งทางโรงงานหรือองค์กรต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะลงทุนนั้นจะต้องมีจุดคุ้มทุนที่ชัดเจน  แต่ผู้ที่ปรับปรุงจะดำเนินการอย่างไรดีครับ เพราะว่าไม่สามารถคิดจุดคุ้มทุนให้กับบริษัท ฯ ได้ ซึ่งทางออกของผู้เขียนนั้น ให้ดูกฏเกณฑ์ทางด้านกฏหมายที่ประกาศใช้เป็นหลัก ( ถ้ากรณีไม่มี  Standard รองรับ )  หรือเหตุกาณร์  Near miss ที่เคยเกิดขึ้นว่าต้องปรับปรุงระบบเบครกี่  % ดี เพื่อที่ป้องกัน  Near miss ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ถ้าเรามีข้อมูลเพียงพอ ก็สามารถเลือกรูปแบบการปรับปรุงได้ และเมื่อปรับปรุงเสร็จแล้วนั้น ก็สามารถสรุปผลการปรุบปรุงในด้านต่าง ๆ ได้ เช่น ประสิทธิภาพของระบบเบครที่สั้นลง ประสิทธิภาพที่ที่ดีขึ้น  จุดคุ้มทุน  จุดลงทุน และจากนั้นก็เก็บข้อมูลไว้เป็น พื้นฐานต่อ ๆ ไปครับ
   การยกตัวอย่างครั้งนี้อาจไม่เห็นภาพที่แน่ชัดนัก เพราะว่าการดำเนินกิจกรรม How How Chart  tools. จำเป็นที่จะต้องพิสูจน์ อย่างจริงจังก่อนที่จะมีการลงทุนครับ  แต่รูปแบบการใช้ How How  Chart  tools. ก็คงมีเพียงเท่านี้ครับ
   19.6.2561
ณรงค์พร รัตนตรัยรักษา ผู้เขียน
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  วิชาการ การศึกษา การบริหารจัดการ วิศวกรรมศาสตร์
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่