"พ า เ ปื้ อ น ฮัก ไ ป พัก เ มื อ ง เ ห นื อ" #เ ส้ น ท า ง ที่ 3 ไ ป เ มื อ ง บุ ญ ลำ พู น ล้ า น น า
Pantip.com ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ชวนนั่งรถไฟอุตราวิถี (รถไฟตู้นอนเบาะแดงสุดแสนสบาย) ไปตะลุยเมืองเชียงใหม่ ลำพูนล้านนาและลำปางเมืองรถม้า
ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ สัมผัสกับกลิ่นอายของธรรมชาติ และที่สำคัญทริปนี้ฟรี!!! มีคนเปย์ตลอดทริป !!! ฟังไม่ผิดค่ะ เพราะฟรีจริงๆ กับกิจกรรมดีดีที่ชื่อ "พาเปื้อนฮักไปพักเมืองเหนือ"
คนอีสานได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองเหนือ กับ Pantip.com และ ททท. มันก็จะตื่นเต้นกว่าปกติ ออกเดินทางไปพร้อมกันนะคะ Let's go..
งานก็สำคัญนะ !!!..
ความฝันของคนเรา...ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ( อ่านดีดีเหมือนจะป็นข้ออ้าง ฮ่าาา)
ครั้งหนึ่ง,,เราเคยปฏิเสธ โอกาส,, ที่จะเป็นจิ๊กซอวเชื่อมต่อทางไปให้ใกล้ฝัน
เหตุผลคือ "งานเยอะอ่ะ พี่ไปไม่ได้" ขอโทษทีนะ
ครั้งนี้,, งานก็ไม่ได้น้อยไปกว่าวันนั้น ,,
แต่,, โอกาสแบบนี้บางทีอาจมีมาครั้งเดียว เราคงต้องชั่งน้ำหนัก และต้องตัดสินใจ!! แม้มันจะตัดสินใจยากก็ตามที,,
----------------------
อะไรที่มีอิทธิพลกับหัวใจ หากพลาดไป ผ่านไปนานแค่ไหน คำว่า "เสียดาย"ก็จะไม่จางหาย,,,
เลือกทางนั้นค่ะ
---------------------
เดี๋ยวหนูก็กลับ ยังไม่ต้องรับคนใหม่มานั่งแทนนะคะ หัวหน้า!!!!!
ทีมงานนัดเวลาเจอกันที่หัวลำโพง 4 โมงเย็นของวันพฤหัสบดี เป็นวันที่เรายังต้องทำงานอยู่ค่ะ เช้ามา,, แบกเป้เข้าออฟฟิศ ไม่พูดไม่จานั่งทำงาน มือไม้สั่น ขาสั่นด้วยความตื่นเต้นๆ ไม่ได้ตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวนะ แต่ตื่นเต้นเพราะใกล้เวลาเดินทางแต่….งานยังเคลียร์ไม่หม๊ดดดด!!!! ใครมีอาการแบบนี้ก่อนเดินทางบ้างงงง ชูมือสูงๆเป็นเพื่อนกันหน่อยค่ะ
หัวลำโพงนี่เขาคึกคักตลอดเวลาเนอะ มาแล้วมีพลังงานแฝงบางอย่างทำให้เราอยากออกเดินทางตลอดเวลา,,,บางวันหยุด.. ที่ไม่มีแผน (และตังค์)จะไปไหน,,ขอแค่ได้มาดูหลังคา "ร ถ ไ ฟ" เพื่อสร้างแรงใจ ก็เอา ...
ใกล้ถึงเวลานัด เพื่อนผู้ร่วมเดินทางต่างก็ทยอยมาลงทะเบียน เช็คชื่อและรับป้ายชื่อ เสื้อทีม ผ้าพันคอเป็นผ้ามัดย้อมนุ่มลื่นมือคือดีมาก หมอนรองคอสีเขียว มีตุ๊กตาน้องเพี้ยนเคลียร์คลอใกล้ๆแก้มให้ความรู้สึกเหมือนนอนอิงแอบแนบอกชายอันเป็นที่รัก…(เพ้อจริงแม่หญิงคนนี้)
และมีหนังสือของการรถไฟ “ ถ้าวันหนึ่งฉันจะนั่งรถไฟ” เป็นหนังสือเล่มเล็กขนาดพกพาสะดวกข้างในอัดแน่นไปด้วยข้อมูลการเดินทางด้วยรถไฟหลักๆจะเป็นของ 4 เส้นทางใหม่ ที่ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยขอพระราชทานชื่อขบวนรถจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองวาระครบรอบ 119 ปี แห่งการสถาปนากิจการรถไฟ
1) เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ (ขบวนที่ 9/10) ชื่อว่า “อุตราวิถี” หมายถึง เส้นทางสู่ภาคเหนือ ,, เส้นทางนี้ไงที่เรากำลังจะไปกัน
2) เส้นทางกรุงเทพ-อุบลราชธานี (ขบวนที่ 23/24) ชื่อว่า “อีสานวัตนา” หมายถึง เส้นทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ,, นอนรถไฟไปเช้าที่อุบลฯ แล้วไปยลความงามของสามพันโบก หรือจะไปดูขบวนแห่เทียนพรรษาที่งดงามตระการตา เราว่าก็โอเครร
3) เส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย (ขบวนที่ 25/26) ชื่อว่า “อีสานมรรคา” หมายถึง เส้นทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ,, นั่งไปหนองคาย นัดแนะกับสหาย แล้วข้ามไปเที่ยวเมืองเวียงจันทร์หรือจะเลยเถิดพากันไปไกลถึงวังเวียง แต่ถ้าวันลายังคงมีพอเพียง ก็ต่อรถไปหลวงพระบางเลยค่ะ ..
4) เส้นทางกรุงเทพ-หาดใหญ่ (ขบวนที่ 31/32) ชื่อว่า “ทักษิณารัถย์” หมายถึง เส้นทางสู่ภาคใต้,, นอนบนรถไฟแล้วข้ามไปเที่ยวปีนังได้นะเธอ!
หากใครต้องการข้อมูลตารางการเดินทาง เพิ่มเติม ดูได้จาก เว็บไซต์ของการรถไฟฯ
http://www.railway.co.th หรือหากเน็ตช้าก็โทรมาค่ะ 1690 เขาให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อพิธีปล่อยตัวคณะเดินทางเสร็จเรียบร้อย ทุกคนก็ทยอยขึ้นประจำที่นั่งบนรถไฟด่วน "อุตราวิถี" กันได้เลย.... พี่คะ พี่คะ จะไปไหนประตูอยู่ทางนี้ ฮ่าาาา
ขึ้นมาแล้วไม่ต้องตบตีแย่งชิงที่นั่งกันนะคะ เพราะในตั๋วระบุที่นั่งไว้ชัดเจนแล้ว ราคาเตียงล่างจะแพงกว่าเตียงบน เราว่าเขาคงลดราคาให้เตียงบนเพราะมีความเสี่ยงที่จะปีนแล้วพลาดตกมากกว่า ฮ่าาาาา ... ใครนอนเตียงบนก็ปีนป่ายกันระวังนะคะ บันไดมันเล๊กกก
ได้ที่นั่งแล้วก็วางสัมภาระทุกอย่างไว้ จากนั้นก็ถ่ายรูปกันสิคะ เมื่อได้ออกเดินทางก็จะมีความระริกระรี้ประมาณนึง ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้นั่งรถไฟไทย
ไปสำรวจตู้เสบียงกันมะ หิวเมื่อไรเราจะได้แวะมา ตู้ที่เรานอนติดกับตู้เสบียงเลย สบายละเวลาหิวจะได้ไม่ต้องเดินไกล เราสั่งคาปูชิโน่เย็นถือกลับมากินตรงที่นั่ง อร่อยใช้ได้อยู่นาา ราคา 70บาท ข้าวไม่ได้สั่งเพราะทีมงานบอกว่าจะมีข้าวกล่องให้ ประหยัดเงินในกระเป๋าไปอี๊ก
ถ่ายภาพเวลาหิวมันก็จะได้ฟิลลประมาณนี้ สวยไม่สวยไม่เป็นไรรึบๆถ่ายรีบๆแกะและรีบกิน ,,,ข้าวกระเพราะไก่ไข่ดาว อาหย่อยยยยและอิ่มท้อง อีกอันน่าจะเป็นไก่กระเทียม
เบาะรองนอนนุ่มๆ ใต้ผ้าปูสีขาวขุ่น,, ผ้าห่มอุ่นๆแกะจากถุงที่ถูกซีลไว้เป็นอย่างดี,,
ที่นอนกว้าง,, มีที่ว่างเหลือเพียงพอให้นอนกอดอีกคนได้สบาย....กิ๊วกิ๊ว
ปั่นงานมาทั้งอาทิตย์ ,,ขอนอนเหยียดขายาวๆ แล้วตื่นเช้าไปสวัสดีเชียงใหม่กัน
ก า ร เ ดิ น ท า ง ก ำ ลั ง ค ล า ส สิ ค,,,
<< เกือบๆสองทุ่มจะมีพนักงานรถไฟมาปูที่นอนให้ ใช้เวลาไม่น่าเกิน 2-3 นาทีต่อเตียง เร็วมาก ปรบมือให้ค่ะ >>
ตอนนอนจะมีผ้าม่านปิดเหมือนกันทุกเตียงทั้งบนและล่าง ความเย็นของแอร์ชั้นบนอาจจะทำให้หนาวกว่า ส่วนชั้นล่างพอปิดม่านปุ๊บมันก็จะอุ่นปั๊บแต่เล็กน้อยแต่ความเย็นก็ยังโอเคอยู่ ดึกๆจะลุกไปเข้าห้องน้ำก็จำลำดับเตียงของตัวเองไว้ด้วยนะคะ ถ้าหากจำผิดชีวิตอาจจะเปลี่ยนไป ฮ่าาาา ตอนเข้าห้องน้ำต้องปิดประตูจนกว่าไฟในห้องน้ำจะเปิดนะคะ ถ้าไฟไม่เปิดแสดงว่าประตูยังปิดไม่สนิท อาจมีเหตุการแบบที่เราเจอคือเข้าใจว่าห้องว่างก็ดันประตู แล้วได้ยินเสียงจากข้างในตะโกนมา มีคนอยู่ค่าาาาา เอ๊าาาา!!!! ฮาเลยยย
เช้าวันศุกร์ดวงตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าที่ เขลางนครลำปาง เมืองรถม้า อรุณสวัสดิ์ค่ะ ,, แสงตะวันสาดเข้ามา เป็นสัญญาณบอกว่า ..ตื่นได้แล้วเดี๋ยวไปทำงานสาย!!! เช้าวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว,, เตรียมตัวให้พร้อม ชีวิตมีอะไรสนุกๆให้ได้ลองทำอีกเย๊อะ!!
สวัสดีเชียงใหม่เจอกันอีกแล้วน๊าาา มาถึงกันราว 7.30น. มีรถตู้มาจอดรถรอรับ อยู่ด้านหน้า ไม่ต้องเดินไปต่อราคารถแดงเหมือนเช่นเคย
อาหารเช้าของวันนี้เป็นข้าวกล่องหน้าตาดีอีกแล้วค่าา เป็นข้าวผัดไข่ มีหมูพริกไทดำ ผักสด แครอทฟักทองต้ม และน้ำจิ้มซีฟู๊ดแซ่บๆ ตอนแรกคิดว่าถ้าเป็นน้ำจิ้มแจ่วมันจะเข้ากันกว่านี้ แต่พอลองไปคำแรก อื้มมม... แบบนี้ก็ดีย์ ....
กินข้าวแล้วยัง กำลังเฮ็ดหยังน้ออ้าย คึดฮอดหลายหลาย หัวใจให้โทรมาถาม, สุขภาพพลานามัย เป็นจังใด๋ห่วงใยเหลือเกิน กินข้าวแล้วยัง อีกครั้งกับคำถามนี้ เป็นห่วงอีหลี คนดีที่ใจเฝ้าหวัง เฮ็ดงานสาอ้าย เอาไว้มื้อใด๋ว่าง ว่าง ค่อยมานั่งกินข้าวนำกัน...
.อยู่ๆเพลงต่าย อรทัยก็ผุดขึ้นมา
----------------------------------------------------------------------------------------------------
จากสถานีรถไฟเชียงใหม่ เรามุ่งหน้าออกมาทาง อ. แม่ริม เพื่อจะไปชมเส้นทางเดินชมธรรมชาติแบบถึงเนื้อถึงตัวกับ ทางเดินเหนือเรือนยอดไม้ (Canopy Walks) ถือเป็นเส้นทางเดินลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ที่อยู่ในสวนพฤกษาศาตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ซึ่งทางเดินเป็นโครงเหล็กแข็งแรง และตลอดทางเดินจะมีกำแพงเหล็กกั้นสองฝั่งซ้าย ขวา เพื่อความปลอดภัย ที่นี่ความสูงราวๆ 20 เมตรจากพื้นดิน และมีระยะทางประมาณ 400 เมตรค่ะ ถ้ามาเป็นหมู่คณะติดต่อวิทยากรให้นำพาชมและให้ความรู้เกี่ยวกับพรรณไม้ต่างๆ ไปพร้อมๆกันได้นะคะ
ที่ Singapore มี ฟอเรส วอลค์(Forest Walk) ที่เชียงใหม่ของเราก็มี Canopy Walkway !!! สวยงามไม่แพ้กัน และที่สำคัญมาง่ายค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเย๊อะ ค่ะ...
บางช่วงจะมีพื้นเป็นกระจกสามารถมองเห็นทัศนียภาพเบื้องล่างได้อย่างชัดเจน เมื่อมันชัดเจนเราก็จะเห็นระดับความสูง ไม่ต้องรอให้เดินถึงกระจกหรอกเอาแค่ทางเดินธรรมดาที่เป็นตะแกรงเหล็กตลอดทางแบบนี้ มันก็ทำให้ขาสั่นได้ เหงื่อแตกพลั่กทั้งๆที่ลมพัดเย็นตลอดเวลา ,,, อิบร้าาา นี่แกกลัวความสูงจริงหรือนี่ !!!
นับว่าเป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆในการท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ เพราะจะทำให้เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น อยู่ป่าคอนกรีตมานาน ได้ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์จากป่าเขียวๆแบบนี้ มันสดชื่นที่สุดเลยหล่ะ
"FLYING DRACO" กิ้งก่าบินปีกส้ม I believe I can Fly ,, เราพยายามมองไปตามต้นไม้และกิ่งไม้แต่เราก็ไม่ได้เจอกัน ใครไปแล้วเจอ ฝากบอกมันด้วยเราคิดถึง...ฮื้มมม ได้เหรออ...
"เรากำลังยืนมองไปยัง "ดอยม่อนคว่ำหล้อง" ภูเขาที่มีลักษณะคล้ายโลงศพ ,, มีตำนานเล่าถึงที่มาของภูเขานี้ ว่า ขุนหลวงวิลังคะ ผู้ปกครองอาณาจักรลั้วะในอาณาจักรล้านนา ( เมืองเชียงใหม่) หลงรักและอยากแต่งงานกับพระนางจามเทวี เจ้าเมืองผู้ปกครองเมืองหริภุญไชย (ลำพูน) แต่ด้วยขุนหลวงพุ่งเสน้า ( อ่านว่า สะ- เหน้า หมายถึงหอกด้ามยาวมีสองคม ) เข้าไปไม่ถึงกำแพงเมืองหริภุญไชย จึงได้คว้างเสน้าอันสุดท้ายขึ้นฟ้าให้ตกลงมาปักที่อกฆ่าตัวตาย ก่อนสิ้นใจขอให้นำศพของพระองค์ไปฝังไว้ ณ สถานที่ที่จะสามารถมองเห็นเมืองหริภุญไชยได้ตลอดเวลาและโลงศพได้คว่ำตกลงจากเกวียน ณ ตรงนี้ ชาวบ้านจึงเรียกขานว่า "ดอยม่อนคว่ำหล้อง" มาจนทุกวันนี้
[SR] พาเปื้อนฮัก ไปพักเมืองเหนือ [เชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง] #เส้นทางที่3 ไปเมืองบุญลำพูนล้านนา
Pantip.com ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ชวนนั่งรถไฟอุตราวิถี (รถไฟตู้นอนเบาะแดงสุดแสนสบาย) ไปตะลุยเมืองเชียงใหม่ ลำพูนล้านนาและลำปางเมืองรถม้า
ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ สัมผัสกับกลิ่นอายของธรรมชาติ และที่สำคัญทริปนี้ฟรี!!! มีคนเปย์ตลอดทริป !!! ฟังไม่ผิดค่ะ เพราะฟรีจริงๆ กับกิจกรรมดีดีที่ชื่อ "พาเปื้อนฮักไปพักเมืองเหนือ"
คนอีสานได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองเหนือ กับ Pantip.com และ ททท. มันก็จะตื่นเต้นกว่าปกติ ออกเดินทางไปพร้อมกันนะคะ Let's go..
ความฝันของคนเรา...ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ( อ่านดีดีเหมือนจะป็นข้ออ้าง ฮ่าาา)
ครั้งหนึ่ง,,เราเคยปฏิเสธ โอกาส,, ที่จะเป็นจิ๊กซอวเชื่อมต่อทางไปให้ใกล้ฝัน
เหตุผลคือ "งานเยอะอ่ะ พี่ไปไม่ได้" ขอโทษทีนะ
ครั้งนี้,, งานก็ไม่ได้น้อยไปกว่าวันนั้น ,,
แต่,, โอกาสแบบนี้บางทีอาจมีมาครั้งเดียว เราคงต้องชั่งน้ำหนัก และต้องตัดสินใจ!! แม้มันจะตัดสินใจยากก็ตามที,,
----------------------
อะไรที่มีอิทธิพลกับหัวใจ หากพลาดไป ผ่านไปนานแค่ไหน คำว่า "เสียดาย"ก็จะไม่จางหาย,,,
เลือกทางนั้นค่ะ
---------------------
เดี๋ยวหนูก็กลับ ยังไม่ต้องรับคนใหม่มานั่งแทนนะคะ หัวหน้า!!!!!
ทีมงานนัดเวลาเจอกันที่หัวลำโพง 4 โมงเย็นของวันพฤหัสบดี เป็นวันที่เรายังต้องทำงานอยู่ค่ะ เช้ามา,, แบกเป้เข้าออฟฟิศ ไม่พูดไม่จานั่งทำงาน มือไม้สั่น ขาสั่นด้วยความตื่นเต้นๆ ไม่ได้ตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวนะ แต่ตื่นเต้นเพราะใกล้เวลาเดินทางแต่….งานยังเคลียร์ไม่หม๊ดดดด!!!! ใครมีอาการแบบนี้ก่อนเดินทางบ้างงงง ชูมือสูงๆเป็นเพื่อนกันหน่อยค่ะ
หัวลำโพงนี่เขาคึกคักตลอดเวลาเนอะ มาแล้วมีพลังงานแฝงบางอย่างทำให้เราอยากออกเดินทางตลอดเวลา,,,บางวันหยุด.. ที่ไม่มีแผน (และตังค์)จะไปไหน,,ขอแค่ได้มาดูหลังคา "ร ถ ไ ฟ" เพื่อสร้างแรงใจ ก็เอา ...
ใกล้ถึงเวลานัด เพื่อนผู้ร่วมเดินทางต่างก็ทยอยมาลงทะเบียน เช็คชื่อและรับป้ายชื่อ เสื้อทีม ผ้าพันคอเป็นผ้ามัดย้อมนุ่มลื่นมือคือดีมาก หมอนรองคอสีเขียว มีตุ๊กตาน้องเพี้ยนเคลียร์คลอใกล้ๆแก้มให้ความรู้สึกเหมือนนอนอิงแอบแนบอกชายอันเป็นที่รัก…(เพ้อจริงแม่หญิงคนนี้)
และมีหนังสือของการรถไฟ “ ถ้าวันหนึ่งฉันจะนั่งรถไฟ” เป็นหนังสือเล่มเล็กขนาดพกพาสะดวกข้างในอัดแน่นไปด้วยข้อมูลการเดินทางด้วยรถไฟหลักๆจะเป็นของ 4 เส้นทางใหม่ ที่ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยขอพระราชทานชื่อขบวนรถจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองวาระครบรอบ 119 ปี แห่งการสถาปนากิจการรถไฟ
1) เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ (ขบวนที่ 9/10) ชื่อว่า “อุตราวิถี” หมายถึง เส้นทางสู่ภาคเหนือ ,, เส้นทางนี้ไงที่เรากำลังจะไปกัน
2) เส้นทางกรุงเทพ-อุบลราชธานี (ขบวนที่ 23/24) ชื่อว่า “อีสานวัตนา” หมายถึง เส้นทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ,, นอนรถไฟไปเช้าที่อุบลฯ แล้วไปยลความงามของสามพันโบก หรือจะไปดูขบวนแห่เทียนพรรษาที่งดงามตระการตา เราว่าก็โอเครร
3) เส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย (ขบวนที่ 25/26) ชื่อว่า “อีสานมรรคา” หมายถึง เส้นทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ,, นั่งไปหนองคาย นัดแนะกับสหาย แล้วข้ามไปเที่ยวเมืองเวียงจันทร์หรือจะเลยเถิดพากันไปไกลถึงวังเวียง แต่ถ้าวันลายังคงมีพอเพียง ก็ต่อรถไปหลวงพระบางเลยค่ะ ..
4) เส้นทางกรุงเทพ-หาดใหญ่ (ขบวนที่ 31/32) ชื่อว่า “ทักษิณารัถย์” หมายถึง เส้นทางสู่ภาคใต้,, นอนบนรถไฟแล้วข้ามไปเที่ยวปีนังได้นะเธอ!
หากใครต้องการข้อมูลตารางการเดินทาง เพิ่มเติม ดูได้จาก เว็บไซต์ของการรถไฟฯ http://www.railway.co.th หรือหากเน็ตช้าก็โทรมาค่ะ 1690 เขาให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อพิธีปล่อยตัวคณะเดินทางเสร็จเรียบร้อย ทุกคนก็ทยอยขึ้นประจำที่นั่งบนรถไฟด่วน "อุตราวิถี" กันได้เลย.... พี่คะ พี่คะ จะไปไหนประตูอยู่ทางนี้ ฮ่าาาา
ขึ้นมาแล้วไม่ต้องตบตีแย่งชิงที่นั่งกันนะคะ เพราะในตั๋วระบุที่นั่งไว้ชัดเจนแล้ว ราคาเตียงล่างจะแพงกว่าเตียงบน เราว่าเขาคงลดราคาให้เตียงบนเพราะมีความเสี่ยงที่จะปีนแล้วพลาดตกมากกว่า ฮ่าาาาา ... ใครนอนเตียงบนก็ปีนป่ายกันระวังนะคะ บันไดมันเล๊กกก
ได้ที่นั่งแล้วก็วางสัมภาระทุกอย่างไว้ จากนั้นก็ถ่ายรูปกันสิคะ เมื่อได้ออกเดินทางก็จะมีความระริกระรี้ประมาณนึง ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้นั่งรถไฟไทย
ไปสำรวจตู้เสบียงกันมะ หิวเมื่อไรเราจะได้แวะมา ตู้ที่เรานอนติดกับตู้เสบียงเลย สบายละเวลาหิวจะได้ไม่ต้องเดินไกล เราสั่งคาปูชิโน่เย็นถือกลับมากินตรงที่นั่ง อร่อยใช้ได้อยู่นาา ราคา 70บาท ข้าวไม่ได้สั่งเพราะทีมงานบอกว่าจะมีข้าวกล่องให้ ประหยัดเงินในกระเป๋าไปอี๊ก
ถ่ายภาพเวลาหิวมันก็จะได้ฟิลลประมาณนี้ สวยไม่สวยไม่เป็นไรรึบๆถ่ายรีบๆแกะและรีบกิน ,,,ข้าวกระเพราะไก่ไข่ดาว อาหย่อยยยยและอิ่มท้อง อีกอันน่าจะเป็นไก่กระเทียม
ที่นอนกว้าง,, มีที่ว่างเหลือเพียงพอให้นอนกอดอีกคนได้สบาย....กิ๊วกิ๊ว
ปั่นงานมาทั้งอาทิตย์ ,,ขอนอนเหยียดขายาวๆ แล้วตื่นเช้าไปสวัสดีเชียงใหม่กัน
ก า ร เ ดิ น ท า ง ก ำ ลั ง ค ล า ส สิ ค,,,
ตอนนอนจะมีผ้าม่านปิดเหมือนกันทุกเตียงทั้งบนและล่าง ความเย็นของแอร์ชั้นบนอาจจะทำให้หนาวกว่า ส่วนชั้นล่างพอปิดม่านปุ๊บมันก็จะอุ่นปั๊บแต่เล็กน้อยแต่ความเย็นก็ยังโอเคอยู่ ดึกๆจะลุกไปเข้าห้องน้ำก็จำลำดับเตียงของตัวเองไว้ด้วยนะคะ ถ้าหากจำผิดชีวิตอาจจะเปลี่ยนไป ฮ่าาาา ตอนเข้าห้องน้ำต้องปิดประตูจนกว่าไฟในห้องน้ำจะเปิดนะคะ ถ้าไฟไม่เปิดแสดงว่าประตูยังปิดไม่สนิท อาจมีเหตุการแบบที่เราเจอคือเข้าใจว่าห้องว่างก็ดันประตู แล้วได้ยินเสียงจากข้างในตะโกนมา มีคนอยู่ค่าาาาา เอ๊าาาา!!!! ฮาเลยยย
เช้าวันศุกร์ดวงตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าที่ เขลางนครลำปาง เมืองรถม้า อรุณสวัสดิ์ค่ะ ,, แสงตะวันสาดเข้ามา เป็นสัญญาณบอกว่า ..ตื่นได้แล้วเดี๋ยวไปทำงานสาย!!! เช้าวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นอีกแล้ว,, เตรียมตัวให้พร้อม ชีวิตมีอะไรสนุกๆให้ได้ลองทำอีกเย๊อะ!!
สวัสดีเชียงใหม่เจอกันอีกแล้วน๊าาา มาถึงกันราว 7.30น. มีรถตู้มาจอดรถรอรับ อยู่ด้านหน้า ไม่ต้องเดินไปต่อราคารถแดงเหมือนเช่นเคย
อาหารเช้าของวันนี้เป็นข้าวกล่องหน้าตาดีอีกแล้วค่าา เป็นข้าวผัดไข่ มีหมูพริกไทดำ ผักสด แครอทฟักทองต้ม และน้ำจิ้มซีฟู๊ดแซ่บๆ ตอนแรกคิดว่าถ้าเป็นน้ำจิ้มแจ่วมันจะเข้ากันกว่านี้ แต่พอลองไปคำแรก อื้มมม... แบบนี้ก็ดีย์ ....
จากสถานีรถไฟเชียงใหม่ เรามุ่งหน้าออกมาทาง อ. แม่ริม เพื่อจะไปชมเส้นทางเดินชมธรรมชาติแบบถึงเนื้อถึงตัวกับ ทางเดินเหนือเรือนยอดไม้ (Canopy Walks) ถือเป็นเส้นทางเดินลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ที่อยู่ในสวนพฤกษาศาตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ซึ่งทางเดินเป็นโครงเหล็กแข็งแรง และตลอดทางเดินจะมีกำแพงเหล็กกั้นสองฝั่งซ้าย ขวา เพื่อความปลอดภัย ที่นี่ความสูงราวๆ 20 เมตรจากพื้นดิน และมีระยะทางประมาณ 400 เมตรค่ะ ถ้ามาเป็นหมู่คณะติดต่อวิทยากรให้นำพาชมและให้ความรู้เกี่ยวกับพรรณไม้ต่างๆ ไปพร้อมๆกันได้นะคะ
ที่ Singapore มี ฟอเรส วอลค์(Forest Walk) ที่เชียงใหม่ของเราก็มี Canopy Walkway !!! สวยงามไม่แพ้กัน และที่สำคัญมาง่ายค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเย๊อะ ค่ะ...
บางช่วงจะมีพื้นเป็นกระจกสามารถมองเห็นทัศนียภาพเบื้องล่างได้อย่างชัดเจน เมื่อมันชัดเจนเราก็จะเห็นระดับความสูง ไม่ต้องรอให้เดินถึงกระจกหรอกเอาแค่ทางเดินธรรมดาที่เป็นตะแกรงเหล็กตลอดทางแบบนี้ มันก็ทำให้ขาสั่นได้ เหงื่อแตกพลั่กทั้งๆที่ลมพัดเย็นตลอดเวลา ,,, อิบร้าาา นี่แกกลัวความสูงจริงหรือนี่ !!!
นับว่าเป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆในการท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ เพราะจะทำให้เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น อยู่ป่าคอนกรีตมานาน ได้ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์จากป่าเขียวๆแบบนี้ มันสดชื่นที่สุดเลยหล่ะ
"FLYING DRACO" กิ้งก่าบินปีกส้ม I believe I can Fly ,, เราพยายามมองไปตามต้นไม้และกิ่งไม้แต่เราก็ไม่ได้เจอกัน ใครไปแล้วเจอ ฝากบอกมันด้วยเราคิดถึง...ฮื้มมม ได้เหรออ...
"เรากำลังยืนมองไปยัง "ดอยม่อนคว่ำหล้อง" ภูเขาที่มีลักษณะคล้ายโลงศพ ,, มีตำนานเล่าถึงที่มาของภูเขานี้ ว่า ขุนหลวงวิลังคะ ผู้ปกครองอาณาจักรลั้วะในอาณาจักรล้านนา ( เมืองเชียงใหม่) หลงรักและอยากแต่งงานกับพระนางจามเทวี เจ้าเมืองผู้ปกครองเมืองหริภุญไชย (ลำพูน) แต่ด้วยขุนหลวงพุ่งเสน้า ( อ่านว่า สะ- เหน้า หมายถึงหอกด้ามยาวมีสองคม ) เข้าไปไม่ถึงกำแพงเมืองหริภุญไชย จึงได้คว้างเสน้าอันสุดท้ายขึ้นฟ้าให้ตกลงมาปักที่อกฆ่าตัวตาย ก่อนสิ้นใจขอให้นำศพของพระองค์ไปฝังไว้ ณ สถานที่ที่จะสามารถมองเห็นเมืองหริภุญไชยได้ตลอดเวลาและโลงศพได้คว่ำตกลงจากเกวียน ณ ตรงนี้ ชาวบ้านจึงเรียกขานว่า "ดอยม่อนคว่ำหล้อง" มาจนทุกวันนี้
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม